หลังนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ วันรุ่งขึ้น เธอและลู่เป๋าเหยียนก็เตรียมออกเดินทางไปสำนักงานเขตตามที่ตั้งใจไว้ แต่วินาทีที่เห็นยานพาหนะที่จอดอยู่หน้าโรงแรมของลู่เป๋าเหยียน เธอก็ถึงกับช็อก แอสตันมาร์ติน ONE 77! คันหนึ่งราคาเฉียดห้าสิบล้าน ทั่วโลกมีแค่เจ็ดสิบเจ็ดคัน แถมที่วางขายในประเทศมีเพียงห้าคันเท่านั้น ลู่เป๋าเหยียนมีรถแบบนี้ใน พระเ้า!
เธอนั่งอึ้งไปตลอดทางจนถึงจุดหมาย และขณะที่พวกเธอสองคนกำลังจะเข้าไปทำเื่ ก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อเธอ
“เจี่ยนอัน” เป็เสียงผู้ชาย
ลู่เป๋าเหยียนหันกลับไปมอง ก็เห็นชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับูเี่อัน หน้าตาดูดี ท่าทางสบายๆ ยืนอยู่ข้างรถ BMW 760 กำลังมองมาทางูเี่อัน
“เจียงเส้าข่าย?” ูเี่อันยิ้มพร้อมวิ่งไปหาเขาด้วยความแปลกใจ “คุณชายใหญ่สกุลเจียง ทำไมมาหาฉันได้ล่ะ”
เจียงเส้าข่ายยืนกอดอกพิงรถ มองมาทางูเี่อันอย่างอารมณ์ดี “นี่เธอจะแต่งงานทั้งๆ อย่างนี้จริงเหรอเนี่ย เขาคือคนที่เธอชอบ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าูเี่อันถึงกับชะงัก เจี่ยงเส้าข่ายจะรู้มากเกินไปแล้ว
“เธอมีคนที่ชอบอยู่แล้วแท้ๆ แต่กลับไปแต่งงานกับผู้ชายอีกคน แล้วจะไปมีความสุขได้ยังไงเจี่ยนอัน เธอไม่ควรแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ ตอนนี้ยังไม่สาย ไปกับฉัน ฉันจะปกป้องเธอเอง”
ูเี่อันกำมือแน่น หรือจะบอกเขาไปเลยว่าเธอชอบใครให้รู้แล้วรู้รอด? คิดไปคิดมา สุดท้ายเธอก็ล้มเลิกความตั้งใจ และถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“แหะๆ ไม่เป็ไรๆ มะรืนนี้ฉันก็กลับไปทำงานแล้ว เดี๋ยวไว้เจอกันนะ”
เจียงเส้าข่ายกับูเี่อันรู้จักกันมาเป็เจ็ดปี เขารู้ว่าหากเธอพูดแบบนี้คงไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน แถมตอนนี้ตัวเขาเองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่ารู้สึกอย่างไร จึงได้แต่พยักหน้าแล้วขึ้นรถขับออกไป
เมื่อูเี่อันเดินกลับมาที่เดิม ก็พบว่าลู่เป๋าเหยียนไม่ได้อยู่หน้าประตูสำนักงานเขตแล้ว
“เอ๋ หายไปไหนของเขา”
เธอเดินเข้าไปในสำนักงานเขตด้วยความสงสัย ก็เห็นลู่เป๋าเหยียนอยู่ตรงหน้าช่องทำธุรกรรม จึงเดินไปนั่งลงข้างๆ เขา “ฉันนึกว่านายหนีไปซะแล้ว”
ลู่เป๋าเหยียนเซ็นชื่อลงบนเอกสาร ยิ้มเย็น
“น่าจะเป็เธอมากกว่ามั้งที่จะหนี แถมยังมีคนมารับถึงที่”
ูเี่อันเป็คนไม่ค่อยคิดอะไรมาก จึงไม่ได้เอะใจว่าลู่เป๋าเหยียนได้ยินสิ่งที่เธอพูดกับเจียงเส้าข่ายไปเมื่อกี้ เธอหยิบเอกสารมาเซ็นชื่อ
“ฉันหนีไม่ได้”
ถ้าไม่แต่งงานกับลู่เป๋าเหยียนแล้วละก็ เธอจะกลายเป็ภาระของซูอี้เฉิงพี่ชายเธอ ซึ่งเธอไม่มีวันยอมเด็ดขาด แถมยัง...
