บุรุษคนเดิมและเสียงในความทรงจำ เหนียนยวี่ตกอยู่ในภวังค์เล็กน้อย
หากไม่ถึงที่สุด นางก็คงไม่รู้ว่าคำมั่นสัญญาและถ้อยคำบอกรักพวกนั้น เป็เพียงแค่ลมปากไร้ความหมาย ความทรงจำพวกนั้น ในที่สุดก็ประจักษ์แจ้งจากโทษที่เขามอบให้ในคืนนั้น...
ความเกลียดชังไหลเวียนอยู่ในหัวใจ เืร้อนพลุ่งพล่าน...
"เช่นนั้นหรือเพคะ?"
เหนียนยวี่สบตาจ้าวเยี่ยน ั์ตาแย้มยิ้มเบิกกว้าง “ประเมินค่ามิได้ อีกทั้งท่านอ๋องหลียังขัดเงาหยกชิ้นนี้ด้วยตัวเอง ท่านอ๋องหลีช่างตั้งใจเหลือเกินนะเพคะ เหนียนยวี่ชอบมันมาก ชอบมากๆ เพคะ ท่านอ๋องจะมอบหยกชิ้นนี้กับเหนียนยวี่จริงหรือเพคะ?”
“แน่นอน หยกชิ้นนี้ทำมาให้เ้าโดยเฉพาะ” จ้าวเยี่ยนมองดูเหนียนยวี่อย่างไม่ละสายตา ความเย็นเยียบที่วาววับผ่านั์ตานางเมื่อครู่นี้ เป็แค่ภาพลวงตาของเขาเองหรือ?
อย่างไรเสีย เพียงพริบตาเดียว รอยยิ้มบนใบหน้าของเหนียนยวี่กลับทำให้เขางุนงงไปเล็กน้อย นี่เป็ครั้งแรกที่เหนียนยวี่ยิ้มให้เขาอย่างสดใส รอยยิ้มนั้นราวกับมีเวทมนตร์ดึงดูดผู้คนให้สั่นไหวอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็ไม่ปาน
“เช่นนั้น หยกนี้ให้หม่อมฉันแล้ว ก็เป็ของหม่อมฉันแล้วหรือ? เพียงแต่...”
ครั้นเหนียนยวี่เอ่ยถึงตรงนี้ คิ้วของนางพลันขมวดมุ่นเล็กน้อย นางมองเข้าไปในดวงตาของจ้าวเยี่ยน ััเห็นดวงตาของจ้าวเยี่ยนหรี่ลงเล็กน้อยจนยากสังเกตเห็น ในใจของเหนียนยวี่รู้สึกขำขันเล็กน้อย มุมปากนางยกยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ
มือที่กำลังลูบจี้หยกคลายออกเล็กน้อย จี้หยกเนื้อเนียนจึงค่อยๆ ร่วงหลุดจากมือ
เหนียนยวี่มองตรงไปยังดวงตาคู่นั้นของจ้าวเยี่ยน สายตาของเขาพาดผ่านความประหลาดใจ และค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็ความใ ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มรีบยื่นมือออกไปโดยสัญชาตญาณ พยายามคว้าจี้หยกที่ตกลงมา แต่...
แม้นเขาจะมือเร็วแค่ไหน สุดท้ายก็ยังช้าไป
‘เพล้ง’ เสียงแตกกระจายชัดเจนดังก้องไปทั่วทั้งห้อง เหนียนยวี่เลิกคิ้ว อย่างที่คิด สมกับที่เป็จี้หยกล้ำค่าคู่เมือง แม้แต่เสียงตอนตกแตกยังไพเราะเสนาะหู
ทว่าใบหน้าของจ้าวเยี่ยน...
รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาไร้พิษภัยก่อนหน้านี้แตกร้าวลงทันใด ใบหน้าดุร้ายเข้าแทนที่ ทั้งสายตายังฉายประกายโทสะอย่างเห็นได้ชัด
“เ้า…” จ้าวเยี่ยนมองไปที่จี้หยกที่แตกเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยบนพื้น ดวงตาแหลมคมพุ่งตรงมาที่เหนียนยวี่ หยกงามหายากขนาดนี้ แต่สตรีนางนี้กลับ...
“หม่อมฉัน...เหนียนยวี่สมควรตาย เมื่อครู่นี้เหนียนยวี่มือลื่น ไม่ระวัง...ทำให้จี้หยกตกแตกเสียแล้ว...”
ทันใดนั้น เหนียนยวี่พลันขมวดคิ้ว ท่าทีดูตื่นตระหนกและหวาดกลัว ทว่าในใจกลับรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่งที่เป็สาเหตุให้จ้าวเยี่ยนมีโทสะ
“เ้าตั้งใจทำมันชัดๆ!” จ้าวเยี่ยนะโเสียงดัง จ้องมองท่าทีของเหนียนยวี่ ไม่ระวังงั้นหรือ?
