ตอนนี้โรงเตี๊ยมก็เปิดมาได้ครึ่งเดือนแล้ว ผลตอบรับจากลูกค้าที่เข้าพักก็ดีเยี่ยม เพราะทุกคนที่เข้าพักโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ล้วนพูดเป็เสียงเดียวกันว่า โรงเตี๊ยมหลิ่งซานมีห้องพักที่นอนสบาย จนอยากขโมยที่นอนกลับบ้านไปด้วย
ลูกค้าจะนอนหลับไม่สบายได้อย่างไร เพราะที่นอนเ่าั้ซินเยว่อุตส่าห์เอามันออกมาจากในมิติ เป็ที่นอนอย่างดีหมอนที่ใช้หนุนก็ทำมาจากขนเป็ด น้ำหอมที่วางในห้องก็เป็กลิ่นที่ช่วยให้หลับสบาย ลงทุนมากถึงเพียงนี้ห้องพักจะไม่เต็มได้อย่างไร
ด้านร้านอาหารลูกจ้างของนางแทบจะเดินขาขวิดกันแล้ว พวกเขายกอาหารให้ลูกค้าแทบไม่ได้พัก ดูจากรายได้แล้วซินเยว่คิดว่าคงต้องให้เงินพิเศษกับพวกเขาเสียหน่อย ทางด้านคู่แข่งก็คงมีคนไม่พอใจอยู่บ้างแต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหว
เพราะน่าจะรู้กระมังว่าผู้อยู่เื้ัซินเยว่เป็ใคร จึงไม่มีใครกล้าออกหน้ามาหาเื่กับกิจการของนาง และร้านขายเครื่องประทินโฉมก็ได้นายช่างชางิเข้าไปทำการปรับปรุง อีกไม่กี่วันน่าจะเสร็จเรียบร้อยจากนั้นค่อยไปตรวจรับงานอีกที
วันนี้ซินเยว่กับมารดาชวนกันไปพักผ่อน เนื่องจากนางไม่อยากให้มารดาต้องคิดเื่ทำงานหาเงิน จึงเลือกไปนั่งเล่นที่ริมแม่น้ำซึ่งไหลผ่านเมืองเหลียงซาน นางได้ยินชาวบ้านพูดกันว่าที่นั่น มีทิวทัศน์และบรรยากาศร่มรื่นควรแก่การพักผ่อนที่สุด
สองแม่ลูกรวมถึงเสี่ยวหลานรถม้าที่เพิ่งไปซื้อมาทันที และที่นั่งของคนบังคับรถม้าก็เป็ลูกจ้างที่เพิ่งรับเข้ามา ทำหน้าที่พวกพวกนางไปยังริมแม่น้ำที่ว่าไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป
ผ่านไปสามเค่อในที่สุดก็มาถึงที่หมาย พอลงมาเห็นภาพทิวทัศน์ตรงหน้าซินเยว่ถึงกับร้องอุทานออกมาเบา ๆ เพราะมันสวยอย่างที่ชาวบ้านพูดจริง ๆ ซินเยว่ไม่รอช้าช่วยเสี่ยวหลานนำเสื่อไปปูใต้ร่มต้นไม้ กางโต๊ะ รวมถึงจัดแจงขนม น้ำ และอาหารที่นำมาด้วยอย่างครบครัน
เสี่ยวหลานมองมารดาของนางที่นั่งพักบนเสื่อ และมองไปรอบ ๆ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “นายหญิงเ้าคะท่านว่าบรรยากาศมันคุ้น ๆ เหมือนที่พระเอกกับนางเอกในงิ้วทำกันใช่ไหมเ้าคะ”