เมื่อเซ็นชื่อและถ่ายรูปเรียบร้อยแล้ว เธอกับเขาก็ได้สมุดเล่มสีแดงมาอยู่ในมือ ทั้งสองคนไม่มีใครสนใจมองทะเบียนสมรสสักนิด ลู่เป๋าเหยียนเก็บใส่ในกระเป๋าเสื้อนอก ูเี่อันเก็บใส่เข้ากระเป๋าทันทีอย่างกับนัดกัน
ลู่เป๋าเหยียนมองเวลา “เธอพักที่ไหน ฉันไปส่งเธอ จะได้เก็บข้าวของ”
“อพาร์ทเมนท์ฉางเต๋อ”
อพาร์ทเมนท์ของเธอมีขนาดหนึ่งห้องนอน ข้าวของถูกจัดวางอย่างเป็ระเบียบดูเรียบง่าย
เธอรินน้ำให้ลู่เป๋าเหยียนตามมารยาท “นายนั่งพักก่อนแล้วกัน ฉันขอเวลาเก็บของสักชั่วโมง”
“เราคงเป็สามีภรรยากันแค่ไม่นาน” จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมา “เธอไม่จำเป็ต้องเก็บของที่นี่ย้ายออกไปทั้งหมด”
สองปีให้หลัง ไม่ว่าเธอจะยอมหรือไม่ เขาจะต้องจบความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอให้ได้ ไม่อย่างนั้น จากการที่เธอเป็ “คุณนายลู่” จะคุ้มครองให้เธอปลอดภัย จะกลับกลายเป็อันตรายแทน
“อ๋อ” ซุเจี่ยนอันยิ้มถาม “ที่จะหย่ากับฉัน เพราะนายจะแต่งงานกับหานรั่วซีใช่หรือเปล่า”
การหย่าของเธอกับลู่เป๋าเหยียนมันเป็ของแน่อยู่แล้ว ถ้าจะให้เทียบกันเธอสนใจข่าวซุบซิบของเขากับหานรั่วซีมากกว่า
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตา พร้อมแผ่รังสีความเยือกเย็นออกมา
ูเี่อันตัวสั่น “นายจะทำหน้าแบบนั้นทำไม ใครๆ ก็รู้เื่ของนายกับหานรั่วซีกันทั้งนั้นแหละ ก็แค่ไม่พูดออกมา”
“รู้แต่ไม่พูด?” ลู่เป๋าเหยียนขยับเข้ามาใกล้เธออย่างน่าหวั่นใจ “แล้วเธอรู้อะไรบ้างล่ะ หือ?”
“ฉัน...” ใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่อยู่ห่างแค่คืบ ทำให้เธอเผลอกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว “ฉันรู้แค่พวกนายคบกันอยู่แค่นั้นแหละ แต่ฉันไม่เอาไปแฉให้พวกสื่อฟังหรอกนายวางใจได้! นายช่วยอย่าเข้ามาใกล้ฉันขนาดนี้ได้ไหม ฮือ...”
