หนิวเจิ้นซานตายแล้ว!
เสาหลักค้ำตระกูลหนิว เฉิง จางต้นสุดท้ายล้มลงแล้ว!
“ท่านเ้าตระกูล!” ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหนิวร้องเสียงหลงขึ้นมา
หนิวเจิ้นซานเป็ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของอำเภอเป่ยโม่พลังวัตรทะลุชั้นเบิกนภาขั้นสี่ ในใจของผู้ฝึกยุทธ์ของตระกูลหนิวเป็ตัวตนประดุจเทพ
ตอนนี้ ‘เทพ’ ในหัวใจของผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหนิวดับสูญไปแล้วเศร้าใจกับการตาย การต่อต้านที่เดิมทีดุเดือด พริบตาก็กลายเป็เซื่องซึมในชั่วพริบตานั้น หลายคนที่สติไม่อยู่กับตัวก็ตายด้วยฝีมือของผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหวง
เสียงกรีดร้องโหยหวนสองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน
ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสองสองคนตายลงพร้อมกันด้วยฝีมือของหวงิซานกับหวงฉีซาน
หนึ่งเป็ผู้ฝึกยุทธ์ของตระกูลหนิวอีกหนึ่งคือเฉิงหยวนกง ทั้งสองตกตะลึงกับการตายของหนิวเจิ้นซานจากที่เดิมตกเป็รองมากอยู่แล้ว ก็ถูกหวงิซานกับหวงฉีซานคว้าจังหวะนี้หนึ่งกระบี่หนึ่งดาบ จบชีวิตของทั้งสองคน
ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสองที่ต้านทานหวงิซานกับหวงฉีซานอยู่ตายไปแล้วสองคนอื่นที่เหลือยิ่งต้านไว้ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่ต่อสู้ของหวงฉีซานเหลือเพียงจางกู่ซงเพียงผู้เดียว สามดาบฟันต่อเนื่องลงมารัศมีดาบพุ่งฟันอย่างรุนแรงเหนือสิ่งใด ทำลาย ‘เพลงกระบี่จันทราเหมันต์’ ของจางกู่ซง ฟันกระบี่ยาวในมือของเขาหักครึ่ง หนึ่งดาบฟันเข้าที่หน้าอกาแลึกจนกระดูกก็แตกหักไปด้วย หัวใจถูกฟันเป็แผลใหญ่ พริบตาก็สิ้นลม
ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสองสองคนลูกน้องของจางกู่ซงเสียกำลังใจในการต่อสู้ไปสิ้น รับกระบี่ของหวงิซานได้ไม่กี่กระบี่คนหนึ่งก็ถูกแทงทะลุลำคอ อีกคนหนึ่งหวาดกลัวจนหยุดมือ คุกเข่าวอนขอชีวิตแต่เวลานี้ร้องขอชีวิตไร้ประโยชน์ ถูกหวงิซานหนึ่งกระบี่ปลิดชีวิตไป
หากสถานการณ์ของการต่อสู้ก่อนหน้าเป็การรุกฝั่งเดียวตอนนี้ก็กลายเป็การสังหารโหดอยู่ฝั่งเดียว
ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหนิว เฉิง จางส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนขึ้นไม่ขาด คนแล้วคนเล่า ล้มลงจมกองเื บางคนคิดอยากหนีแต่หนีไปได้ไม่กี่ก้าวก็โดนสังหาร คนที่ไปได้ไกลที่สุดยังไม่ทันได้หนีออกจากลานด้วยซ้ำ
