ภายในลานเล็ก สำนักชิงเหอ
หญิงสาวและใต้ซือหลิวเหนียน กำลังเดินหมากกันอยู่
หัวหน้าสำนักชิงเหอ หัวหน้าสำนักซ่งเจี่ย เฉินเทียนซานและคนอื่นๆ ยืนอยู่ด้านหน้าพวกเขา
“กู่ไห่ยังไม่ปรากฏตัวอีกหรือ?” หญิงสาวถาม ขณะวางหมากสีดำบนกระดาน
รอยยิ้มขมขื่นปรากฏบนใบหน้าเฉินเทียนซาน ก่อนตอบ "ขอรับ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน กู่ไห่จึงไม่ได้เปิดเผยแผนการให้ผู้ใดทราบ แต่เขาได้สัญญากับหัวหน้าสำนักแล้ว ว่าจะเอาชนะแคว้นซ่ง เช่นนั้น อีกไม่นานต้องสำเร็จแน่!"
หัวหน้าสำนักซ่งเจี่ยที่ยืนอยู่ด้านข้าง ยิ้มอย่างเ็า และกล่าวว่า "พ่ายแพ้? หึ! แม้ว่ากู่ไห่จะใช้แผนการร้าย ทำให้ภายในกองทัพซ่งปั่นป่วนก็ตาม แต่ถึงทัพซ่งจะพ่ายแพ้ แต่แคว้นซ่งก็ยังมีทหารหลายแสนคนอยู่ดี
แล้วแคว้นเฉินล่ะ? เกาเซียนจือได้สังหารทหารของพวกเขาไปหกแสนนาย อีกทั้งดินแดนส่วนใหญ่ยังถูกกวาดล้าง ทำให้แคว้นเฉินอ่อนแอยิ่ง ไฉนจะมีกำลังรุกรานแคว้นซ่งได้?
ในทางกลับกัน แคว้นซ่งยังคงเป็ปึกแผ่น ทั่วทั้งแผ่นดินรู้ถึงแผนร้ายของกู่ไห่แล้ว ผู้ใดจะหลงกลเขาอีก? กู่ไห่มาถึงสุดทางแล้ว!"
หัวหน้าสำนักชิงเหอกลับะเิเสียงหัวเราะ พร้อมพูดว่า "ท่านยังไม่รู้ว่าเขาจะทำสิ่งใด ก็ตัดสินแล้ว นี่ไม่เร็วไปหน่อยหรือ?"
"หึ!" หัวหน้าสำนักซ่งเจี่ยแค่นเสียง ด้วยสีหน้าไม่พอใจ
เวลานี้หัวหน้าสำนักชิงเหอกลับดูภาคภูมิและพอใจมาก ทางเลือกของเขาย่อมถูกต้องแน่
“ใต้ซือ แล้วท่านล่ะ คิดเห็นเช่นไร?” หญิงสาวถาม มองใต้ซือหลิวเหนียนด้วยรอยยิ้ม
คิ้วของใต้ซือหลิวเหนียนกระตุก ฝืนยิ้มและกล่าวว่า "การกระทำของกู่ไห่นั้นอยู่เหนือความคาดการณ์ของข้านัก หมากกระดานนี้ได้แสดงให้เห็นแล้ว ว่าเขามีความสามารถในการจัดการที่ยอดเยี่ยม น่าอัศจรรย์ยิ่ง
จนถึงตอนนี้ นึกไม่ถึงเลย ว่าจะยังไม่จบกระดาน หึๆ วิธีการเดินหมากของทุกคนย่อมแตกต่างกัน แม้แต่ข้า ก็ไม่อาจดูทรงหมากกระดานนี้ออก"
"หากเดาไม่ออก ก็ต้องคอยดูกันต่อไป ข้าอยากเห็นว่าหมากกระดานนี้ของเขา ที่สุดแล้วจะน่าทึ่งสักเพียงใด" ดวงตาของหญิงสาวเป็ประกายวาววาม
...
