งานเลี้ยงยังไม่ทันจบหานรั่วซีก็ต้องขอตัวกลับก่อน
ปกติแขกที่้าออกจากงานก่อนเวลานั้นควรแจ้งกับเ้าของงานตามมารยาทเพราะฉะนั้นเธอจึงเดินตรงไปหาลู่เป๋าเหยียน
นักข่าวกลุ่มใหญ่ถูกการกระทำของเธอดึงความสนใจในทันทีเพราะความสัมพันธ์ของลู่เป๋าเหยียน ูเี่อันและหานรั่วซีนั้นค่อนข้างถูกจับตามองแถมคืนนี้หานรั่วซีกับูเี่อันยังใส่ชุดซ้ำกันอีกพวกนักข่าวจึงตั้งความหวังไว้ว่า พวกเขาจะปะทะกันให้พอมีเื่น่าตื่นเต้นบ้าง
ในตอนนี้ทั้งสามคนก็ได้เผชิญหน้ากันแล้วบรรยากาศรอบกายของหานรั่วซีดูจะเป็ต่อกว่าเล็กน้อย
คนอื่นอาจจะมองไม่ออกแตู่เี่อันมองออกว่าหานรั่วซีตั้งใจมาประกาศศึกกับเธอว่าจะไม่มีทางยอมแพ้เื่ลู่เป๋าเหยียน
ก็ดี เพราะเธอเองก็เตรียมใจสู้เต็มร้อยยู่แล้ว
“เป๋าเหยียนคะวันนี้ฉันคงต้องขอตัวก่อน แล้วเจอกันค่ะ”หานรั่วซีพูดพลางยิ้มอย่างเป็ธรรมชาติราวกับสนิทสนมกับลู่เป๋าเหยียนมานานจากนั้นจึงปรายตามองูเี่อันด้วยท่าทางของคนที่อยู่เหนือกว่า
“คุณนายลู่ไว้พบกันใหม่ค่ะ”
ูเี่อันไม่ได้ทำตัวเหมือนหานรั่วซีเป็ศัตรูเธอยิ้มให้คนตรงหน้าเหมือนที่ยิ้มให้กับแขกคนอื่น
“ลาก่อนค่ะ”
บทสนทนาไม่เกินสองนาทีนี้ถูกกล้องของนักข่าวจับภาพเอาไว้ทั้งหมด
หานรั่วซีเดินออกจากงานไปพร้อมกับผู้จัดการและบอดี้การ์ดที่ช่วยรักษาความปลอดภัยพวกนักข่าวรีบวิ่งตามมาติดๆ เธอเดินไปพลางตอบคำถามของพวกเขา
“ทำไมถึงกลับก่อนล่ะคะรั่วซี”
เธอยิ้มเล็กน้อย“ฉันต้องกลับอเมริกาไฟล์เที่ยงคืนนี้ค่ะ เพราะพรุ่งนี้ยังมีงานถ่ายโฆษณาอีกไม่งั้นพวกคุณคิดว่าทำไมฉันถึงกลับก่อนล่ะคะ”
พวกนักข่าวยิ้มก่อนยิงคำถามต่อไป
“รั่วซีคะข่าวเื่ที่คุณพยายามฆ่าตัวตายที่อเมริกาเมื่อ่ก่อนหน้านี้คุณยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมตอนนี้พอจะเล่าให้พวกเราฟังได้ไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น”
่ก่อนหน้าที่มีข่าวว่าความจริงแล้วรักแท้ของลู่เป๋าเหยียนคือหานรั่วซีแต่ไม่นานหลังจากนั้นก็กลับกลายเป็ข่าวการพยายามฆ่าตัวตายของเธอแทนทำให้สื่อทุกสำนักและโลกอินเทอร์เน็ตแทบคลั่งเวยป๋อของเธอมียอดคอมเมนต์เกือบล้านข้อความพวกนักข่าวเองก็พยายามหาคำตอบในเื่นี้ แต่เธอไม่หลุดข้อมูลอะไรออกมาเลยเพียงแต่บอกกับทุกคนว่า เธอยังมีชีวิตอยู่และปลอดภัยดี
มาวันนี้พวกนักข่าวขุดเื่นี้กลับมาพูดอย่างที่เธอคาด ซึ่งเธอได้เตรียมคำตอบเอาไว้แล้ว
