ทั้งชีวิตนี้จะไม่ยอมคุกเข่าให้ใครทั้งนั้น!
หลัวเลี่ยไม่ได้ปลดปล่อยพลังออกมา แต่กลับให้ความรู้สึกว่าเขาแข็งแกร่งมาก
ทุกคนอาจคิดว่าหลัวเลี่ยโง่เขลาและไม่อดทนต่อความอัปยศอดสู แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าหลัวเลี่ยได้มองทุกอย่างอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว เพราะหอการค้าฟ้านเทียนรู้ว่าเขาได้รับปรากฏการณ์นวัล้อมเดือน และยังรู้อีกว่าเขามีเคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดิน ด้วยความสามารถของเขาทั้งหมดที่กล่าวมานั้น พวกหอการค้าฟ้านเทียนจะปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่จริงๆ หรือ?
ก็คงจะเป็ไปได้หากคนในหอการค้าฟ้านเทียนมีแต่คนโง่เขลา
แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครในหอการค้าฟ้านเทียนที่เป็คนโง่ พวกเขาจะสังหารหลัวเลี่ยอย่างแน่นอนเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
“แข็งข้อเกินไปก็ไม่ดี” หลิวจื่ออั๋งถอนหายใจ เขารู้จักหลัวเลี่ยดี และคิดที่จะรับหลัวเลี่ยเป็ศิษย์ เพียงแต่ว่าตอนที่อยู่ที่คุกกลืนอสูรเขารู้สึกเหมือนถูกหลัวเลี่ยหลอกใช้ จึง้าระบายความโกรธ เลยให้หลัวเลี่ยมาที่แคว้นจินหลานก่อน จากนั้นจึงค่อยรับหลัวเลี่ยเป็ศิษย์ แต่ใครจะคิดว่าสิ่งต่างๆ จะพัฒนามาจนถึงจุดนี้ เขาชื่นชมในความแน่วแน่ของหลัวเลี่ยมาก สิ่งนี้ทำให้เขาเสียใจที่ไม่ได้รับหลัวเลี่ยเป็ลูกศิษย์ั้แ่แรก
หลัวเลี่ยอาจจะดูโง่เง่า แต่ก็ต้องพูดว่าเขาช่างน่านับถือจริงๆ
หลัวเลี่ยพูดอย่างราบเรียบ “คนเราต้องต่อสู้เพื่อลมหายใจเสมอ”
หลิวจื่ออั๋งมองหลัวเลี่ยอย่างลึกซึ้ง จากนั้นจึงส่ายหัวและไม่ได้พูดอะไรออกมา
หลังจากนั้นไป๋หลี่ชางก็หายใจากความโกรธเื่ที่หลัวเลี่ยใช้ตราราชันข่งเชวี่ย
หอการค้าฟ้านเทียน้าตราราชันข่งเชวี่ยมาก และไป๋หลี่ชางก็รับปากแล้วว่าจะเอาตราราชันข่งเชวี่ยนี้มาให้ได้ แต่เขาไม่คิดเลยว่าไม่เพียงจะเอามาไม่ได้ แต่ยังก่อหายนะให้กับหอการค้าฟ้านเทียนอีกด้วย
หากหอการค้าฟ้านเทียนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของหลัวเลี่ย บรรพชนข่งเซวียนก็จะทำลายหอการค้าฟ้านเทียนด้วยตนเองทันที
สำหรับบรรพชนข่งเซวียนแล้ว หอการค้าฟ้านเทียนก็เป็เหมือนมดที่สามารถขยี้ให้ตายได้อย่างง่ายดาย
