ครั้นจุนห่าวทำพันธะสัญญากับสายฟ้าเสร็จ นอกจากหานรุ่ยแล้ว ไม่มีใครเข้าใจการกระทำของจุนห่าว พวกเขาคิดว่า จุนห่าวรักสายฟ้าก็รับเลี้ยงไว้ ต่อให้จุนห่าวคิดว่ามันเป็ลูกชาย ทุกคนก็เข้าใจ ว่าจุนห่าวรักสายฟ้าจริงๆ แต่ทว่า ต่อให้รักมากกว่านี้ สายฟ้าก็เป็เพียงสุนัขหมาป่าธรรมดาตัวนึง แม้ว่ามันจะฉลาด แต่มันมีอายุขัยแค่สิบกว่าปี หลังจากสายฟ้าตายไป ย่อมส่งผลกระทบต่อจุนห่าว ใน่ชีวิตหนึ่งนักพรตจะทำพันธะสัญญาได้เพียงหนึ่งครั้ง ดังนั้น นักพรตจะไม่ทำพันธะสัญญาสุ่มสี่สุ่มห้า พวกเขาจะคัดเลือกอย่างระแวดระวัง และเลือกสัตว์อสูรที่เหมาะกับตัวเองที่สุด สายฟ้าเป็เพียงสุนัขหมาป่าธรรมดา แม้แต่คุณสมบัติพื้นฐานที่สุดก็ยังไม่มี พวกเขาไม่เคยได้ยินว่าสัตว์ธรรมดาจะบำเพ็ญเพียรได้ แต่จุนห่าวมอบสิ่งอันมีค่านี้ให้แก่สายฟ้าอย่างง่ายดาย เห็นได้ว่า สายฟ้ามีความสำคัญต่อจุนห่าวเพียงใด
จุนห่าวไม่สนใจความรู้สึกยุ่งเหยิงของคนอื่น หลังจากทำพันธะสัญญาแล้ว ก็ะโเรียกสายฟ้าในจิตสำนึกของตัวเอง “สายฟ้า เ้าสื่อสารกับข้าได้ไหม?”
“ได้ ท่านพ่อ ในที่สุดข้าก็ได้พูดคุยกับท่านแล้ว ท่านไม่รู้หรอก หลายปีมานี้ ข้าคิดถึงท่านแค่ไหน หลังจากที่ข้าตื่นขึ้น คิดจะตามหาท่านทันที แต่ครานั้น ข้าเพิ่งเกิด ไปไหนได้ไม่ไกล ต่อมา ข้าเติบโตขึ้น ค้นพบว่าโลกที่อยู่ตอนนี้แตกต่างจากโลกก่อน โลกนี้ที่ไม่มีท่าน ข้าซึมเศร้าไปหลายวัน” สายฟ้าบอกความคิดถึงที่มันมีต่อจุนห่าว
เมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่มที่โตเต็มตัวปรากฎในจิตสำนึกของตัวเอง จุนห่าวนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง นึกถึงสายฟ้าที่เป็สัตว์ธรรมดา อายุสามขวบถือว่าเป็ผู้ใหญ่แล้ว จะมีเสียงผู้ใหญ่ย่อมไม่แปลก ดูเหมือนว่าเขาจะต้องช่วยสายฟ้ายืดอายุขัย มิฉะนั้นหากรอหญ้ามรกตทัวฝานครบกำหนด สายฟ้าคงแก่แล้ว มุมมองในตอนนี้ อีกสิบปีกว่าหญ้ามรกตทัวฝานจะโตเต็มที่ สิบปีผ่านไปสายฟ้าคงแก่แล้ว อาจจะอยู่ไม่ถึงได้กินหญ้ามรกตทัวฝาน
