Chapter 40 (END)
"เป็ไงบ้างพี่กรีน" ป๋ายะโเข้าหากรีนทันทีที่กรีนกลับมาถึงบ้าน
"เริ่มรับวัคซีนแล้วครับ"
"ดีจัง"
"คุณเพิร์ธไปไหน?"
"พานานาไปเดินเล่น"
"แล้วเธอไม่ไปเหรอ?"
"เค้ารอพี่กรีนพาไปวันหลัง" กรีนยิ้มหลังจากที่ได้ยินคำตอบ
"เดี๋ยวพี่หาวันว่างแล้วพาไปนะครับ" กรีนโน้มลงไปกดริมฝีปากที่ปากของน้องเบา ๆ แล้วผละออก
ตอนนี้กรีนเริ่มรับวัคซีนเป็ที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ปรับตัวยากที่สุดก็คงจะเป็ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งที่ต้องจ่ายไป เพราะอย่างที่กรีนรับรู้ั้แ่แรก ว่าการทำภูมิคุ้มกันบำบัดมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และใช้ระยะเวลานาน เพราะฉะนั้นก็ต้องจ่ายอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปี ส่วนในกรณีของกรีน จากที่คุณหมอประเมิน อาจจะต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 4 ปี แต่ในตอนนี้เขาเองก็พร้อมมากแล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องลังเลอีกต่อไป
"สรุปคุณเพิร์ธตั้งชื่อให้ว่าอะไร?" กรีนถามถึงชื่อใหม่ที่ป๋ายใช้จดทะเบียนเพื่อย้ายเข้าบ้านของคุณเพิร์ธ เพราะชื่อของป๋ายที่กรีนตั้งให้ เป็ภาษาอื่น จึงไม่สามารถใช้ลงทะเบียนของทางการได้
"เค้าได้ชื่อฟีโอน่าแหละ"
"ชื่อสวยจัง เหมาะกับเธอนะ ใครเป็คนตั้ง?"
"คุณเพิร์ธ ตั้งแล้วให้เค้าเลือก"
"แล้วทำไมเธอเลือกชื่อนี้ครับ?"
"มันแปลว่าสีขาว จะได้ตรงกับที่พี่กรีนตั้งให้" ป๋ายยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
"คนเก่ง"
"ป๋ายป๋าย พี่ถามอะไรหน่อยสิ" กรีนนั่งลงที่โซฟา ป๋ายเองก็ตามมาซบหัวลงที่ตักของกรีนและนอนราบไป
"ว่าไงพี่กรีน?"
"เธอวางแผนในอนาคตไว้ว่ายังไงบ้าง?"
"โห แผนในอนาคตเหรอ? เป้าหมายเค้าในตอนนี้มีแค่อย่างเดียวคือย้ายชื่อเข้ามาที่นี่ อยู่กับคุณเพิร์ธก็ดี คุณเพิร์ธดูแลเราดีตลอดเลย แต่จากที่เค้าไปอ่านมา มันมีหลายอย่างมากที่จะสามารถทำได้ถ้าเรามีทะเบียนบ้านอยู่ที่เดียวกัน เื่โรงพยาบาลอะไรแบบนี้อ่ะพี่กรีน เผื่อเกิดอะไรฉุกเฉินขึ้นมา"
"มีอีกไหม?"
"อืม ยังไม่มีสิ่งที่คิดว่าจะทำแน่ ๆ เลยแหละ เค้าอยากอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็โอเคแล้วนะ"
"เื่งานล่ะครับ? อยากทำอะไรเป็พิเศษหรือเปล่า ไม่ต้องเข้าไปดูแลเต็มที่ก็ได้ มีร้านหรือมีอะไรที่อยากเปิดไหมครับ?" มือหนาลูบที่แก้มใสของน้องเบา ๆ
"เค้าช่วยพี่กรีนแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วนะ ไม่ได้อยากทำอะไรเพิ่มเติมเลย"
"ถ้าวันไหนอยากทำอย่างอื่นก็บอกเลยนะป๋าย ไม่ได้อยากให้เธอมาช่วยร้านพี่ไปตลอด กลัวจะเป็การบังคับให้เธอไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น"
"คิดมากน้าพี่กรีน ตอนนี้เค้าไม่ได้ฝืนใจอะไรเลย ช่วยออกแบบก็สนุกมาก ๆ ทั้งการ์ด ทั้งแพ็กเกจจิ้ง เค้าสนุกกับมันทั้งหมดเลย ไม่ได้ฝืนทำเพราะเป็ร้านพี่สักกะติ๊ด"
"จริง ๆ ใช่ไหม?"
