หญ้าเซียนขั้นกลางนั้นมีความยาวกว่าหญ้าเซียนขั้นล่างมาก น้ำปราณที่ผสมไว้คราวก่อนโหยวเสี่ยวโม่ใช้มันจนหมด จากนั้นเริ่มผสมใหม่ แต่ที่เขาผสมนั้นสำหรับรดหญ้าเซียนขั้นสี่ ส่วนขั้นห้าและขั้นหกเขาตั้งใจใช้น้ำปราณทั้งหมด
เมื่อจบเื่แปลงหญ้าเซียนแล้ว โหยวเสี่ยวโม่ก็เดินไปยังต้นหญ้าเซียนสิบกว่าต้นที่ขุดได้จากถ้ำน้ำแข็งคราวก่อน ผ่านการเลี้ยงดูด้วยน้ำปราณมาหลายวัน หญ้าเซียนทั้งสิบกว่าต้นสูงขึ้นเรื่อยๆ มีบ้างที่มีเมล็ดใหม่หล่นลงมา
พูดถึงเมล็ด โหยวเสี่ยวโม่นึกถึงเมล็ดอีกชุดที่พึ่งได้มา เมล็ดเ่าั้เขาไม่ได้ซื้อมาเอง แต่เป็ผลผลิตจากหญ้าเซียนที่เติบโต หญ้าเซียนทุกต้นผลิตเมล็ดออกมาได้ราวสามสี่เมล็ดต่อต้น ทั้งดีทั้งไม่ดี แต่ดูจากโดยรวม เมล็ดเสียน้อยกว่า
เนื่องจากเขาซื้อเมล็ดไว้เยอะ เมื่อได้เมล็ดมาจึงไม่ได้ใช้งาน กระนั้นเขาจึงเก็บเข้าตู้เก็บของ ตรวจสอบดูเมล็ดพวกนี้ดูสมบูรณ์ระยิบระยับกว่าของที่ขายด้านนอกเสียอีก
เพราะเขารู้ว่าหญ้าเซียนนั้นมีเมล็ด ดังนั้นจึงไม่ได้กังวลว่ามันจะมากน้อยแค่ไหน
ส่วนคราวก่อนที่เขาซื้อเมล็ดหญ้าเซียนขั้นกลางไว้มากมายนั้น ก็เพราะหากเขาซื้อเมล็ดทุกชนิดไว้เพียงไม่กี่เมล็ด เขาห่วงว่าผู้เฒ่านั่นคงไม่ยอมขาย เพราะหากจำนวนเพียงน้อยนิด ก็จะขายได้ไม่กี่ตังค์
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เขาจำเป็ต้องรอเมล็ดร่วงลงมาก่อนถึงจะปลูกใหม่ได้ เท่านี้ก็จะได้ไม่เสียเวลา แน่นอน นี่คือสถานการณ์่ที่เขามีเงินอยู่
กลับเข้าไปในบ้านไม้เล็กหลังนั้น โหยวเสี่ยวโม่จ้องมองไข่อ่อนสัตว์ปีศาจขั้นแปดใบนั้น
หมาป่าเืสีขาวจัดเป็ขั้นแปดซึ่งเป็สัตว์ปีศาจชั้นกลาง คราวก่อนที่ไปหอคัมภีร์เขาอ่านเจอในตำรา หมาป่าเืสีขาวเป็สัตว์ปีศาจที่มีพลังกายและความว่องไว ขนเป็สีขาวเงิน นุ่มนิ่มมาก หากมองข้ามเื่ความโเี้ของมันไป ถือได้ว่าเป็สัตว์ปีศาจที่มีความสวยงามอย่างไม่ต้องสงสัย
หมาป่าเืสีขาวที่โตเต็มวัย จะสูงราวสองเมตร สูงใหญ่กว่าหมาป่าที่เขารู้จักมากนัก เขี้ยวแหลมคม ว่ากันว่าสามารถฉีกกระชากเนื้อหนังของสัตว์ปีศาจขั้นเดียวกันได้ง่ายดาย ต่อสู้ได้เหี้ยมโหด
สัตว์ปีศาจที่เน้นการต่อสู้เช่นนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็มิตรคู่สัญญา
แต่มีจุดที่โหยวเสี่ยวโม่ใส่ใจเป็พิเศษ จากในตำราม้วนนั้น ระบุไว้ว่าเมื่อนานมาแล้วการจำกัดขั้นพลังของหมาป่าเืสีขาวไม่ได้อยู่แค่ขั้นแปด ที่กล่าวกันนั้นคือหมาป่าจอมเทพที่มีพลังสูงถึงขั้นสิบเอ็ดหรือสิบสอง
แต่จนถึงตอนนี้ สายเืบริสุทธิ์ของหมาป่าเืสีขาวมีอยู่น้อยเหลือเกิน จึงไม่เคยพบเจอที่มีพลังสูงกว่าขั้นแปดอีก เพราะจากที่รู้ หมาป่าเืสีขาวขั้นแปดนั้นสามารถแปลงกายได้
โหยวเสี่ยวโม่อุ้มไข่อ่อนสัตว์ปีศาจขึ้นมา เริ่มคิดเพ้อฝัน ไม่รู้ว่าไข่อ่อนปีศาจใบนี้จะมีสายเืบริสุทธิ์หรือไม่ หากใช่ นั่นก็หมายความว่าเขาอาจจะความหวังได้หมาป่าจอมเทพ?