“สายฟ้า เ้ารู้ไหมว่าโลกนี้แตกต่างจากโลกของเรายังไง โลกนี้มีพลังพิเศษ...พลังิญญา การดูดซับพลังิญญาจะบำเพ็ญเพียรได้ แม้ว่าเ้าจะเป็เพียงสัตว์ธรรมดา แต่ข้าจะช่วยให้เ้าเข้าสู่เส้นทางบำเพ็ญเพียรอย่างแน่นอน” จุนห่าวพูดกับสายฟ้า เขาได้พบกับสายฟ้าอีกครั้ง เขาจะไม่ปล่อยให้สายฟ้าตายอย่างง่ายดายอีกแน่นอน
“พลังที่ทำให้ผ่อนคลายนั่นคือพลังิญญาหรือ? ข้ารับรู้แค่ว่าพลังนี้เมื่อสูบดมเข้าสู่ร่างกายจะผ่อนคลายยิ่ง ดังนั้น ข้าจึงดูดซับสิ่งเหล่านี้ทุกวัน บัดนี้ข้ารู้สึกว่าร่างกายของข้าแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม” สายฟ้าพูดกับจุนห่าว
จุนห่าวคาดไม่ถึงว่าสายฟ้าจะเริ่มบำเพ็ญเพียรแล้ว นี่เป็โอกาสแห่ง์อันยิ่งใหญ่ จุนห่าวครุ่นคิด อาจเป็เพราะสายฟ้าได้เบิกปัญญาแล้ว นอกจากเื่นี้ จุนห่าวก็หาสาเหตุไม่ออก
“คิดไม่ถึงว่าสุนัขที่โง่เขลาตัวนี้จะมาถึงที่นี่ ทั้งยังเบิกปัญญาได้ ทำบุญมาดีจริงๆ” เสียงเหน็บแนมของเสี่ยวไป๋ผุดขึ้นในจิตสำนึกของจุนห่าว
“เ้าบอกว่าจะนอนมิใช่รึ? ห้ามข้ารบกวนเ้า เหตุใดยามนี้เ้าถึงออกมาล่ะ” จุนห่าวได้ยินเสียงเสี่ยวไป๋พูด เขาไม่ควรเชื่อคำพูดของเสี่ยวไป๋
“หากข้าไม่ออกมา ข้าเกรงว่าเ้าจะทำพันธะสัญญากับสิ่งยุ่งเหยิงอีกมาก ข้าไม่อยากมีเ้านายคนเดียวกับใคร และทำให้ปัญญาของข้าให้ตกต่ำลง” เสี่ยวไป๋กล่าวอย่างไม่พอใจ เขางีบหลับไปครู่หนึ่ง จุนห่าวก็ทำพันธะสัญญากับสองสิ่งที่อ่อนแอ หนึ่งคือลูกบอลทมิฬ อีกหนึ่งคือสุนัขโง่เขลา
อาการบ่นจุกจิกของเสี่ยวไป๋ จุนห่าวไม่อยากปริปากพูด ลูกบอลทมิฬเป็การทำพันธะสัญญาโดยไม่ตั้งใจ ส่วนสายฟ้าเป็พันธะสัญญาที่เขาตั้งใจทำจริงๆ ไม่เพียงสะดวกต่อการสื่อสารกับสายฟ้า ยังช่วยเพิ่มพลังปราณของสายฟ้าด้วย อันที่จริง สายฟ้าเป็เพียงสัตว์ธรรมดา ต่อให้บำเพ็ญเพียรได้ คงฝึกได้ช้ามาก แต่หลังจากทำพันธะสัญญาแล้ว พลังปราณของเขาจะเพิ่มขึ้น และช่วยเพิ่มพูนพลังปราณของสายฟ้าด้วย
“เ้ารู้ไหมว่าสายฟ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?” จุนห่าวเอ่ยถาม จุนห่าวคิดว่าเื่นี้ต้องเกี่ยวข้องกับเสี่ยวไป๋เป็แน่