“โป๊ก” ลู่เป๋าเหยียนดีดหน้าผากเธออย่างหมดความอดทน
“โอ๊ย” ูเี่อันมองเขาอย่างมึนๆ
“ไปเก็บของซะ” ลู่เป๋าเหยียนออกคำสั่งอย่างเยือกเย็น
เธอคลึงหน้าผาก ดันลืมเอาคืนเขาไปซะได้ ว่าแล้วจึงได้แต่ “อืม” ตอบรับ รีบเก็บข้าวของตามเขาออกไป
บ้านของลู่เป๋าเหยียนอยู่ในหมู่บ้านสุดหรูของเมือง A ที่มีชื่อว่า “Dingya Mountain Villa” ตัวหมู่บ้านอยู่ติดูเาและแม่น้ำ ท้องฟ้าสีคราม อากาศบริสุทธิ์ เมื่อเทียบกับตัวเมืองแล้วที่นี่คือ์แท้ๆ
รถแอสตันมาร์ตินค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตามถนนส่วนตัวของลู่เป๋าเหยียน ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยต้น Platanus orientalis1 ่นี้เป็ฤดูที่กำลังเขียวชอุ่มดูสวยงาม
ไม่นาน รถก็ได้มาจอดหน้าประตูบ้านเดี่ยวหลังหนึ่ง ลู่เป๋าเหยียนดึงกุญแจรถออก “ลงรถ”
เธอเปิดประตูลงจากรถ กวาดตามองไปรอบๆ ท้ายที่สุดสายตาก็มาหยุดอยู่ที่บ้านเดี่ยวสามชั้นหลังที่อยู่ตรงหน้า ต่อจากนี้อีกสักระยะ เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่สินะ
จากนั้น คุณลุงผู้สวมเสื้อสูทสามชิ้น อายุราวห้าสิบ ก็ได้เดินออกมาจากตัวบ้าน พร้อมกับเมดอีกหนึ่งคน
เมดได้นำกระเป๋าสัมภาระของเธอเข้าไปในบ้าน ส่วนคุณลุงคนนั้นก็ได้เดินมาหาเธอ
“ยินดีต้อนรับครับคุณผู้หญิง ผมคือพ่อบ้านของที่นี่ คุณผู้หญิงจะเรียกผมว่า ลุงสวีก็ได้ครับ”
“คุณผู้หญิง” สามคำนี้ฟังแล้วสยองนิดๆ ูเี่อันยิ้มแห้ง “คุณลุงสวี เรียกหนูว่าเจี่ยนอันเฉยๆ เถอะค่ะ”
“ได้ที่ไหนกันครับ คุณผู้หญิงกับคุณชายจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ก็นับว่าคุณคือคุณผู้หญิงของสกุลลู่อย่างถูกต้องที่สุด”
ลุงสวีเห็นลู่เป๋าเหยียนเดินเข้าบ้านไปแล้ว กะพริบตามองมาทางเธอ
“คุณนายกำชับให้ผมดูแลคุณผู้หญิงอย่างดี หาก้าอะไรขอให้บอกผมได้เลยครับ เพราะยังไงสิ่งที่คุณชายมีมากที่สุดก็คือเงิน และถ้าหากคุณชายรังแกคุณผู้หญิงละก็ รีบบอกผมทันทีเลยนะครับ ผมจะรีบ...โทรหาคุณนายทันทีครับ!”
เธอเหลือบตามองไปที่ลู่เป๋าเหยียน เบ้ปาก
“หนูไม่ยอมให้เขามารังแกได้ง่ายๆ หรอกค่ะลุง”
เธอไม่ใช่คนหัวอ่อนขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกคนอื่นเรียกว่า “ปีศาจน้อย” หรอก
ลุงสวีอึ้งไปชั่วครู่แล้วแย้มยิ้ม ท่าทางต่อจากนี้ไปบ้านหลังนี้คงจะไม่เงียบเหงาอย่างที่แล้วมา
“คุณผู้หญิง เดี๋ยวผมพาไปที่ห้องพักนะครับ”
ลู่เป๋าเหยียนสั่งไว้ว่าใหู้เี่อันพักห้องเดี่ยว ลุงสวีจึงจัดเตรียมให้เธอพักที่ห้องนอนโทนสีขาวดูอบอุ่นสะอาดตา ห่างจากห้องพักเ้าของบ้านไม่มากนัก เธอชอบห้องนี้มาก ว่าแล้วจึงเริ่มเปิดกระเป๋าจัดสัมภาระพลางคิด
‘เป็คุณนายลู่ไปสักสองปี กำลังดีไม่สั้นไม่ยาว อย่างน้อย...ชีวิตนี้เธอจะได้ไม่เสียใจภายหลัง’
***********************
1 ต้นไม้ตระกูล Plane Tree