เมื่อครู่นี้ เขาเห็นกับตาตัวเอง นางเอามาจากไหนที่เอ่ยว่าไม่ระวัง!
โทสะในใจของจ้าวเยี่ยนมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดดูเหมือนว่าเขาไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป จ้าวเยี่ยนยกมือขึ้น คิดอยากจะบีบคอของเหนียนยวี่ ทว่าดูเหมือนเหนียนยวี่ผู้นั้น เตรียมใจมาล่วงหน้าแล้ว ยามที่มือเข้าไปใกล้นาง เหนียนยวี่กลับดวงตาเปล่งประกาย นิ้วมือของจ้าวเยี่ยนบีบขย้ำอากาศ และตัวของเหนียนยวี่กลับมายืนอยู่ด้านหลังของเขาแล้ว
“เข้าใจผิดแล้ว ท่านอ๋องหลีคลายโทสะลงก่อนเถิด เหนียนยวี่ไม่ได้เจตนาจริงๆ นะเพคะ หยกล้ำค่าคู่เมืองชิ้นนี้ เหนียนยวี่จะจงใจทำแตกได้อย่างไรเพคะ? หรือท่านอ๋องหลีจะรู้สึกเป็ทุกข์กับหยกชิ้นนี้ และ้าให้เหนียนยวี่ชดใช้หรือเพคะ? ทว่าคงไม่ได้ เมื่อครู่นี้ท่านอ๋องหลีเอ่ยอย่างชัดเจนแล้วว่า หยกชิ้นนั้นมอบให้เหนียนยวี่แล้ว...” เหนียนยวี่เอ่ยออกไปอย่างไม่เร่งรีบไม่เฉื่อยช้า นางยกยิ้มอย่างไม่ปิดบัง และไม่คิดปิดบัง
จ้าวเยี่ยนใเล็กน้อย เหนียนยวี่ผู้นี้...นางจงใจทำใบหน้าของเขา ‘จ้าวเยี่ยน’ แตก!
สมควรตาย!
จ้าวเยี่ยนแอบด่าทอ เขาคิดว่าทัศนคติของสตรีผู้นี้ที่มีต่อเขาจะเปลี่ยนแปลงไปทางที่ดีขึ้น แต่นึกไม่ถึงเลยว่า...
“แท้จริงแล้ว มีตรงไหนที่เปิ่นหวางทำผิดกับเ้า เ้าถึงเป็เช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่แม้แต่คำนึงถึงเจตนาดีของเปิ่นหวาง?” จ้าวเยี่ยนหันกลับไป โทสะในดวงตาของเขายังไม่ลดลง ราวกับสะสมอยู่ในใจมาเนิ่นนาน พร้อมะเิออกมาในครานี้
มีตรงไหนที่ทำผิดกับนางหรือ?
ในความทรงจำ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จ้าวเยี่ยนถามคำถามเช่นนี้กับนาง!
และครั้งหนึ่งนางเคยให้คำตอบที่ฟังดูสูงส่งกับเขา แต่วันนี้...
“ท่านอ๋องหลีอยากรู้จริงหรือเพคะ?” ดวงตาของเหนียนยวี่หรี่ลงเล็กน้อย ความเย็นเยียบผุดขึ้นในใจนาง ราวกับว่าในอากาศมีความเย็นเยียบ
จ้าวเยี่ยนรู้สึกถึงสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปของนาง ร่างกายของเขาพลันตื่นใเล็กน้อย
“ในเมื่อท่านอ๋องอยากรู้ หม่อมฉันก็จะบอกท่าน” เหนียนยวี่สบตาจ้าวเยี่ยน รอยยิ้มที่มุมปาก แววตาเ็า ความแปลกประหลาดแบบนั้น ทำให้วงคิ้วของจ้าวเยี่ยนขมวดมุ่นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของเหนียนยวี่ดังขึ้นตามมา...
"เพราะ...ในชาติที่แล้ว ท่านกับหม่อมฉันมีความเคียดแค้นต่อกันอย่างลึกซึ้ง..." เหนียนยวี่พูดช้าๆ มองดูสีหน้าของจ้าวเยี่ยนอย่างไม่ละสายตา ทว่าทันใดนั้น การสนทนาก็เปลี่ยนไป “ฮ่าๆ...ฮ่าๆ ท่านอ๋องหลี ท่านอ๋องพอใจกับคำตอบนี้หรือไม่?”
เหนียนยวี่จ้องมองจ้าวเยี่ยน แย้มยิ้มอย่างมีความสุข เหมือนกับเด็กหญิงที่เพิ่งเย้าแหย่ได้สำเร็จ เป็ความน่ารักอย่างหนึ่งที่จ้าวเยี่ยนไม่เคยเห็นในตัวนาง
อย่างไรก็ตาม ด้วยสีหน้าแววตาของนาง จ้าวเยี่ยนไม่สามารถบอกได้ว่า สิ่งที่นางเพิ่งพูดไปนั้นเป็เื่จริงหรือไม่
ความเคียดแค้นอย่างลึกซึ้งในชาติก่อนหรือ?