“ข้าพามาเอง ตอนที่สุนัขโง่ตัวนี้ตาย ข้าเห็นเ้าเศร้าใจ ข้าจึงนำดวงิญญาของมันเข้าไปเทศะ เมื่อมาถึงโลกนี้ ดวงิญญาของมันพลัดหายไป ข้าเกรงว่าเ้าจะต่อว่าข้า ข้าจึงไม่บอกเ้า คิดไม่ถึงว่ามันจะหาร่างใหม่ให้ตัวเองได้ ถึงแม้ร่างใหม่ของมันจะไม่ได้ดูดีเหมือนแต่ก่อน ทั้งสกปรกและขี้เหร่” เสี่ยวไป๋ยอมรับตรงๆ เสี่ยวไป๋รู้ว่าจุนห่าวรักสายฟ้ามากกว่ามัน แต่เดิมมันตั้งใจจะทำให้จุนห่าวดีใจ คิดไม่ถึงว่าเมื่อมาถึงแผ่นดินนี้ ิญญาของสายฟ้ากลับหายไป มันเกรงว่าจุนห่าวจะต่อว่ามัน มันจึงปกปิด ยังไงก็ไม่มีใครรู้ว่ามันแอบนำดวงิญญาของสายฟ้ามา คิดไม่ถึงว่าสุนัขโง่ตัวนี้จะโชคดี หาร่างสิงได้เองโดยที่มันไม่ต้องช่วย และตามจุนห่าวจนพบ ดูเหมือนว่า ต่อไปนี้เขาจะไม่ทำเื่ผิดมโนธรรมแล้ว มิเช่นนั้นไม่รู้เมื่อไหร่จะพบร่างของตนเอง จะเป็บาปที่มิอาจหลีกหนี และทำให้จุนห่าวจับจุนอ่อนเล็กๆ ของมันได้
หลังจากได้ยินคำพูดของเสี่ยวไป๋ จุนห่าวได้แต่จนใจ เขาพูดกับเสี่ยวไป๋ว่า “แม้ว่าเ้าจะปกปิดข้าจากความจริงนี้ ยังไงข้าก็ต้องขอบคุณเ้า แต่หลังจากนี้ อย่าปิดบังข้าอีก มิเช่นนั้น......จุนห่าวก็ไม่รู้ว่ามิเช่นนั้นยังไง เขาผูกพันกับเสี่ยวไป๋แล้ว ไม่อาจพูดทำร้ายเสี่ยวไป๋ต่อไปได้ เสี่ยวไป๋เป็เสมือนลูกหมี ที่ทำให้เขาเป็กังวลอยู่เสมอ”
“มิเช่นนั้นอะไร” เสี่ยวไป๋เอ่ยถาม อย่าบอกนะว่าจะทำลายจิตสำนึกของเขา คิดถึงตรงนี้ เสี่ยวไป๋เกรงกลัว พูดกับจุนห่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า “จุนห่าว จากนี้ไปข้าจะเชื่อฟังเ้า อย่าทำลายจิตสำนึกของข้าเลย ข้าตายแล้ว น่าสมเพชอยู่แล้ว หากแม้แต่จิตสำนึกก็ไม่มี ข้าคงจะหายไปอย่างสมบูรณ์ ฮืออออ...” กล่าวจบ เสี่ยวไป๋ก็ร้องไห้เสียใจ
จุนห่าว “......” จินตนาการของเสี่ยวไป๋นั้นเหลือล้นจริงๆ เขายังไม่ทำให้ใเลย ก็ใไปเองจนร้องไห้ “ตราบใดที่เ้าไม่ทำอันใดที่เป็อันตรายต่อความปลอดภัยของข้าและคนใกล้ชิด ข้าจะไม่ทำอย่างนั้น แต่...” จุนห่าวไม่พูดออกไป ทว่าเสี่ยวไป๋เข้าใจแล้ว ดังนั้นเสี่ยวไป๋จึงรีบรับประกัน
จุนห่าวยังมีเื่ไม่เข้าใจมากมาย เอ่ยขึ้น “เ้าเก็บดวงิญญาสายฟ้ามาได้ยังไง? เ้าบอกเองมิใช่หรือว่าก่อนข้าตายได้ปลุกเ้าให้ตื่นขึ้น?”