เมืองหลวงซ่งเฉิง
ตามคำสั่งของกู่ไห่ ครอบครัวของเหล่าทหารซ่งที่ถูกจับไปอย่างลับๆ ก่อนหน้านี้ ได้รับการปล่อยตัวทีละคน
เมืองซ่งเฉิง จากเดิมที่ร้อนระอุจากข่าวชวนเชื่อ ผนวกกับการปรากฏตัวของครอบครัวทหารที่ถูกลักพาตัวไป พลัน ทั้งเมืองก็ปั่นป่วนทันที
“อาสะใภ้รอง ท่าน... พวกท่านไม่ได้ถูกพระราชนัดดาทำร้ายหรอกหรือ? ไอ้เ้ากู่ไห่น่าตายนั่น ทั้งหมดเป็ฝีมือเขา เป็เขาจริงๆ ที่บีบให้ข้าเขียนจดหมายปลอม ส่งให้หลานชาย ทั้งหมดเป็ความผิดของเขา"
"ป้ารอง ท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้าคิดว่าท่านตายไปแล้ว ไอ้เ้าสารเลวกู่ไห่ ทั้งหมดเป็เพราะเขา เป็เขา! ญาติผู้พี่ที่น่าสงสารของข้า จนถึงตอนนี้ไม่ทราบเป็ตาย ไม่รู้ไปอยู่ที่ใด"
"กู่ไห่ ข้าเกลียดเ้า!"
"ถ้าไม่ใช่เพราะกู่ไห่ แม่ทัพเกาก็คงชนะไปแล้ว และลูกชายของข้าก็คงไม่หายตัวไป!"
"ทั้งหมดเป็ความผิดของกู่ไห่!"
"เ้ามารร้ายเฒ่าแซ่กู่นั่น!"
บัดนี้ ความโกรธของประชาชนในเมืองซ่งเฉิง กำลังเดือดพล่าน
องค์รัชทายาท ซึ่งขณะนี้ ประทับอยู่ที่ตำหนัก กำลังฟังสายลับรายงานข่าวสถานการณ์ในเมือง
“กู่ไห่ได้ปล่อยสมาชิกครอบครัวทหารออกมาแล้ว จริงหรือ? หึ! ทีนี้ก็จะไม่มีผู้ใดถูกเขายุแหย่ได้อีก กู่ไห่ ข้าจะดูสิว่า แผนการของเ้าจะเป็อย่างไรต่อไป!" รัชทายาทซ่งกล่าวด้วยสีหน้าดุดัน
หลังการตายของลูกชายจนถึงบัดนี้ สำหรับเขา ประหนึ่งมีก้างติดคอ ไม่อาจปล่อยให้กู่ไห่ ทำลายชื่อเสียงตนไปมากกว่านี้ องค์รัชทายาทสาบานว่าจะไม่ปล่อยอีกฝ่ายไป
"ฝ่าา เวลานี้ครอบครัวของเหล่าทหารที่ถูกกักขัง กลับมาแล้ว ชาวเมืองทั้งหมดจะหันไปเล่นงานกู่ไห่ และคงเกลียดมันจนแทบอยากจะถลกหนัง และกินเนื้อของมันเป็แน่พ่ะย่ะค่ะ!" สายลับผู้หนึ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ถลกหนังและกินเนื้อมันหรือ? เปิ่นกง[1] ก็้าเช่นนั้นเหมือนกัน แล้วการค้นหาในเมืองซ่งเฉิงเป็อย่างไรบ้าง?" รัชทายาทซ่งถามเสียงเย็น
"เราได้ค้นหาทุกซอกทุกมุมแล้ว แต่ไม่พบชายอายุหกสิบเจ็ดสิบปีที่มีลักษณะตรงกับมันเลยพ่ะย่ะค่ะ" สายลับกล่าวอย่างขื่นขม
"กู่ไห่เดินทางออกจากซ่งเฉิงไปแล้วหรือไม่? หึ! เช่นนั้นก็ค้นหาในเมืองใกล้เคียงทีละเมืองๆ ต้องพบตัวแน่ เปิ่นกงอยากจะหั่นศพมันเป็ล้านๆ ชิ้น" องค์รัชทายาทกล่าวอย่างเืเย็น
“พ่ะย่ะค่ะ!”
"ไม่ว่าจะกับขุนนางหรือประชาชนก็ตาม จงปล่อยข่าวการกระทำอันโฉดชั่วของกู่ไห่ต่อไป ทำให้ทุกคนเกลียดชังมัน
เริ่มจากบัดนี้ ให้นักเล่าเื่ในร้านน้ำชาทุกคน สาดโคลนทำลายชื่อเสียงของกู่ไห่ทุกวัน แสดงให้ทุกคนเห็นว่ามันชั่วร้ายที่สุด เท่าที่จะทำได้ และทำให้มันเสื่อมเสียชื่อเสียงให้มากที่สุด” องค์รัชทายาทซ่งกล่าวอย่างเยือกเย็น
"อ๋า! ฝ่าา บัดนี้ทั้งเมืองกำลังไม่พอใจ ไม่สิ! ทั้งแผ่นดินกำลังเดือดพล่าน เรายังต้องราดน้ำมันลงบนกองไฟเพิ่มอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?"
