ดวงตาสีมรกตที่อยู่ระหว่างปอยผมสีดำกำลังจ้องมองไปยังพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ตรงหน้า ปราสาทสีขาวสะอาดตาตัดการพื้นหญ้าสีเขียวขจี ประตูรั้วเหล็กหนาถูกเปิดออกอย่างช้า ๆ ก่อนที่รถม้าจะหยุดนิ่ง นาเซียก้าวลงจากรถม้าพร้อมเอามือปิดปากตัวเอง คงเป็ผลกระทบจากการตั้งครรภ์ทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีคลื่นลูกใหญ่ที่ม้วนไปมาในท้องของเธอจนดันมาเกือบติดลำคอ
“ท่านหญิงไม่เป็ไรนะคะ”
“ไม่เป็ค่ะ” นาเซียยกมือกุมศีรษะที่กำลังมึนงงเล็กน้อย ไม่แปลกที่อีวอนจะบอกให้เธอมอบหมายให้ลอร์ดเควินเดินทางมาเองเพราะนอกจากจะต้องหวั่นกลัวว่าสัตว์ปีศาจจะยังคงหลงเหลือ และหลุดเข้ามาในอุโมงค์เคลื่อนย้ายนี้ และไหนจะโคลงเคลงเพราะแรงขับเคลื่อน นาเซียพยายามกล้ำกลืนก้อนขมๆ ลงคอก่อนจะยกใบหน้าเชิดราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น สาวใช้ในพระราชวังต่างจ้องมองเธออย่างสนใจ แม้พวกนางจะไม่เอ่ยถามแต่เธอก็พอเดาได้ว่าพวกนางอยากรู้เื่อะไร ทันทีที่เดินเข้ามายังโถงกลาง นาเซียมองได้พบกับสตรีหนึ่งที่เธอคุ้นเคยดีบารอนเนสเบนเนทซ่า รูน่ากำลังเดินตรงมาที่เธอราวอย่างกับรู้ล่วงหน้า
“ถวายพระพรพระชายารัชทายาทเพคะ” เบนเนสซ่า รูน่าโค้งศีรษะให้แก่เธอพร้อมแววตาที่สงสัยอย่างปิดไม่มิด นางคงเห็นเธอั้แ่ทางเข้าประตูเพราะดูจากที่เดินมาถึงตรงนี้ได้ นางก็คงใช้เวลาไม่น้อย
“ฉัน้าเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิค่ะ ตอนนี้กาบริเอลกำลังได้รับความลำบากฉันจำเป็ต้องทูลกล่าวเื่นี้ด้วยตนเอง”
“พระชายาหายไป แต่กลับมาบอกเพื่อทูลเื่เกี่ยวกับอาณาเขต กาบริเอลอย่างนั้นหรือคะ” เบนเนสซ่า รูน่ายกมือจับแว่นตาและหรี่ตามองเธอ นาเซียฝืนยิ้มแห้ง ๆ และทำเป็ไม่สนใจท่าทางของนาง
“เป็ความจริงที่ฉันหนีไปหลังพิธีการอภิเษกนั่น แต่ฉันมีเหตุผลที่จะต้องทูลต่อองค์จักรพรรดิเท่านั้น” นาเซียเลี่ยงเดินออกมา เธอไม่้าเสียเวลากับเื่ไร้สาระ แม้บารอนเนสเบนเนสซ่าจะดูไม่พอใจนักที่เธอเฉยเมยต่อท่าทีของนาง
นาเซีย้าที่จะเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิโดยเร็ว เธอมองบานประตูสีขาวงาช้างที่สลักลวดลายสีทองอย่างหรูหร่าก่อนจะเคาะให้สัญญาณเล็กน้อย มหาเสนามองเธอเล็กน้อยก่อนจะผายมือเชื้อเชิญให้เข้าด้านใน นาเซียหันมองอีวอนเพื่อให้สัญญาแก่นาง ซึ่งอีวอนก็ทราบดีนางหยุดยืนรอเพียงด้านนอกประตูห้องทรงานส่วนพระองค์ จักรพรรดิพุชคาเรนคงแปลกใจแต่เขาก็แสดงท่าทีออกมาได้อย่างนิ่งสงบแม้แววตาสีน้ำทะเลจะดูเต็มไปด้วยความสงสัย