ไม่นาน ในลานของตระกูลหวงก็มีศพมากกว่าเจ็ดสิบศพในนั้นหกสิบกว่าศพเป็คนของตระกูลหนิว เฉิง จางทั้งสามตระกูลและยังมีอีกสิบกว่าศพเป็ผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นที่ยืนหยัดอยู่ข้างตระกูลหนิว เฉิง จาง
มุมหนึ่งของลานยังมีผู้ฝึกยุทธ์ห้าสิบกว่าคนยืนสั่นด้วยความหวาดกลัวขวัญผวามองศพที่อยู่บนพื้น ในนั้นแปดเก้าส่วนเป็ยอดฝีมือชั้นเบิกนภา พวกเขาเป็ตระกูลดังของอำเภอเป่ยโม่
นาทีนี้ ผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้สองขาอ่อนแรงมีหลายคนใกลัวจนลงไปคุกเข่ากับพื้น ลุกยังลุกไม่ขึ้น ศึกครั้งนี้ตระกูลหวงชนะอย่างหมดจด ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาคนเดียวก็ไม่สูญเสียหรือแม้กระทั่งได้รับาเ็ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นวิถียุทธ์ตายไปสี่คน าเ็สิบกว่าคน
เ้าตระกูลหวงหย่วนเฉิงสั่งให้รางวัลผู้ที่ได้รับาเ็แสนตำลึงตระกูลหวงจะรับผิดชอบรักษาอาการาเ็ ผู้ที่ตายให้รางวัลสามแสนตำลึงตระกูลหวงรับปากดูแลครอบครัวของพวกเขาไปชั่วอายุ
รางวัลเช่นนี้ มากกว่าที่ตระกูลอื่นๆ ให้รางวัลชดเชยแก่ผู้ใต้บังคับบัญชามากนักแต่เมื่อตระกูลหนิว เฉิง จาง สามตระกูลล่มไปแล้วตระกูลหวงกำลังจะกลายเป็เ้าผู้ครองอำเภอเป่ยโม่แต่เพียงผู้เดียวกิจการของทั้งสามตระกูลย่อมตกเป็ของตระกูลหวง กิจการขยายไปมากกว่าสิบเท่าเงินรางวัลชดเชยเพียงเท่านี้ สำหรับตระกูลหวงที่กำลังจะกลายเป็เ้าผู้ครองอำเภอเป่ยโม่แล้วไม่นับเป็อะไร
ผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้ากับตระกูลหวงเ่าั้พอใจกับรางวัลชดเชยของตระกูลหวงมากความจงรักภักดียิ่งเพิ่มสูง ในใจของผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหลายมีประโยคหนึ่งผุดขึ้นมา “ขายชีวิตให้แก่ตระกูลหวง คุ้ม!”
ส่วนผู้ฝึกยุทธ์ที่เคยอยู่กับตระกูลหนิวตระกูลเฉิง ตระกูลจาง ก็ทยอยกันมาเข้ากับตระกูลหวง
แต่ตระกูลหวงก็ใช่ว่าใครเข้ามาก็รับหวงหย่วนเฉิงเอ่ยขึ้น “แม้คนสำคัญของตระกูลหนิวตระกูลเฉิง ตระกูลจางจะถูกสังหารอยู่ที่นี่แล้ว แต่ในอำเภอเป่ยโม่อำนาจฝังรากลึกพวกชั่วที่เหลืออยู่ยังมีอีกมาก พวกเ้าอยู่ในอำเภอเป่ยโม่มานานรู้จักคนของตระกูลหนิว เฉิง จางที่กระจายอยู่เป็อย่างดีให้โอกาสพวกเ้าทำความดีชดใช้ความผิดนำคนของพวกเ้าไปกวาดล้างพวกชั่วของตระกูลหนิว เฉิง จางครั้งนี้ที่พวกเ้าบุกรุกตระกูลหวง ข้าจะไม่เอาความ เป็อย่างไร?”
ผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้ปกติก็ถูกตระกูลหนิว เฉิงจางกดหัวไว้ ต่อให้เป็ตระกูลดังแห่งอำเภอเป่ยโม่ ภายนอกดูแล้วมีหน้ามีตาแต่ความจริงแล้ว ตระกูลหนิวชี้นิ้วสั่งพวกเขาราวกับเป็สุนัข วันนี้ตระกูลหนิวเฉิง จางถูกกำจัด บรรดาผู้ฝึกยุทธ์ล้วนคิดอยากชำระความแค้นในวันวานไหนเลยจะมีเหตุให้ไม่ตอบรับ ต่างพากันตอบรับตกลง
หวงหย่วนเฉิงแบ่งผู้ฝึกยุทธ์ออกเป็สามกลุ่มแต่ละกลุ่มมีผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสองเป็หัวหน้าผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งที่เข้าข้างตระกูลหวงแต่แรกคนหนึ่งเป็คนคุมแบ่งกันมุ่งไปยังอาณาเขตของตระกูลหนิว ตระกูลเฉิง ตระกูลจางกวาดล้างพรรคพวกที่เหลือของสามตระกูล
เวลาเดียวกัน หวงหย่วนเฉิง หวงจงหยวนเสวียนหงก็แบ่งกันนำผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้าพวกกับตระกูลหวงมุ่งไปยังจวนของตระกูลหนิวเฉิง จาง กวาดล้างจวนของพวกเขา
ส่วนหวงิซาน หวงฉีซาน หวงคุนซาน เก็บตัวใช้ ‘หญ้าปลูกเนื้อกลั่นกระดูก’ รักษาอาการาเ็ ปลดผนึกพลังวัตร
ทิศใต้ของอำเภอเป่ยโม่ ข้ามทุ่งหมาป่าออกไป นั่นคืออำเภอหนานเหย่
อำเภอหนานเหย่เป็อำเภอใหญ่ในอำเภอมีตระกูลขั้นแปดสี่ตระกูลเป็ผู้ครองอำนาจตระกูลขั้นแปดแต่ละตระกูลแบ่งกันควบคุมอำเภอเล็กๆ รอบข้างสองสามอำเภอ อำเภอเป่ยโม่อยู่ในการควบคุมของตระกูลเติ้งซึ่งเป็หนึ่งในตระกูลขั้นแปดสี่ตระกูลตระกูลใหญ่
ตระกูลหนิว ตระกูลเฉิง ตระกูลจางแม้ว่าจะยึดกิจการในอำเภอเป่ยโม่ไว้เบ็ดเสร็จ แต่ในทุกๆ เดือนสามตระกูลก็ยังต้องส่งบรรณาการให้แก่ตระกูลเติ้ง เรียกว่าบรรณาการเดือนบรรณาการเดือนเป็ครึ่งหนึ่งของรายได้ของสามตระกูล
อาณาจักรเสินเตาลำดับชั้นอำนาจแบ่งเป็สี่สำนักใหญ่ สิบเมืองใหญ่ อำเภอใหญ่จำนวนหนึ่งอำเภอเล็กจำนวนหนึ่ง อำเภอเล็กมีตระกูลขั้นเก้าดูแล้าล้วนมีตระกูลขั้นแปดตระกูลหนึ่งควบคุมพวกเขาไว้
อำเภอใหญ่มีตระกูลขั้นแปดดูแลเหนือขึ้นไปก็มีกลุ่มอำนาจขั้นเจ็ดกลุ่มหนึ่งควบคุมพวกเขา
เมืองมีกลุ่มอำนาจขั้นเจ็ดดูแลเหนือขึ้นไปมีสำนักขั้นหกหรือสำนักเตรียมขั้นหกควบคุมพวกเขา
สี่สำนักใหญ่เป็ชั้นบนสุดของห่วงโซ่ผลประโยชน์ในอาณาจักรเสินเตาสำนักใหญ่แบ่งกันควบคุมสิบเมืองใหญ่ แบ่งเป็หนึ่งเมือง สองเมือง สามเมืองสี่เมือง
ผู้ที่อยู่ชั้นล่างของห่วงโซ่ผลประโยชน์ต้องส่งบรรณาการให้กับเบื้องบนส่วนจะให้มากน้อยเท่าใด ก็ดูเอาตามความสามารถ ส่งให้สาม สี่ ห้าส่วนไม่เท่ากัน