"จริง ๆ เค้าไม่โกหก"
ในทุก ๆ วันของป๋ายตอนนี้ คือการไป ๆ มา ๆ ที่ร้านของกรีน บทบาทในตอนนี้ก็คือนักออกแบบ เข้ามาแทนที่เกรซที่ไปเป็ผู้จัดการร้านอย่างเต็มตัว เพราะกรีนและเวย์เห็นว่ามันคงถึงเวลาที่สมควรแล้วที่จะเลื่อนตำแหน่งให้เกรซ เกรซอยู่มาด้วยกันั้แ่แรกเริ่ม รู้จักร้านดีพอ ๆ กับพวกเขาสองคน ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะรั้งเกรซไว้ให้ย่ำอยู่กับที่ อยากให้เติบโตได้เท่าที่เขาสมควรได้รับ และยินดีมากถ้าหากวันนึงเกรซจะอยากไปเติบโตที่อื่น
"เธออยากแต่งงานหรือเปล่าครับ?"
"อะไร ๆ ๆ พี่กรีนจะขอเค้าแต่งงานเหรอ?" ป๋ายดีดตัวขึ้นมาทันทีหลังจากที่ได้ยินกรีนพูดถึงเื่การแต่งงาน
"ยังครับ พี่แค่ถามว่าตอนนี้อยากหรือเปล่า ถ้าอยากพี่ก็จะได้เตรียมตัวแล้วก็แบ่งเงินไว้ใช้สำหรับตรงนั้น"
"มันจะเปลืองไหมพี่กรีน?" พอพูดถึงเื่การเงิน ป๋ายก็เริ่มคิดมากขึ้นมาทันที
"แล้วแต่คนจะคิดครับ ถ้าเราอยากจัดงานแต่งงานเพื่อที่จะเก็บมันไว้ในความทรงจำหรืออะไรก็แล้วแต่ มันก็จะไม่เปลืองเลย เพราะได้แต่งแค่ครั้งเดียว แต่เราจะจำมันไปตลอดชีวิต ถ้าเธออยากจัดงาน พี่ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเปลืองครับ"
"ตอนนี้เค้าอยากนะ แต่ในอนาคตยังไม่รู้"
"งั้นเราค่อยคุยกันอีกที ตอนนี้พี่จะแบ่งเงินตรงนั้นไว้ก่อน ถ้าในอนาคตเราเห็นตรงกันว่าจะไม่จัดงานแต่งงาน ก็ค่อยเก็บเงินส่วนนั้นไว้ใช้อย่างอื่น แบบนี้ได้ไหมครับ?"
"เอาตามที่พี่กรีนว่าเลย"
"พี่กรีนว่าเค้าเหมาะกับสีชมพูเหรอ?"
"บางครั้งก็เหมาะนะ ถามทำไมครับ"
"ก็ตอนเข้าบ้านคุณเพิร์ธ คุณเพิร์ธจัดห้องสีชมพูไว้ให้เค้า ทั้งสีผนัง สีเตียง แล้วก็ของใช้เป็สีชมพูหมดเลย" กรีนยิ้มออกมาทันทีเมื่อได้ยินอีกคนบ่น
"เธอขนสีขาว เหมาะกับทุกสีแหละครับ อยู่ที่ว่าเธอจะชอบไหม ส่วนเื่ห้อง ถ้าอึดอัดก็ต้องบอกคุณเพิร์ธนะรู้ไหม ห้ามเก็บไว้"
"เค้ากลัวว่าจะรบกวน"
"แต่ถ้าวันนึงคุณเพิร์ธมารู้ด้วยตัวเองเข้า แบบนั้นมันจะแย่กว่านะครับ บอกไปั้แ่แรกเลยดีกว่า เพราะถ้าปล่อยไปแบบนี้ คุณเขาจะเข้าใจว่าเธอชอบ อาจจะซื้ออะไรมาให้อีกเรื่อย ๆ นะ"
"งั้นเดี๋ยวรอคุณเพิร์ธกลับมาแล้วเค้าบอก"
"ครับคนเก่ง วันนี้กินอะไรดี"
"ต้มปลา!"
