เมื่อเห็นว่ากูเฟยเยี่ยนปลอดภัยไม่ได้รับความเสียหาย อวิ้นกุ้นเฟยก็ตกตะลึงมาก
ในที่สุดนางก็ตระหนักได้แล้วว่ากูเฟยเยี่ยนแกล้งทำเป็เมา และในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดจากกูเฟยเยี่ยน! นางตัวสั่นเทาโดยไม่รู้ว่าเป็เพราะโกรธหรือหวาดกลัวกันแน่ หรือบางทีอาจเป็เพราะทั้งโกรธทั้งหวาดกลัว!
ที่แท้นับั้แ่วินาทีที่กูเฟยเยี่ยนย้อนกลับมายั่วยุทุกคน นางก็วางแผนทั้งหมดเอาไว้แล้ว! รวมไปถึงเื่ที่กูเฟยเยี่ยนยั่วอารมณ์หวายหนิงนั้นก็ไม่ใช่เป็เพราะ้าก่อกวน แต่เป็เพราะ้าให้หวายหนิงเมาปลิ้น
อวิ้นกุ้ยเฟยแทบอยากจะพุ่งไปกระชากกูเฟยเยี่ยนขึ้นมา เพียงแต่ว่าไม่มีทางเลือกแล้ว นางจำเป็ต้องยอมรับว่าตนเองพ่ายแพ้อย่างราบคาบ!
เมื่อเกิดเื่เช่นนี้ขึ้นชีวิตของเย่าเฉิงกับหวายหนิงก็จะถูกทำลายลงหมด และนางต้องเป็ผู้รับผิดชอบผลลัพธ์ทั้งหมด ตระกูลฉีก็จะไม่มีวันให้อภัยพวกเราแล้ว
สิ่งเดียวที่นางทำได้คือพยายามลดผลกระทบของเื่นี้ให้น้อยที่สุดเพื่อทำให้ตนเองกับตระกูลฉีหลงเหลือเกียรติภูมิ
นางจึงอธิบายด้วยความรีบร้อน “ฝ่าาเพคะ เฉินเชี่ยรู้สึกไม่สบายจึงได้กลับไปก่อน ตอนที่เฉิงเชี่ยกลับไปพวกเขา…พวกเขายังดีๆ อยู่เลย เฉินเชี่ยก็ไม่คิดว่าจะเกิดเื่แบบนี้เช่นกัน! ฝ่าาเพคะ นี่เป็เื่เข้าใจผิดอย่างแน่นอน! ”
นางหันกลับไปมองผู้คนที่ล้อมรอบแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเ็า “เื่ในวันนี้เป็เพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น หากพวกเ้ากระจายเื่นี้ออกไปจะถูกสังหารทิ้งทั้งหมด!
คำพูดนี้ไม่เพียงแต่จะพูดให้ผู้คนที่มาล้อมรอบฟัง แต่จุดที่สำคัญที่สุดคือพูดให้เทียนอู่ฮ่องเต้ฟัง นางกำลังเตือนสติเทียนอู่ฮ่องเต้ว่าเื่ราวนี้เกิดขึ้นแล้ว พวกเขาทำได้เพียงหาทางลงให้กับเย่าเฉิงกับหวายหนิง ไม่อย่างนั้นเมื่อเื่นี้กระจายออกไปแล้วมันจะไม่เป็ผลดีต่อราชวงศ์กับตระกูลฉี!
เดิมทีทุกคนยังคงส่งเสียงกระซิบวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่เมื่อได้ยินคำกล่าวเตือนของอวิ้นกุ้ยเฟยแล้วก็เงียบกันหมด
หากเป็เมื่อก่อนเมื่อเทียนอู่ฮ่องเต้ได้ยินอวิ้นกุ้ยเฟยเตือนสติ เขาก็จะรู้สึกว่าอวิ้นกุ้ยเฟยมีความชาญฉลาดและให้ความสนใจในภาพรวม แต่ปัจจุบันนี้เขารู้สึกว่าอวิ้นกุ้ยเฟยกำลังแกล้งทำเป็เฉลียวฉลาดเท่านั้น
เมื่อสักครู่นี้เทียนอู่ฮ่องเต้หัวร้อนมากแต่ตอนนี้สงบลงเล็กน้อยและกำลังคำนึงถึงผลกระทบของเื่นี้ เขาจะหาทางลงให้กับองค์ชายใหญ่และจะยอมรับว่านี่เป็เื่เข้าใจผิด! ทว่าเขาก็ต้องเข้าใจเื่ราวทั้งหมดก่อน ไม่อย่างนั้นยิ่งปิดจะยิ่งฉาวโฉ่!