“่นั้นฉันมีแรงกดดันมากจริงๆค่ะ จึงทำให้เกิดเื่เข้าใจผิดกัน ยังไงก็ต้องขอโทษทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะตอนนี้ฉันสบายดีแล้ว การถ่ายทำหนังเื่ใหม่ก็ราบรื่นดีต้องขอบคุณแฟนคลับและเพื่อนๆ ที่คอยให้กำลังใจมาโดยตลอด ทุกคนไม่ต้องเป็ห่วงนะคะฉันจะพยายามเต็มที่เพื่อสร้างผลงานที่ดีที่สุดออกมาให้แฟนๆ ได้รับชม”
นี่เป็ครั้งแรกที่หานรั่วซีตอบเื่ข่าวการฆ่าตัวตายของตนคำพูดเพียงไม่กี่คำของเธอเบี่ยงประเด็นให้กลายเป็เื่แรงกดดันในการทำงานแทนถึงพวกนักข่าวจะถามรายละเอียดเพิ่มเติม เธอก็ไม่ได้ตอบอะไรในเื่นี้อีก
นักข่าวจึงถามเื่อื่นที่ตอนนี้ทุกคนกำลังให้ความสนใจ
“รั่วซีคะ ได้ข่าวว่า่นี้มีเอเจนซี่หลายเ้ามาติดต่อคุณคุณมีแผนจะย้ายสังกัดบ้างหรือเปล่าคะ”
“ฉันกับเครือลู่ทำงานด้วยกันมาหลายปีมีทั้งทีมงานที่คุ้นเคยและเพื่อนดีๆ หลายคน ตอนนี้ฉันยังไม่คิดจะย้ายสังกัดหรอกค่ะขอบคุณที่ทุกคนให้ความสนใจนะคะ”
จบคำเธอก็ขึ้นรถตู้ออกจากโรงแรมไป
ส่วนบรรยากาศด้านในห้องจัดเลี้ยงนั้นในตอนนี้ดูคึกคักยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
เวลานี้มีทั้งกลุ่มคนที่กำลังเต้นรำบรรดานักธุรกิจที่กำลังพูดคุยกันแต่ที่เยอะที่สุดคงเป็พวกหนุ่มสาวที่กำลังจีบกันอยู่ในงาน
เริ่มจากการถูกใจคนแปลกหน้าจนกระทั่งเข้าไปทักทาย ก่อนจะเริ่มพูดคุยถึงเื่หน้าที่การงานและงานอดิเรกท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายก็แลกเบอร์ติดต่อกันด้วยรอยยิ้มอย่างพอใจ
สมัยเรียนูเี่อันก็เคยพบเห็นภาพแบบนี้มาบ้างเธอรู้สึกว่ามันเป็เื่ที่สวยงาม ว่าแล้วก็กระตุกมือลู่เป๋าเหยียนเบาๆ
“นายเคยเข้าไปจีบสาวๆ บ้างหรือเปล่า”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนตอบ
“เธอสอบปากคำฉันช้าไปหรือเปล่า”
ูเี่อันนิ่งไปชั่วครู่
“ใครกำลังสอบปากคำนายกัน? ฉันก็แค่ถามว่านายเคยทำเื่แบบนี้บ้างไหมเสี่ยวซีชอบพูดว่า เื่พวกนี้จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคน”
“เทคนิคอะไร”
“เวลาผู้ชายจะจีบผู้หญิงต้องยิ้มอย่างสุภาพบุรุษไม่ก็ยิ้มแบบโลกสดใสเอาเป็ว่าต้องแสดงให้เห็นถึงความน่าหลงใหล ไม่ควรเข้าไปทื่อๆ ไม่ควร...”พูดจบูเี่อันก็เริ่มรู้ตัว
“จะมาถามฉันทำไมตกลงเคยจีบสาวบ้างหรือเปล่านายน่ะ”
“ปกติมีแต่สาวมาจีบฉัน”ลู่เป๋าเหยียนตอบเสียงเนือย “เหมือนตอนเธอเด็กๆ ไง”
“...”