“พระชายา...มาถึงนี่คงมีเื่ด่วนซินะ” จักรพรรดิพุชคาเรนวางปากกาขนนกสีทองลงพร้อมลุกออกจากเก้าอี้ที่ดูเหมือนจะติดอยู่ตรงนั้นมาเป็เวลานานพอสมควร มหาเสนาโค้งคำนับเธอเล็กน้อยก่อนจะถอยเดินออกจากห้องทำงาน เหลือเพียงเธอและจักรพรรดิพุชคาเรน
“ถวายพระพรแด่แสงอรุณแห่งแคลบอร์นเพคะ”
“มีนี่ซิ” จักรพรรดิพุชคาเรนกล่าวเชิญ พร้อมเดินนำเธอไปยังอีกฝากฝั่งของห้องทรงงาน ทางเดินบันไดเล็ก ๆ ที่พาเธอเดินลงมายังชั้นลงที่อยู่ติดกันในห้อง มันถูกแบ่งไว้เป็ห้องหนังสือที่เต็มไปด้วยชั้นวางของและหนังสือแปลก ๆ นาเซียกวาดสายตามองเพียงครู่เพราะถูกเชิญให้นั่งเสียก่อน
“เ้ามีเื่ใดจะกล่าวต่อข้างั้นรึ” จักรพรรดิพุชคาเรนไม่ปล่อยให้เธอรอนาน พระองค์ทรงตรัสถามอย่างเถตรง นาเซียก้มหน้าสูดหายใจลึกก่อนเงยหน้าสบตาองค์จักรพรรดิ
“ตอนนี้อาณาเขตกาบริเอลกำลังเกิดากับเหล่าสัตว์ปีศาจ ชาวเมืองได้รับผลกระทบทำให้อดยาก หม่อมฉัน้าให้พระองค์ช่วยส่งจดหมายไปยังอาณาเขตแรนิเยร์เพื่อส่งเสบียงมาให้แก่กาบริเอล แน่นอนว่าเงินสนับสนุนนั้นหม่อมฉันจะให้ท่านพ่อช่วยจัดการเื่นี้ให้” นาเซียรีบเอ่ย เธอไม่้าให้ทางพระราชวังต้องมาแบกรับในส่วนนี้ เพราะทางพระราชวังก็ได้ส่งอัศวินฝีมือดีไปช่วยเสียเกือบหมด แน่นอนว่าถ้าเป็ตระกูลดาร์เรลของเธอแล้วละก็เงินเพียงเท่านี้ไม่ทำให้บิดาเธอรู้สึกอย่างแน่นอน
“ถ้าเป็อย่างนั้นทำไมเ้าไม่ให้บิดาเ้าติดต่อไปเองเสียเลยล่ะ”
“หากทำเช่นนั้น...แรนิเยร์คงไม่ตอบตกลง พระองค์ก็คงจะทราบว่า ดยุกกาบริเอลทำอะไรไว้กับไวเคาน์แรนิเยร์กัน” นาเซียเอ่ยติงถึงเื่ที่ มิกาเอลตัดศีรษะของไวเคาน์แรนิเยร์ตามคำสั่งขององค์จักรพรรดิซึ่ง องค์จักรพรรดิย่อมรู้ดี แรนิเยร์แม้จะมีเื่บาดหมางกันแต่ก็เป็อาณาเขตที่ติดต่อกับกาบริเอลที่ใกล้ที่สุด อีกทั้งยังเป็อาณาเขตที่มีสภาพอากาศที่หลากหลายกว่ากาบริเอล ทำให้พืชผลมีหลากชนิด แน่นอนว่ารวมถึงข้าวสาลีด้วยเช่นกัน เพราะตอนนี้ที่กาบริเอลมีคนเจ็บเยอะอาหารที่ควรจะได้รับควรเป็ข้าวสาลีเสียมากกว่า
“ได้ เช่นนั้นแล้วข้าจะส่งจดหมายไปให้แก่ไวเคาต์แรนิเยร์ละกัน” องค์จักรพรรดิกล่าวตอบรับในการเขียนจดหมายให้แก่ไวเคาร์คนใหม่ ซึ่งก็คือพี่ชายของเลดี้ซาร่า แฟนสาวของอานิชโตซึ่งตอนนี้นางก็ได้ตัดสัมพันธ์กับพี่ชายของเขาไปแล้ว นาเซียนั่งคิดภายในใจอย่างกังวลก่อนจะตัดสินใจเอ่ยขึ้น
“หม่อมฉันมีอีกเื่ที่อยากจะทูลของแก่ฝ่าา”
“เ้ามีเื่อะไร”
“หม่อมฉันอยากขอให้ฝ่าาช่วยยกเลิกการอภิเษกของหม่อมฉันกับองค์รัชทายาทด้วยเพคะ”
