ทักษะการดีดพิณของจวินอู๋เสียนับว่าสูงส่งมาก แม้ขุนนางชื่นชอบดนตรี ขับร้อง และเต้นรำ ทว่าเมื่อเสียงพิณกระทบหู ต่างแสดงความชื่นชมอกมาทันที
ดวงตาองค์หญิงใหญ่จับจ้องไปที่ใบหน้าของจวินอู๋เสียอย่างออกนอกหน้า โดยไม่มีความยับยั้งชั่งใจเลย
ขณะบรรเลงดนตรี มีสตรีสองคนในชุดเต้นรำ แขนเรียวยาวเปล่งประกายไปด้วยสีขาวอมชมพูลอยขึ้นมาจากเรือลำอื่น พวกนางสูงโปร่งสง่างาม แม้ว่าจะมีผ้าคลุมไว้ชั้นหนึ่ง ทว่ายังสะกดให้ผู้คนอดที่จินตนาการรูปลักษณ์ที่งดงามราวนาง์ไม่ได้
เต๋อเฟยมองดวงตาซ่งอี้เฉินที่หวั่นไหวกับสตรีสองคน รอยยิ้มบนใบหน้าบ่งบอกถึงความพึงพอใจ
แม้ไม่รู้ว่าเหตุใดไทเฮาจึงสั่งให้นางให้นำเซียวเป่าหลินและเห้อเป่าหลินปรากฏตัวในวันนี้ เมื่อเห็นท่าทางการแสดงออกของซ่งอี้เฉิน นางก็รู้ว่าการเตรียมการของนางเป็ที่พอพระทัยของซ่งอี้เฉิน
หากฮ่องเต้โปรดปรานหนึ่งในสองคนนั้นแล้ว ก็นับว่าเป็การยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
เมื่อทำตามรับสั่งของไทเฮาแล้ว ยังทำให้ซ่งอี้เฉินชื่นชอบ อีกทั้งยังเป็บุญคุณต่อผู้ที่ได้รับการโปรดปรานอีกด้วย หากเป็เช่นนี้ส่งผลห้นางเข้าใกล้ตำแหน่งใหญ่วังหลวงมากขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
ใช่ แม้เต๋อเฟยจะถือศีลสวดมนตร์ ทว่านางก็ยังละกิเลสไม่ได้ หลังจากได้ข่าวว่าได้รับอำนาจดูแลตำหนักหลังในวันนั้นแล้ว เต๋อเฟยยิ่งรู้สึกว่านี่เป็ผลจากการอุทิศตนต่อพระพุทธเ้า ั้แ่บัดนั้นนางจึงยิ่งสนใจศีลสวดมนตร์มากยิ่งขึ้น
ใครที่ไม่อยากเป็หงส์ที่บินน้ำหน้า? แม้สถานะปัจจุบันของนางเหนือกว่าสตรีทั่วไป ทว่าคนก็เป็เช่นนี้ หากได้สิ่งหนึ่งแล้ว ก็อยากได้สิ่งที่สอง เื่ที่ไทเฮาทำได้ เหตุใดนางถึงทำไม่ได้?
เรือทางด้านนั้น ผ้าม่านพลิ้วไหวประหนึ่งเมฆาคล้อย ซึ่งทำให้รู้สึกว่าสตรีสองคนนั้นไร้ตัวตน เสียงดนตรีก็ดังต่อเนื่องจนทำให้ทุกคนเคลิบเคลิ้ม
ฮวารั่วซีกลับไม่แปลกใจกับการเต้นรำนี้ สำหรับนางแล้วสิ่งจำพวกนี้มิใช่ตำแหน่งปัจจุบันนั้นที่นางต้องอิจฉาอีกต่อไป นางผ่าน่เวลานั้นไปแล้ว และนี่ไม่ใช่สิ่งที่นาง้า
ราชวงศ์ในอดีตที่ผ่านมา นอกจากจ้าวเฟยเยี่ยนแล้ว ก็ไม่มีสตรีนางใดที่สามารถปีนขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาด้วยการเต้นรำ ส่วนจ้าวเฟยเยี่ยนทำเช่นนั้นได้ เป็เพราะฮ่องเต้พระองค์นั้นไม่ใช่เป็คนดีเท่าใดนัก
ทว่าสำหรับฮวารั่วซีแล้ว อย่างไรก็ตามซ่งอี้เฉินไม่เป็คนโง่ขนาดนั้นแน่นอน
ตอนที่เขายังเด็ก ได้ยินความคิดของเขาที่เคยใช้ชีวิตเกียจคร้านและเมื่อได้เป็รัชทายาท จึงหวังว่าจะเป็ประโยชน์ให้พสกนิกร แม้ตอนนี้เขาจะหมกมุ่นอยู่กับอิสตรี ทว่าอย่างไรก็มีไทเฮาสนับสนุน เขาจึงไม่ได้ทำเื่อันใดที่โดดเด่นมากนัก
อย่างไรก็ตาม เื่เหล่านี้สำหรับฮวารั่วซีเป็การทะเยอทะยานเื่แล้วเื่เล่า นางสูญเสียความโปรดปรานจากซ่งอี้เฉินและไร้ความหวังจากไทเฮา ตอนนี้ไทเฮาให้ทุกอย่างกับเต๋อเฟยแล้ว
รอยยิ้มบนใบหน้าของเต๋อเฟยเป็ประกายแพรวพราวอย่างมาก เดิมทีทุกอย่างควรเป็ของนาง นางดูแลตำหนักหลังและมีอำนาจตัดสินความเป็ความตาย ทว่าสุดท้ายกลับสูญเสียมันทั้งหมดเพราะเหยียนอู๋อวี้!