เอ่องั้นเขากับหานรั่วซีล่ะรู้จักกันได้ยังไง? ทำไมหานรั่วซีถึงเรียกแค่ชื่อของเขาว่าเป๋าเหยียนล่ะทั้งสองคน...ดูจะสนิทกันเป็พิเศษ
ส่วนเธอเป็ภรรยาเขาแท้ๆกลับเรียกเขาซะเต็มยศว่า ลู่เป๋าเหยียน
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่คิดจะเรียกเขาเหมือนที่หานรั่วซีเรียกหรอกนะคนอื่นหรือพวกลูกน้องอาจจะเรียกเขาอย่างเคารพนับถือหานรั่วซีอาจจะเรียกเขาอย่างสนิทสนม แต่เธอจะเรียกเขาเต็มยศแบบนี้นี่แหละดูมีพาวเวอร์ดี เหมือนเธอกำลังประกาศให้โลกรู้ว่า ลู่เป๋าเหยียนเป็ของเธอ!
เธอเชิดหน้าก่อนตอบ“ตอนนั้นฉันยังเป็เด็กไม่รู้ประสีประสา แต่พอโดมาฉันก็เริ่มรู้ทันคนเลยไม่มีใครเอาเปรียบฉันได้อีก”
มีแต่ลู่เป๋าเหยียนนี่แหละที่เอาเปรียบเธอขนาดตอนเธอยังไม่รู้จักคำว่าชอบลู่เป๋าเหยียนก็เอาเปรียบเธอด้วยการเข้ามาพื้นที่ในหัวใจเธอไปซะอย่างนั้น
แต่ก่อนทีู่เี่อันจะได้จัดการเอาคืนลู่เป๋าเหยียนหางตาของเธอก็หันไปเห็นคนคุ้นเคยสองคน
คุณผังกับคุณนายผัง
เธอเริ่มทำงานเลี้ยงตัวเองั้แ่ตอนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งด้วยการเป็ครูสอนพิเศษตามบ้าน ซึ่งผู้ว่าจ้างของเธอก็คือสองสามีภรรยาตระกูลผัง
คุณนายผังดูแลเธอเป็อย่างดีให้ค่าจ้างเธอสมน้ำสมเนื้อ หลังสอนเสร็จคุณนายผังก็มักจะชวนทานข้าวด้วยกันแถมยังให้คนขับรถไปส่งเธอกลับมหาวิทยาลัยอย่างปลอดภัยทุกครั้งอีกด้วย
ตอนนั้นรูมเมทของเธอชอบพูดว่าูเี่อันคงทำบุญมามากถึงได้ผู้ว่าจ้างดีขนาดนี้
เธอเองก็คิดเช่นเดียวกันเธอไม่เคยลืมพวกเขาสองคนเลยถึงแม้ว่าจะขาดการติดต่อไปั้แ่เธอกลับมาประเทศจีนก็ตามจนกระทั่งหลังจากแต่งงานกับลู่เป๋าเหยียนเธอจึงมีโอกาสได้เจอกับพวกเขาอีกครั้งในงานปาร์ตี้ที่เธอเข้าร่วมพร้อมกับลู่เป๋าเหยียน
นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอพวกเขาอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะคุณนายผัง”เธอเข้าไปทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
คุณนายผังตั้งใจเดินมาหาเธออยู่แล้วจึงยิ้มก่อนเอ่ย
“เจี่ยนอันเจอทีไรหนูมักสวยขึ้นเสมอเลยนะ”
ูเี่อันยิ้มรับตามมารยาทส่วนคุณผังก็คุยกับลู่เป๋าเหยียนเื่ทั่วไป ก่อนจะเริ่มคุยกันเื่ธุรกิจ
คุณนายผังอดบ่นสามีตัวเองไม่ได้
