อวี้จิ่นบอกลาเพื่อนบ้านหลังจากผ่านงานศพของยายเฒ่าลิ่วได้เจ็ดวัน โดยใช้ข้ออ้างว่าจะไปตามหาบุตรหลานของยายเฒ่าลิ่วเท่านั้น เพื่อนบ้านต่างอวยพรให้อวี้จิ่นปลอดภัยและทำภารกิจสำเร็จ บางคนมีมอบอาหารให้นางนำติดตัวไปคนละเล็กละน้อย ทำเอาอวี้จิ่นถึงกับน้ำตาซึมที่เห็นความมีน้ำใจจากชาวบ้าน
เพราะหมู่บ้านอยู่ไม่ไกลจากตำบลจึงใช้การเดินเท้า อวี้จิ่นสำรวจสองข้างทางไปเรื่อย ๆ เพื่อเรียนรู้ทุกสิ่งในโลกใบใหม่ แต่ถ้านาง้าเข้าเมืองย่อมไม่อาจเดินเท้าไปเองได้ ด้วยระยะทางที่ไกลจึงอาศัยการนั่งเกวียนหรือรถม้าเท่านั้น ยังดีที่อวี้จิ่นมีเงินติดตัวมาห้าตำลึงเงินกับเศษเหรียญอีแปะอีกเล็กน้อย นางถึงได้นั่งเกวียนวัวเข้าเมืองจ้าวโจวรอบสุดท้ายพอดี กว่าจะมาถึงเมืองจ้าวโจวก็เป็เวลาพลบค่ำ
อวี้จิ่นอาศัยอารามร้างนอกเมืองเป็ที่หลับนอน เนื่องจากตอนนี้นางต้องประหยัดเงินไว้ก่อน ซึ่งที่นี่มีชาวบ้านที่นำของป่าที่ดูมีราคามาขายในเมือง พวกเขาก็เลือกที่จะพักในอารามร้างเช่นเดียวกัน แต่เป็ข่าวดีสำหรับอวี้จิ่นเมื่อชาวบ้านที่นั่งผิงไฟ เริ่มพูดถึงบุตรสาวของท่านเ้าเมืองที่หายออกจากจวน แม้จะส่งเ้าหน้าที่ออกไปตามหาก็ยังไม่พบตัว
“นี่เ้าว่าบุตรสาวท่านเ้าเมืองหายไปที่ใดรึ หลายวันแล้วที่เ้าหน้าที่ออกตามหาแต่ยังไร้วี่แวว”
“ข้าว่านะคุณหนูว่านต้องถูกคนลักพาตัวไปแน่ ๆ”
“หรือว่าจะมีโจรูเาออกอาละวาดปล้นฆ่าและฉุดสตรีที่งดงาม พากลับไปปรนเปรอบำเรอกามในกลุ่มโจรหรือไม่ ถึงไม่มีใครตามหาตัวนางพบนี่ก็ผ่านไปสิบกว่าวันแล้วนะ”
‘หืม ลูกสาวเ้าเมืองหายตัวไปงั้นเหรอน่าสนใจดี ไว้พรุ่งนี้เช้าเข้าเมืองได้ค่อยไปถามผู้คนในเมืองอีกรอบก็แล้วกัน’
“แต่ข้าว่านางอาจจะหนีตามคนรักที่ฐานะยากจนก็เป็ได้นะ หากเป็ข้อนี้ก็น่าสงสารฝ่ายบุรุษที่ฐานะต่ำต้อย มิใช่คุณชายจากตระกูลสูงศักดิ์ทำให้ทั้งสองคนตัดสินใจทำเช่นนี้ะ”
“นั่นน่ะสิหากฐานะเช่นพวกเรานั่นคงเป็อุปสรรคอันใหญ่หลวง ระหว่างบุตรสาวขุนนางกับชาวนายากจนแน่นอน”
“เฮ้อ โชคชะตาช่างเล่นตลกร้ายกับมนุษย์อย่างเราเสียจริง”
อวี้จิ่นนั่งอยู่ในมุมหนึ่งเงียบ ๆ ไม่สุงสิงกับใคร ยังดีที่ก่อนจะออกเดินทางนางได้แต่งกายคล้ายบุรุษ และเสื้อผ้าค่อนข้างเก่าจึงไม่มีใครสนใจนางเท่าใดนัก จนกระทั่งคนอื่น ๆ นอนพักเอาแรงกันหมดแล้ว อวี้จิ่นถึงได้แอบเข้าไปในมิติตลาดสดเพื่อหาของกินให้อิ่มท้อง