ในที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่คนในพระราชวังเท่านั้น แต่ยังมีทายาทตระกูลขุนนางหลายคนรวมไปถึงบ่าวรับใช้ที่คนเ่าั้พามาด้วย
ดังนั้นเทียนอู่ฮ่องเต้จึงเอ่ยถามจวินเย่าเฉิงด้วยน้ำเสียงเ็า “เ้าพูดมาว่าทำไมพวกเ้าแต่ละคนถึงเมาหัวราน้ำกันขนาดนี้? ”
จวินเย่าเฉิงที่ถูกทหารองครักษ์คุมตัวไว้แล้วหันไปมองอวิ้นกุ้ยเฟยโดยที่ไม่ทราบว่าจะตอบเช่นไรดี
หากบอกว่ากูเฟยเยี่ยนทำให้พวกเขาเมา ฟู่หวงจะต้องถามถึงเื่ราวทั้งหมดและสืบหาสาเหตุอย่างแน่นอน ถ้าเป็อย่างนั้นความผิดทั้งหมดก็จะตกอยู่ที่พวกเขา
ทำอย่างไรดี?
จวินเย่าเฉิงพูดตะกุกตะกัก เทียนอู่ฮ่องเต้จึงหันไปมองเฉิงอี้เฟยกับองค์ชายแปด “พวกเ้าพูดออกมา! เหตุใดพวกเ้าถึงแข่งขันกันดื่มสุรา? ”
จวินฮั่นหยิ่นนั้นเมาจริงๆ ในขณะนี้เขาใและใบหน้าเต็มไปด้วยความฉงน
เขาเจตนาดื่มจนเมาเพราะมีความลับอยู่ในใจ ในส่วนของบัดนี้เขาไม่เข้าใจในสถานการณ์จึงไม่กล้าพูดอะไรเยอะ “ฟู่หวง เอ๋อร์เฉิน…เอ๋อร์เฉินไม่ได้แข่งขันดื่มสุรากับเฉิงอี้เฟย วันนี้เอ๋อร์เฉินมีความสุข และไม่รู้ว่า…และไม่รู้ว่าเมาได้อย่างไร”
ใบหน้าของเฉิงอี้เฟยขาวซีดราวกับยังคงมีความเคลิ้มเมาอยู่เล็กน้อย ทว่าสติของเขาครบถ้วน เขาทราบว่าทั้งหมดนี้เป็ผลงานชิ้นเอกของแพทย์หญิงน้อย ดังนั้นเขาจึงมองไปที่เหล่าองค์ชายกับเหล่าทายาทขุนนางที่อยู่ด้านหลัง ก่อนจะชี้นิ้วไปพร้อมกับตอบกลับอย่างชาญฉลาด “ฝ่าา พวกเขาทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนี้! ”
เทียนอู่ฮ่องเต้หันมองด้วยความเ็า เขายังไม่ทันได้ซักถาม ผู้คนเหล่านี้ก็ใกลัวจนสารภาพออกมาทั้งหมด
พวกเขาให้การไปที่อวิ้นกุ้ยเฟยกับองค์ชายใหญ่ว่าอวิ้นกุ้ยเฟยเชิญพวกเขามาร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง และองค์ชายใหญ่ก็ให้พวกเขาคิดหาวิธีกลั่นแกล้งกูเฟยเยี่ยน ให้พวกเขาทำให้เฉิงอี้เฟยดื่มสุราแทนนาง และต้องทำให้เฉิงอี้เฟยเมาจนล้มลงไปในตำหนักไท่จี๋