"อืม เปิ่นกงทำเช่นนี้ เพื่อเป็การล้อมคอกก่อนวัวหาย แม้ว่ากู่ไห่จะเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย หรือมีบางอย่างผิดพลาด เราก็สามารถผลักไปให้กู่ไห่ได้!" องค์รัชทายาทกล่าวเสียงเยียบเย็น
"พ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมจะออกเดินทางไปแจ้งให้ทุกคนทราบทันที"
…
โต๊ะริมหน้าต่างภายในห้องอาหารส่วนตัว ที่เหลาสุราเมืองซ่งเฉิง
กู่ไห่และกู่ฮั่น นั่งอยู่ริมหน้าต่างพร้อมจ้องมองไปยังถนนด้านล่าง ที่ยืนอยู่ด้านข้างคือเหล่าคนสนิทจากจวนสกุลกู่ ซึ่งกำลังกวาดตามองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง
เนื่องจากกู่ไห่ย้อมผมและแต่งหน้า จึงดูไม่เหมือนชายอายุหกสิบเจ็ดสิบปี ดูไปแล้ว คล้ายคนอายุสี่สิบห้าสิบปีเท่านั้น
ในเวลานี้ เขานั่งข้างหน้าต่าง มองถนนด้านล่าง พร้อมถือแก้วสุราเอาไว้
"พ่อบุญธรรม นั่นคือร้านขายเครื่องเงินที่ใหญ่ที่สุดของตระกูลกู่เรา ในเมืองหลวงซ่งเฉิง มีนามว่าร้านเครื่องเงินกู่ซ่ง" กู่ฮั่นมองไปยังร้านขายเครื่องเงินขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่อีกฟากของถนน พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม
กู่ไห่จิบสุราอึกหนึ่ง ก่อนจะยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า "ร้านเครื่องเงินกู่ซ่งหรือ? ในปีนั้น ข้าเคยมาทำพิธีเปิดร้านด้วยตัวเอง ผู้ดูแลร้านคนเก่า เสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อนใช่หรือไม่?”
"ขอรับ ผู้จัดการร้านคนเดิมจากไปสามปีแล้ว ตำแหน่งจึงตกเป็ของลูกชาย ซึ่งเป็ผู้ดูแลร้านคนปัจจุบัน ข้าได้อธิบายให้เขาฟัง ตามที่พ่อบุญธรรมสั่ง ถึงเวลา เขารู้ว่าควรทำอย่างไรขอรับ!" กู่ฮั่นตอบเสียงหนักแน่น
กู่ไห่พยักหน้า พลางหรี่ตาจ้องมองไปยังถนน
แม้ว่าร้านเครื่องเงินกู่ซ่งจะเป็ร้านขนาดใหญ่ แต่เวลานี้กลับมีคนเข้าไปไม่ทราบกี่มากน้อย ผู้คนจำนวนมากรุมล้อมรอบร้าน ต่างชี้ไม้ชี้มือไปที่ร้าน พร้อมสาปแช่งไม่หยุด
"หึ! นี่คือร้านเครื่องเงินกู่ซ่ง เป็ร้านของเ้ามารร้ายกู่ไห่นั่น"
"ร้านของเ้ามารร้ายกู่ไห่เช่นนั้นหรือ? จากนี้ไปข้าจะไม่ซื้อเครื่องเงินจากร้านนี้อีกแล้ว"
"เ้ามารร้ายใจอำมหิตกู่ไห่ ไปตายซะ!"
"ฮ่องเต้ทรงอนุญาตให้เ้ามารร้ายแซ่กู่ มาเปิดร้านในแคว้นซ่งของเราได้อย่างไร? หลายปีมานี้ เขาได้เงินจากแคว้นเราไปเท่าไหร่แล้ว"
"เฮอะ! ถ้าไม่ใช่เพราะกฎหมาย ข้าคงจะทุบร้านเ้ามารร้ายกู่ไห่ไปนานแล้ว เ้ามารร้ายสารเลว!"