“นี่คุณทำไมเอาแต่พูดเื่พวกนี้กับทุกคนที่เจอเลยล่ะเนี่ย หุ้น A หุ้น B อะไรกัน ฉันฟังไม่รู้เื่ หนูเจี่ยนอันก็เหมือนกัน”
“คุณฟังไม่รู้เื่ก็ไม่แปลก”คุณผังกล่าว“ก็เหมือนกับเวลาที่พวกผู้หญิงอย่างคุณคุยกันเื่กระเป๋าเื่เครื่องสำอางพวกผมก็ฟังไม่รู้เื่เหมือนกันนั่นแหละ”
คุณนายผังถลึงตาใส่สามีของตนคุณผังจึงได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนโยนเป็การตอบรับ
ูเี่อันดึงชายเสื้อของลู่เป๋าเหยียนก่อนจะชี้นิ้วไปยังสถานที่ไม่ไกล
“คุยกันไปก่อนนะเดี๋ยวฉันกับคุณนายผังไปคุยกันตรงนู้นแป๊บหนึ่ง”
“อืม” ลู่เป๋าเหยียนตอบ“อย่าไปไกลล่ะ เดี๋ยวฉันไปหา”
ูเี่อันพยักหน้าก่อนจะจูงมือคุณนายผังให้เดินไปกับเธอ
“ในเมื่อเราฟังไม่รู้เื่งั้นก็อย่าไปฟังเลยดีกว่าค่ะ”
คุณนายผังยิ้ม “นั่นสิไม่ฟังเลยดีกว่าเนอะ ฉันเองก็อยากคุยกับเราอยู่พอดี เจี่ยนอันคุณลู่ดูแคร์เรามากกว่าที่ฉันคิดเสียอีกนะ อยู่ด้วยกันดีๆ นะจ๊ะ เขาคงทำให้เรามีความสุขได้แน่นอน”
เท่าที่เธอรู้ลู่เป๋าเหยียนกับคุณผังไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้น จู่ๆ คุณนายผังมาพูดแบบนี้เธอจึงรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆเหมือนกับครั้งก่อนที่เธอเจอพวกเขาในงานปาร์ตี้ไม่มีผิด
“คงรู้สึกแปลกๆ ที่จู่ๆฉันก็พูดแบบนี้สินะ” คุณนายผังยิ้ม “เื่บางเื่รอให้มีโอกาสไว้ฉันจะบอกเธอทีหลัง”
สัญชาตญาณของเธอฟ้องว่าเื่ที่ว่าคงเกี่ยวกับลู่เป๋าเหยียนด้วยแน่ๆเธอรู้สึกอยากรู้จนทนไม่ไหว
“บอกฉันตอนนี้เลยไม่ได้เหรอคะ”
คุณนายผังยิ้มอย่างเป็ปริศนา
“ยังไม่ได้จ้ะ”
ได้ยินเช่นนั้นูเี่อันก็ไม่คิดจะตื๊อต่อ
“ถงถงเป็ยังไงบ้างคะ?”
ถงถงคือลูกชายเพียงคนเดียวของคุณนายผังเด็กชายที่เธอไปเป็ครูสอนวิชาเลขกับภาษาอังกฤษให้เขา
“ถงถงผลการเรียนดีมากจ้ะหลังจากเธอไปเรียนต่อเมืองนอก พวกเราก็ไม่ได้จ้างใครมาสอนที่บ้านอีกเลยเขายังพูดถึงหนูอยู่บ่อยๆ เลยนะ” คุณนายผังตอบ
ูเี่อันนึกไม่ถึงว่าเด็กน้อยคนนั้นยังจำเธอได้
“ไว้มีโอกาสฉันจะไปเยี่ยมนะคะ”
“ได้สิจ๊ะ”คุณนายผังพูดอย่างยินดี “ฉันจะไม่บอกถงถงก่อน รอไว้เซอร์ไพรส์เขาดีกว่า จริงสิเรากับลู่เป๋าเหยียน...วางแผนเื่มีลูกกันบ้างหรือยัง”
เอ่อ ทำไมหัวข้อสนทนากลายเป็เื่มีลูกไปได้ล่ะเนี่ย?