“หือ จริงด้วยเสี่ยวหลานหากเ้าไม่พูดข้าก็คงนึกไม่ออก อย่างที่เ้าว่าพวกเรามาพักผ่อนที่นี่เหมือนในงิ้วที่เคยดูจริง ๆ” ลี่หลินพูดขึ้นทันทีที่มองภาพรอบ ๆ ตัวของนาง
แล้วทั้งนายทั้งบ่าวก็นั่งเลียนแบบท่าทาง รวมถึงประโยคคำพูดจากในซีรี่ย์ที่เคยดู ถึงกับปรบมือหัวเราะอย่างสนุกสนานกันยกใหญ่ ซินเยว่เห็นเช่นนั้นจึงปล่อยให้นายบ่าวเล่นกันต่อไป ส่วนตัวของนางหยิบเก้าอี้ขนาดเล็กเดินไปนั่งเล่นชมทิวทัศน์ริมแม่น้ำแทน
อีกด้านหนึ่งของูเาซึ่งมีน้ำตกขนาดใหญ่ ที่อยู่เหนือแม่น้ำขึ้นไปกลับมีเหตุการณ์รุนแรงหนึ่งเกิดขึ้น “นายท่านพวกมันหนีไปทางด้านนั้นขอรับ” บุรุษที่แต่งกายคล้ายองครักษ์เอ่ยกับผู้เป็เ้านาย
“จิ้งถงไปจับตัวหัวหน้ามันมาให้ได้ ส่วนพวกที่เหลือฆ่าทิ้งให้หมด” ผู้เป็นายออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ขอรับนายท่าน” จิ้งถงรับคำสั่งและรีบตามไปจัดการทันที เพียงไม่นานก็มีเสียงดังจากการต่อสู้เกิดขึ้นอีกครั้ง
“หวงอี้ซวนเ้าขลาดกลัวที่จะต้องต่อสู้กับข้าด้วยตัวเองเช่นนั้นรึ หรือเพราะยาพิษทำให้เ้าสูญเสียวรยุทธ์ไปแล้ว ฮ่า ๆ ๆ” ชายชุดดำที่จิ้งถงตามล่าเอ่ยขึ้นด้วยถ้อยคำเย้ยหยัน
ด้านบุรุษที่ได้ยินถ้อยคำนั้นทำเพียงยกยิ้มเล็กน้อย จนอีกฝ่ายยังแอบคิดในใจว่า ‘แค่ยืนออกคำสั่งอยู่เฉย ๆ ก็ยังหล่อเหลาอีกหรือนี่’
“ยาพิษที่เ้าได้รับนั้นรุนแรงมากไม่มีทางรักษาได้ ดังนั้นในเมื่อเ้าใกล้จะตายก็จงตายด้วยน้ำมือของข้าเสียเถิด” พูดจบชายชุดดำก็พุ่งเข้าไปเพื่อสังหารหวงอี้ซวนทันที
ทั้งสองต่อสู้กันด้วยมือเปล่าผลัดกันรุกผลัดกันรับ แต่ไม่ว่าชายชุดดำจะพยายามรุกไล่เท่าไหร่ ฝ่ายที่ได้เปรียบกลับเป็หวงอี้ซวน และเขาเป็ฝ่ายพลาดท่าจนร่างกายสะบักสะบอมเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ
'บัดซบ!! ทั้งที่มันถูกพิษที่ร้ายแรงของเผ่าเข้าไป เหตุใดยังต่อสู้ได้เก่งกาจเช่นเดิมอยู่เล่า' ชายชุดดำจ้องมองไปที่หวงอี้ซวนที่ยังคงมีท่าทีสง่างาม บนร่างกายไร้ร่องรอยขีดข่วน ไหนจะใบหน้าหล่อเหลานั่นยิ่งเห็นก็ยิ่งเพิ่มความหงุดหงิด เขาจึงพยายามเค้นพลังภายในเฮือกสุดท้าย เพื่อหวังจัดการกับหวงอี้ซวนให้ตกตายไปเสีย
“นายท่าน ระวัง!!” จิ้งถงเห็นถึงความผิดปกติของผู้เป็นาย ที่มีอาการพิษกำเริบขึ้นมาใน่เวลาคับขัน