"ลูกชายข้า เ้ามารร้ายนั่นจับข้าไป จากนั้นก็หลอกลวงลูกชายข้า ตอนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าลูกชายอยู่หรือตาย ข้าขอสู้กับเ้า!"
"ป้าจางอย่าได้หุนหันพลันแล่น ทุกคนช่วยข้าหยุดป้าจางไว้ ทุบแล้วต้องเสียเงิน ป้าคงหนีไปไม่รอดแน่!"
"ใช่! ป้าจาง ฮ่องเต้ไม่ได้มีคำสั่งใด หากทำร้ายคน ถือว่าผิดกฎหมายนา"
"ฮือๆๆ! เ้ามารร้ายกู่ไห่ข้าขอสาปแช่งเ้า ไม่ให้ตายดี!"
“ลูกชายของข้าตายในสนามรบ แต่ข้าแก่เช่นนี้ จะทำอะไรได้ เ้ามารร้ายกู่ไห่ เ้าต้องชดเชยเงินให้ข้า”
"ชดเชย! ชดเชย!"
ฝูงชนบนถนนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ต่างสาปแช่งและด่าทอไม่หยุดหย่อน ตรงหน้าร้านเครื่องเงิน ครอบครัวเหล่าทหารผู้เ็ปทุกข์ระทมบางคน พากันมาร้องไห้ที่ทางเข้าร้าน
ครอบครัวของทหาร ที่ไม่ทราบว่ายังมีชิวิตอยู่หรือไม่ ก็เรียกร้องขอเงินชดเชยอยู่หน้าร้านเช่นกัน
ความผิดทั้งหมด ตกมาอยู่บนศีรษะกู่ไห่ ด้วยการปล่อยข่าวของทางการและชาวบ้าน ร้านค้าสกุลกู่ในแคว้นซ่ง ล้วนตกเป็เป้าของผู้คนนับไม่ถ้วน ที่สูญเสียญาติพี่น้องในา
ผู้คนรายล้อมร้านเครื่องเงินกู่ซ่งมากขึ้น พลางส่งเสียงดังจอแจไม่หยุด
บนเหลาสุรา กู่ไห่กำลังดื่มสุราเงียบๆ
กู่ฮั่นกลับพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “พ่อบุญธรรม ฝูงชนส่งเสียงดังเช่นนี้มาสามวันแล้ว แต่ละวันต่างร้องะโ เดิมทีมีเพียงสมาชิกครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในา แต่ตอนนี้ฝูงชนรอบข้าง ไม่เหมือนคนในบ้านทหารที่เสียชีวิตไป มีทั้งทหารคุ้มกันในเมือง มีทั้งคู่แข่งของเรา และนักเลงปะปนอยู่ด้วย"
เสียงหัวเราะเบาๆ ดังออกจากปากกู่ไห่ "เ้าไม่เห็นหรือ ว่าดวงตาของผู้คนที่จับจ้องไปยังร้านเครื่องเงินนั้น เต็มไปด้วยความโกรธแค้นเพียงใด"
"พ่อบุญธรรมชื่อเสียงของท่านในแคว้นซ่งถูกทำลายสิ้น ร้านค้าของสกุลกู่ ย่อมต้องตกเป็เป้าสายตาของฝูงหมาป่า" กู่ฮั่นยิ้ม
ดวงตาของกู่ไห่เป็ประกายวาบ เขายกยิ้มอย่างเฉยชา เมื่อมองไปยังครอบครัวของทหารจำนวนมาก ที่ร้องไห้และสาปแช่งด้วยความอาฆาตแค้น
"ความโกรธแค้นและความเดือดดาลเกือบได้ที่แล้ว หากเป็เช่นนี้ต่อไป ทางการของแคว้นซ่งต้องเคลื่อนไหวแน่ เริ่มจาก 'ฟังความปรารถนาของประชาชน' ปิดร้านค้าของข้า จากนั้นไม่นานก็ส่งเ้าหน้าที่มายึด ตอนนี้เรามาเริ่มกันเถอะ! " กู่ไห่กล่าวอย่างเสียงเย็นเฉียบ
"ขอรับ!" กู่ฮั่นพยักหน้า
ระหว่างที่พูดนั้น ก็มีคนผู้หนึ่งโยนแก้วสุราออกไปนอกหน้าต่าง
ด้านล่างเหลาสุรา มีชายสวมชุดผ้ากระสอบหลายคนยืนเฝ้าอยู่
เพล้ง!