ูเี่อันเริ่มหน้าแดงคุณนายผังเห็นแล้วก็รู้ทันทีว่าเธอกำลังเขิน เธอตีมือูเี่อันเบาๆ
“ขนาดแต่งงานแล้วยังจะเขินอีกลูกก็เหมือนนางฟ้าที่ช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของสามีภรรยามั่นคงแถมยังช่วยเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์ขึ้นด้วยนะฉันว่าหนูกับคุณลู่ควรจะรีบมีลูกได้แล้ว”
ูเี่อันหน้าแดงก่ำก่อนจะได้ยินเสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง
“ผมกับเจี่ยนอันกำลังวางแผนกันอยู่ครับ”ลู่เป๋าเหยียนเดินเข้ามาโอบเอวูเี่อันอย่างเป็ธรรมชาติ
“ไว้มีข่าวดีเมื่อไรจะรีบบอกคุณนายผังนะครับ”
คุณนายผังได้ยินดังนั้นก็ดีใจจนเอ่ยปากชมไม่หยุดคุณผังจึงอดบ่นภรรยาตัวเองไม่ได้ว่า ทำไมถึงชอบเร่งให้คนอื่นมีลูกอยู่เรื่อยเดี๋ยวเขาเปิดสำนักงานที่ปรึกษาเื่การตั้งครรภ์ให้เธอเลยดีไหม
ถึงคำพูดจะดูประชดชันแต่น้ำเสียงขอบคุณผังนั้นกลับเต็มไปด้วยความรักใคร่
คุณนายผังได้ยินดังนั้นก็รีบตอบตกลงแถมยังชมสามีตัวเองด้วยว่าไอเดียบรรเจิดนัก
ูเี่อันมองตามหลังคู่สามีภรรยาที่เดินจูงมือกันออกไปแล้วอ่อนถอนใจไม่ได้
“พวกเขารักกันดีจังในอดีตรักกันยังไง ปัจจุบันก็ยังรักกันเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน”
“เธออิจฉา?” ลู่เป๋าเหยียนถาม
ูเี่อันส่ายหน้า“ก็แค่รู้สึกว่าเป็แบบนี้ดีจัง”
ความสัมพันธ์แบบนั้นคนอย่างเธอไม่ควรแม้แต่อิจฉา เธอแค่รู้สึกชื่นชมและแอบหวังอยู่ลึกๆ ว่าถ้าหากเป็ไปได้เธอก็อยากจะเป็แบบนั้น
ว่าแล้วูเี่อันก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ถึงคำพูดของลู่เป๋าเหยียนเมื่อครู่เลยถามเขาพลางบ่น
“ทำไมนายไปบอกคนอื่นว่าพวกเรากำลังวางแผนมีลูกกันแบบนั้นเล่า”เขากับเธอไม่เคยพูดเื่นี้กันด้วยซ้ำอีกอย่างความสัมพันธ์ของพวกเธอไม่เหมือนสามีภรรยาคู่อื่นๆ สักหน่อย
แต่ลู่เป๋าเหยียนกลับตอบอย่างไม่แยแส
“บอกคนอื่นแบบนั้นแล้วจะเป็ยังไง”
ูเี่อันเบ้ปากอย่างกลุ้มใจ
“คราวหลังถ้าคนอื่นถามฉันว่าวางแผนไปถึงไหนแล้วจะให้ฉันตอบยังไง?”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตอบอย่างไม่ต้องคิด
“เธอก็ตอบพวกเขาไปสิว่าพวกเราตั้งใจจะมีลูกกันเร็วๆ นี้”
