“อะไร ก็ไปหาของล้ำค่าไม่ใช่หรือ พวกเขาเป็คนพูดเองนี่นา” เฮยจีขมวดคิ้ว
ิอวี่เอามือกุมหน้าผากถอนหายใจแล้วพูดว่า “บรรพบุรุษน้อยของข้า เ้าลองคิดให้มันละเอียดกว่านี้สิ? ก่อนอื่นเลย อสูรในถ้ำเต็มที่ก็มีระดับหกกับเจ็ด ที่นี่ลมปราณฟ้าดินก็ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น ไม่มีทางมีสมุนไพรล้ำค่าอะไรหรอก”
“แล้วเ้าลองคิดดูนะ จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยาพวกเขาเป็อะไรกัน? หนุ่มสาวยอดฝีมือของราชวงศ์เวิ่นเจี้ยนนะ พวกเขามีสมุนไพรของล้ำค่ามากมายแค่ไหน? พวกเขาได้ของมามากมายแล้ว จะมาสนใจอะไรของในที่เล็กๆ ทำไม มันก็แค่ข้ออ้างเท่านั้นแหละ”
“ถ้าอย่างนั้น ... พวกเขาคิดจะทำอะไรกัน?” เดิมทีเฮยจีแทบจะไม่ได้สงสัยกับคำพูดของจี้เฟิงอวินเลย แต่ตอนนี้หลังจากที่ฟังิอวี่พูดแล้วนางเองก็เริ่มสงสัยขึ้นมาเหมือนกัน
“ยังมองไม่ออกอีกหรือ ... ” ิอวี่ขมวดคิ้ว
เฮยจีส่ายหน้าแล้วพูดเบาๆ “มองไม่ออก”
ิอวี่หมดคำพูด แต่เขาก็เข้าใจสาวน้อยน่ารักตรงหน้าของเขาเหมือนกัน
ตอนนี้เฮยจีไม่ได้มีความทรงจำเมื่อห้าร้อยปีก่อนแล้ว เื่อะไรพวกนี้นางจึงจำไม่ได้เลย แม้แต่ความคิดของนางก็ยังเรียบง่าย ดังนั้น การที่นางคิดไม่ถึงก็ไม่แปลกอะไร
ิอวี่จึงอธิบายอย่างอดทนไปว่า “เ้าเห็นพวกเขากระหนุงกระหนิงกันแล้วเดินเข้าถ้ำไป ไม่ได้มีท่าทางอยากจะไปหาสมุนไพรอะไรเลย เ้าคิดว่ามันเป็ท่าทางของคนจะไปเสี่ยงอันตรายหรือ?”
เฮนจีหุบยิ้ม กัดฟันแล้วชี้นิ้วไป “พวกเขา ... ”
“ถูกต้อง จากที่ข้าวิเคราะห์ไปเมื่อครู่ก็ได้ผลสรุปที่ชัดเจนมาก พวกเขาไม่ได้ไปหาสมุนไพร แต่ไปทำเื่ของชายหญิง เพราะระหว่างนั้นพวกเขาไม่อาจดูแลเ้านกกระเรียนเซียนเมฆาได้ ถึงได้ให้ข้ามาดูแลแทน”
“อ่า ... ทำไมถึงเป็แบบนี้นะ!” เฮยจีเริ่มเข้าใจ
ิอวี่ส่ายหน้า “ไม่ใช่แค่นั้นนะ ตอนที่ข้าเอาของพวกนั้นไปให้กับจี้เฟิงอวิน สายตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร อย่างช้าพรุ่งนี้เขาจะต้องลงมือสังหารข้าแน่นอน ไม่มีทางคืนของพวกนั้นให้ข้าหรอก”
พอได้ยินิอวี่พูดแบบนี้สีหน้าของเฮยจีเองก็แย่ลง นางโกรธจนหน้าแดง “ในเมื่อเป็อย่างนั้นทำไมเ้ายังไม่หนีไป? แต่กลับยังเอาของไปให้พวกเขาอีก?”