พวกเขาต่างคนต่างแย่งกันพูดความจริงออกมาและแย่งกันผลักความรับผิดชอบไปพร้อมกับขอความเมตตา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนล้วนตกตะลึงตาค้างไปกับความสามารถในการดื่มสุราของกูเฟยเยี่ยน ทว่าสิ่งที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือความชั่วร้ายกับความกล้าของอวิ้นกุ้ยเฟย
ในที่สุดเทียนอู่ฮ่องเต้ก็เกิดโทสะอย่างถึงที่สุด เขาไม่สนใจว่าจะมีผลกระทบอะไรอีกแล้ว ไม่ช้าเขาก็ประณามทหารองครักษ์ด้วยความโกรธ “พวกเ้ายังตกตะลึงอะไรอีก? ยังไม่คุมตัวนังลูกเนรคุณนี่ไปอีก! คืนนี้ก็พาเข้าไปในสุสานหลวงเลย! เจิ้นไม่อยากเห็นมันอีกแล้ว! ”
“ฟู่หวง! ”
“ฟู่หวง เอ๋อร์เฉินสำนึกผิดแล้ว! ฟู่หวง ท่านโปรดยกโทษให้เอ๋อร์เฉินเถอะนะ! ฟู่หวง…”
องค์ชายใหญ่ร้องขอความเมตตาแต่เทียนอู่ฮ่องเต้ไม่สนใจไยดี เขาหันไปมองอวิ้นกุ้ยเฟยที่ฟุบนั่งอยู่บนพื้นด้วยความผิดหวังอย่างยิ่ง “ทหาร นำตัวนังคนชั้นต่ำนี่ไปที่ตำหนักเย็น! ชั่วชีวิตนี้เจิ้นไม่้าพบนางแล้ว! ”
“ฝ่าา! ”
“ฝ่าาเพคะ เฉินเชี่ยรู้ว่าผิดแล้ว! ฝ่าาเพคะ เฉินเชี่ยปรนนิบัติรับใช้พระองค์มานานหลายปี ขอพระองค์ได้โปรดเมตตา! ”
“ฝ่าา โปรดเมตตา! ”
…..
องค์ชายใหญ่พยายามอ้อนวอนอย่างสุดชีวิต อวิ้นกุ้ยเฟยร้องไห้คร่ำครวญจะเป็จะตาย ทว่าเทียนอู่ฮ่องเต้ไม่สะทกสะท้านไปด้วย
ทันทีที่สองแม่ลูกถูกควบคุมตัวไป ตำหนักไท่จี๋ก็จมลึกอยู่ในความเงียบ
เทียนอู่ฮ่องเต้หอบหายใจด้วยความโกรธ แล้วในที่สุดสายตาของเขาก็ตกไปอยู่ที่ร่างของกูเฟยเยี่ยน เขาคิดไม่ถึงเลยว่านังหนูคนนี้จะดื่มได้มากมายถึงเพียงนี้
ผู้ที่จ้องมองกูเฟยเยี่ยนอยู่ในขณะนี้ก็ยังมีจวินฮั่นหยิ่นอีกหนึ่งคน! เขานึกไปถึงมื้ออาหารที่หอฝูหม่าน ในตอนนั้นความสามารถในการดื่มสุราของกูเฟยเยี่ยนไม่ได้ดีนี่นา!
เป็ไปได้หรือไม่ว่าวันนั้นนางแกล้งเมา แล้วนางแกล้งเมาทำไมกัน? ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาพูดออกมาในห้องส่วนตัว นางได้ยินทั้งหมดใช่หรือไม่?
หลังจากที่คิดไปคิดมาจวินฮั่นหยิ่นก็เข้าใจได้ทันทีว่าเื่ที่กูเฟยเยี่ยนชื่นชอบตนเองนั้นเป็การแสดงละคร! แต่เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดกูเฟยเยี่ยนจึงต้องแสดงละคร? นาง้าผลประโยชน์สิ่งใดจากเขา?
แต่ไม่ว่านังหนูคนนี้จะ้าทำอะไร เขาก็ต้องชิงลงมือก่อนให้ได้!