ในครั้งแรกที่ได้ยิน ไป๋หลี่ชางรู้สึกราวกับว่าเืทั่วร่างกายพุ่งไปที่ศีรษะ และศีรษะของเขากำลังจะะเิ เื่นี้มันน่าใจริงๆ
ด้วยเหตุนี้หอการค้าฟ้านเทียนก็เหมือนมีดาบจ่ออยู่ที่คอแล้ว หากไม่ระวังให้ดีก็อาจทำให้หัวหลุดออกจากบ่าได้
เดิมทีเขาคิดว่าจะสามารถจัดการหลัวเลี่ยได้ง่ายๆ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็เขาที่โดนเล่นงานเสียเอง อีกทั้งาแในครั้งนี้กลับเจ็บแสบเสียจนอยากร้องไห้ออกมา
“เ้าอยากตายทั้งที่ยังยืนอยู่หรือ? เ้าอยากต่อสู้เพื่อลมหายใจของเ้าหรือ?” ไป๋หลี่ชางะโอย่างกระวนกระวาย “เ้าจงจำข้าไว้ ข้าจะบอกให้ว่าข้าจะทำให้เ้าตายทั้งที่ยังคุกเข่าอยู่ให้ได้ เ้าจะต้องอับอายจนกระทั่งตอนตาย ข้าจะไม่มีวันให้เ้าตายดีแน่”
หลัวเลี่ยตอบกลับอย่างใจเย็น “เ้าจะทำได้หรือ”
ไป๋หลี่ชางโกรธจนตาถลนออกมา “เ้าก็แค่อาศัยว่ามีตราราชันข่งเชวี่ยปกป้องอยู่ ถ้าเ้าไม่มีสิ่งนี้ ข้าคงขยี้เ้าให้ตายได้ด้วยมือเดียวแล้ว”
หลัวเลี่ยพูดอย่างเ็า “ตาเฒ่า เ้าก็อาศัยที่ตัวเองอายุมากกว่าเช่นกัน ลองถ้าเ้าอายุเท่าข้าสิ ข้าคงสังหารเ้าได้อย่างง่ายดาย”
“ข้าจะฆ่าเ้า” ไป๋หลี่ชางพูดด้วยเสียงที่น่ากลัว
“เ้ากล้าหรือ” หลัวเลี่ยเย้ยหยัน
ไป๋หลี่ชางขบกรามด้วยความโกรธแค้น
ทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนปรากฏตัวขึ้น
นักรบสิบสามคนซึ่งสวมชุดเกราะสีดำและหน้ากากสีดำเดินเข้ามาหลังจากที่พวกเขาซ่อนตัวสังเกตการณ์อยู่ในความมืด
ทันทีที่พวกเขาปรากฏตัว หัวหน้ากองกำลังนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อทักทายไป๋หลี่ชาง โดยกล่าวว่า “ผู้าุโไป๋หลี่ สถานะของท่านสูงส่ง เพียงเพื่อกำจัดหลัวเลี่ยจะให้ท่านลงมือด้วยตนเองได้อย่างไร ข้าเต็มใจทำหน้าที่นี้แทนท่าน”
ไป๋หลี่ชางที่กำลังโกรธเกรี้ยวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และสงบอารมณ์ลง เขารู้สึกขอบคุณเล็กน้อยที่นักรบสิบสามอินทรีดำออกหน้าแทนเขา เพราะอย่างน้อยก็ทำให้เขาสามารถรักษาเกียรติไว้ได้ มิฉะนั้นคำพูดของหลัวเลี่ยคงทำให้เขาโกรธจนขาดสติ
“พวกเ้าเป็ใคร” ไป๋หลี่ชางถาม
“พวกเราคือกลุ่มสิบสามอินทรีดำที่อยู่ภายใต้อ๋องชวนหลงแห่งแคว้นเป่ยสุ่ย” ผู้นำกลุ่มกล่าว