“เพราะตอนนี้เป็จังหวะเวลาที่ดีที่สุดในการจะสลัดพวกเขาออกไป เ้าทำตามวิธีของข้าก็พอ ... ” ิอวี่อธิบายแผนการให้เฮยจีฟังอย่างละเอียด นางก็ฟังอย่างตั้งใจและพยักหน้ารับรู้
หลังจากที่กำชับทุกอย่างแล้ว ิอวี่ก็นั่งขัดสมาธิลงบนพื้นเพื่อดูแลเ้านกกระเรียนเซียนเมฆา
เวลาผ่านเลยไปประมาณครึ่งชั่วยาม ิอวี่ก็ลืมตาขึ้นมาแล้วเหลือบมองไปที่พระจันทร์ จึงรู้ว่าน่าจะได้เวลาแล้ว
ในตอนนี้เอง ิอวี่ก็เปิดััแห่งิญญาขึ้นเพื่อเพิ่มพลังการได้ยินขึ้นอีกหลายเท่าตัว ก็บังเอิญได้ยินเสียงเหนื่อยหอบของชายหญิงดังขึ้นมาจากในถ้ำ แสดงว่าพวกเขาสองคนกำลัง “เข้าด้ายเข้าเข็ม” กันอยู่แน่
“เฮยจี ลงมือเลย”
ิอวี่พูดเบาๆ จากนั้นเฮยจีก็ดีดนิ้ว ลายเส้นอักขระอย่างหนึ่งก็พุ่งไปที่ปากถ้ำเพื่อปิดตายปากถ้ำเอาไว้
เดิมวิธีนี้เป็วิธีที่ใช้ป้องกันศัตรูมาเจอตัว แต่ิอวี่กลับใช้มันในทางตรงกันข้าม คือให้เฮยจีใช้ลายเส้นอักขระกั้นกลาง ทำให้ศัตรูหาลมปราณของเขาไม่เจอแทน
ที่ิอวี่รอให้ถึงครึ่งชั่วยามก็เป็เพราะอยากให้จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยาลืมทุกอย่างไปก่อน เมื่อทำแบบนี้แล้วพวกเขาก็จะไม่สามารถตรวจจับอะไรจากภายนอกได้ และเมื่อได้ลายเส้นอักขระกั้นเข้าไปอีก พวกเขาก็จะถูกตัดออกจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์
ในเวลานี้ ในสายตาของพวกเขามีแค่กันและกันเท่านั้น อยู่ในระดับที่ไม่สนใจอะไรโลกภายนอกอีกแล้ว
และในเวลานี้เอง ิอวี่ก็ใช้พลังจิตทำให้เกิดลมขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น และแพร่กระจายออกมารอบตัว มันเป็การส่งสัญญาณการเรียกขานออกมา
พลังอำนาจพวกนี้ไม่เพียงเต็มไปด้วยจิตสำนึกของิอวี่ แต่ยังมีจิตสำนึกของาาอสูรแฝงอยู่ด้วย!
ก่อนหน้านี้ิอวี่สู้กับิญญาอสูรอย่างต่อเนื่องในดินแดนสีเื จนสุดท้ายก็ได้รับการถ่ายทอดทั้งหมดมาจากาาอสูร ทำให้ร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยพลังของอสูรดุร้าย เขาเหมือนราชสีห์ผู้องอาจทรงพลังที่ยืนอยู่บนยอดปราสาทแห่งห่วงโซ่อาหาร!
เมื่อััถึงอำนาจบารมีที่ิอวี่ปล่อยออกมา อสูรรอบๆ ก็ส่งเสียงสนั่นออกมาจากทุกมุมที่พวกมันซ่อนตัวอยู่ นี่ไม่ใช่การท้าทาย ไม่ได้มีความโกรธ แต่เป็การส่งสัญญาณในการยอมสยบ
ถึงแม้ิอวี่จะไม่สามารถควบคุมอสูรที่แข็งแกร่งอย่างมากได้ แต่ถ้าเรียกอสูรระดับหกหรือเจ็ดนั้นไม่มีปัญหา และไม่ใช่เื่ยาก
วิธีนี้ทำให้อสูรเดินย่างกรายมาหาิอวี่ทีละตัวละตัว
เพียงแค่เวลาสองก้านธูป รอบตัวของิอวี่ก็มีอสูรถึงยี่สิบเจ็ดตัวแล้ว พวกมันเชื่องมาก นอนหมอบอยู่กับที่รอเขาออกคำสั่ง
ิอวี่เรียงลำดับจากขนาด เพื่อให้แน่ใจว่าแต่ละตัวมีรูปร่างที่สมส่วน ไม่อย่างนั้นถ้าพวกมันรีบเข้าไปในถ้ำก็จะเบียดกันจนเข้าไปไม่ได้ ...