จวินฮั่นหยิ่นไม่กระโตกกระตาก เมื่อเห็นว่าฟู่หวงหันมามองเขาก็ก้มหน้าก้มตาแสร้งทำเป็ผู้บริสุทธิ์ทันที
เทียนอู่ฮ่องเต้กวาดตามองทีละคนแล้วเอ่ยด้วยความเ็า “หากมีคนกล้าปล่อยข่าวลือของเื่ในคืนนี้ คนผู้นั้นจะต้องรับผิดชอบผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นด้วยตนเอง! ” เขาพูดแล้วก็เตรียมจะเดินออกไป ในขณะนี้เองกูเฟยเยี่ยนที่พักผ่อนเพียงพอแล้วก็ได้ะโออกมา “ดื่มๆ ! ทำไมไม่ดื่มแล้วล่ะ! ”
เทียนอู่ฮ่องเต้หยุดชะงักพลันหันไปมอง ทุกคนล้วนหันไปมองเช่นกัน
เมื่อหันมามองแล้วพวกเขาจึงพบว่ากูเฟยเยี่ยนค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากโต๊ะด้วยใบหน้าที่เมาสะลึมสะลือ นางลูบคราบน้ำบนใบหน้าออกแล้วส่งยิ้มแก่ทุกคน “ดื่มสิ! พวกเ้าทำอะไรกัน? ห้ามไปนะ! คืนนี้หากดื่มไม่เต็มที่ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามกลับไปทั้งนั้น! ดื่มต่อ! ”
เฉิงอี้เฟยเกิดความสงสัยเพราะอวิ้นกุ้ยเฟยกับคนอื่นๆ ก็ได้รับบทลงโทษที่ควรจะได้รับแล้ว แพทย์หญิงตัวน้อย้าจะทำอะไรกัน? เขาลังเลครู่หนึ่งและไม่กล้าหยุดนาง
เทียนอู่ฮ่องเต้เพียงคิดว่ากูเฟยเยี่ยนเมามากจนไม่ได้สติและอาละวาดออกมา เขาจึงออกคำสั่ง “ทหาร ส่งนางกลับไป! ”
ทันใดนั้นจู่ๆ กูเฟยเยี่ยนก็คว้าไปที่แก้วสุราบนโต๊ะแล้วหันไปหาองค์ชายแปดพร้อมกับพูดเสียงดัง “องค์ชายแปด คืนนี้ข้ายังไม่ได้คารวะสุราท่านเลย! ท่านดีกับข้าถึงเพียงนี้ ข้าต้องคารวะท่าน! ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เทียนอู่ฮ่องเต้ก็หยุดนางข้าหลวงที่เดินขึ้นไปทันที
องค์ชายแปดเริ่มไม่สบายใจ ในขณะที่เขากำลังจะเปลี่ยนหัวข้อของกูเฟยเยี่ยน กูเฟยเยี่ยนก็ชิงเอ่ยออกมาก่อน “องค์ชายแปดเพคะ ท่านยัง้าใบผีผาหรือไม่? ข้าอบไว้เยอะมาก หึๆ อีกสองวันข้าจะส่งไปให้ท่าน”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้สีหน้าขององค์ชายแปดก็เปลี่ยนไป นอกจากนี้สีหน้าของเทียนอู่ฮ่องเต้ก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
กูเฟยเยี่ยนลุกขึ้นเดินเซสองสามก้าวก่อนจะแกล้งทำเป็ล้มลงไปบนพื้น นางอิ่มอกอิ่มใจหลับตาลงแล้วไม่ลุกขึ้นอีกเลย
ั้แ่ที่กลับมาจากหมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์ เทียนอู่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้เรียกนางเข้าไปถามไถ่ในพระราชวังอีกเลย วันนี้นางเผยความสามารถในการดื่มสุราของตนเองออกมาโดยไร้ทางเลือก ซึ่งแน่นอนว่าเหตุนี้จะต้องสร้างความสงสัยต่อจวินฮั่นหยิ่น ดังนั้นนางจึงต้องชิงลงมือก่อน…