ไป๋หลี่ชางเปล่งเสียงอ้อออกมาหนึ่งครั้ง เขาเคยได้ยินเื่ราวเกี่ยวกับชงโหวหู่และหลัวเลี่ยมาบ้าง
เสียงฝีเท้าดังขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็มีคนเข้ามา
ผู้ที่มาในครั้งนี้คือผู้ที่ลูกชายของนางถูกเขาสังหารแล้ว นางคือเลี่ยหงหยุนจากตระกูลเลี่ยแห่งแคว้นซวนิ และผู้ติดตามของนางก็คือนักดาบทั้งเจ็ดที่มีชื่อเสียงที่สุดของตระกูลเลี่ย
“พวกท่านกลุ่มสิบสามอินทรีดำไม่ต้องลงมือ หลัวเลี่ยผู้นี้ฆ่าลูกชายของข้า ดังนั้นข้าจะจัดการเขาด้วยตัวเอง” เลี่ยหงหยุนพูดอย่างเ็า
เมื่อพวกเขาทั้งสองกลุ่มปรากฏตัวขึ้น คนอื่นที่อยู่รอบๆ ก็ค่อยๆ ตื่นตัวขึ้นมา
หอการค้าฟ้านเทียนก็ไม่เหมาะที่จะเคลื่อนไหวอะไรมากนัก เพราะพวกเขากลัวตราราชันข่งเชวี่ยของหลัวเลี่ย
ถ้ามีใครที่สามารถสังหารหลัวเลี่ยแทนหอการค้าฟ้านเทียนได้ก็คงจะได้รับไมตรีจากหอการค้าฟ้านเทียนแล้ว เพราะอย่างน้อยทางหอการค้าฟ้านเทียนก็คงจะกล่าวขอบคุณอยู่บ้าง
ในมุมมองของคนที่กำลังชมเหตุการณ์นี้ พวกเขาคิดว่าหอการค้าฟ้านเทียนมีสถานะสูงส่ง หากสามารถได้รับคำขอบคุณจากพวกเขาแล้ว สิ่งนี้ย่อมมีประโยชน์อย่างมาก
จากนั้นองค์ชายสามแห่งแคว้นจินหลานก็ะโออกมาเช่นกัน
“หลัวเลี่ย เ้าขโมยหยาดจันทร์นิรวานของแคว้นจินหลานไป ดังนั้นข้าจะจัดการเ้าเพื่อแผ่นดินจินหลาน” องค์ชายสามะโ
องค์ชายเก้าถึงจะตอบสนองช้ากว่า แต่เขาก็ะโออกมาเช่นกัน เขา้ากำจัดหลัวเลี่ยเพราะเขาพ่ายแพ้หลัวเลี่ย
ในเวลาเดียวกันนี้ ทั้งผู้ที่เคยพบหลัวเลี่ยและผู้ที่ไม่เคยพบหลัวเลี่ยต่างก็ออกมาประณามหลัวเลี่ย
ผู้ที่ไม่รู้เื่ราวล้วนคิดว่าหลัวเลี่ยทำให้ทุกคนโกรธ
แท้จริงแล้วพวกเขาแค่เห็นแก่ตัว จึงแสดงออกถึงธรรมชาติของมนุษย์ที่น่ารังเกียจ
ในขณะเดียวกัน เสวี่ยปิงหนิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นางก้าวออกไปข้างหน้าครึ่งก้าว เพื่อต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับหลัวเลี่ย นางยื่นมือออกมาและเอื้อมไปจับมือของหลัวเลี่ย นางแสดงจุดยืนของตนเองด้วยการกระทำไม่ใช่คำพูด
และแน่นอนว่ายังมีคนที่รังเกียจพฤติกรรมของคนเหล่านี้
เช่นหลิวจื่ออั๋ง
เขาเคยคิดดีกับหลัวเลี่ยมาก่อน แต่เพราะสถานการณ์ในตอนนั้นทำให้เขาไม่ได้รับหลัวเลี่ยเป็ศิษย์ และความแข็งแกร่งของหลัวเลี่ยในตอนนี้ช่างน่าชื่นชมจริงๆ
“ฮึ่ม!”