"โอเค งั้นเธอขึ้นไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวลงมากินข้าวกันครับ"
จากนั้นป๋ายก็แยกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย ชีวิตประจำวันของทั้งคู่ผ่านไปแบบนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ป๋ายก็วิ่งเข้าและออกทั้งบ้านของกรีนและบ้านของคุณเพิร์ธ สำหรับกรีน ตอนนี้คงจะเป็จุดเริ่มต้นอะไรหลาย ๆ อย่าง เป็จุดเริ่มต้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เพื่อให้ชีวิตลงตัวมากขึ้น มั่นคงมากขึ้น นั่นคือเป้าหมายของเขาในตอนนี้
ส่วนทุก ๆ วันที่ผ่านไป
ก็มีประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านเข้ามาเสมอ
ให้ได้เรียนรู้ และเก็บมันไว้รับมือ
สิ่งที่เกิดขึ้นใน่ที่ผ่านมาก็เช่นกัน
มันทำให้ตอนนี้พวกเขาโตขึ้นอีกหนึ่งระดับแล้ว
4 ปีผ่านไป
ร้านเครื่องหอม Your Cart
"คุณเ้าของร้านมีอะไรจะพูดไหมคะ?" เกรซถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแซว ๆ กรีน
"ครับ ก็ขอบคุณทุกคนที่เดินทางมาด้วยกันจนถึงวันนี้ โดยเฉพาะเวย์ หุ้นส่วนของร้านเครื่องหอมร้านนี้ ผ่านอะไรมาด้วยกันก็เยอะ จนกว่าจะมีวันนี้ แน่นอนว่ามันไม่ง่าย อีกอย่างคืออยากขอบคุณตัวเองที่สร้างโอกาสขึ้นมา มีความคิดที่อยากจะพัฒนามันต่อไปตลอด จนตอนนี้ ร้านเรามีสาขาใหม่แล้วครับ"
หลังจากที่กรีนพูดจบ เสียงปรบมือก็ดังขึ้นลั่นร้าน คนรอบตัวที่มาแสดงความยินดีกับการเปิดสาขาใหม่ในวันนี้ ต่างก็ส่งรอยยิ้มออกมาหากัน กรีนนิยามตัวเองในตอนนี้ว่าเป็คนที่มั่นคงได้แล้ว และในอนาคตก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้มากกว่าที่เป็อยู่ นั่นคือสิ่งที่เขาหวัง แต่เป็การหวังโดยที่ไม่ได้คิดจะกดดันตัวเอง เพราะที่มีอยู่ทุกวันนี้ มันก็เพียงพอต่อเขาแล้วจริง ๆ
"ขึ้นโลโก้แบรนด์ร้านใหม่แล้วมงคลมาก ทำอะไรก็ดีไปหมดเลยตอนนี้ เกรซอยากกราบไหว้โลโก้ทุกวัน"
"กราบคนทำเถอะ ไม่ยอมออกจากห้องทำงานเลย" เวย์พูดแซวขึ้นมา
หลังจากผ่านพ้นความวุ่นวายในการฉลองเปิดสาขาใหม่ กรีนก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของป๋ายทันที ใน่นี้เป็่ใบไม้เปลี่ยนสี แน่นอนว่าร้านอยากจะคิดผลิตภัณฑ์สักอย่างเพื่อต้อนรับมัน กรีนเดาว่านี่คือเหตุผลที่คนตัวเล็กไม่ยอมออกจากห้องทำงานเลย เพราะยังไม่สามารถสร้างผลงานที่ตัวเองพอใจได้
"ที่รักครับ"
"อือ" มีเพียงแค่เสียงขานตอบรับในลำคอกลับมาเท่านั้น สายตาของป๋ายยังคงจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่ห่าง
"แฟนเธอฉลองเปิดสาขาใหม่นะ ทำไมเอาแต่นั่งทำงานแบบนี้"
"อีกนิดนึง"
"พูดคำนี้ทุกรอบ เดี๋ยวจะโดนนะ ลุกจากคอมได้แล้วครับ"
"แป๊บนึงพี่กรีน"
"เดี๋ยวนี้ไม่ฟังกันเลยนะ" กรีนพูดประโยคนี้ออกมาเสียงอ่อน จากนั้นก็เดินอ้อมไปชงชาที่โซนเคาน์เตอร์ ป๋ายที่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติก็ยอมละสายตาออกจากหน้าจอคอม สาวเท้าเดินมาที่เคาน์เตอร์ จากนั้นก็สวมกอดเข้าที่เอวของกรีนจากด้านหลัง
"พี่กรีนงอนเค้าเหรอ?"