สมมติว่าใช่จริง เขาคงละเมอหัวเราะกระทั่งในฝัน เสียดายที่เป็แค่การสมมติ
โหยวเสี่ยวโม่ก้มดูไข่สัตว์ปีศาจ ศิษย์พี่ใหญ่เคยบอกไว้ว่า การทำสัญญานั้นทางที่ดีให้ทำก่อนที่ไข่จะแตกออก หรือไม่ก็่เยาว์วัย เช่นนี้ตอนที่ร่ายสัญญานั้น สัตว์ปีศาจก็จะไม่ต่อต้านหนักมาก เพราะหากสัตว์ปีศาจเริ่มมีพลังต่อต้านรุนแรงเกินไป ก็จะควบคุมมันไม่ได้ ท้ายสุด อาจกลับกลายเป็ฟันเฟืองทำร้ายเราได้
ดูท่าแล้วไข่ใบนี้เห็นทีจะฟักออกมาได้ทุกเมื่อ เขาจำเป็ต้องทำสัญญาก่อนที่มันจะฟัก แต่ว่า…โหยวเสี่ยวโม่ก็นึกคำพูดที่เหลือของศิษย์พี่ใหญ่ขึ้นมาอีก
ปริมาณที่นักหลอมโอสถทุกคนสามารถทำสัญญากับสัตว์ปีศาจได้นั้นขึ้นอยู่กับปราณิญญาของแต่ละคน หากพลังปราณิญญายิ่งแข็งแกร่ง ก็ยิ่งทำสัญญากับสัตว์ปีศาจได้เยอะขึ้น ล้วนตัดสินจากปราณิญญาทั้งสิ้น
อย่างเช่น นักหลอมโอสถขั้นสาม ปกติแล้วสามารถทำสัญญากับสัตว์ปีศาจได้ประมาณสามตัว พลังของสัตว์ปีศาจขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเองในการทำสัญญา หากขั้นสูงกว่านั้นก็นับขึ้นไปขั้นละตัว แต่เนื่องจากทำได้จำกัด ดังนั้นนักหลอมโอสถจะไม่ทำสัญญากับสัตว์ปีศาจไปเรื่อย
โหยวเสี่ยวโม่เป็นักหลอมโอสถขั้นสาม พูดถึงแล้วเขาสามารถทำสัญญากับสัตว์ปีศาจได้สามตัว แต่ไม่รู้ว่าพลังของเขาในตอนนี้จะสามารถทำสัญญากับสัตว์ปีศาจขั้นแปดได้หรือไม่
ลังเลครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจลองดูสักตั้ง
โอกาสมักมาพร้อมกับการเสี่ยงอันตราย หากไม่กล้าลองแล้วจะเดินไปไกลกว่านี้ได้อย่างไรกัน?
เมื่อคิดเช่นนี้ โหยวเสี่ยวโม่ก็วางมือขวาลงบนไข่ปีศาจ พลังปราณิญญาค่อยๆ ส่งผ่านจากฝ่ามือเขาเข้าไปยังไข่ปีศาจ
ในนั้นมีสัตว์ปีศาจที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่ง ใจเต้นเป็จังหวะตุบๆๆ ยังไม่ฟักออกมา เขารู้สึกได้ถึงพลังความน่าเกรงขามที่แผ่ออกมาจากเส้นชีพจรของหมาป่า์
พลังปราณิญญานุ่มนวลค่อยๆ ทะลุผ่านเปลือกเข้าไป จากนั้นค่อยๆ ห่อหุ้มสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ไว้อย่างราบรื่น ไม่ได้เกิดการต่อต้านแต่อย่างใด เขารับรู้ได้กระทั่งสิ่งมีชีวิตข้างในนั้นส่งเสียงครางสบายตัว ราวกับกำลังส่งสัญญาณบางอย่าง
โหยวเสี่ยวโม่รีบใช้จังหวะนั้นส่งผ่านพลังปราณเข้าสู่หว่างคิ้วของเ้าหมาป่าเืสีขาวน้อย และทำสำเร็จอย่างน่าแปลกใจ ในเวลาอันรวดเร็วเขาก็รู้สึกได้ถึงสัญญาที่รวมเขากับสัตว์ปีศาจเข้าไว้ด้วยกัน เหมือนโซ่ตรวนที่มองไม่เห็น
โหยวเสี่ยวโม่ข่มความตื่นเต้นในใจที่แทบเด้งออกมา ค่อยๆ ถอนพลังปราณิญญาออกมาอย่างระมัดระวัง จากนั้นอุ้มไข่ขึ้นมาดูอย่างตื่นเต้นดีใจ นี่เป็ครั้งแรกที่เขาทำสัญญากับสัตว์ปีศาจ แถมยังเป็ว่าที่หมาป่าเืสีขาวขั้นแปด เทียบกับนักหลอมโอสถคนอื่นแล้ว เขาช่างโชคดีนัก!