พูดเื่นี้จบ เสี่ยวไป๋ภาคภูมิใจขึ้น พลางกล่าวว่า “ต่อให้ข้าจะไม่ฟื้น ก็เก็บดวงิญญาของสัตว์ธรรมดาได้” เสี่ยวไป๋กล่าว พูดดูง่ายๆ แต่การกระทำนั้นไม่ง่ายเลย
ได้ยินน้ำเสียงภาคภูมิใจของเสี่ยวไป๋ จุนห่าวคิดในใจ อาการหลงลืมของเสี่ยวไป๋ช่างหนักหนานัก เมื่อครู่นี้ยังตัวสั่นอยู่เลย ขณะนี้กลับภาคภูมิใจอีกครั้ง บอกว่าเขาเป็ลูกหมีไม่ผิดไปจริงๆ
“เสี่ยวไป๋ เ้ามีเคล็ดวิชาบำเพ็ญเพียรที่เหมาะกับสายฟ้าไหม?” จุนห่าวเอ่ยถาม เขาอยากหาเคล็ดวิชาให้สายฟ้า เมื่อมีเคล็ดวิชา คงบำเพ็ญเพียรรวดเร็วขึ้น สายฟ้าเพิ่งจะเข้าสู่สัตว์อสูรขั้นที่หนึ่ง เช่นนั้นอายุขัยของเสี่ยวไป๋คงยาวนานกว่ามาก
“สุนัขโง่ตัวนี้โชคดีมาก ไม่รู้ว่าเบิกปัญญาได้อย่างไร ทั้งยังเข้าสู่เส้นทางการบำเพ็ญเพียรได้โดยไม่ตั้งใจ แต่ยังไงมันก็คือสัตว์ธรรมดา อายุขัยสั้นเหลือเกิน สมรรถภาพทางกายย่ำแย่ ชีพจรต่ำ ยากที่สร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้” เสี่ยวไป๋กล่าวอย่างเปิดเผย สายฟ้ามี่ชีวิตไม่กี่สิบปี ไม่มีอนาคตอะไร พอเริ่มบำเพ็ญเพียร ก็ใกล้หมดอายุขัยแล้ว
“ข้าได้ปลูกหญ้ามรกตทัวฝานต้นหนึ่งไว้ในเทศะ มีวิธีใดบ้างที่จะช่วยให้มันโตเต็มที่ได้รวดเร็วขึ้น” จุนห่าวถามเสี่ยวไป๋
“ไม่มีวิธี หญ้าต้นนั้นแม้ว่าจะมิใช่หญ้าเซียน แต่ก็เป็หญ้าิญญาชั้นสูง ความเร็วในเวลานี้ถือว่าเร็วมากแล้ว นอกจากสิ่งนี้ก็มิใช่ว่าไม่มีวิธี เพียงแต่มีความเสี่ยงสูง” เสี่ยวไป๋พูดอย่างคิดวิเคราะห์
“วิธีอะไร บอกมาเถิด” จุนห่าวรู้ว่ายังไงเสี่ยวไป๋ก็มีวิธี มันมีบันทึกที่ตกทอดหลายพันปีของเผ่าเสือขาว
“นั่นคือการเปลี่ยนถ่ายสายเืของสายฟ้า และให้มันเข้าสู่สัตว์อสูรขั้นที่หนึ่งโดยเร็วที่สุด เ้าต้องจับสุนัขอสูรฝีมือดี ให้สายฟ้าดูดซับเืของมัน แน่นอนว่า สายของเืของสุนัขอสูรจะมีประโยชน์ต่อสายฟ้า แต่หากสายฟ้า ไม่อาจรับการถ่ายเืได้ คงต้องพึ่งตนเอง คนอื่นช่วยมันไม่ได้แล้ว ตราบใดที่มันรอด ย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลง หากเปลี่ยนแปลงไม่ได้คงถึงทางตัน” เสี่ยวไป๋พูดอย่างจริงจัง
“แค่มีวิธีก็ดีแล้ว ข้าเชื่อว่าสายฟ้าต้องมีชีวิตรอดแน่” จุนห่าวกล่าว สายฟ้าเคยผ่านการฝึกอย่างเข้มงวด และความมุ่งมั่นของมันเด็ดเดี่ยวมาก ประกอบกับที่มันเบิกปัญญาแล้ว จิตตานุภาพย่อมแข็งแกร่งขึ้น
เมื่อมองท่าทางที่มั่นใจเต็มเปี่ยมของจุนห่าว เสี่ยวไป๋ไม่อยากขัด เขาพูดกับจุนห่าวว่า “ข้ามีเคล็ดวิชาสำหรับฝึกสัตว์ร้ายวิชาหนึ่ง ประเดี๋ยวข้าจะมอบให้เ้า ถึงตอนนั้นเป็หน้าที่เ้าที่จะมอบให้สายฟ้า หลังจากฝึกเคล็ดวิชานี้แล้ว สมรรถภาพร่างกายของสายฟ้าจะเพิ่มขึ้น ถึงตอนนั้นความน่าจะเป็ที่มันจะเปลี่ยนถ่ายเืได้สำเร็จคงเพิ่มขึ้น”