ทว่านางกลับไม่ยอมให้เป็เช่นนั้น นาง้านำทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนมา สุดท้ายจึงฝากความหวังไว้กับซางจือิ ทว่าไม่รู้เหตุใดถึงตอนนี้ซางจือิยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เขาลืมไปแล้วหรือ?
เมื่อคิดถึงเื่นี้ ฮวารั่วซีอดหันหน้าไปมองซางจือิไม่ได้ ทว่ากลับเห็นว่าดวงตาของซางจือิจ้องมองไปที่สตรีสองคนบนเรือและเหมือนกำลังครุ่นคิดอันใดบางอย่าง
เซียวเป่าหลินหมุนตัวพลิ้งไหวบนเรือ ทำให้เรือขยับ ด้วยการเคลื่อนไหวของเรือเหมือนนางทะยานขึ้นไป ดวงตาของนางเผยให้เห็นความเหนียมอายและความผูกพันที่ไม่สิ้นสุด จากนั้นโน้มตัวลงไปที่ซ่งอี้เฉินอย่างเลี่ยงไม่ได้ตั้งใจ
ซ่งอี้เฉินสบตานางเหมือนกับดวงตานั้นมีเพียงร่างนางเป็สิ่งเดียวที่เหลืออยู่
เขารู้ว่ามีสายตาจับจ้องมาที่เขามากมาย ทั้งคนของเขา คนขององค์หญิงใหญ่ และคนของไทเฮา
นอกจากนี้เขายังรู้ด้วยว่าไทเฮาทรงสั่งให้เซียวเป่าหลินและเห้อเสี่ยวซือมาเต้นรำเป็การส่วนตัว หากเลือกเห้อเสี่ยวซือก็ยังพอมีต้นสายปลายเหตุ ทว่าเลือกเซียวเป่าหลินนั้นทำให้เขาสับสนเล็กน้อย
ตระกูลเซียวมีความสัมพันธ์กับไทเฮาค่อนข้างใกล้ชิด เนื่องจากเื่ของอดีตฮ่องเต้กับเซียวกุ้ยเฟยนั้น พวกเขามีความสัมพันธ์อยู่ในสภาพแยกจากกันและกลับมาพบกันใหม่ เพราะผลประโยชน์ร่วมกัน จึงแบ่งออกเป็สองฝ่ายและแข่งขันกัน เพียงแค่ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้อำนาจของไทเฮาเพิ่มมากขึ้น ทว่าอำนาจของตระกูลเซียวกลับลดลง แม้บางคนจะยืนยันว่าตระกูลเซียวมีอำนาจอ่อนแอลงใน่นี้ ทว่าพวกเขายังคงดำรงตำแหน่งในราชสำนัก
ไทเฮาเลือกเซียวเป่าหลินนั่นก็หมายความว่าพวกเขามีความสัมพันธ์และร่วมมือกันอยู่ไม่ใช่หรือ?
ซ่งอี้เฉินรู้สึกสงสัยอย่างมาก
วันนี้ไทเฮายินดีคืนอำนาจให้ ทำให้ซ่งอี้เฉินประหลาดใจจริงๆ เขารู้ดีว่ามารดาของเขาหลงรักในอำนาจ ทว่าโดนคำพูดเพียงไม่กี่คำ นางคืนอำนาจทั้งหมดของนางได้อย่างไรกัน?