"เธอโตขึ้นเยอะเกินไป ทำงานไม่พักเลยแบบนี้ พี่ขอเธอคนที่คอยงอแงตลอดเวลาดีกว่า"
"โอ๋ เค้าโตขึ้นก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?" ป๋ายจับไหล่กรีนให้หันกลับมาหาตัวเอง
"ถ้าเธอพอใจก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ แต่ในมุมของพี่ เธอกำลังทำงานหนักเกินไป กลับไปนอนเฉย ๆ ให้พี่เลี้ยงดีกว่าไหม?" ป๋ายหัวเราะในลำคอขึ้นมา
"พี่งอแงแทนเค้าแล้วอ่ะ"
"ก็เธอเอาแต่โตขึ้น คู่เราไม่น่ารักแล้ว กลายเป็คู่รักนักธุรกิจเฉยเลย มีแต่อะไรเครียด ๆ"
โอเค
พี่กรีนของเขากำลังงอแงแบบ 200%
"ทำยังไงถึงจะกลับไปน่ารักล่ะ?" ป๋ายจูงมือคนพี่ให้มานั่งลงที่โซฟา จากนั้นก็คร่อมไปที่ตักและหันหน้าเข้าหาอีกคน
"เนี่ย แถมยังเซ็กซี่ขึ้นด้วย แต่ก่อนตามพี่ไม่ทันเลย เดี๋ยวนี้พี่ต้องเป็คนตามเธอแทนแล้ว"
"คิดมากแก่ไวนะพี่กรีน"
"ก็เธอโต"
"งอแงจัง่นี้ เครียดอะไรหรือเปล่า?" ป๋ายถามขึ้นเสียงอ่อน
"แค่คิดว่าเธอจริงจังกับงานเกินไปเฉย ๆ เธอพักผ่อนน้อยลงมาก พลังงานมีจำกัดนะ อย่าลืมสิ ไม่อยากให้ใช้จดหมดขีดจำกัดด้วย ไม่ดีเลยป๋ายป๋าย" กรีนเกลี่ยแก้มคนบนตักไปมาไม่หยุด
"ขอโทษน้า เค้าจะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ ตอนแรกคิดว่าจะยังไม่บอก ไม่รู้เลยว่าพี่คิดมากขนาดนี้ งั้นเค้าบอกพี่เลยดีกว่า" ป๋ายลุกจากตักกรีน เดินไปหยิบแท็บเล็ตบนโต๊ะ จากนั้นก็กลับมานั่งที่เดิมและตำแหน่งเดิม
คนตัวเล็กเลื่อนหาไฟล์งานที่ได้จัดการไว้ในแท็บเล็ต จากนั้นก็เอียงหน้าจอไปทางคนพี่ ค่อย ๆ เลื่อนให้ดูทีละรูป สิ่งที่ได้เห็นก็ทำให้กรีนตาโตทันที เพราะมันไม่ใช่คอลเลคชั่นสำหรับใบไม้เปลี่ยนสีอย่างที่กรีนคิดไว้
"แอบทำั้แ่ตอนไหน?"
"ไม่บอก"
"และจุดประสงค์คืออะไรครับ?"
"ก็น่าจะรู้นี่นา" คนบนตักกรีนแกล้งพูดหยอกออกไป
"จะขอพี่แต่งงานเหรอครับ?"
"อื้อ พี่ยังอยากแต่งไหมล่ะ?"
