ม่านอู่ที่สวมผ้าโปร่งกำลังสั่งให้สาวใช้จุดตะเกียงในห้อง เมื่อมองออกไปด้านนอกก็พบว่าอวิ๋นจื่อมาหา นางจึงแสร้งทำเป็ตื่นเต้นเล็กน้อย
“โอ้ หาได้ยากจริงๆ ที่เ้าจะออกมาพบข้า”
แม้ว่าน้ำเสียงของนางจะฟังดูไม่เป็มิตรนัก แต่ใบหน้าของนางกลับเต็มไปด้วยความกังวล
อวิ๋นจื่อมองไปที่สาวใช้รอบตัวนาง และจากนั้นก็มองไปที่ม่านอู่
ม่านอู่จึงโบกมือให้สาวใช้ของนางออกไป “วันนี้ข้าได้ยินมาว่ามีคนตาย เ้าคงไม่ได้มาที่นี่เพราะเื่นี้ใช่หรือไม่?”
ดวงตาของอวิ๋นจื่อเปลี่ยนเป็สีแดงในทันที จากนั้นนางก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า
“จินเหนียงมีความสำคัญต่อข้ามาก แต่ตอนนี้นางจากไปโดยไม่ได้กล่าวลาข้าจึงรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ หวังว่าแม่นางคงไม่หัวเราะเยาะ”
ม่านอู่มองดูเล็บที่ทาสีแดงของอวิ๋นจื่อและกล่าวด้วยท่าทีสบายๆ ว่า “ข้าได้ยินมาว่าชิงเกอเป็ผู้ลงมือ”
อวิ๋นจื่อพยักหน้า
ม่านอู่กล่าวขึ้นอีกครั้ง “เ้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือจากข้าหรือ?”
อวิ๋นจื่อคิดอย่างนั้นจริงๆ แต่นางอายที่จะพูดออกมา นางจึงอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่ง ท่าทางของนางเต็มไปด้วยความอึดอัด นางไม่รู้ว่าจะนั่งลงดีหรือไม่
ม่านอู่ลุกขึ้นและโน้มตัวเข้าหาอวิ๋นจื่อพร้อมกับกระซิบว่า “ข้าเป็คนของฮ่องเต้แห่งแคว้นซินหลัว เ้าไม่จำเป็ต้องกังวล”
หลังจากพูดจบม่านอู่ก็หัวเราะเบาๆ “ในเมื่อเ้ามาถึงที่นี่แล้วพวกเราก็นั่งลงพูดคุยกันสักครั้งเถอะ เหตุการณ์ก่อนหน้านี้เป็ความผิดของข้าเอง ข้าแค่อยากสนิทสนมกับเ้ามากเกินไปจึงเป็เหตุให้พวกเราต้องผิดใจกัน”
อวิ๋นจื่อค่อยๆ นั่งลง
ม่านอู่มีลักษณะของสตรีผู้ทรงอำนาจอย่างเห็นได้ชัด ั้แ่พบกันครั้งแรกอวิ๋นจื่อก็รู้สึกว่านางดูแตกต่างจากคนอื่น เมื่อก่อนอวิ๋นจื่อเคยคิดว่าอาจเป็เพราะนิสัยเดิมของนาง แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดแล้วว่าม่านอู่ไม่ใช่สตรีที่ถือกำเนิดจากหอคณิกา
ในขณะเดียวกันอวิ๋นจื่อก็ตกตะลึงเล็กน้อย
อิทธิพลของเซียวเหยียนแทรกซึมเข้ามาในหยงโจวแล้วหรือ?
กว่าจะเป็คณิกาดาวเด่นได้ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน?
เซียวเหยียนซึ่งถูกส่งมาเป็ตัวประกันที่เมืองอวิ๋นเมิ่งเคยมาที่เมืองหยงโจวด้วยหรือ?