เกรงว่ายังมีเป้าหมายอื่นซ่อนเร้นอยู่
ซ่งอี้เฉินไม่ทราบจุดประสงค์ของเื่นี้ ทว่าไม่เคยให้ความสำคัญกับจุดประสงค์ของนางที่คืนอำนาจการบริหารให้ หลังจากแสดงความคิดที่แตกต่างไปต่อหน้าเหล่าขุนนางทุกคน ในที่สุดไทเฮาก็คิดหาวิธีที่ทำให้ฮ่องเต้ต้องขอร้องให้นางช่วยปกครองต่อ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซ่งอี้เฉินพบกับกลอุบายแบบนี้
ซ่งอี้เฉินมองสายตาของเห้อเสี่ยวซืออีกครั้ง เนื่องจากไทเฮา้าให้เขาเลือกหนึ่งคนระหว่างทั้งสองนางนี้ เขาไม่เลือกเห้อเสี่ยวซืออยู่แล้ว เหยียนเฉิงเซี่ยงและไทเฮามีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกัน ส่วนตระกูลเซียวนั้นแตกต่างออกไป ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีความร่วมมือระหว่างพวกเขาหรือไม่ หากเลือกเซียวหรูเสวี่ยเขาสามารถยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ซึ่งไม่เพียงทำให้ไทเฮาพอใจ ทว่ายังมีโอกาสแข่งขันเซียวจ่างเฟิงอีกด้วย ผลลัพธ์ออกมาจะเป็อย่างไร ตอนนี้ยังมิรู้ได้
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด ดนตรีก็หยุดลง สตรีทั้งสองคำนับซ่งอี้เฉินแล้วก้าวถอยหลัง ใบหน้าของซ่งอี้เฉินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จากนั้นไม่นานทั้งสองก็ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและลงเรือมาเพื่อร้องเพลงถวายพระพร
ซ่งอี้เฉินกล่าวชื่นชมพวกนางอย่างออกหน้าออกตา
เหยียนอู๋อวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขาส่งสายตามองเซียวเป่าหลิน
นางกับตระกูลเซียวยังเป็พันธมิตรอย่างลับๆ แม้ว่านางจะไม่ค่อยติดต่อกับตระกูลเซียวเท่าใดนัก ทว่าก็มีการพูดคุยกับเซียวหรูเสวี่ยสองสามครั้ง
ตอนนี้เซียวหรูเสวี่ยกำลังเต้นรำกับเห้อเสี่ยวซือตามคำสั่งของไทเฮา เหยียนอู๋อวี้กับซ่งอี้เฉินกำลังสงสัยว่าเหตุใด ตระกูลเซียวและไทเฮาถึงเป็พันธมิตรกันได้? หรือว่าเป็เพราะ...... องค์หญิงใหญ่?
นางชำเลืองมองเซียวจ่างไห่ซึ่งเป็ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันของตระกูลเซียวและเซียวจ่างเฟิงที่โดดเด่นที่สุดในตระกูลอย่างไม่รู้ตัว พวกเขามาจากตระกูลเดียวกันทว่านั่งห่างกันมาก ได้ยินว่ามีความบาดหมางกันในตระกูลเซียว และตอนนี้ดูเหมือนว่าจะ.....จะมีร่องรอยความบาดหมางเล็กน้อย
หากเกิดการขัดแย้งกันในตระกูลโดยผู้อื่นก็สังเกตเห็นได้จริง อาจเป็เื่ยากที่พวกเขาที่จะประสบความสำเร็จและเจริญรุ่งเรืองได้
เหยียนอู๋อวี้เป็พันธมิตรกับผู้นำตระกูลเซียว ทว่าเซียวหรูเสวี่ยเป็บุตรสาวของเซียวจ่างเฟิง ขณะที่เซียวจ่างไห่ไม่ลงรอยกับเซียวจ่างเฟิง ทว่าเขาสนับสนุนบุตรสาวของเขา ไม่ว่าจะแสดงพฤติกรรมภายนอกว่าอยู่รวมกันอย่างกลมเกลียวกันก็ตาม หากเซียวหรูเสวี่ยได้รับการโปรดปราน เซียวจ่างเฟิงจะต้องกดดันเซียวจ่างไห่อย่างแน่นอน ทว่าเซียวจ่างไห่ยังคงทำเช่นนี้ ซึ่งยากจะคาดเดาจิตใจได้จริงๆ
เหยียนอู๋อวี้นึกถึงวันฉลองคล้ายวันประสูติของไทเฮา ซึ่งฮูหยินเซียวบอกเซียวหรูเสวี่ยให้พยายามก่อกวนสร้างสถานการณ์องค์หญิงใหญ่ หรือว่าตระกูลของเขาจะมีความสัมพันธ์กับองค์หญิงใหญ่ด้วย?
ตระกูลเซียวมีจุดประสงค์ใดกันแน่?
เหยียนอู๋อวี้ระงับความสับสนในใจและตัดสินใจสั่งให้โจวหลู่ชิงไปสืบข้อมูลของตระกูลเซียว
อักด้าน หลังซ่งอี้เฉินกล่าวชมเชยเซียวเป่าหลินเสร็จแล้ว สายตาของเขายังคงจับจ้องที่เซียวเป่าหลิน ฮวารั่วซี คาดว่าซ่งอี้เฉินต้องค้างคืนที่ตำหนักของเซียวเป่าหลินแน่นอน นางอดรู้สึกยินดีกับความโชคร้ายนี้ไม่ได้
วันนั้นเซียวเป่าหลินได้เลื่อนตำแหน่ง ทว่าซ่งอี้เฉินไปหาเหยียนอู๋อวี้ ตอนนี้เหยียนอู๋อวี้ได้เลื่อนตำแหน่งเป็ เจี๋ยอวี๋แล้ว ทว่าเขากลับไปอยู่กับเซียวเป่าหลิน ชีวิตของเ้าใช่จะราบรื่นเสมอไป?