แต่หวงอี้ซวนไม่อาจตอบโต้ได้ เพราะตอนนี้พิษได้กำเริบจนทำให้ร่างของเขาขยับไม่ได้ เพียงชั่วพริบตาก็มีฝ่าเท้าของอีกฝ่ายกระแทกเข้าหน้าอกอย่างแรง ทำให้ร่างของเขากระเด็นร่วงลงน้ำตกไปทันที
“นายท่าน!!” จิ้งถงเรียกผู้เป็นายด้วยความใ
ครั้งนี้หวงอี้ซวนไม่สามารถควบคุมพิษที่อยู่ในร่างกายได้อีกแล้ว เมื่อก่อนเขาจะรู้ว่าพิษกำเริบเวลาใด จึงสามารถหลบเลี่ยงการประมือกับศัตรูได้ แต่ตอนนี้เขาไม่อาจรู้ได้เลย จึงนึกถึงคำพูดของท่านหมอที่เคยบอกกับเขาไว้ว่า 'เมื่อพิษในตัวของท่านกำเริบไม่โดยไม่รู้ตัวล่วงหน้า เมื่อนั้นชีวิตของท่านก็ใกล้จะดับสูญ’ ได้ยินเช่นนั้นเขาก็ทำใจไว้แล้ว
“ตู้มมม!!” ร่างของหวงอี้ซวนร่วงลงกระแทกกับผืนน้ำด้านล่างอย่างแรง จนผืนน้ำแตกกระจายเป็วงกว้าง
ยามนี้หวงอี้ซวนยังขยับตัวไม่ได้ ร่างของเขาลอยตามกระแสน้ำมาเรื่อย ๆ ถือว่ายังโชคดีอยู่บ้าง ยามที่ร่วงลงมาเขาหงายหลังไม่เช่นนั้นคงไม่มีชีวิตรอดได้อีก จนกระทั่งได้ยินเสียงของเด็กสาวคนหนึ่งะโเสียงดังอยู่บนฝั่งว่า
“เฮ้ยยย!!! นั่นตัวอะไรลอยมากับน้ำกันนะ”
ซินเยว่ที่นั่งพักผ่อนอย่างสบายอารมณ์ เมื่อเห็นบางอย่างอยู่ไม่ไกลสายตา จึงคิดอุปกรณ์เพื่อลากสิ่งที่เห็นเข้าฝั่ง ก็พบว่าเป็บุรุษรูปร่างกำยำแต่เขาหมดสติไปแล้ว
“ท่านแม่ ๆ ๆ มาช่วยข้าทางนี้หน่อยเ้าค่ะ” ซินเยว่ร้องะโขอความช่วยเหลือจากมารดาด้วยเสียงที่ดังเป็พิเศษ
“เยว่เอ๋อร์เกิดอันใดขึ้นกับเ้างั้นหรือ มีสัตว์มีพิษกัดเ้าหรือไม่มาให้แม่ดูหน่อยเร็วเข้า ว่าแต่เ้าจับตัวมันไว้ได้ไหมเสี่ยวหลานรีบไปก่อไฟเร็วเข้าบุตรสาวข้าจับสัตว์ร้ายตัวใหญ่ได้ เอ๊ะ!! ไม่สิเยว่เอ๋อร์เ้าเรียกให้แม่มาช่วยเ้าทำอันใดนะ” ลี่หลินตั้งสติได้ก็เปลี่ยนคำถามกับบุตรสาวเสียใหม่
เสี่ยวหลานที่วิ่งตามมาก็ร้องขึ้นและพูดด้วยความกลัว “ว๊ายยยย!! คุณหนูเหตุใด้คนผู้นี้ริมฝีปากถึงได้ดำคล้ำเช่นนี้ หรือว่าใกล้จะตายแล้วเ้าคะ”
หวงอี้ซวนได้ยินทุกอย่างแต่เขาไม่มีแรงที่จะตอบโต้ออกไป ได้แต่คิดในใจเท่านั้นว่าตนยังไม่ตาย ส่วนริมฝีปากที่ดำคล้ำเป็เพราะพิษกำเริบเท่านั้น
“ท่านแม่ท่านอาผู้นี้ยังหายใจอยู่เ้าค่ะ” ซินเยว่มองมารดาที่กำลังตรวจดูาแบนร่างของบุรุษปริศนา