เช่นตระกูลหนิว เฉิง จางสามตระกูลแห่งอำเภอเป่ยโม่เป็เพียงตระกูลขั้นเก้าอ่อนแอ แต่ละตระกูลมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามหนึ่งคนเท่านั้นพอเงื่อนไขของตระกูลขั้นเก้าพอดี ดังนั้นบรรณาการที่ต้องส่งให้ตระกูลเติ้งก็คือห้าในสิบส่วนของผลประโยชน์กินครึ่งหนึ่งของรายได้
หากในตระกูลขั้นเก้ามีผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสี่นับว่าเป็ตระกูลขั้นเก้าที่กำลังค่อนข้างแข็งแกร่งบรรณาการที่ต้องส่งก็น้อยลงหนึ่งส่วน ส่งเพียงสี่ส่วน
ถ้าในตระกูลขั้นเก้ามีผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นห้าก็เป็ตระกูลขั้นเก้าที่แข็งแกร่งเป็พิเศษบรรณาการที่ต้องส่งลดน้อยลงได้อีกหนึ่งส่วน ต้องส่งเพียงสามส่วน
อาณาจักรเสินโจวเป็โลกที่ผู้ฝึกยุทธ์เป็เ้ามีพลังยุทธ์เป็อำนาจ พลังยิ่งแข็งแกร่งย่อมมีผลตอบแทนที่ดีบรรณาการต้องส่งมากน้อยเท่าใด สามส่วน หรือว่าสี่ส่วน หรือว่าห้าส่วนล้วนดูที่พลังแข็งแกร่งอ่อนแอเป็หลัก
เมื่อตระกูลหนิว เฉิง จางทั้งสามตระกูลถูกกำจัดตระกูลหวงกลายเป็เ้าครองอำเภอเป่ยโม่ หาก้ารักษาตำแหน่งนี้ต้องส่งรายได้ห้าส่วนไปเป็บรรณาการให้ตระกูลเติ้งที่อำเภอหนานเหย่ทุกเดือนนี่เป็เงินก่อนใหญ่ที่ต้องสูญเสีย ดังนั้นหวงิซาน หวงฉีซานหวงคุนซานสามพี่น้อง ต้องรีบเร่งเวลารักษาอาการาเ็ ฟื้นฟูพลังวัตร
พลังยิ่งกล้าแข็ง บรรณาการที่ต้องส่งก็ยิ่งน้อย
ด้านล่างของห่วงโซ่ผลประโยชน์ส่งบรรณาการให้แก่เบื้องบนนี่เป็กฎเกณฑ์ของอาณาจักรเสินเตา และเป็กฎเกณฑ์ของทั้งแดนเหนือตระกูลหวงย่อมไม่อาจแหกกฎได้ แต่สามารถยกระดับพลัง ทำให้บรรณาการที่ต้องส่งลดน้อยลงที่สุดได้
หากตระกูลหวงมีผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นหกก็เป็ตระกูลขั้นแปดแล้ว เป็ตระกูลขั้นแปดเหมือนกันบรรณาการที่ต้องส่งให้ตระกูลเติ้งลดน้อยลงไปน้อยกว่าสามส่วน ส่งแค่ประมาณสองส่วนก็ได้แล้ว
ไม่ส่งไม่ได้ นี่เป็กฎเกณฑ์ของสังคมแดนเหนือ
ถึงแม้ตระกูลหวงจะกลายเป็ตระกูลขั้นแปด แต่บนตระกูลเติ้งยังมีกลุ่มอำนาจขั้นเจ็ดบนกลุ่มอำนาจขั้นเจ็ดยังมีสำนักขั้นหก ห่วงโซ่ผลประโยชน์ ห่วงหนึ่งกลัดห่วงหนึ่ง นอกจากตระกูลหวงจะมีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่าสำนักขั้นหกบางทีอาจไม่ต้องส่งบรรณาการให้ผู้อื่น
แต่บนกลุ่มอำนาจขั้นหกยังมีกลุ่มอำนาจขั้นห้ากลุ่มอำนาจขั้นสี่ กลุ่มอำนาจขั้นสาม ในนั้นก็มีห่วงโซ่ผลประโยชน์อยู่ข้างในคิดจะยืนอยู่บน้าสุดของผลประโยชน์อย่างแท้จริงมีเพียงกลายเป็เ้าผู้ปกครองแดนเหนือเท่านั้น