“ข้าขอขอบคุณเ้าแทนสายฟ้า มันจะจดจำความดีของเ้าแน่” จุนห่าวกล่าวต่อเสี่ยวไป๋ นี่คือความแตกต่างระหว่างลูกหลานจากครอบครัวตระกูลขุนนางกับลูกหลานจากบ้านที่ยากจนค่นแค้น เสี่ยวไป๋หยิบยกเคล็ดวิชาหนึ่งออกมาได้สบายๆ
“ขอเพียงเ้าไม่ทำให้ข้าใก็พอแล้ว ข้าไม่ชอบถูกทำให้ใ ความจริงแล้วข้าก็ทำเพื่อตัวเอง ยังไงซะหลังจากนี้ สายฟ้าก็คือน้องชายอันดับสองที่เป็ลูกสมุนของข้า หากมันขี้ขลาดเกินไป ข้าก็เสียหน้า ข้ายังคิดว่าหลังจากที่มันอาจหาญ จะให้รับใช้ข้า ฉะนั้นอันดับแรก ต้องให้มันมีพละกำลังแข็งแกร่งเสียก่อน ถึงจะช่วยข้าทำเื่ต่างๆ ได้” เสี่ยวไป๋พูดอย่างกระตือรือร้น บัดนี้เขาเป็พี่ใหญ่แล้ว เขามีน้องชายทั้งสองไว้คอยรับใช้ แม้ว่าพวกมันจะอ่อนแอมาก ทว่ายังปลูกฝังได้
หลังจากได้ยินคำพูดของเสี่ยวไป๋ จุนห่าวเอ่ยขึ้น “เช่นนั้น น้องชายอันดับหนึ่งคือใครหรือ?”
“เสี่ยวเฮยไง ก็คือลูกบอลทมิฬที่เ้าทำพันธะสัญญานั่น แต่ข้ารู้สึกว่ามันแอบร้ายกาจ จึงอาศัยโอกาสนี้ ก่อนที่มันจะตื่นขึ้นมา ข้าต้องแต่งตั้งตัวเองเป็พี่ใหญ่ พอถึงวันนั้น ข้าจะทำให้มันเข้าใจความจริงนี้ จากนี้ไปอย่าพยายามต่อสู้หรือแย่งชิงตำแหน่งพี่ใหญ่ของข้า” เสี่ยวไป๋พูดกับจุนห่าว ไม่รู้ว่าทำบุญด้วยอะไรถึงโชคดีเพียงนี้ หากลูกบอลทมิฬเป็บันทึกที่ตกทอดมาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดบัดนี้พละกำลังถึงอ่อนแอเพียงนี้
“เ้าจะบอกที่มาของลูกบอลทมิฬไม่ธรรมดา? ในลูกบอลทมิฬมีอาวุธวิเศษหรือ?” จุนห่าวเอ่ยขึ้น ในเวลานี้จุนห่าวคุ้นชินกับทำสองสิ่งในเวลาเดียวกัน เวลานี้พวกจุนห่าวเดินกลับเข้าไปในบ้าน สายฟ้าได้อาบน้ำ และจุนห่าวกำลังเฝ้าดูสายฟ้ากิน เห็นสายฟ้าที่กำลังกินอย่างหิวโหย จุนห่าวปวดใจเล็กน้อย
“ต้องมีอาวุธวิเศษแน่ ข้าก็รู้สึกว่ามันคล้ายกับสิ่งหนึ่งที่บันทึกตกทอดมาของข้า รอให้มันตื่นขึ้น เราคงได้รู้ ไม่ว่ามันเป็ใคร ยังไงตำแหน่งพี่ใหญ่ของข้าจะไม่ยกให้มันเด็ดขาด” เสี่ยวไป๋กล่าวอย่างดื้อรั้น
สำหรับลูกบอลทมิฬ จุนห่าวรู้เพียงว่ามันเป็ตำราเล่มหนึ่ง ฟังความหมายของเสี่ยวไป๋ ที่คิดว่ามันเป็สิ่งยิ่งใหญ่ จุนห่าวคิด ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่เพียงไหน บัดนี้ได้ทำพันธะสัญญากับเขาแล้ว ต่อให้เป็ั ก็ต้องเคารพกัน ในที่นี่มันต้องฟังเขา แต่เขาก็ไม่ได้เป็คนใจไม้ไส้ระกำ หากไม่เป็ภัยต่อเขาและครอบครัว ก็จะไม่เข้มงวดต่อมันเกินไป สำหรับที่เสี่ยวไป๋คิดว่าใครจะเป็พี่ใหญ่ ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยว
