ไทเฮาเคลื่อนไหวรวดเร็วนัก วันรุ่งขึ้นที่สำนักซืออี๋ก็ได้รับโองการ ว่าในอีกสามวันจะมีการประเมิน พระชายาที่ผ่านเกณฑ์จึงจะสามารถแยกกันกลับจวนได้
การประเมินนั้น แม่นมจะเป็ผู้จัดรายการทดสอบและประกาศออกมา
ทุกคนที่ได้ยินข่าวต่างพากันดีใจ
เดิมทีพวกนางเป็ผู้ที่มีคนคอยประคบประหงม ทว่าวันหนึ่งกลับถูกลากมาถูกสั่งสอน ชีวิตมิสุขสบายเป็ธรรมดา
ในที่สุดทุกอย่างจะจบสิ้นลงเสียที มิต้องพูดเลยว่าตื่นเต้นมากเพียงใด
คืนนี้กู่ซือฝานมิกลับห้องตนเอง บอกว่าจะนอนกับอวิ๋นอี้
อวิ๋นอี้ใมาก โพล่งออกมาว่า "นอนกับข้าหรือ? เตียงข้าเล็กมาก เกรงว่าจะทำให้เ้าลำบาก"
นางพูดอ้อมๆ อยากปฏิเสธ ผู้ใดใช้ให้หรงซิวชอบแอบเข้าไปหานางกลางดึกกันเล่า หากสองคนพบกัน คงจะเป็ภาพที่น่าอับอายมาก
ที่ไหนได้ กู่ซือฝานกลับมิตามน้ำ พูดอย่างสบายใจว่า "ท่านพี่สะใภ้! มิตรภาพของเราเช่นนี้ ข้าจะรังเกียจโน่นนี่อีกหรือเพคะ? ตราบใดที่ได้อยู่กับท่าน มิมีคำว่าลำบากหรอกเพคะ"
อวิ๋นอี้มุมปากกระตุก
ดีที่กู่ซือฝานเป็สตรี มิฉะนั้น นางคงคิดว่านางมีความคิดเกินเลยกับตนเองเป็แน่
“ข้าชอบนอนเตียงแข็ง มิรู้ว่าเ้าจะนอนได้หรือไม่?”
“นอนได้! บังเอิญเสียจริง! ข้าก็ชอบนอนเตียงแข็งเพคะ ผู้ใดให้ข้านอนเตียงนุ่มๆ ข้าจะเอ็ดให้! ท่านพี่สะใภ้ ท่านช่างใส่ใจข้าเสียจริง!" กู่ซือฝานคว้าแขนของอวิ๋นอี้ พูดอย่างซาบซึ้ง
อวิ๋นอี้มิรู้ว่าต้องทำหน้าอย่างไร “ข้านอนดิ้นนะ เกรงว่าจะนอนทับเ้า”
“มิต้องกังวลเพคะ ข้าเองก็มิได้นอนดีนัก ข้ายังจำได้ ตอนที่นอนกับองค์ชายของข้า ตื่นเช้ามาพลันพบว่ามืดสนิท เมื่อหันหน้ามองออกไปก็เห็นรองเท้ามากมายเดินไปมา ข้าร้องเสียงหลง หรงหลินถึงได้ก้มลงมามอง ท่านพี่เดาสิเพคะว่าเกิดเหตุกระไรขึ้น?” กู่ซือฝานขยิบตาถาม
นิสัยของนางมิค่อยสนใจภาพลักษณ์อยู่แล้ว หลังจากที่ได้รู้จักกับอวิ๋นอี้นานเข้า นางเป็คนช่างพูด เื่หนึ่งนางสามารถพูดขยายไปได้มากมาย
อวิ๋นอี้ถามอย่างให้ความร่วมมือ "เกิดกระไรขึ้นหรือ?"
"ข้านอนตกลงไปบนพื้น ทั้งยังกลิ้งลงไปใต้เตียง หรงหลินตื่นเช้ามิเจอข้า จึงเรียกคนพากันตามหา นึกว่าข้าหายตัวไปเสียแล้ว!" กู่ซือฝานพูดพลางหัวเราะอย่างมีความสุขราวกับว่าผู้ที่ขายหน้ามิใช่นาง
เรียกได้ว่าใจใหญ่นัก
อวิ๋นอี้คิดถึงภาพนั้น ก็อดหัวเราะมิได้
กู่ซือฝานเห็นรอยยิ้มของนาง พลันขยับตัวเข้ามาอย่างร่าเริง ยกก้นขึ้นนั่งเบียดลงที่เตียง เอาไหล่แตะนาง “เช่นนั้นเป็อันตกลงนะเพคะ ข้าจะนอนที่นี่”
ถึงเช่นนี้แล้ว อวิ๋นอี้ต้องยอมเห็นด้วยโดยธรรมชาติ แม้ว่านางจะมิเข้าใจว่านางไปตกลงกับกู่ซือฝานตอนใดกัน
หลังจากที่สตรีสองคนอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็นอนเคียงข้างกันบนเตียง พูดคุยเรื่อยเปื่อย
เนื้อหาของการสนทนาวนอยู่กับการประเมินในอีกสามวันข้างหน้า ทว่าสตรีเป็สิ่งมีชีวิตที่เหมาะกับการพูดคุย ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากหัวข้อใด สุดท้ายก็จะพูดไปถึงเื่บุรุษและเสื้อผ้าได้เสมอ
กู่ซือฝานบอกว่าหลังออกจากที่นี่ จะไปร้านตัดเสื้อเพื่อซื้อเสื้อผ้า พลันชวนอวิ๋นอี้ให้ไปด้วยกัน
คิดว่าอยากจะไปดูผลประกอบการ่นี้อยู่พอดี อวิ๋นอี้ตอบตกลงอย่างมิลังเล
ในเพลานี้นั่นเอง มิรู้ว่าเพราะเหตุใด อวิ๋นอี้พลันเผลอคิดถึงลู่จงเฉิง
ในฐานะเ้าของแหล่งเงินของนาง เหมือนว่าทั้งสองจะขาดการติดต่อกันเป็เวลานานเกินไปแล้ว
นางมิได้เข้าไปดูแลร้านตัดเสื้อและโรงเตี๊ยมมาเกินครึ่งเดือนแล้ว คุณสมบัติพิษของลู่จงเฉิงทำให้นางกลัวเล็กน้อย ได้เพียงสวดภาวนาเงียบๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หวังว่าทั้งสองร้านจะยังไม่ปิดตัวลง
อวิ๋นอี้ฟุ้งซ่านจนนางมิได้ฟังสิ่งที่กู่ซือฝานพูดในภายหลัง
เปลือกตาของนางเริ่มหนักและหนักขึ้น มีสติบ้าง เซื่องซึมบ้าง
จนกระทั่งมีมือเย็นมาลูบแก้มนางเบาๆ การเคลื่อนไหวนั้นอ่อนโยน และลมหายใจที่คุ้นเคยเข้ามาที่ปลายจมูกนาง อวิ๋นอี้ตื่นขึ้นจากความฝันพลันเห็นผู้ใดนั่งยองๆ อยู่ข้างเตียง
นางกะพริบตา รู้สึกแปลกใจ
"ชู่ว" หรงซิวเอานิ้วปิดริมฝีปากนาง "หลับเถิด"
นางก้มหน้าลงอย่างอ่อนแรง พยักหน้าลง พึมพำบางสิ่งพลันหลับต่อไป
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน มีเสน่ห์ เข้าหูราวเพลงกล่อม
อวิ๋นอี้ตื่นขึ้นในวันรุ่งขึ้น พลันมองไปรอบห้อง นอกจากกู่ซือฝานแล้วมิมีหรงซิว จึงนึกย้อนไปว่าเมื่อคืนเกิดกระไรขึ้น เหมือนว่าหรงซิวจะมาใช่หรือไม่?
นางจำได้มิชัด ทำได้เพียงค่อยถามเขาคราหน้า
สามวันต่อมา บรรยากาศของสำนักซืออี๋พลันเปลี่ยนเป็จริงจังอย่างมิเคยเป็มาก่อน
หลังจากที่แม่นมเล่าถึงเนื้อหาการประเมิน พวกนางพลันเริ่มฝึกฝนกันอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้ว่าอวิ๋นอี้จะรู้สึกเบื่อ ทว่าโชคดีที่มีกู่ซือฝานและตู้ซือโหรวอยู่ด้วย พากันไปได้จนจบ
ในที่สุดการทดสอบก็มาถึง
นางทำการบ้านมาเยอะ อวิ๋นอี้เป็ผู้ที่มีความสามารถในการเรียน มีจิตใจที่กระตือรือร้น สมองจดจำได้ชัดเจน เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว จนผ่านการทดสอบไปได้
ในบรรดาสตรีสามคน กู่ซือฝานและตู้ซือโหรวผ่านไปได้อย่างราบรื่นยิ่งกว่า
หลังจากการประเมินจบลง ทุกคนพลันถอนหายใจด้วยความโล่งอก
อยู่ในสำนักซืออี๋มานานนม ได้เวลากลับบ้านเสียที
ตอนมามิมีสิ่งใดมากมาย ทว่าตอนกลับไป อวิ๋นอี้กลับนำสิ่งของสองสามอย่างกลับไป เป็สิ่งที่หรงซิวนำมาให้นางใน่นี้ทั้งสิ้น
อวิ๋นอี้เก็บข้าวของแล้วไปที่ห้องข้างๆ รอคนมารับพร้อมกับกู่ซือฝาน
หรงซิวกับหรงหลินรู้มานานแล้วว่าวันนี้พวกนางจะกลับบ้าน จึงนัดกันไปรับ ทั้งสองบังเอิญเจอกันที่ประตู
ภายใต้ดวงอาทิตย์ดวงโต หรงหลินมองเห็นบุรุษราวกับหยกผู้นั้นได้ในทันที
เขาทักทาย "ท่านพี่เจ็ด!"