ภายในมิติแห่งนี้กว้างใหญ่สมกับเป็ตลาดครอบจักรวาล ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ผัก ผลไม้ ร้านขายยาหน้าตาแปลก ๆ ที่บอกว่าเป็ยาวิเศษรักษาได้ทุกโรค แต่อวี้จิ่นเดินไปหาร้านซาลาเปาแทนและร้านติดกันก็เป็ร้านหมูปิ้งที่กลิ่นหอมของมันชวนให้ท้องร้องหนักมาก อวี้จิ่นใช้เวลาเติมพลังอยู่ในมิติเพียงหนึ่งเค่อเท่านั้นจึงกลับออกมานอนที่เดิม
ยามเหม่าของวันต่อมาอวี้จิ่นตื่นทีหลังชาวบ้านคนอื่นเล็กน้อย ก่อนจะล้างหน้าบ้วนปากเตรียมตัวไปต่อแถวเข้าเมืองจ้าวโจว หากไปสายต้องยืนต่อแถวยาวเหยียดตากแดดร้อน ๆ กันพอดี
เมื่อผ่านการตรวจป้ายประจำตัวเข้าเมืองมาได้อวี้จิ่นไม่รอช้า รีบหาลู่ทางสืบข่าวเกี่ยวกับบุตรสาวของจวนเ้าเมืองทันที แต่รายละเอียดของเื่ราวมิได้มีใจความสำคัญเท่าใดนัก เพราะฉะนั้นอวี้จิ่นจึงตัดสินใจที่จะไปพบท่านเ้าเมืองที่ศาลาว่าการแทน ซึ่งมันไม่ง่ายเลยเมื่อเ้าหน้าที่ด้านหน้าไม่ยอมให้นางได้พบท่านเ้าเมือง
“พี่ชายเ้าคะไม่ทราบว่าท่านเ้าเมืองยัง้าคนช่วยตามหาบุตรสาวอยู่หรือไม่เ้าคะ”
“หืม เ้าถามไปทำไมเป็สตรีจะช่วยเื่ตามหาคนได้อย่างไร เ้าเข้าเมืองมาหางานทำก็ไปหาที่อื่นอย่าได้มาสร้างความวุ่นวายที่นี่”
“พี่ชายข้าสามารถช่วยตามหาคุณหนูว่านได้จริง ๆ นะเ้าคะ ท่านช่วยพาข้าไปพบท่านเ้าเมืองด้วยเถิด หากปล่อยเวลาให้ผ่านไปเรื่อย ๆ เช่นนี้อาจจะไม่ทันการณ์ได้นะเ้าคะ” อวี้จิ่นยังคงยืนกรานจะขอเข้าพบท่านเ้าเมือง
“เอ๊ะ! เ้าฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรืออย่างไรอย่าได้วุ่นวายอีก รีบไปเสียเพราะเื่คนที่จะช่วยตามหาคุณหนูว่าน พวกเรารับเฉพาะบุรุษเท่านั้นไม่รับสตรีมาเป็ภาระหรอกนะ”
“ทำไมพวกท่านถึงดะ”
ขณะที่อวี้จิ่นถกเถียงกับเ้าหน้าที่อยู่ด้านหน้าประตู ก็มีเสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นมาเสียก่อนทุกคนจึงหันไปทางต้นเสียง พอได้เห็นท่าทางของเ้าหน้าที่อวี้จิ่นจึงเดาได้ว่าเ้าของเสียงนี้คือท่านเ้าเมืองอย่างแน่นอน
“มีเื่อะไรกันถึงได้เสียงดังไปถึงด้านในใครพอจะอธิบายให้ข้าฟังได้บ้างไหม” ว่านเหิงหลวนได้รับรายงานจากคนสนิท ว่ามีเด็กคนหนึ่งยืนถกเถียงกับเ้าหน้าที่ด้านหน้าประตู เพราะ้าพบตนเองเกี่ยวกับเื่ของบุตรสาว
“เรียนใต้เท้าเด็กสาวคนนี้บอกว่า้าพบท่าน เนื่องจากนางสามารถช่วยตามหาคุณหนูได้ขอรับ ข้าได้บอกไปแล้วว่าจะรับเฉพาะบุรุษเท่านั้นไม่รับสตรี แต่นางก็ไม่ยอมยืนกรานที่จะพบใต้เท้าให้ได้ขอรับ”