แค่ครู่เดียวในหัวของอวิ๋นจื่อก็เต็มไปด้วยคำถามมากมาย เซียวเหยียนผู้นี้ช่างเป็คนที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้อย่างแท้จริง
ม่านอู่ดูเหมือนจะอ่านสายตาของอวิ๋นจื่อออก นางจึงยิ้มเบาๆ และกล่าวว่า “ข้าอยู่ที่นี่มาแปดปีแล้ว ฝ่าาทรงเตรียมการไว้นานกว่าที่เ้าคิด”
ดวงตาของอวิ๋นจื่อหรี่ลงเล็กน้อย
เมื่อเห็นสีหน้าของอวิ๋นจื่อเปลี่ยนไป ม่านอู่ก็กล่าวว่า “อย่ากังวล ฝ่าาไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเ้า”
อวิ๋นจื่อส่ายหน้า “ข้าไม่ได้กังวลเื่นี้ ข้ารู้ดีว่าเซียวเหยียนเป็คนตรงไปตรงมา ข้าแค่คิดว่าเซียวเหยียนไม่จำเป็ต้องทำเื่แบบนี้ เอ่อ...ข้าหมายถึงนี่เป็การค้าที่ขาดทุน!”
ม่านอู่คลี่ยิ้มก่อนจะกล่าวเบาๆ ว่า “จะขาดทุนหรือไม่ข้าไม่รู้ ข้ารู้แค่ฝ่าาทรงเมตตาต่อข้าและไม่เคยขอให้ข้าทำอะไรเพื่อพระองค์เลย มีเพียงแม่นางคนเดียวที่ทำให้ฝ่าายอมทุ่มเทถึงขนาดนี้”
อวิ๋นจื่อตื่นตระหนกเล็กน้อย นางไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไร
ม่านอู่รู้สึกอย่างไรกับเซียวเหยียน?
นางมีความคิดเป็อื่นหรือไม่? หรือแค่มองว่าเขาเป็นายเหนือหัว?
อวิ๋นจื่อไม่สามารถปะติดปะต่อเื่ราวทั้งหมดได้
นางจ้องไปที่หญิงสาวผู้งดงามและมีเสน่ห์ด้วยสายตาว่างเปล่า
หลังจากครุ่นคิดอย่างรอบคอบอยู่พักใหญ่ อวิ๋นจื่อก็ลังเลเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “เ้ารู้จักเซียวเหยียนดีหรือไม่?”
ม่านอู่พยักหน้าและกล่าวด้วยน้ำเสียงรักใคร่ “ฝ่าาทรงมีเมตตาต่อข้า ข้าทำสิ่งนี้ด้วยความสมัครใจ”
เมื่อมองไปยังหญิงสาวที่เปี่ยมเสน่ห์และเห็นว่าดวงตาของนางเต็มไปด้วยความรัก อวิ๋นจื่อก็กล่าวเบาๆ “เ้าเป็คนอวิ๋นเมิ่งหรือ?”
ม่านอู่พยักหน้า "ใช่ ข้าเป็คนอวิ๋นเมิ่งแต่ข้าก็ยังได้รับการปฏิบัติเช่นนี้จากฝ่าา เอาล่ะ ลืมเื่ของข้าเสีย ต่อให้อธิบายไปเ้าก็คงไม่เข้าใจ”
อวิ๋นจื่อไม่รู้จะกล่าวอะไร ทันใดนั้นนางก็นึกถึงความตั้งใจเดิมในการมาหาม่านอู่ นางจึงเปลี่ยนเื่ทันที “ข้ามาหาเ้าเพราะมีเื่สำคัญ”
ม่านอู่ถามอย่างเป็กันเอง “เ้า้าให้ข้าฆ่าชิงเกอหรือไม่?”
การสนทนากับคนฉลาดนั้นสะดวกสบายจริงๆ อวิ๋นจื่อไม่คิดว่าม่านอู่จะมีสติปัญญาสูงส่งถึงขนาดนี้ มิหนำซ้ำนางยังพูดเื่นี้ออกมาตรงๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความอึดอัด
อวิ๋นจื่อพยักหน้า ดวงตาของนางลึกล้ำและเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ในเมื่อม่านอู่ฉลาดมาก แล้วคนรอบตัวเซียวเหยียนต้องเป็คนแบบไหนกัน?