“มันจะมากไปแล้วพระชายา เ้าเป็ผู้ใดถึงกล้าเอ่ยขอเื่นี้”
“หม่อมฉันทราบดีเพคะว่าไม่ถูกต้อง แต่ฝ่าาทรงมีหินเวทช่วยลืมไม่ใช่หรือเพคะ” นาเซียเอ่ยถึงหินเวทชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้ที่ได้รับแสงของมันลืมเื่ก่อนหน้านั้นไปได้ ซึ่งหินชนิดนี้มีเพียงแค่องค์จักรพรรดิเท่านั้นที่มีอยู่ เพราะเธออ่านมันจนจบแล้วยังไงละ ถึงได้รู้ว่าจักรพรรดิพุชคาเรนใช้ทำให้องค์ราชินีลืมเื่ของนาเซียที่ฆ่าตัวตายไปแล้วในตอนจบ
“เ้ารู้ได้ยังไงกัน” ดวงตาที่มีริ้วรอยสั่นไหวเล็กน้อย องค์จักรพรรดิพยายามที่จะผละออกจากการสนทนานั้นแต่นาเซียก็ยังคงลุกเดินตามเขาไป
“เื่นั้นไม่สำคัญว่าหม่อมฉันรู้ได้ยังไง แต่หม่อมฉัน้าที่จะทำสัญญากับพระองค์ หากฝ่าาสามารถทำเื่ที่หม่อมฉันขอได้ หม่อมฉันก็จะเขียนสัญญาแห่งเวทมนตร์นี้เพื่อสัญญาจะภักดีต่อพระองค์ และจะสนับสนุนทุกสิ่งตามที่พระองค์้า” นาเซียยกหนังสือสัญญาแห่งเวทมนต์ออกมากลางให้องค์จักรพรรดิดู มันคือสิ่งเดียวที่จะพอจะเป็ข้อต่อรองแก่เขาได้
“หึ...หนังสือสัญญาแห่งเวทมนต์งั้นรึ” เสียงหัวเราะในลำคอ ทำให้เธอแปลกใจไม่น้อย นอกจะองค์จักรพรรดิดูจะไม่แปลกใจแล้ว เขายังทำท่าราวกับว่าเป็เื่ไร้สาระ
“พระองค์ไม่้าอย่างงั้นหรือเพคะ”
“ข้อเสนอก็ดีอยู่หรอกนะ แต่เ้าช้าไปแล้วล่ะ”
“ช้าไป?”
“ใช่...เพราะหนังสือนี่ข้าทำสัญญากับมิกาเอลไปแล้ว ทั้งยังก่อนที่จะส่งหน่วยอัศวินไปช่วยปราบสัตว์ปีศาจนั่นเสียอีก”
“พระองค์กำลังจะกล่าวว่าดยุกกาบริเอลมาทำสัญญาตกลงเพื่อของหน่วยอัศวินหลวงอย่างนั้นหรือเพคะ”
“เปล่า...ขอเื่เดียวกับที่เ้า้านั่นแหล่ะ” นาเซียเอียงศีรษะอย่างไม่เข้าใจในคำตอบนั่น เช่นนั้นก็แสดงว่าที่มิกาเอลออกมาในคืนนั้นก็เพื่อมาขอให้องค์จักรพรรดิยกเลิกการอภิเษกของเธอและลาฟาซอย่างงั้นเหรอ
“แล้วสิ่งแลกเปลี่ยนละเพคะ”
“ยุติการกลับมาในตำแหน่งองค์รัชทายาท และจะอาศัยอยู่เพียงกาบริเอลเท่านั้น” นาเซียคลี่ยิ้มออกมา แม้กาบริเอลจะไม่ใช่อาณาเขตที่ยิ่งใหญ่นักแต่มันก็เป็สถานที่ที่ดีสำหรับเธอ นาเซียลุกถวายพระพรองค์จักรพรรดิก่อนที่จะรีบออกมาจากห้องทรงงานพระองค์
“เป็ยังไงบ้างคะท่านหญิง” อีวอนเขย่าแขนนาเซียอย่างอยากรู้เต็มทน นางยืนรอนาเซียนานนับชั่วโมง ทันทีที่เห็นใบหน้าอารมณ์ดีของเธอ อีวอนก็อยากรู้ทันที
“เลดี้คะ...เรารีบกลับกาบริเอลกันเถิดค่ะ ฉันอยากรีบกลับไปรอรับมิกาเอล” นาเซียไม่ได้ตอบคำถามของอีวอน แต่ดูจากที่เธอเร่งอีวอนก็เข้าใจได้ดีว่าเื่ที่นาเซีย้านั้นเป็เช่นไร