เมื่อแก้วสุราตกลงพื้น ก็แตกออกเป็ชิ้นๆ ทันที สีหน้าของชายที่สวมผ้ากระสอบพลันเปลี่ยนไป มองหน้ากัน ราวกับส่งสัญญาณลับ บางอย่าง ก่อนจะค่อยๆ เบียดเข้าไปในฝูงชน
กลุ่มคนในชุดผ้ากระสอบแทรกเข้าไปในฝูงชน ที่ยังคงส่งเสียงโห่ร้อง หนึ่งในพวกเขาร้องะโ "มารร้ายแซ่กู่ ้าทำลายแคว้นซ่งของเรา แล้วเหตุใดยังต้องสนใจกฎหมายเล่า? นี่คือร้านของผู้รุกราน หากทำลายร้านค้ามัน ก็ถือเป็การช่วยเหลือแคว้น เหล่าจือ[2]ผู้นี้ ไม่สามารถไปสังหารมารร้ายกู่ไห่ที่แนวหน้าได้ แต่นี่เราอยู่ในแผ่นดินของตัวเอง ก็ยังไม่อาจสังหารศัตรูช่วยบ้านเมืองได้หรือ?"
"ถูกต้อง! ข้าไม่เชื่อว่ากฎหมายจะคุ้มครองร้านของเ้ามารร้าย"
"ทำลายมัน! เ้ามารร้ายกอบโกยเงินจากแคว้นซ่งของเรา สิ่งที่อยู่ในนั้นทั้งหมด ล้วนเป็สิ่งของของแคว้นซ่ง"
"ใช่! มันเป็สิ่งของของแคว้นซ่ง เราจะไม่ยอมยกให้เ้ามารร้ายนั่น ผู้ใดหยิบสิ่งใดได้ก็เป็ของผู้นั้น… ไปเถอะ!"
เมื่อกลุ่มชายที่สวมผ้ากระสอบส่งเสียงโห่ร้อง ฝูงชนก็พากันใทันที กลุ่มคนที่เดิมโกรธแค้น ก็เริ่มะโด้วยความตื่นเต้นทันที
มีคนนำแล้ว?
"ใช่! ทั้งหมดเป็ของแคว้นซ่ง อย่าปล่อยให้เ้ากู่ไห่ได้ไป"
"ผู้ใดคว้าสิ่งใดได้ก็ตกเป็ของผู้นั้น!"
เฮ!
กลุ่มคนที่เดือดดาลใน่สองสามวันที่ผ่านมา รอเวลานี้มานานแล้ว เมื่อมีคนเริ่ม จึงไม่มีผู้ใดหยุดยั้งพวกเขาได้อีก หรือหากคิดจะยับยั้ง ก็สายเกินไป
นี่คือร้านค้าของผู้รุกรานบ้านเมืองพวกเขา หยิบฉวยเอาของจากร้านของศัตรู ก็เหมือนได้ช่วยบ้านเมือง เพื่อบ้านเมือง ไปเอามันมา!
"ไม่! อย่าหยิบไป"
"ของข้า! อย่าเอาของของข้าไป"
"ของข้า! นี่เป็ค่าตอบแทนที่ข้าควรจะได้รับจากกู่ไห่"
"ทองมากมายนี่เป็ของข้า ข้ารวยแล้ว!"
"เหล่าจือผู้นี้ กำลังทำลายเ้ามารร้ายช่วยบ้านเมือง!"
โคร้งเคร้ง!
ร้านเครื่องเงินกู่ซ่งตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เมื่อคนแรกพุ่งเข้ามา ทุกคนก็รีบตามเข้าไปในร้านทันที ด้วยกลัวว่าจะมีคนอื่นคว้าของที่ดีที่สุดไปก่อน ใน่เวลาสั้นๆ เสียงะโ เสียงร่ำไห้ เสียงต่อสู้แย่งชิงก็ดังอื้ออึง
ชาวเมืองที่พึ่งทุกข์ระทมเมื่อครู่ ตอนนี้ดูราวกับฝูงหมาป่าที่หิวโหย ต่างแสดงสีหน้าดุร้ายออกมา ผู้ใดก็ตามที่ฉกฉวยสิ่งของของตนไป คนผู้นั้นก็จะสู้กลับ เกิดเป็ความปั่นป่วนชุลมุนขึ้น
หยิบๆๆ! ทั้งหมดเป็ของข้า
ร้านเครื่องเงินกู่ซ่งตกอยู่ในความโกลาหล ที่ด้านนอก ชาวเมืองซึ่งอยู่ไม่ไกล พบว่าเกิดความแตกตื่นก็เข้ามามุงดู ทว่า เมื่อรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในร้าน ไม่เพียงไม่ช่วยยับยั้ง แต่กลับกลัวว่าตนเองจะมาช้าเกินไป จึงรีบพุ่งเข้าไปข้างใน อยากจะหยิบฉวยเอาของในร้านมาให้หมด
"อย่าเบียดๆ ข้าจะถูกเบียดตายอยู่แล้ว"
"อ๊ะ! ให้ข้าผ่านไป เ้าพวกสารเลว! เหลือไว้ให้ข้าบ้าง"
โคร้งเคร้งๆ!