“หืม เ้าบอกว่าสามารถช่วยตามหาบุตรสาวของข้าได้เช่นนั้นรึ ทุกคนออกตามหาอยู่หลายวันยังไร้วี่แววว่าจะพบตัว แล้วเ้ามีวิธีใดที่จะช่วยตามหาตัวนางให้พบได้เล่า” ใต้เท้าว่านพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งมิได้โมโหแต่อย่างใด
“แน่นอนว่าข้าย่อมมีวิธีที่ใครก็ไม่อาจทำได้ ขอเพียงท่านเ้าเมืองอนุญาตให้ข้าได้พบฮูหยินและสาวใช้คนสนิทของคุณหนูว่าน รับรองว่าวันนี้ท่านเ้าเมืองจะได้ตัวคุณหนูว่านกลับมาอย่างปลอดภัย แต่หากท่านคิดว่าสิ่งที่ข้าพูดเป็เื่ไร้สาระของเด็กสาวคนหนึ่ง ท่านกับฮูหยินจะไม่ได้พบกับบุตรสาวคนนี้อีกตลอดกาล” อวี้จิ่นไม่ได้พูดล้อเล่นกับเ้าเมืองว่านเพราะความรู้สึกของนางบอกเช่นนั้นจริง ๆ
“ได้ ข้าจะลองเชื่อเ้าดูสักครั้งตามข้าไปพบฮูหยินที่จวนเถิด หากเ้าช่วยตามหาบุตรสาวของข้าได้จริงเงินรางวัลห้าสิบตำลึงทองจะเป็ของเ้า แต่หากกลับกันเ้าคงรู้นะว่าจะเกิดอะไรหากทำไม่ได้อย่างที่พูดเอาไว้”
“เ้าค่ะเื่นั้นข้าย่อมรู้และเข้าใจดี”
“อืม”
อวี้จิ่นตามเ้าเมืองว่านไปยังจวนหลังใหญ่ ซึ่งเป็ที่พักสำหรับตำแหน่งเ้าเมืองจ้าวโจวแห่งนี้ เ้าเมืองว่านให้พ่อบ้านไปเชิญฮูหยินเอกของตน และสาวใช้ของบุตรสาวอีกสองคนมายังห้องรับแขกของจวน
“ท่านพี่ให้พ่อบ้านไปตามข้ากับสาวใช้ของชิงเอ๋อร์มาที่นี่ หรือว่ามีเื่เกี่ยวกับลูกของเราแล้วใช่หรือไม่เ้าคะ” หั่วฮูหยินเป็ห่วงบุตรสาวจนกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน เอ่ยถามกับสามีเมื่อได้ยินจากพ่อบ้านว่าสามี้าพบนาง
“น้องหญิงใจเย็น ๆ นั่งลงก่อนเถิดนะที่พี่ให้คนไปตามเ้ามาพบ เนื่องจากเด็กสาวคนนี้นางบอกว่าสามารถช่วยตามหาชิงเอ๋อร์ได้”
“คารวะฮูหยินเ้าค่ะ” อวี้จิ่นทำความเคารพอย่างที่เคยดูในซีรี่ย์จีนโบราณเื่โปรด
“เ้าพูดจริงหรือไม่เื่การตามหาชิงเอ๋อร์ของข้าน่ะ เ้าไม่ได้โกหกให้ข้ากับสามีดีใจเก้อใช่ไหม” หั่วฮูหยินได้ยินสามีพูดถึงอวี้จิ่นเช่นนั้นก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
“เรียนฮูหยินข้าไม่คิดสร้างเื่โกหกให้ตนเองต้องเดือดร้อนทีหลังแน่เ้าค่ะ ไม่ทราบว่าคนไหนคือสาวใช้ของคุณหนูว่านหรือเ้าคะ”
“อ้อ เป็นางสองคนอาฟานกับอาส่างที่คอยดูแลชิงเอ๋อร์ของข้าน่ะ” หั่วฮูหยินหันไปชี้ตัวสาวใช้ทั้งสองที่ยืนอยู่ด้านข้างกับอวี้จิ่น
“ข้าอาฟาน”
“ข้าอาส่าง”
‘อ้าว ทำไมต้องเสียงแข็งกับข้าล่ะท่าทางจะมีพิรุธนะสาวใช้ที่ชื่ออาส่างนี่ หึ อีกเดี๋ยวเ้าจะห้าวไม่ออกแน่’
“สวัสดีพี่สาวทั้งสองเ้าค่ะพี่อาฟานข้ารบกวนท่านยื่นมือออกมาให้ข้าสักประเดี๋ยวนะเ้าคะ”
“ได้สิ”
“หมับ! วูบ!”