เ้าผู้ปกครองแดนเหนือมีเพียงกลุ่มเดียวนั่นก็คือสุดยอดกลุ่มอำนาจ ‘สำนักกระบี่ราชันย์’ สำนักขั้นสอง อยู่ในระดับชั้นเดียวกันกับตระกูลเสวียน ตระกูลผู้ปกครองที่ทรงอำนาจแห่งแดนตะวันตก
ตระกูลหนิว เฉิงจางส่งบรรณาการให้ตระกูลเติ้งมาหลายปีแล้ว ระหว่างกันมีสายสัมพันธ์อยู่บ้างตระกูลหวงเข้ามาแทนที่ ทำให้ผลประโยชน์ของตระกูลเติ้งเสียหาย ตระกูลเติ้งอาจใช้ข้ออ้างนี้เล่นงานตระกูลหวงได้ดังนั้นการที่หวงิซานปลดผนึกพลัง ไม่เพียงแต่รักษาผลประโยชน์ของตระกูลยังเป็การปกป้องความปลอดภัยของตระกูลด้วย
การกวาดล้างจวนตระกูลหนิว เฉิง จางเสวียนเทียนไม่ได้ไปร่วมด้วย แต่เตรียมตัวปิดห้องเก็บตัว
หนึ่งเพื่อทำให้พลังวัตรมั่นคง เมื่อมียาควบปราณแท้เขาสามารถฝึกพลังวัตรให้มั่นคงจนลุถึงขั้นสูงสุดของพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งได้แต่จุดสูงสุดของปราณเบิกนภาดูเหมือนจะอยู่ที่ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งไม่มีวิชาปราณชั้นนิล พลังวัตรก็ยากจะเลื่อนสู่ชั้นเบิกนภาขั้นสอง ดังนั้น หลังพลังวัตรมั่นคงแล้วเขาต้องกลับไปยังสำนักกระบี่์ร่ำเรียนวิชาปราณชั้นนิล
สองเพื่อศึกษาการหลอมศาสตราช่างหลอมศาสตรามีน้อยนิดยิ่งนัก อีกทั้งมีประโยชน์มหาศาลเสวียนเทียนในฐานะผู้มีศักยภาพยอดเยี่ยมในการเป็ช่างหลอมศาสตรา ได้รับสืบทอดมรดกมาจากช่างหลอมศาสตราชั้นปฐีแน่นอนว่าย่อมต้องร่ำเรียนการหลอมศาสตรากลายเป็ช่างหลอมศาสตราที่ทรงเกียรติและทรงค่าคนหนึ่งของแผ่นดินเสินโจว
หลอมศาสตรา ต้องเริ่มเรียนจากการตีเหล็ก
เสวียนเทียนหาอุปกรณ์ตีเหล็กชุดหนึ่งขอตระกูลหวงหาซื้อวัตถุดิบการตีเหล็กจำนวนหนึ่งแล้วก็ขนไปยังหุบเขาอันห่างไกลแห่งหนึ่งบริเวณหมู่บ้านหวงปั้ว เก็บตัวอยู่ที่นั่น
วัตถุดิบตีเหล็กที่ให้ตระกูลหวงซื้อหาให้เป็เพียงของบังหน้าเท่านั้น วัตถุดิบจริงๆ ของเสวียนเทียนล้วนอยู่ในแหวนมิติความลับเื่แหวนมิติ เขาบอกเพียงบิดามารดาส่วนคนอื่นบอกเพียงว่าได้วิชาปราณฝึกร่างชุดหนึ่งมาพร้อมกับหนังสือตีเหล็กชั้นทองเล่มหนึ่งเท่านั้น
ไม่ใช่ว่าเสวียนเทียนชอบการปกปิดเื่แหวนมิติกับการสืบทอดวิชาช่างหลอมเหล็กชั้นปฐีเป็ความลับแต่ถ้าเื่รั่วออกไป ล้วนไม่ดีกับทั้งตัวเขาเองและคนรอบข้าง
สามวันหลังจากนั้นได้ยินว่ากวาดทรัพย์สินในตระกูลหนิวมาได้ห้าล้านตำลึงเงิน หกหมื่นตำลึงทองรวมทั้งสิ้นสิบเอ็ดล้านตำลึงเงิน ส่วนตระกูลเฉิงและตระกูลจาง แต่ละแห่งกวาดมาได้แปดล้านตำลึงเงินตระกูลหวงพริบตาก็มั่งคั่ง
ทว่าในเวลานี้ เสวียนเทียนกลับเก็บตัวอยู่ในหุบเขาอันห่างไกลเพียงลำพังทุกวันตีเหล็ก ฝึกพลังวัตรให้มั่นคง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้