อวิ๋นจื่ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยเล็กน้อย
ม่านอู่กล่าวว่า “เ้าช่วยบอกเหตุผลสักข้อว่าเหตุใดข้าต้องช่วยเ้าฆ่านาง เ้าก็รู้ว่าต่อให้ข้าอารมณ์ร้ายเพียงใด แต่อันที่จริงข้าก็เป็คนมีเหตุผล”
อวิ๋นจื่อขมวดคิ้ว ต้องใช้เหตุผลใดถึงจะทำให้หญิงสาวผู้งดงามคนนี้ยอมทำตามความ้าของนาง
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง อวิ๋นจื่อก็กล่าวว่า “เพราะนางฆ่าคนสนิทของข้า”
น้ำเสียงของม่านอู่เย็นเยียบ “เ้าไม่ใช่นายของข้า ข้าย่อมฆ่าชิงเกออย่างแน่นอนหากคนที่ตายเป็คนสนิทของฝ่าา”
อวิ๋นจื่อมีท่าทีเข้าอกเข้าใจก่อนจะกล่าวว่า “อันที่จริงนางฆ่าคนสนิทของข้าเพียงเพราะนางเห็นเซียวเหยียนมาหาข้า”
ม่านอู่ยิ้มเล็กน้อย “คำตอบนี้ใช้ไม่ได้ ข้าจะสอนให้ก็แล้วกันอวิ๋นจื่อ แค่เ้าบอกว่าชิงเกอ้าฆ่าเ้าก็เป็เหตุผลที่เพียงพอให้ข้าฆ่านางแล้ว”
อวิ๋นจื่อก้มหน้าลงและกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ขอบคุณแม่นางม่านอู่ที่สั่งสอน”
ม่านอู่มองไปที่ประตูก่อนจะกระชากเสียงด้วยความโกรธเกรี้ยว “ข้าอยู่ที่หอจุ้ยฮวนมาหลายปี และนี่เป็ครั้งแรกที่ข้าเห็นคนแบบเ้า เ้ามาทางไหนก็กลับไปทางนั้น หากไม่รู้ว่าม่านอู่คนนี้เป็เช่นไร ลองถามสาวใช้ของเ้าดูก็ได้ ออกไปซะ!”
คำพูดของม่านอู่เต็มไปด้วยความโกรธ ผู้คนมากมายที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงะโของนางอย่างชัดเจน
อวิ๋นจื่อไม่ได้โง่ นางเข้าใจสิ่งที่ม่านอู่ทำ ต่อมาดวงตาของอวิ๋นจื่อก็แปรเปลี่ยนเป็แดงก่ำก่อนจะเดินออกจากห้องของม่านอู่ด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างสุดขีด
เพียงครึ่งวันข่าวที่ว่าอวิ๋นจื่อมีปัญหากับม่านอู่ก็แพร่กระจายไปทั่วหอจุ้ยฮวนราวกับไฟลามทุ่ง
…
ฝนที่ตกหนักในเมืองหยงโจวค่อยๆ เบาลง เสียงฝนกระทบหลังคาทำให้ผู้คนเกิดความกระวนกระวายโดยไม่มีสาเหตุ
มู่ชิงซ่งได้รับข่าวจากอวิ๋นจื่อแล้ว
ในที่สุดอวิ๋นจื่อหญิงสาวผู้อ่อนหวานคนนี้ก็เต็มใจที่จะฆ่าคน เขาต้องรายงานเื่นี้ให้ท่านประมุขทราบทันที
…
เมืองหยงโจว
ณ จวนตระกูลมู่
เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวในชุดเขียวเดินฝ่าสายฝนมา แต่ร่างกายของนางกลับไม่เปียกเลย นางยังคงงดงามหมดจด นางดูงดงามราวกับหญิงสาวแรกแย้ม
มู่ชิงซ่งรีบมุ่งหน้าไปยังเรือนหลักหลังจากได้ยินข่าวการกลับมาของประมุขตระกูลมู่ เมื่อเดินเข้ามาในห้องเขาก็เห็นหญิงสาวชุดเขียวนั่งดื่มชาอย่างสบายอารมณ์
“ชิงซ่ง ่ที่ข้าไม่อยู่มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง” เมื่อเห็นเขาเข้ามา ประมุขตระกูลมู่ก็ถามห้วนๆ
มู่ชิงซ่งขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ในหยงโจวทุกอย่างเรียบร้อยดี ท่านประมุขมีอะไรจะสั่งการหรือไม่?”
หญิงสาวชุดเขียวยังไม่เงยหน้าขึ้นแต่น้ำเสียงของนางกลับเปลี่ยนเป็เ็าเล็กน้อย
“ชิงซ่งเ้าอย่าประมาท คนจากสำนักชิงซานมาถึงหยงโจวแล้ว”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้