ถนนทั้งสายเกิดความโกลาหล ทุกคนรีบพุ่งไปยังร้านเครื่องเงินกู่ซ่ง เกิดเสียงดังอึกทึกไม่หยุด เสียงกรีดร้องดังตลอดเวลา ทุกคนดูคล้ายอันธพาล และโจร ภาพน่าเวทนาที่ปรากฏก่อนหน้านี้ หายไปสิ้น
้าเหลาสุรา กู่ไห่จิบสุราเล็กน้อย หรี่ตาจับจ้องไปยังด้านล่าง
“พ่อบุญธรรม นี่... นี่พวกเขาบ้าไปแล้วใช่หรือไม่?” แม้ว่ากู่ฮั่นจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังตกตะลึงกับฉากการปล้นชิงอันดุเดือด
"ผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ย่อมมีความเห็นแก่ตัวอยู่ไม่มากก็น้อย หากผลประโยชน์มีมากพอ พวกเขาก็จะละทิ้งความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ในร้านเครื่องเงินของข้า มีทองคำและเงินอยู่มากมาย แม้หยิบฉวยไปแค่ส่วนเล็กๆ ก็ได้กำไรมหาศาลแล้ว ถ้ามือเร็วก็ได้ของไป ถ้าช้าก็อด!
เมื่อทุกคนเข้าไปในนั้น มีผู้ใดบ้าง จะสามารถต้านทานสิ่งเย้ายวนเช่นนี้ได้? ยิ่งไปกว่านั้น เพราะมีผู้คนอยู่ด้วยเป็จำนวนมาก จึงทำให้พวกเขามีความกล้าขึ้นมา
กฎหมาย? กฎหมายจะใช้ได้ ก็ต่อเมื่อมีประโยชน์ เมื่อไม่มีประโยชน์ ก็เป็แค่ขยะ ตอนนี้เป็่เวลาที่กฎหมายไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง อย่างน้อยที่สุด ในใจของพวกเขา ก็รู้สึกว่ามันไร้ประโยชน์
เวลานี้มีคนจำนวนมาก เหยียบย่ำกฎหมายพร้อมกัน ผู้ใดเล่าจะสนใจ?
นอกจากนี้พวกเขาทำโดยชอบธรรม ปล้นเพื่อช่วยเหลือบ้านเมือง ที่ปล้นร้านค้าของข้า กู่ไห่ ก็เพื่อช่วยเหลือบ้านเมือง ผู้ใดจะไม่ปล้นล่ะ? มันเป็การปล้นโดยชอบธรรม!” บนใบหน้าของกู่ไห่ปรากฏรอยยิ้มจางๆ
“พ่อบุญธรรม ท่านเริ่มปลูกเมล็ดพันธุ์ลงไปในใจของชาวเมืองแล้วหรือขอรับ? เพื่อเปลี่ยนพวกเขาเหล่านี้ให้กลายเป็โจร?” กู่ฮั่นสูดหายใจเข้าลึก
"เปลี่ยนประชาชนให้กลายเป็โจรหรือ? หึ! ยังเร็วไป นี่เป็เพียงจุดเริ่มต้น!" กู่ไห่ยิ้มเย็นะเื
-------------------------------
[1] เปิ่นกง เป็คำเรียกแทนตัวของเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง
[2] เหล่าจือ มีความหมายว่า ‘พ่อ’ แต่คำคำนี้ไม่ได้ใช้สำหรับเรียกพ่อในลำดับเครือญาติ แต่เป็สรรพนามที่ใช้เรียกตัวเองในเชิงวางมาดใหญ่โตโอ้อวด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้