“ไร้สาระ!” จ้าวเยี่ยนสบถออกมาเ็า ใบหน้าของจ้าวเยี่ยนดำทะมึนยิ่งกว่าเดิม แทบทันทีที่ในใจของเขาได้ตัดสินใจไปแล้วว่า สตรีผู้นี้กลั่นแกล้งเขาชัดๆ!
ทว่าครั้นเหนียนยวี่ได้ยินความคิดเช่นนี้ มุมปากของนางพลันแย้มยิ้มประชดประชัน
ไร้สาระหรือ?
ก็ใช่สินะ ‘จ้าวเยี่ยน’ แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยเชื่อเื่ผีสางเทพเซียนอยู่แล้ว
แต่เขาไม่เชื่อ...
ไม่เชื่อก็ดี!
“คุณหนู...”
เสียงของชิวตี๋ดังเข้ามาจากข้างนอกห้อง ได้ยินเข้ามาถึงคนสองคนที่อยู่ในห้อง ดวงตาของจ้าวเยี่ยนตึงเครียดเล็กน้อย เขาที่ยังมีไฟโทสะ ดูเหมือนในใจยังคงไม่พอใจ กำลังคิดจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ทว่าเหนียนยวี่กลับหยิบยกท่าทีงดงามแบบคุณหนูตระกูลชั้นสูงขึ้นมา ชำเลืองมองเศษหยกบนพื้น พลางย่อกายคารวะให้จ้าวเยี่ยน “ขอบพระทัยในความปรารถนาดีของท่านอ๋องหลีเพคะ ขออภัยที่เหนียนยวี่ไม่สามารถไปกับท่านได้”
ท่าทางเช่นนั้นของเหนียนยวี่ เป็การยั่วยุจ้าวเยี่ยนอย่างเห็นได้ชัด ไม่ปกปิดท่าทีเลยแม้แต่น้อย
ในขณะนั้น ใบหน้าของจ้าวเยี่ยนยิ่งดำมืดขึ้น เหนียนยวี่เห็นทุกสิ่งในสายตา นางรู้สึกเยาะเย้ยในใจ นางที่กำลังหันหลังเดินออกไป ทว่าชายหนุ่มข้างหลังกลับคว้าข้อมือของเหนียนยวี่ไว้อย่างไม่ยอมแพ้...
ััที่เข้ามานั้น แทบจะไม่รู้ตัว เหนียนยวี่รีบสะบัดมือออกทันที แม้แต่จ้าวเยี่ยนเองยังคิดไม่ถึงเลยว่า นางจะสะบัดมือหนีออกจากฝ่ามือใหญ่ของเขาอย่างรวดเร็วเพียงนี้
ในมือว่างเปล่าขณะนั้นเอง หัวใจของจ้าวเยี่ยนพลันสั่นเทาอย่างมิอาจบรรยาย ดวงตาของเหนียนยวี่ชำเลืองมองชายหนุ่มจากหางตา แววตารังเกียจแวบเข้ามาในดวงตานาง ราวกับหลบเลี่ยงคนที่เลวร้ายไม่ทัน เหนียนยวี่ไม่สนใจชายหนุ่มในห้อง นางรีบก้าวเท้ายาวเดินออกจากห้องไปทันที
เมื่อเห็นแผ่นหลังของเหนียนยวี่ลับหายไปจากสายตา มือของจ้าวเยี่ยนที่ถูกสะบัดทิ้ง ยังคงแข็งค้างอยู่ในอากาศ ราวกับถูกร่ายคาถาทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้เป็เวลานาน
ฝ่ามือที่ว่างเปล่า รู้สึกสูญเสียเล็กน้อย เขา...เขาไม่ชอบความรู้สึกนี้อย่างที่สุด!
“เหนียนยวี่…” จ้าวเยี่ยนขบเขี้ยวเคี้ยวชื่อนาง เปลวไฟกองหนึ่งพลันลุกไหม้ในหัวใจ เขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่า แท้จริงแล้ว อารมณ์พวกนี้เป็ความโกรธหรือความปรารถนาที่จะพิชิตใจนางให้ได้
เขาคุ้นเคยกับการถูกคนอื่นเมินเฉยใส่มานานแล้ว ในสายตาของเขา ไม่ว่าผู้ใดที่เมินเฉยเขา เขาล้วนไม่ใส่ใจ ทว่าเมื่อเป็เหนียนยวี่ผู้นี้กลับต่างออกไป
ยิ่งนางดูถูกเขามากเท่าใด ในใจเขาก็ยิ่งมีความปรารถนา อยากจะทำให้นางเห็นถึงตัวตนของเขามากขึ้นเท่านั้น