กรีนกระตุกยิ้มออกมา จากนั้นก็กดท้ายทอยของคนบนตักให้ก้มลงมารับจูบจากตัวเอง กรีนค่อย ๆ ไล่ชิมริมฝีปากของคนน้องเบา ๆ ขบเม้มทีละองศาช้า ๆ
"อื้อ พี่กรีน คนอยู่ข้างนอกเยอะ" กรีนเปิดโอกาสให้น้องได้พูด จากนั้นก็ประกบริมฝีปากลงไปเช่นเดิม คอยลูบหางของอีกคนที่โผล่ออกมาโดยที่เ้าตัวไม่รู้ตัว เพื่อทำให้อีกคนเคลิ้ม และมันก็ได้ผล เพราะป๋ายไม่ได้มีท่าทีว่าจะหยุดแล้ว ทั้งคู่มอบจูบให้กันไปสักพักจนพอใจ จากนั้นก็ผละออก
"แต่งงานกันนะพี่กรีน"
"แต่งครับ"
8 เดือนผ่านไป
งานแต่งงานที่พวกเขาแพลนไว้เริ่มเป็รูปเป็ร่างขึ้นเรื่อย ๆ มีการจองสถานที่ ชุด การ์ด และส่วนอื่น ๆ เรียบร้อยจนเกือบหมดแล้ว ส่วนคอลเลคชั่นที่กรีนเคยเข้าใจผิดว่าน้องทำเพื่อต้อนรับใบไม้เปลี่ยนสี แต่อันที่จริงมันคือคอลเลคชั่นขอแต่งงาน ในตอนนี้ก็เริ่มโปรโมทและวางขายเรียบร้อยแล้ว
'Beautiful in white'
ออกแบบโดยป๋าย
"ได้คุยกับออกัสบ้างหรือเปล่า?" กรีนถามขึ้นมา
"ติดต่อกันตลอดนะ แต่่นี้ไม่ค่อยได้คุยเลย ต่างคนต่างยุ่งด้วย" คนน้องตอบออกมาในขณะที่กำลังเลือกแบบการ์ดเชิญ
"เขาโอเคกับชีวิตใช่หรือเปล่า?"
"โอเคมาก ๆ เลย ตอนนั้นที่เค้าขอเลือกมาอยู่กับคุณเพิร์ธแล้วออกัสบอกว่าจะยังไม่เลือก ขออยู่ที่ศูนย์ดูแลต่อไป ออกัสเคยบอกกับเค้าว่าอยากจะไปเริ่มต้นใหม่ในที่ที่ไม่เคยอยู่ อาจจะไกลจากแถวนี้หน่อย แต่ก็อยากจะรอคนที่อยากรับเขาไปดูแลจริงๆ เลย น่าจะบอกกับพี่เ้าหน้าที่ไปว่าอยากได้คนที่มีบ้านอยู่ที่ชานเมือง เพราะอยากหนีจากความวุ่นวายในแถวนี้ ไปเริ่มต้นใหม่ในที่ที่สงบ ๆ มีคนมารับออกัสไปอยู่ด้วยปีกว่า ๆ แล้ว ออกัสเองก็ดูชอบมาก ๆ"
"ดีแล้ว"
เพราะไม่ได้รับรู้เื่ของออกัสนาน กรีนเลยอดที่จะถามออกไปไม่ได้ เพราะตัวเขาเองก็คิดอยู่ว่า เมื่อได้รับอิสระแล้ว คนคนนั้นอยากจะใช้ชีวิตแบบไหนกัน อยากไปอยู่ที่ไหน กับใคร อยากทำอะไร แต่นั่นก็ล้วนแล้วแต่เป็เื่ส่วนตัว แค่รับรู้ได้ว่ากำลังมีความสุขก็พอ เคยบอกไปแล้วว่าจะใจดีกับแมวทุกตัวบนโลก แล้วก็อยากจะหวังดีกับแมวทุกตัวบนโลก ถึงแม้จะช่วยเหลือปัญหาทุกอย่างไม่ได้ แต่ภายในใจยังคงภาวนาอยู่ตลอดว่าขอให้แมวทุกตัวบนโลกนี้มีความสุขและปลอดภัยในทุกวัน
"พี่มีนัดหมอนะพรุ่งนี้"
"กี่โมง?"