แต่ที่ทำให้เขาแปลกใจคือ ทั้งขั้นตอนนี้มันราบรื่นกว่าที่คิด ไม่ได้ยากเย็นเหมือนที่ศิษย์พี่ใหญ่บอกแต่อย่างใด ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก
เนื่องด้วยเขากับสัตว์ปีศาจทำสัญญาร่วมกันแล้ว ตอนนี้โหยวเสี่ยวโม่จึงรับรู้พลังชีวิตที่ส่งออกมาจากไข่ใบนี้ สิ่งมีชีวิตนี้กำลังบอกเขาว่า อีกสามวันมันจะกำเนิดแล้ว
นี่ช่างรวดเร็วเสียจริง ก่อนหน้านี้ที่ได้ไข่ใบนี้มา แม้เขาจะรับรู้ถึงพลังชีวิตในไข่ใบนี้ได้ แต่เห็นได้ชัดว่ายังห่างไกลจากการกำเนิดพอสมควร คิดไม่ถึงว่าเอากลับมาเพียงไม่กี่วัน ก็ใกล้กำเนิดเสียแล้ว ไม่รู้ว่าหมาป่าเืสีขาวที่พึ่งเกิดจะมีรูปร่างหน้าตาเป็อย่างไร
ใจที่โอบอุ้มความตื่นเต้นนี้ โหยวเสี่ยวโม่หลอมยาทีเดียวติดกันสามวัน ในที่สุดก็ถึงวันกำเนิดของเ้าหมาป่าขาวตัวน้อย
สามวันมานี้หลิงเซียวไม่ได้มาหาเขา เขาเองก็ติดต่อหลิงเซียวไม่ได้ เลยไม่ได้เล่าเื่การกำเนิดของหมาป่าเืสีขาวให้เขาฟัง เช้าวันนั้นเขาจัดการทำธุระทุกอย่างเสร็จสรรพ แล้วเข้าห้วงมิติ
ไข่สัตว์ปีศาจใบนั้นถูกวางอยู่บนหลุมตรงกลางแท่นหินในสวน เพื่อเตรียมกำเนิด หมาป่าเืสีขาวให้พยายามดูดซับพลังปราณในห้วงมิติ เมื่อมันรู้สึกถึงการมาของโหยวเสี่ยวโม่ ไข่กลมมนนั้นก็กระดิกสองสามทีอย่างน่าตื่นตา ราวกับว่าดีใจกับการมาของเขายิ่งนัก
โหยวเสี่ยวโม่ไม่ได้เอะใจแต่อย่างใด สามวันมานี้ เขาได้เห็นความสดใสของสัตว์ปีศาจตนนี้ พูดตามตรงคือ สดใสเกินตัว
วันหนึ่งก่อนหน้านี้ ไข่สัตว์ปีศาจ้าเรียกความสนใจจากเขา จึงกลิ้งออกไปตรงแปลงหญ้าเซียน กลิ้งไปมาอย่างสนุกสนาน ทั้งยังโดดเด้งดึ๋งไปมาต่อหน้าเขา เล่นเอาใจหายใจคว่ำ หากเปลือกแตกออกก็ไม่สามารถกำเนิดได้ปกติสิ?