“ตามตัวมีเพียงรอยแผลขีดข่วนเล็กน้อย เยว่เอ๋อร์เ้าไปเอากล่องยามาช่วยทำแผลให้เขาก่อนเถิด” ลี่หลินบอกกับบุตรสาวให้นางไปเอากล่องยาที่รถม้า แต่ความเป็จริงก็คือหยิบออกมาจากในมิติต่างหาก
“กล่องยามาแล้วเ้าค่ะท่านแม่” ซินเยว่วิ่งกลับมายื่นกล่องยาให้มารดาและมีเสี่ยวหลานคอยช่วยทำแผลใส่ยาให้กับบุรุษผู้นั้น
“เยว่เอ๋อร์แม่ว่าเรารีบพาเขาไปส่งที่โรงหมอดีกว่านะลูก แม้ภายนอกจะาเ็ไม่มากแต่ภายในพวกเราไม่อาจคาดเดาได้ ควรให้ท่านหมอช่วยตรวจรักษาเถิด” ลี่หลินบอกกับบุตรสาวซึ่งนางพยักหน้ารับคำของตน
จากนั้นก็ช่วยกันยกคนเจ็บขึ้นรถม้าก่อนจะเก็บข้าวของอื่น ๆ ให้เรียบร้อย เมื่อดูว่าไม่ลืมสิ่งใดลูกจ้างที่เฝ้ารถม้า ก็มาช่วยแบกคนเจ็บไปวางไว้ด้านในและบังคับรถม้าพาคนเจ็บไปส่งโรงหมอทันที
การกระทำของสตรีทั้งสามนั้นตกอยู่ในสายตาของบุรุษที่แอบดูพวกนางอยู่ พวกเขารีบตามมาเมื่อรับรู้ว่าเกิดเื่ขึ้นกับอาจารย์ของตน
“คุณชายนั่นมันเ้าตัวแสบที่เคยเจอในจวนของท่านนี่ข้าจำนางได้” เทียนฉีเอ่ยกับผู้เป็นาย
“อืม ข้าเห็นแล้ว” เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยมองตามรถม้าของเด็กสาวไป และเอ่ยถามผู้ที่มาถึงทีหลังทันที
“เ้าหายไปไหนมาจิ้งถง”
“เรียนคุณชายข้าน้อยตามจับตัวสายลับของพวกทูเจี๋ย นายท่านสั่งไว้ว่ายังไงก็ต้องตามจับตัวมาให้ได้ เมื่องานสำเร็จจึงรีบตามมาขอรับ” จิ้งถงรีบอธิบายทันทีที่ลูกศิษย์ของนายท่านเอ่ยถาม
“เ้าตามไปดูว่าพวกนางจะพาท่านอาจารย์ไปที่ใด จากนั้นก็พาตัวอาจารย์กลับจวนข้ากับท่านหมอจะไปรอเ้าอยู่ที่นั่น”
“ขอรับคุณชาย” จิ้งถงรับคำก็รีบตามรถม้าของซินเยว่ไป
“เทียนฉีเ้าไปสืบเื่ของพวกนางมาให้ข้าอย่างละเอียด อย่าได้ตกหล่นแม้แต่เื่เล็ก ๆ น้อย ๆ เด็ดขาด” เขาอยากรู้เื่ราวของเด็กสาวคนนี้ที่ดูจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว
“ขอรับคุณชาย” เทียนฉีรับไปจัดการตามคำสั่งของเ้านาย
ณ โรงหมอในเมืองเหลียงซาน
“ท่านหมอ ๆ ข้าพาคนเจ็บมาส่งเ้าค่ะ” เสี่ยวหลานรีบลงไปแจ้งกับผู้ช่วยท่านหมอทันทีที่มาถึง
“พวกท่านพาคนเจ็บเข้ามานอนที่เตียงข้างในเถิดขอรับ ท่านหมอเพิ่งว่างจากการรักษาคนป่วย เดี๋ยวข้าจะรีบไปตามมาให้ขอรับ” ผู้ช่วยท่านหมอเห็นว่ามีคนเจ็บนอนหมดสติ ก็หันหลังกลับเข้าไปรายงานกับท่านหมอ ที่เพิ่งได้นั่งพักยังไม่ถึงหนึ่งเค่ออย่างเร่งรีบ