หลังจากเรียงลำดับขนาดอยู่ประมาณสิบนาที และมองไปที่อสูรสามกลุ่มเล็กที่อยู่ข้างตัว ิอวี่ก็ลูบคางและรู้สึกว่าทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว
“เฮยจี ตอนนี้เตรียมพร้อมแล้ว เ้ามั่นใจไหม?” ิอวี่พูดเสียงเข้ม
“อือ!” เฮยจีพยักหน้า นางเตรียมพร้อมที่จะลงโทษคนเลวสองคนเพื่อคุณธรรมแล้ว พวกเขากล้ารังแกิอวี่ เฮยจีไม่มีทางปล่อยไว้แน่!
“เอาล่ะ ฟังคำสั่งข้านะ สาม สอง หนึ่ง ตอนนี้แหละ!”
เมื่อิอวี่ออกคำสั่ง เฮยจีก็ถอนลายเส้นอักขระออก แหวนบนนิ้วของนางส่องสว่างขึ้น ปากก็ท่องคาถาแล้วดีดนิ้วออกไป ตาข่ายสีดำพุ่งเข้าไปที่ปากถ้ำในทันที
ในเวลานี้ จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกันอย่างเร่าร้อน บนตัวของพวกเขาสองคนไม่มีเสื้อผ้าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ท่ามกลางแสงไฟสลัว พวกเขากำลังโอบกอดกันแน่น ััและดื่มด่ำกับความรู้สึกพิเศษ
แต่ตอนนี้ กลับมีแสงสีดำสว่างวาบขึ้นมาซึ่งห่างจากพวกเขาพอควร และยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นก็มีตาข่ายสีดำคลุมตัวพวกเขาในท่าที่กำลังโอบกอดกันอยู่ ราวกับเป็บะจ่างก้อนใหญ่!
มันคือลายเส้นอักขระกักขังของเฮยจี มัดไหม!
วินาทีที่ถูกมัดไหมคลุมตัวซ่งเหยาก็กรีดร้องขึ้นมา ส่วนจี้เฟิงอวินก็ร้องคำราม ในหัวของเขาตอนนี้นั้นว่างเปล่าอย่างมาก
ในเวลานี้เอง ิอวี่ที่อยู่นอกปากถ้ำก็ใช้พลังจิตทำให้เกราะแขนเฮยจินที่วางอยู่ข้างๆ พุ่งออกมานอกถ้ำ และกลับมาอยู่บนข้อมือซ้ายของเขาอีกครั้ง
ิอวี่ใช้พลังจิตในการตรวจดูด้านในเกราะแขนนั้นอีกครั้ง เมื่อพบว่าของทุกอย่างยังอยู่ครบเขาถึงได้วางใจ
“เ้าเป็คนทำ!”
เสียงของจี้เฟิงอวินดังลอยออกมาจากในถ้ำ หลังจากผ่านสภาวะสมองว่างเปล่าครู่หนึ่ง เขาก็เข้าใจแล้วว่าทุกอย่างนี้เป็ฝีมือของิอวี่!
“เ้าไม่ได้อยากจะตัวเบาสบายหรือ วันนี้ข้าก็จะให้เ้าได้เสียวจนสบายตัว กระบี่มรณะสังหาร!”
ิอวี่อัญเชิญกระบี่หวงฉวนออกมา รวบรวมพลังลมปราณสามพันสายเอาไว้้า และฟันออกไปอย่างไม่ปราณี
ด้านในไม่ได้มีเสียงร้องด้วยความเ็ปทรมาน แต่มันเป็เสียงที่หนักอึ้ง เหมือนว่าจี้เฟิงอวินจะพอมีฝีมือในการป้องกันอยู่เหมือนกัน เขาใช้เกราะป้องกันต้านการโจมตีของิอวี่เอาไว้
แต่ิอวี่ก็ไม่ได้หยุดการโจมตี เขาฟันกระบี่เข้าไปในถ้ำอยู่ต่อเนื่อง แค่ไม่กี่อึดใจเขาก็ฟันกระบี่ออกไปแล้วถึงสิบแปดครั้ง!