"11 โมงครับ พี่มีอะไรจะบอก"
"ว่าไง?" ป๋ายเงยหน้าอย่างตั้งใจฟัง
"พรุ่งนี้ที่มีนัดหมอ คือครั้งสุดท้ายแล้วครับ"
"คะ คือ พี่กรีนจะหายแล้วใช่ไหม?"
"ใช่แล้ว"
และนี่ก็เป็อีกหนึ่งสัญญาณ สัญญาณที่บ่งบอกว่าตอนนี้ เริ่มก้าวเข้าสู่วัยนี้อย่างเป็ทางการแล้ว ในตอนแรกที่วางแผนไว้ คืออยากจะเริ่มทำงานน้อยลง แต่ในตอนนี้ยังสนุกอยู่มาก อาจจะขยับแผนออกไปก่อน เพราะยังไม่อยากละทิ้งตรงนี้ อีกอย่าง ในตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเหนื่อยจนต้องพัก ยังไม่ได้ถึงจุดอิ่มตัว ในแบบที่ว่าคิดอะไรไม่ออกแล้ว ไม่สามารถมีไอเดียที่จะต่อยอดได้แล้ว เพราะในตอนนี้มีโอกาสที่จะต่อยอดแบบเต็มที่
"ยังอยากทำงานอยู่ไหม?" กรีนเอ่ยถามขึ้นมา
"เค้ายังสนุกมากเลย"
"ดีแล้วครับ ดีที่ยังไม่ได้อิ่มตัวขนาดนั้น แต่ถึงจะยังสนุกอยู่ ตอนนี้อยากให้ลดลงบ้างนะ"
"เค้าจะพยายามนะ"
"ขอบคุณครับ"
ผ่านมาเกือบ ๆ 1 เดือน งานแต่งงานของทั้งคู่เข้าใกล้ความเป็จริงขึ้นเรื่อย ๆ การ์ดแต่งงานก็เริ่มทยอยแจกคนที่อยู่ไกล ๆ ก่อน แล้วระบุวัน เวลาและสถานที่อย่างชัดเจน กระแสตอบรับของคอลเลคชั่น Beautiful in white ดีมาก ดีเกินกว่าที่คิดเอาไว้เยอะมาก
สำหรับคอลเลคชั่นนี้ ป๋ายจัดทำเป็แบบเซ็ต มีเซ็ต A และ B จะแตกต่างกันที่จำนวนต่อชิ้นของของแต่ละอย่าง ได้แก่ เทียนหอม น้ำหอม และผ้าเช็ดหน้าที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อ คอลเลคชั่นนี้โดยเฉพาะ ส่วนใครจะแอดอะไรเพิ่มเข้าไปในเซต ก็สามารถทำได้เช่นกัน และภายในระยะเวลาก่อนงานแต่งงานของทั้งคู่จะเกิดขึ้น จะมีบริการเขียนการ์ดในทุกรูปแบบ และบริการส่งของแบบด่วน เพื่อมอบให้เป็การเซอร์ไพร์ส การบริการและโปรโมชั่นนี้จะมีไปจนถึงวันที่งานแต่งงานของทั้งคู่สิ้นสุด
"พี่กรีน"
"ครับ?"
