“เ้าไม่รู้หรือ?”
“ก็ใช่ ตอนนี้เ้ามีเกียรติแล้ว ไม่ออกนอกประตูใหญ่ ไม่ล่วงเข้าประตูสอง[1] ต้องไม่ได้ยินข่าวลือไร้สาระเช่นนี้อยู่แล้ว”
“หวางกุ้ยเซียงสนิทกับเ้ามิใช่หรือ เหตุใดนางไม่มาเล่าให้เ้าฟังเล่า?”
“ปัดโธ่…หวางกุ้ยเซียงต้องหวังเกาะหลินหวั่นชิวเป็แน่ จะเล่าให้หงฮวาฟังได้อย่างไร”
“ปัดโธ่ ตกลงมีเื่กระไรกันแน่ พวกท่านอยากให้ข้าร้อนใจตายหรือ?” จ้าวหงฮวาร้อนใจ คว้าแขนท่านป้านางหนึ่งมาส่ายไปมา
ฟู่เหรินนางนั้นทำหน้าลำบากใจ “ตามหลักแล้วพวกข้าไม่ควรนินทาต่อหน้าเ้า เพราะอย่างไรเสียพวกเราก็พึ่งพาเ้าหาเงิน แต่เ้ากำลังจะแต่งเข้าตระกูลร่ำรวย ให้ปิดบังเ้าก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน คือว่า ด้านนอกมีข่าวลือว่าคนที่อยู่ในกระท่อมกับโจวเอ้อร์เหนิงวันนั้นคือเ้า”
“ผายลม!”
“เหลวไหลกระไร นางคิดจะฆ่าข้าชัดๆ!”
จ้าวหงฮวาลนลาน เพราะข่าวลือนี้เป็ความจริง ไม่ลนลานสิแปลก
“ก่อนหน้านี้ในหมู่บ้านไม่มีข่าวลือกระไร เหตุใดหลินหวั่นชิวเพิ่งกลับจากอำเภอแล้วจึงมีข่าวลือทันที? หงฮวา เ้าได้ล่วงเกินนางหรือไม่? พวกข้าทำงานให้เ้าแล้วจะยังได้ข้าแรงหรือไม่?”
จ้าวหงฮวากัดฟันตอบ “ได้สิ เหตุใดจะไม่ได้ ถึงเวลาแล้วข้าจะควักเงินส่วนตัวออกมาจ่ายให้พวกท่านเอง!”
“หงฮวาใจใหญ่ยิ่งนัก!”
“ไอ๊หยา นายน้อยตระกูลกู่ให้สินสอดตั้งหนึ่งร้อยตำลึงตอนมาสู่ขอ หลายคนในหมู่บ้านต่างอิจฉากันหมด”
“เ้าต้องจัดการเื่นี้นะหงฮวา หากข่าวลือนี้ไปถึงหูตระกูลกู่ เกรงว่าการแต่งงานของเ้าจะชวด”
“ข้าไปทำกระไรให้นางกัน เหตุใดนางต้องทำร้ายข้าเช่นนี้?” จ้าวหงฮวาร้องไห้อย่างปวดร้าว
“เ้าไม่เข้าใจอีกหรือ ก่อนหน้านี้คนที่เป็ข่าวลือคือนาง คิดหรือว่าเจียงเหล่าต้าจะเก็บนางไว้? หากนางอยากเอาตัวรอดก็ต้องหาคนมาแทนที่” ฟู่เหรินอีกคนพูด
เสี่ยวจางซื่อ พี่สะใภ้ของจ้าวหงฮวาได้ยินดังนั้นก็โมโห “ได้อย่างไรกัน หงฮวา ไป พวกเราไปคุยกับนางให้รู้เื่ มิเช่นนั้นเ้าได้เสียหายหนักแน่!”
ในสายตาเสี่ยวจางซื่อ ตระกูลกู่ให้สินสอดมากถึงหนึ่งร้อยตำลึง เช่นนั้นเมื่อสองครอบครัวเกี่ยวโยงกันแล้ว อีกทั้งนายน้อยเจ็ดตระกูลกู่จะแยกบ้านออกมาอยู่ การที่พวกนางจะได้ผลประโยชน์ด้วยน่าจะง่ายมาก
เทียบระหว่างสิ่งที่มองเห็นตรงหน้ากับสิ่งที่มองไม่เห็น นางต้องเลือกสิ่งที่มองเห็นอยู่แล้ว
“ข้าจะไปตามท่านแม่!” เสี่ยวจางซื่อพูดแล้วลุกออกไป ทว่านางเพิ่งเดินออกมาก็เห็นคนจากตระกูลกู่
หน้าบ้านจ้าวมีรถม้าจอดอยู่หนึ่งคัน ยายเฒ่าแต่งกายสุภาพสองคนเดินเข้ามา
เสี่ยวจางซื่อรีบเดินไปต้อนรับ “โอ้ บ้านน้องเขยเองหรอกหรือ เชิญท่านป้าทั้งสองเข้าด้านใน หงฮวา เ้ารีบออกมาเร็ว นายน้อยเจ็ดส่งคนมาหา”
จ้าวหงฮวาจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยแล้วเดินออกมา ฟู่เหรินหลายคนด้านในชะโงกหน้าออกมากระซิบกระซาบ
“ท่านป้ากัว ท่านป้าเสียง…เชิญด้านในเ้าค่ะ” ครั้งก่อนที่ตระกูลกู่มาสู่ขอก็มียายเฒ่าสองคนนี้มาด้วย จ้าวหงฮวารู้ว่าทั้งคู่เป็ยายเฒ่าของตระกูลกู่ เป็ที่ไว้วางใจของเ้านาย นางจึงค่อนข้างเคารพทั้งคู่
อย่างไรเสียนางก็ยังไม่แต่งเข้าตระกูลกู่ ต้องเก็บหางไว้ก่อน
จ้าวหงฮวายิ้ม ทว่ายายเฒ่าทั้งสองกลับมีสีหน้าเหยียดหยาม
“ไม่ล่ะ วันนี้พวกข้าเป็ตัวแทนนายน้อยเจ็ดมาถอนหมั้น พวกเ้ารีบเก็บของหมั้นคืนมาให้หมด ห้ามขาดสักชิ้น”
“ใช่ ตระกูลกู่ของพวกข้าไม่ใช่จะมีเื่ด้วยง่ายๆ อย่าหวังว่าจะอมแม้แต่ทองแดงสักเหรียญ!”
“นี่…เหตุใดเล่า ท่านป้าทั้งสอง เื่นี้จะพูดเล่นไม่ได้นะเ้าคะ” เสี่ยวจางซื่อลนลาน ถอนหมั้น ไม่ได้เด็ดขาด ให้คายเงินที่กลืนลงท้องไปแล้วออกมา นางเสียดาย!
ถึงนางจะไม่ได้แม้แต่ตำลึงเดียว แต่สักวันเงินบ้านจ้าวก็จะเป็ของลูกชายคนโต
จ้าวหงฮวาตาแดง นางพูดเสียงสั่น “ข้ากับนายน้อยเจ็ดยินยอมพร้อมใจกัน เขาเคยพูดว่าหากไม่ใช่ข้าจะไม่ยอมแต่งงาน ท่านป้าทั้งสองเข้าใจผิดหรือไม่เ้าคะ?”
ยายเฒ่าพูดเสียงเย้ยหยัน “พวกข้าเป็แค่บ่าวใช้ หากไม่มีคำสั่งจากเ้านายมีหรือจะกล้ามาถอนหมั้นเช่นนี้ แม่นางจ้าวช่างพูดจาไร้เหตุผลยิ่งนัก ท่านกับนายน้อยพวกข้าเคยพบกันแค่กี่ครั้ง เอากระไรมายินยอมพร้อมใจ? อีกอย่าง ต่อให้พวกท่านยินยอมพร้อมใจกันจริงก็เปล่าประโยชน์แล้ว ตระกูลกู่ไม่มีทางยอมให้สตรีมีราคีไม่บริสุทธิ์อย่างเ้าแต่งเข้าจวนเป็แน่ ต่อให้เป็อนุย่อมไม่ได้รับการยินยอมจากเหล่าเหยียและฮูหยินเช่นกัน”
จ้าวหงฮวาตัวส่ายโงนเงน ใบหน้าไร้สีเื
นี่…ข่าวลือไปถึงหูตระกูลกู่แล้ว!
หลินหวั่นชิว!
เ้ามันโหดร้าย!
เ้ามีหย่วนเกออยู่แล้ว เหตุใดต้องลากข้าลงน้ำอีก?
ทั้งที่วันนั้นข้ารับเคราะห์แทนเ้า!
จ้าวหงฮวาโกรธแค้นหลินหวั่นชิว ขณะที่นางด่าหลินหวั่นชิวในใจ นางลืมไปเสียสนิทว่าหากตัวเองไม่ใส่ยาลงในน้ำ ไม่คิดปองร้ายหลินหวั่นชิวก่อน ตัวเองจะโดนโจวเอ้อร์เหนิงย่ำยีหรือ?
ทั้งหมด…เกิดจากความคิดชั่วร้ายของตัวเอง นางเป็คนลงมือทำลายตัวเอง โทษผู้ใดไม่ได้
“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่เช่นนั้น ข้าไม่ได้ทำ พวกท่านอย่าไปเชื่อข่าวลือพวกนั้น มีคนปองร้ายข้า พวกท่านให้ข้าพบนายน้อยเจ็ดทีเถิด มีคนใส่ร้ายข้าจริงๆ ทุกคนในหมู่บ้านรู้กันหมดว่าคนที่มีความสัมพันธ์กับโจวเอ้อร์เหนิงวันนั้นคือหลินหวั่นชิว นางใส่ร้ายข้าเพราะกลัวโดนปลด หากไม่เชื่อ...หากพวกท่านไม่เชื่อก็ลองไปถามป้าๆ และพี่สะใภ้ในบ้านข้าดู”
จ้าวหงฮวาร้อนใจมาก หันไปขอความช่วยเหลือจากเหล่าฟู่เหรินในบ้าน
ฟู่เหรินในบ้านรีบหยุดงานในมือ มีฟู่เหรินสองสามคนก้าวออกมาช่วยพูดแทนจ้าวหงฮวา
“พวกท่านไม่ใช่คนในหมู่บ้านจึงยังไม่รู้ มีข่าวลือมาตั้งนานแล้วว่าคนที่ลักลอบได้เสียกับโจวเอ้อร์เหนิงคือหลินหวั่นชิว นี่หลินหวั่นชิวเพิ่งกลับจากอำเภอ ในหมู่บ้านก็มีข่าวลือออกมาทันทีว่าสตรีนางนั้นไม่ใช่นาง แต่เป็จ้าวหงฮวา ไอ๊หยา พวกข้ารู้จักหงฮวาดี นางเป็กุลสตรี ไม่เคยออกนอกประตูใหญ่ ไม่ล่วงเข้าประตูสอง ที่บ้านมีคนอยู่ตลอด จะทำเื่ไร้ยางอายเช่นนั้นได้เยี่ยงไร”
“ใช่ พวกท่านไม่รู้กระไร ตอนที่หลินหวั่นชิวยังไม่มีสามีก็มีข่าวลือแล้วว่านางยุ่งเกี่ยวกับโจวเอ้อร์เหนิงซึ่งเป็พี่เขยของตัวเอง ทั้งยังเกือบโดนจับถ่วงน้ำเพราะเื่นี้ พวกท่านเข้าใจหงฮวาผิดแล้ว เื่นี้เป็น้ำโคลนที่หลินหวั่นชิวสาดใส่ โจวเอ้อร์เหนิงสภาพเช่นนั้น…หงฮวาไม่ได้ตาบอด มีสามีรูปงามแต่ไม่เอา วิ่งไปคว้าบุรุษไร้ยางอาย…”
ฟู่เหรินสองสามคนช่วยกันพูดคนละคำ ยายเฒ่าสองคนจากตระกูลกู่เริ่มลังเล
ในตอนนี้เอง ม่านประตูรถม้าถูกเลิกขึ้นจากด้านใน บุรุษชุดผ้าแพรผู้หนึ่งเดินออกมา
บุรุษผู้นี้สง่างาม รอบตัวโอบล้อมด้วยบรรยากาศของผู้มีการศึกษา
“นายน้อยเจ็ด…” จ้าวหงฮวาน้ำตาไหลพรากทันทีที่เห็น นางวิ่งไปหา หยุดยืนอยู่ห่างจากเขาไม่ไกล พูดทั้งน้ำตาว่า “นายน้อยเจ็ด ข้าถูกใส่ร้าย ท่านต้องเชื่อข้านะเ้าคะ!”
นายน้อยเจ็ดตระกูลกู่มองจ้าวหงฮวาอย่างอ่อนโยน พูดด้วยความลำบากใจว่า “เื่นี้ร้ายแรงเกินไป รู้ถึงหูท่านพ่อท่านแม่ข้าแล้ว ข้าเชื่อเ้า แต่ว่า… เอาเช่นนี้ หากที่เ้าพูดมาเป็ความจริง เช่นนั้นเ้าให้หัวหน้าหมู่บ้านพวกเ้าเป็พยาน ข้าจะได้มีคำอธิบายให้คนที่บ้าน ทางที่ดีคือเรียกคู่กรณีมาคุยให้ชัดเจนต่อหน้าหัวหน้าหมู่บ้าน”
เชิงอรรถ
[1] ไม่ออกนอกประตูใหญ่ ไม่ล่วงเข้าประตูสอง(大门不出二门不迈的) ประตูชั้นในที่แบ่งแยกระหว่างบุรุษสตรี ในอดีตบุตรสาวตระกูลใหญ่ที่ยังไม่แต่งงานจะไม่ได้ออกจากบ้าน ไม่มีการติดต่อกับโลกภายนอก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้