ลมปราณกระบี่แผ่กระจายออกไปทั่วถ้ำ พุ่งชนจนเกราะป้องกันนั้นแตกออก
“กระบี่วายุสังหาร!”
สายตาของิอวี่ดุดันมาก เขาจับกระบี่สองมือแล้วควบคุมลมปราณเอาไว้อย่างละเอียดจนตัวกระบี่นั้นสั่น หลังจากนั้นเขาก็ฟันกระบี่ออกไป ลมปราณกระบี่สามพันสายหดตัวลงจนกลายเป็พายุขนาดเล็กและพุ่งไปด้านหน้า!
“ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! …”
ลมปราณกระบี่ที่บ้าคลั่งกำลังเคลื่อนไหว จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยาไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว แล้วยังถูกขังอยู่ในตาข่ายในท่าทางกอดรัดอย่างน่าอาย จี้เฟิงอวินเองก็ยังต้องทำการป้องกันลมปราณกระบี่ของิอวี่ที่โจมตีเข้ามาด้วย ตอนแรกเขายังพอจะเดินลมปราณต้านกระบวนท่าไว้ได้อยู่ แต่ิอวี่โจมตีใส่อย่างต่อเนื่อง มันทำให้เขาแทบไม่มีโอกาสหายใจเลย!
หากในเป็ยามปกติ เขามีร้อยแปดพันวิธีในการรับมือการโจมตีที่น่ากลัวนี้ แต่ในตอนนี้เขากลับทำอะไรไม่ได้เลย
ทำให้ลมปราณกระบี่นั้นฟันและกรีดไปบนตัวเขากับซ่งเหยา!
“โอ๊ย! ... โอ๊ย! ...”
จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยากลิ้งไปมาอยู่ในถ้ำ ส่งเสียงร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาสองคนรู้สึกเวียนหัว โลกมันมืดดำ บนตัวมีาแเต็มไปหมด พร้อมกับความเ็ปที่เข้าไปถึงหัวใจ!
สีหน้าของซ่งเหยาหน้าดำคร่ำเครียด ผิวอันเรียบเนียนผุดผ่องที่นางภาคภูมิใจกำลังถูกลมปราณกระบี่ของิอวี่กรีดจนเืไหล บวกกับความรู้สึกเ็ปแล้วทำให้นางรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย!
จี้เฟิงอวินเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เขาฝึกกระบี่เจ็ดมรณา และยังฝึกวิชาเสริมแกร่งร่างกายที่มีชื่อว่า สลายเหล็ก ซึ่งเป็วิชาป้องกันที่แข็งแกร่งมาก
แต่ท่ามกลางการโจมตีด้วยลมปราณกระบี่ของิอวี่ ต่อให้เขาอยู่ในสถานะสลายเหล็ก ร่างกายของเขาก็ยังคงถูกฟันจนเืไหล ถึงแม้จะไม่ได้าเ็อะไรมากมาย แต่มันก็ทำให้เขาเจ็บจนต้องกัดฟัน และข้างหูของเขายังเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความเ็ปของซ่งเหยา เสียงกรี๊ดนั่นมันทำให้เขาแสบแก้วหูมาก
ไม่มีครั้งไหนเลยที่จี้เฟิงอวินจะรู้สึกอัปยศได้ขนาดนี้ มันทรมานมาก!
“ฝากไว้ก่อนเถอะ! ลายเส้นอักขระประเภทนี้จะต้องมีเวลาจำกัดแน่ หลังจากที่หมดเวลาลงมันคือเวลาตายของเ้า!” จี้เฟิงอวินส่งเสียงออกมาพร้อมกับถูกลมปราณกระบี่เล่นงานไปด้วย
ส่วนน้ำเสียงของซ่งเหยาก็เหมือนจะสะอื้นเล็กน้อย และเต็มไปด้วยความโกรธแค้น “เ้าทำลายเรือนร่างของข้า ข้าจะฆ่าเ้า! ข้าจะเลาะหนังเฉือนกระดูกเ้า! เ้าคนสารเลว!”