"พี่กรีนว่าหลังจากที่งานแต่งของเราผ่านไปแล้ว มันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า?" ป๋ายตั้งคำถามขึ้นมาในขณะที่กำลังเดินเช็คสถานที่ที่ใช้จัดงานแต่งงานอยู่
"ไม่รู้สิครับ พี่คิดว่าหลาย ๆ อย่างมันก็คงจะเหมือนเดิม เหมือนกับตอนที่เรายังไม่ได้แต่ง เพราะพี่ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรหลังจากที่เราแต่งงานกันเลย เธอมีอะไรหรือเปล่า? หรือว่ากำลังกังวลอะไร?" กรีนโอบเอวป๋ายให้เข้ามาใกล้ตัวเองมากขึ้น
"คงไม่ถึงกับเรียกว่ากังวลอะไรนะ เค้าแค่นึกถึงเฉย ๆ ว่ามันจะมีอะไรเปลี่ยนไปหรือเปล่า แต่ก็คงเป็อย่างที่พี่บอก เพราะเค้าเองก็ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรหลังจากที่เราแต่งงานกันเลย" ป๋ายยิ้มให้กรีนเบา ๆ
"สำหรับพี่ชีวิตในตอนนี้มันลงตัวมากที่สุดแล้ว ถ้านึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ก็คงจะเป็การวางมือจากร้านแบบจริงจัง ให้พนักงานแต่ละฝ่ายออกมาแสดงฝีมือกันอย่างเต็มที่ ส่วนสาขาแรก พี่อยากลองให้เวย์มันได้ทำตามในสิ่งที่มันคิดแบบเต็มที่ดู ก็จริงอยู่ที่ว่าสไตล์ของพี่กับมันคล้ายกัน แต่เมื่อไหร่ที่มีสถานการณ์ให้ต้องเลือก เช่น รูปแบบ ระยะเวลา จำนวน มันจะยกให้คำพูดของพี่เป็การตัดสินใจสุดท้ายตลอด ทั้งที่บางครั้งมันคงมีสิ่งที่คิดไว้ในใจ"
"แบบนั้นก็ดีนะพี่กรีน พี่ก็ลงพื้นที่ดูแลกันคนละสาขาไปเลย อาจจะได้ไอเดียใหม่ ๆ ที่ทำให้ร้านแต่ละสาขามีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ไม่แน่ สาขาใดสาขาหนึ่งอาจจะสร้างกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นมาอีกกลุ่มได้ก็ได้นะ" กรีนระบายยิ้มออกมาหลังจากที่ได้ยินน้องพูด
"โตแล้วจริง ๆ สินะ"
"ยังไม่จบกับเื่นี้อีกนะ เราโตจนของพี่แต่งงานได้แล้วนี่ไง"
"ที่รัก ก็พี่ปรับตัวไม่ทันนี่ครับ"
"เราอยู่ด้วยกันแทบทุกวันนะพี่กรีน เค้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบกะทันหันสักหน่อย" กรีนยกมือขึ้นลูบป๋ายช้า ๆ
โตขึ้นมากจริง ๆ สินะ
ยังนึกถึงวันแรกที่เธอเป็แมวมอมแมมได้อยู่เลย
"ขอบคุณนะครับป๋ายป๋าย"
"ขอบคุณพี่กรีนเหมือนกัน ขอบคุณที่รักเค้าขนาดนี้"
"เพราะพี่ได้รับความรักจากเธอเหมือนกันไงครับ เลยให้กลับไปได้แบบที่ไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย"
เพราะได้รับมา
จึงให้กลับไป
ความรักแบบพอดี ๆ ของทั้งคู่ ทำให้มันยาวนานมาจนถึงวันนี้ เพราะสามารถมอบมันให้อีกคนได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่ได้รับมาอย่างเต็มที่เช่นกัน เลยสบายใจที่จะมอบกลับไปตลอด ๆ ทยอยให้ และทยอยรับ ความสัมพันธ์ของกรีนและป๋ายเป็แบบนั้นเสมอมา
ที่ให้ได้เพราะได้รับมาไม่เคยขาด
"อันที่จริงมีอย่างนึงนะที่คิดว่าอยากจะให้เพิ่มเข้ามาถ้าเราได้แต่งงานกันแล้ว" กรีนเอ่ยขึ้นมาก่อน
"เหมือนกันแหละ ไม่รู้ว่าพี่กรีนคิดเหมือนเค้าไหม แต่คิดว่ามันอาจจะเร็วไป ก็เลยไม่กล้าพูดออกมา" กรีนยิ้มออกมาเบา ๆ