ในสายตาเขา เ้าสัตว์ปีศาจน้อยที่ไม่สามารถกำเนิดแบบปกติได้ ก็คงเหมือนเด็กที่คลอดก่อนกำหนด
หลังจากครั้งนั้น โหยวเสี่ยวโม่จึงห้ามมันะโขึ้นลงอีก ทำได้แค่โยกเยกไปมา
เ้าสัตว์ปีศาจน้อยก็เชื่อฟังดี จากนั้นก็ไม่ะโขึ้นลงอีกเลย ทุกครั้งที่เห็นเขาก็จะแค่โยกตัวไปมาแสดงความดีใจ
โหยวเสี่ยวโม่เดินมาอุ้มมันขึ้น ลูบหัวมัน เ้าสัตว์ปีศาจตัวจิ้วในเปลือกไข่นั้นออดอ้อนอยู่ในอกเขา สนิทสนมกันปานพ่อลูก มากกว่าจะเป็นายกับบ่าว
หลังออดอ้อนกันพักหนึ่ง โหยวเสี่ยวโม่ก็วางไข่สัตว์ปีศาจลง วันนี้เป็วันกำเนิดของเ้าสัตว์ปีศาจน้อย เขาเคยดูสารคดีสัตว์โลก รู้ว่าสัตว์ตัวนั้นจะรู้สึกดีมากกับคนที่มันเห็นหลังกำเนิดเป็คนแรก ดังนั้นเขาอยากเห็นเ้าสัตว์ปีศาจเกิดด้วยตาตัวเอง ให้มันเห็นเขาเป็คนแรก
เมื่อวางไข่ลงบนแท่นหิน มันก็กลิ้งหลุนๆ ลงหลุมตรงกลางเอง
เมื่อมันหยุดนิ่ง จู่ๆ ผิวเปลือกไข่ก็เปล่งแสงประกายสีขาวสว่างจ้าออกมา แสงนั้นกระพริบรัวๆ ถัดมา จู่ๆ พลังปราณในห้วงมิติก็เคลื่อนไหว พลังปราณทั้งหมดถูกกระตุ้นและพุ่งเข้าสู่ไข่สัตว์ปีศาจ
ภาพลักษณะนี้คงอยู่สักพัก จนเปลือกใกล้กะเทาะออกจึงหยุดลง จากนั้นเสียง ‘แคร่ก’ ดังขึ้น โหยวเสี่ยวโม่สะดุ้ง สายตาจดจ้องเปลือกไข่พบว่ามีรอยร้าว
รอยร้าวนั้นปริแยกออก พริบตาเดียวก็เกิดเป็รอยร้าวทั่วทั้งใบ ต่อด้วยอุ้งมือเล็กๆ เต็มไปด้วยขนค่อยๆ ตะกุยตะกายออกมาจากเปลือกไข่ อุ้งมือนั้นขยับไปมาสองทีถึงแตะอยู่บนพื้น จากนั้นก็เป็ส่วนหัวที่เปียกปอน ลืมตาเพียงครึ่งเดียว อุ้งมืออีกข้าง ตามด้วยเท้าหลังคลานออกมาจากเปลือกไข่
หมาป่าเืสีขาวตัวจ้อยคลานอยู่บนแท่นหิน มองไปยังโหยวเสี่ยวโม่แล้วส่งเสียงคราง ‘อุ๋ง’ สัตว์ปีศาจแรกเกิดนั้นไม่มีเรี่ยวแรง
โหยวเสี่ยวโม่ลองกดจุดที่หัวใจเต้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดีปรีดา
เ้าหมาป่าเืสีขาวตัวนี้มีสีขาวเงินทั่วทั้งตัว สวยงามเป็ที่สุด มันจะเป็เพื่อนของเขานับจากนี้ไป เขาคิดมาตลอดว่าหมาป่าเืสีขาวเป็สัตว์ดุร้าย คิดไม่ถึงว่าสัตว์ปีศาจแรกเกิดจะน่ารักเช่นนี้
ั์ตาสีเืสองดวงนั้นราวกับอัญมณีสีแดง เปล่งแสงประกายวิบวับ ขนเปียกปอนแนบตัว แต่ดูออกได้ว่า หากจับมันล้างตัวให้สะอาด ต้องสวยงามแน่นอน
โหยวเสี่ยวโม่อุ้มมันขึ้นมาอย่างทะนุถนอม เ้าสัตว์ปีศาจตัวน้อยก็ไม่ได้ขัดขืน กระนั้นเขาจึงพามันไปริมทะเลสาบ ใช้กะละมังไม้ตักน้ำปราณขึ้นมาครึ่งหนึ่ง แล้ววางเ้าสัตว์ปีศาจตัวน้อยลงไป ใช้น้ำปราณอาบน้ำล้างตัวให้มัน
ขณะที่เขาล้างตัวมันเสร็จจะอุ้มมันขึ้นมานั้น เ้าสัตว์ปีศาจน้อยก็แลบลิ้นออกมาเลียน้ำล้างตัวของตัวเองไปหลายที…
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้