อวี้จิ่นยื่นมือไปจับมือของอาฟานไว้และภาพต่าง ๆ ในวันเกิดเหตุก็ฉายชัดอยู่ในห้วงความคิดของตนทันที เห็นได้ชัดว่าอาฟานซื่อสัตย์รักและเป็ห่วงเ้านายอย่างแท้จริง นางปกป้องว่านอี้ชิงจนถูกคนทำร้ายจากด้านหลังเป็เหตุให้หมดสติ เปิดโอกาสให้คนร้ายได้ตัวของว่านอี้ชิงไป
“อืม ต่อไปก็ตาท่านแล้วเ้าค่ะพี่อาส่าง”
“ฮึ เ้าเช็ดมือเสียหน่อยเถิดข้าเห็นแล้วขยะแขยง”
“อาส่างอย่าเสียมารยาทนางแค่จับมือประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น” เ้าเมืองว่านหันไปอบรมสาวใช้ของบุตรสาว
“เ้าค่ะนายท่าน”
“หึ ขอบคุณพี่สาวท่านวางใจเถิดมือข้าสะอาดกว่าท่านเยอะ”
และแล้วเหตุการณ์ที่เห็นผ่านการััมือของอาส่าง ทำให้อวี้จิ่นค่อย ๆ เม้มปากพยายามหายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อระงับความโกรธอันเกิดจากภาพที่เห็น ช่างเป็เื่ที่แก้ไขได้ยากจริง ๆ สำหรับเื่ความริษยาของสตรี แต่ที่ทำให้อวี้จิ่นรับไม่ได้และตัดสินใจหักข้อมือของอาส่าง คือการที่สาวใช้คนนี้ใช้แจกันใบใหญ่ทุบไปที่ศีรษะของอาฟานอย่างแรง เพื่อทำให้แผนการของเ้านายตัวจริงสำเร็จ
“พรึ่บ! กร๊อบบบ!! กรี๊ดดดด!!”
“โอ๊ย เ้าทำร้ายข้าทำไมปล่อยมือข้าเดี๋ยวนี้นะเ้าทำข้อมือข้าเจ็บไปหมดแล้ว”
“จะ จะ เ้าทำเช่นนั้นกับอาส่างทำไมหรือแม่นางเหตุใดไม่พูดจากันดี ๆ เล่า” หั่วฮูหยินใรีบลุกขึ้นไปหาสามีทันทีที่อาส่างกรีดร้องด้วยความเจ็บ
“เรียนท่านเ้าเมืองให้คนของท่านนำเชือกมามัดนางไว้ก่อนเถิดเ้าค่ะ เพราะท่านยังต้องทำการลงโทษสาวใช้คนนี้พร้อมกับผู้ร้ายที่เหลือ”
“เ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร!”
“นายท่านนางใส่ร้ายบ่าวเ้าค่ะบ่าวไม่รู้ว่านางพูดถึงเื่อันใด นายท่านอย่าได้เชื่อคำพูดไร้สาระของนางนะเ้าคะ” อาส่างเริ่มกังวลว่าอวี้จิ่นจะมีเบาะแสเกี่ยวกับว่านอี้ชิงจึงพยายามพูดให้ตนเองน่าสงสาร
“หุบปาก!! ข้าจะเชื่อหรือไม่เชื่อนางไม่จำเป็ให้เ้ามาสอน ถ้ายังไม่เงียบปากของเ้าข้าจะให้คนตบปากเ้าทันที”
“มีคน้าให้บุตรสาวของตนแต่งงานกับว่าที่บุตรเขยของท่าน จึงได้วางแผนลักพาตัวคุณหนูว่านเพื่อทำให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียง ความอิจฉาริษยาของสตรีเป็สิ่งที่น่ากลัวมากนะเ้าคะท่านเ้าเมือง” อวี้จิ่นพูดชี้นำเพราะนางคิดว่าเพียงเท่านี้เ้าเมืองว่าน น่าจะพอคาดเดาผู้อยู่เื้ัได้แล้วว่าเป็ใคร
“ปัง!! บัดซบ!! นางกล้าดีอย่างไรถึงวางแผนทำร้ายชิงเอ๋อร์ได้ถึงเพียงนี้ แสดงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานางวางแผนสกปรก อยู่ภายใต้ใบหน้าที่อ่อนหวานนั่นมาเสมอสินะ” เ้าเมืองว่านรู้ได้ในทันทีว่าคนที่อวี้จิ่นพูดถึงคือใคร
“ยามนี้ท่านเ้าเมืองควรไปช่วยคุณหนูว่านออกมาจากที่นั่นเสียก่อน เพราะคณหนูว่านไม่ได้ทานอะไรมาหลายวันแล้ว มีเพียงน้ำเปล่าที่ช่วยต่อเวลาชีวิตให้นางเพียงเท่านั้น และนางอยู่ในห้องลับของเรือนคนที่ท่านเ้าเมืองได้คาดเดาเอาไว้นั่นแหละเ้าค่ะ เื่อื่นค่อยจัดการทีหลังเมื่อคุณหนูว่านปลอดภัยเถิดเ้าค่ะ” การมีภรรยาหลายคนมักจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้แต่บุรุษยุคโบราณคิดแค่เื่การขยายตระกูลมากกว่า
“เช่นนั้นรบกวนเ้าอยู่กับฮูหยินที่นี่ก่อน ข้าจะพาคนไปจัดการเื่นี้แล้วเราค่อยมาพูดคุยกันอีกครั้ง”
“เ้าค่ะข้าน้อยรอได้เชิญท่านเ้าเมืองเถิด”
“อาจู้ร์นำกำลังคนไปล้อมเรือนฮูหยินรองไว้ทุกด้าน ส่วนพ่อบ้านพาคนไปตรวจสอบบ่าวไพร่ในจวนทุกคน ใครที่มีพิรุธจับตัวเอาไว้แล้วพามาพบข้าทีหลัง”
“ขอรับนายท่าน/ขอรับนายท่าน”
ในที่สุดการตามหาบุตรสาวก็ได้สิ้นสุดลงเสียที เมื่อเ้าเมืองว่านนำคนไปค้นจนพบห้องลับในเรือนของฮูหยินรอง ที่บุตรสาวอีกคนของตนกำลังทรมานว่านอี้ชิงอยู่ เมื่อถูกจับได้คาหนังคาเขาฮูหยินรองไม่อาจปฏิเสธได้ นางอ้างถึงความรักและสงสารบุตรสาวจึงได้ทำเื่ชั่วช้าลงไป นางพยายามร้องขอความเห็นใจจากสามีแต่นางคงคาดไม่ถึงว่าบุรุษ
อย่างเ้าเมืองว่านจะเด็ดขาดกับการทำผิดเช่นนี้
“นำตัวฮูหยินรองกับบุตรสาวของนางรวมถึงสาวใช้และบ่าวไพร่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ไปรับโทษโบยยี่สิบไม้จากนั้นเนรเทศไปเป็ทาสในเหมืองของแคว้น เอาตัวไปลงทัณฑ์!” เพราะฮูหยินรองคนนี้ได้มาจากความไม่เต็มใจ เ้าเมืองว่านจึงไม่ลังเลที่จะตัดสินโทษร้ายแรงให้พวกนาง
“นายท่าน!!/ท่านพ่อ!!”
“นายท่านโปรดเมตตาด้วย!”
“ท่านพ่อ! ข้าเป็ลูกของท่านเช่นกันนะ ท่านพ่อ! ฮือ ๆ ๆ”
เ้าเมืองว่านไม่เห็นแก่สัมพันธ์ส่วนตัวในเมื่อกระทำความผิด ย่อมได้รับโทษตามกฎหมายหากเขาเห็นแก่ตัว จะมีชาวบ้านเคารพนับถือว่าเป็เ้าเมืองที่มีความยุติธรรมได้อย่างไร
เมื่อจบเื่อวี้จิ่นได้เงินรางวัลห้าสิบตำลึงทองมาอยู่ในมือ จึงเตรียมหาซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ไว้ผลัดเปลี่ยนยามเดินทาง อวี้จิ่นกลับมาใส่ชุดสตรีเนื้อผ้าธรรมดาทั่วไปที่ดูไม่โดดเด่น ถึงอย่างไรร่างนี้เพิ่งจะพ้นวัยปักปิ่นเท่านั้นใบหน้าที่ไร้การแต่งแต้มจึงไม่น่าดึงดูด และมันเป็การดีซึ่งช่วยให้ไม่มีบุรุษใดมองอวี้จิ่นอย่างเสน่หาถือว่าปลอดภัยในระดับหนึ่ง
ก่อนจะออกเดินทางไปยังเมืองถัดไปด้วยรถม้าที่เ้าเมืองว่านหามาให้ อวี้จิ่นไม่ลืมเตือนให้เ้าเมืองว่านยึดมั่นปณิธานการเป็ขุนนางตงฉินต่อไป เพราะนางได้บอกกับเ้าเมืองว่านกลาย ๆ ว่าในอนาคตเขาจะได้เลื่อนตำแหน่ง และเ้าเมืองว่านก็เชื่อว่าที่อวี้จิ่นพูดมาย่อมเป็เื่จริง เนื่องจากมีตัวอย่างให้เห็นในเื่ของบุตรสาวมาแล้วนั่นเอง