ทั้งสองคนกอดกันกลมเหมือนลูกบอล ท่ามกลางการโจมตีของลมปราณกระบี่ พวกเขากระเด็นกระดอนไปทั่วถ้ำ ต่อให้เ็ปมากแค่ไหนพวกเขาก็ยังคงเอ่ยปากด่า มีแค่การด่าิอวี่เท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาได้ระบายความแค้นในใจออกมาได้
ในเวลานี้เอง เสียงของิอวี่ก็ดังเข้ามาจากนอกถ้ำว่า “เหอะๆ ชายหญิงแพศยาอย่างพวกเ้ากล้าหลอกข้าว่าจะไปหาสมุนไพรล้ำค่า คิดว่าข้าจะโง่เหมือนพวกเ้าหรือไง ถึงได้จะโดนหลอกง่ายๆ น่ะ? ซ่งเหยา เพลงกระบี่เวิ่นชิงมันไม่ได้อยู่ในสายตาของข้าเลยแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้เ้ารู้ถึงลมปราณแห่งความตายของกระบี่ข้าแล้วหรือยังล่ะ!”
ซ่งเหยาต้องรู้ว่าลมปราณกระบี่ของิอวี่นั้นน่ากลัวแค่ไหน หากไม่ใช่เพราะจี้เฟิงอวินใช้ลมปราณคุ้มกันอีกชั้น ตอนนี้นางคงถูกลมปราณกระบี่ของิอวี่ฟันจนเละไปแล้ว นางเข้าใจดีแล้วว่าก่อนหน้านี้ิอวี่เสแสร้งทำเป็สู้นางไม่ได้เท่านั้นเอง!
“จี้เฟิงอวิน เ้าเอาทรัพย์สินของข้าไปหมด พูดอย่างดิบดีว่าจะคืนให้ข้าพรุ่งนี้ เ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเ้าวางแผนอะไรเอาไว้? เ้าจะหาโอกาสสังหารข้าแล้วยึดเอาของของข้าไป เ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือ?”
จี้เฟิงอวินกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างรุนแรงแล้วพูดว่า “ใช่! ข้าจะฆ่าเ้า! มาสิ! มีอะไรก็ใช้ออกมาให้หมด! อย่าให้ข้าหลุดไปได้นะ ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเ้าให้ตายคอยดู!”
ระหว่างที่พูด จี้เฟิงอวินก็รู้สึกว่าพลังของตาข่ายมันเริ่มลดลงแล้ว
อีกไม่นานเขาก็สามารถะโออกไปฉีกิอวี่เป็ชิ้นๆ แล้ว!
เดิมิอวี่คิดว่าจะใช้กระบี่มรณะสังหารกับกระบี่วายุสังหารบีบให้จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยาใช้พลังการป้องกันทั้งหมดที่มีออกมา จากนั้นค่อยใช้กระบี่ยมโลกสังหารสังหารพวกเขาสองคน แต่ตอนนี้เขารู้ว่าเวลามันไม่พอ
ตอนนี้จี้เฟิงอวินมั่นใจว่าิอวี่ได้ใช้ความสามารถที่มีอยู่จนหมดแล้ว ดังนั้นเขาเลยไม่ได้เอ่ยปากอ้อนวอน แต่น้ำเสียงยังคงอวดดีอยู่!
“กลุ่มแรก ลุยเลย!”
ิอวี่ี้เีไปสนใจเสียงของจี้เฟิงอวิน เขาหันไปออกคำสั่งอสูรที่อยู่ทางด้านซ้ายเก้าตัว อสูรพวกนั้นส่งเสียงคำรามแล้วก็พุ่งเข้าไปในถ้ำอย่างกระหายเื
“เ้า!”
เมื่อััได้ว่ามีอสูรที่โหดร้ายกำลังพุ่งโจมตีเข้ามา สีหน้าของจี้เฟิงอวินก็ตกตะลึงอย่างมาก “เ้าไปหาอสูรเยอะขนาดนี้มาจากที่ไหนเนี่ย!”
“เ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ?” ิอวี่พูดออกไปด้วยความดูถูก