หลิวจื่ออั๋งส่งเสียงออกมาอย่างเ็า ก่อนจะกล่าวว่า “ข้าเป็คนจัดการให้หลัวเลี่ยมาที่นี่ เพื่อเป็ตัวแทนแห่งแคว้นจินหลานเข้าร่วมการประลองยุวราชันสิบแคว้น แต่ดูท่าจะมีคนไม่เห็นหัวข้าและอยากหักหน้าข้าเสียแล้ว”
ผู้คนที่ส่งเสียงโห่ร้องต่างตกตะลึงทันที
พวกเขาคิดว่าหลัวเลี่ยทำให้หอการค้าฟ้านเทียนไม่พอใจ และหลิวจื่ออั๋งยังไว้หน้าไป๋หลี่ชางจึงไม่ออกหน้าให้หลัวเลี่ย ดังนั้นพวกเขาจึงกล้าที่จะใช้โอกาสนี้เข้าร่วมกับไป๋หลี่ชาง แต่ใครจะคิดว่าสุดท้ายแล้วหลิวจื่ออั๋งก็ยังคงออกหน้าให้หลัวเลี่ยอยู่ดี
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็กลุ่มสิบสามอินทรีดำ หรือเลี่ยหงหยุนที่เป็ผู้นำนักดาบทั้งเจ็ด พวกเขาทั้งหมดล้วนล่าถอยกลับไปด้วยความอึดอัดใจ
และสิ่งที่ทำให้พวกเขากลัวก็คือไป๋หลี่ชางที่พูดอย่างเ็าว่า “หลัวเลี่ยจะต้องตาย แต่ไม่ใช่ตายด้วยมือของผู้อื่น ข้าในฐานะหอการค้าฟ้านเทียนจะนำหัวของมันมาสังเวยหอการค้าฟ้านเทียนของข้าให้ได้ ดังนั้นก่อนการประลองยุวราชันสิบแคว้น ใครหน้าไหนก็ห้ามฆ่ามันทั้งนั้น หากใครฆ่ามัน ข้าจะถือว่าคนผู้นั้นเป็ศัตรูของหอการค้าฟ้านเทียน”
“พวกเราจะฆ่าหลัวเลี่ยในการประลองยุวราชันสิบแคว้น และจะไม่ละเมิดกฎของการประลอง เราจะไม่ใช้คนจากหอการค้าฟ้านเทียน ไม่ละเมิดข้อกำหนดของคำสั่งตราราชันข่งเชวี่ย และข้าจะฆ่าเ้าอย่างเปิดเผย เพื่อประกาศให้คนทั้งโลกนี้รู้ว่าไม่อาจิ่เกียรติหอการค้าฟ้านเทียนของข้าได้”
ไป๋หลี่ชางมีประสบการณ์มาก และสามารถจับใจความสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
อาจเป็เื่ง่ายที่จะฆ่าหลัวเลี่ยด้วยความช่วยเหลือจากเลี่ยหงหยุนและกลุ่มสิบสามอินทรีดำ แต่ผู้คนจะคิดอย่างไรกับพวกเขา?
แม้ว่าเขาจะวางแผนปล้นตราราชันข่งเชวี่ยอย่างไร้ยางอาย แต่กลับล้มเหลว ตรงกันข้ามเขากลับถูกขู่ไม่ให้ลงมือเคลื่อนไหว ซึ่งทุกอย่างมีแต่จะทำลายชื่อเสียงของหอการค้าฟ้านเทียนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเขาไม่สามารถจัดการเื่นี้ได้ เขาคงเป็เป้าหมายให้ผู้าุโคนอื่นๆ โจมตีแน่
และสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้คือการรักษาชื่อเสียงของหอการค้าฟ้านเทียน มีเพียงการทำตามกฎให้สำเร็จเท่านั้นจึงจะสามารถแสดงถึงความแข็งแกร่งได้
เมื่อหลัวเลี่ยได้ยินว่าไป๋หลี่ชางกำลังจะสร้างเื่วุ่นวายในการประลองยุวราชันสิบแคว้น เขาก็รอคอยจริงๆ
ด้วยพลังผู้ฝึกตนระดับที่แปด เคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดินด้านนที เคล็ดวิชาั์ และไพ่ลับคือวิชามหาหลุนิที่อยู่ในมือของเขา ด้วยทักษะวิชายุทธ์ทั้งหมดนี้ เขาสามารถชนะในการประลองยุวราชันได้แล้ว
หลัวเลี่ยเผชิญหน้ากับไป๋หลี่ชาง เขายิ้มและพูดว่า “ใครจะอยู่ใครจะไปก็ยังไม่แน่”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้