"งั้นก็คงจะใช่แล้วล่ะ"
"พูดพร้อมกันน่ะ 1 2 3"
"เบบี๋"
"เบบี๋"
โอเค
ตามนั้น
แม้แต่ความปรารถนาสูงสุดในการสร้างครอบครัวของกรีนและป๋ายก็ยังคงตรงกันอยู่ คือการมีเ้าเหมียวตัวน้อยเข้ามาอยู่ด้วยกัน
"ไม่เอาสีขาวนะ"
"ทำไม?" ป๋ายลากเสียงต่ำและเบะปากคว่ำลง
"พอดีเห็นตัวอย่างจากแม่ ว่ามันน่ารักเกินไป คิดว่าถ้ามีเบบี๋สีขาวอีกตัว พี่คงตามหวงไม่ไหวแน่ ทุกวันนี้รู้สึกขอบคุณมากที่เธอชอบทำงานอยู่ในห้องทำงาน ถ้าเธอชอบการออกมาแนะนำสินค้าให้ลูกค้า หรือชอบมายืนหน้าร้านแล้วล่ะก็ พี่คงต้องตามติดเธอเป็เงา"
"พี่กรีนโอเวอร์มาก"
"พี่พูดจริงนะครับ เธอไม่ได้ขี้หวงคนเดียวสักหน่อย" กรีนจริงจังในการพูดจนคิ้วขมวด ป๋ายถึงกลับหลุดหัวเราะออกมาทันที
มาถึงจุดจุดนี้ ที่เขาทั้งคู่ยิ้มและหัวเราะได้อย่างมีความสุข แบบที่ไร้ความกังวลใด ๆ ั้แ่วันแรกที่เจอกัน จนวันที่ต้องไปสู้เพื่อกันในการพิจารณาคดี ่นั้นเป็่ที่รักกันมากก็จริง แต่ก็เป็่ที่ทรมานเช่นกัน เพราะมันมีทั้งความเครียด ความกังวล ถาโถมเข้ามาในใจไม่หยุด แต่จนวันนี้เราผ่านมันมาได้แล้ว
อีกเื่หนึ่งก็คือเื่สุขภาพ ที่ตอนนี้ทั้งคู่ทำเพื่อกันและกันสำเร็จเป็ที่เรียบร้อย ในตอนนั้นป๋ายก็เลือกที่จะฉีดวัคซีน ยอมสูญเสียการรับรู้รสชาติส่วนหนึ่งไป เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน มาจนถึงตอนนี้ ที่กรีนเองก็สามารถพูดได้อย่างเต็มตัวแล้วว่าเขาไม่ใช่คนที่แพ้ขนสัตว์อีกต่อไป ยอมที่จะสละเงินที่มีมูลค่ามากมาย เพื่อรับอีกคนเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านอย่างสมบูรณ์
ความรักที่มันเกิดขึ้นในใจของทั้งสองคน ไม่ว่าจุดเริ่มต้นมันจะมาจากไหน แต่ ณ ตอนนี้ ณ เวลานี้ มันกลายเป็ความรักที่ลงตัวที่สุดเท่าที่คนสองคนจะมีได้ แน่นอน อาจจะมีการกระทบกระทั่งกันเป็บางเวลา แต่เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายสำคัญอยู่เสมอ นึกถึงจิตใจกันอยู่เสมอ เลยทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นถูกจัดการออกไปจากใจอย่างรวดเร็วทุกครั้ง
จนคิดว่าในวันนี้มันสมบูรณ์มากพอที่จะมีสมาชิกตัวน้อยเข้ามาอยู่ในครอบครัวแล้ว
ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ได้มาเจอกัน
ขอบคุณที่มอบความสมบูรณ์ให้
ขอบคุณทุกการก้าวเดินในชีวิต
ขอบคุณที่อดทนจนถึงที่สุด
ขอบคุณตัวเองที่โตขึ้นมาอย่างสวยงาม
ขอบคุณที่ไม่แหลกสลายไปกับความเลวร้ายที่เกิด
ขอบคุณสิ่งที่เชื่อว่ามีอยู่ 'พรหมลิขิต'
ในวันที่มีความสุขมาก ๆ เช่นนี้ มันคงไม่ใช่บทสรุปของทุกอย่าง เพราะชีวิตมันก็คงจะดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ตามทางของมัน และทุกการก้าวเดินคือจุดเริ่มต้น จุดเริ่มต้นของอนาคตที่จะมาถึง ขอให้ทุกก้าวต่อจากนี้เป็ก้าวที่ถูกต้อง เป็ความทรงจำที่ดีของตัวเราในอนาคต
สวัสดีป๋ายป๋าย
สวัสดีพี่กรีน
ผู้ที่เรานิยามได้ว่า 'เ้าของฉบับพรหมลิขิต'
END