หรงซิวหันหน้าพลันเมื่อได้ยินเสียง พยักหน้าเล็กน้อย "อื้ม ไปกันเถิด"
"ท่านพี่เจ็ด ช้าก่อนพ่ะย่ะค่ะ!" หรงหลินหยุดเขาด้วยรอยยิ้ม ตากลับมองเขาขึ้นๆ ลงๆ หรงซิวมองเขาอย่างไร้ความอดทน เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “มีกระไรหรือไม่?”
“มีพ่ะย่ะค่ะ!” หรงหลินท่าทีราวกระต่ายตื่นตูม “มีเื่ใหญ่!”
ทั้งสองมีความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องค่อนข้างดี ตอนที่อยู่ด้วยกันมักจะหยอกล้อกันเสมอ
“เื่กระไร?” หรงซิวพูดช้าๆ มิสนใจท่าทีของหรงหลิน “รีบพูด พวกเราต้องไปรับพวกนางอีก”
หรงหลินยิ้มตาหยี เอนตัวเข้ามา แตะเซียงหนางที่ห้อยอยู่ที่เอวของเขา ผู้ใดจะคิดว่ายังมิทันที่จะจับได้ พลันถูกหรงซิวผลักออก ถามด้วยน้ำเสียงเ็าว่า "เ้าจะทำกระไร?"
"ข้าขอดูหน่อย!" หรงหลินชำเลืองมองอีกครา "ก่อนหน้านี้ท่านพี่มิชอบของพวกนี้นี่ แม้ว่าผู้ใดจะให้ ท่านมิเคยคิดจะแขวน เซียงหนางนี้มาจากที่ใดกัน?"
เมื่อมีคนพูดถึงสตรีผู้หนึ่ง หรงซิวก้มหน้ามิพูด
เมื่อหรงหลินเห็นปฏิกิริยาของเขา พลันรู้ว่าน่าจะพูดแทงใจเขาแล้ว น้ำเสียงเย้ยหยันเล็กน้อย “ให้ข้าเดานะพ่ะย่ะค่ะ พี่สะใภ้เจ็ดเป็คนทำใช่หรือไม่?”
หรงซิวยังคงมิตอบ
แม้เป็เช่นนั้น หรงหลินยังคงพูดต่อ “มิพูดก็ถือว่ายอมรับแล้ว เหมือนว่าข้าจะพูดถูก เพราะว่าพี่สะใภ้ทำหรือพ่ะย่ะค่ะถึงได้แขวนติดตัว? นี่มันมิปกติเลยนะ ท่านพี่เจ็ด ท่านตกหลุมไปแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?"
"เปล่าสักหน่อย" หรงซิวพูด "นางทำแล้วข้ามิใช้ นางจะมิสบายใจเอา"
"นางมิสบายใจก็ปล่อยไปสิพ่ะย่ะค่ะ อย่างไรเสียท่านมิเคยทำเื่ใดให้นางสบายใจสักครั้งก่อนหน้านี้ นางยังอยู่กับท่านมิไปไหนเลยมิใช่หรือ? ” หรงหลินพูดแซว
“ครานี้ต่างไป” หรงซิวอธิบาย “นางเปลี่ยนไปแล้ว จะทำเป็มิสนใจนางมิได้ นางจะมองออก”
“จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?” หรงหลินจงใจลากเสียงยาว ยิ้มเยือกเย็นแล้วตบไหล่เขา “พูดเช่นนี้ตัวท่านเองจะเชื่อหรือ? ท่านพร่ำพูดว่ามิคิดกระไรกับนาง จะคิดหรือไม่ หวั่นไหวหรือไม่ ใจท่านรู้ดีที่สุด ท่านพี่ ข้าขอแนะนำนะพ่ะย่ะค่ะ ท่านจงตัดสินใจเสียแต่เนิ่นๆ จะทำตามใจตนเองหรือจะยึดติดอยู่กับเื่นั้น ท่านจะต้องทำให้ชัดเจน มิเช่นนั้นคนที่จะาเ็เป็สตรีถึงสองคน"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้