ประตูตำหนักยอดเขาหยั่งรู้กระบี่
มู่หรงลวี่กวงช่วยรับวิชาอัคคีต่อจากหวังเค่อมา หวังเค่อเองก็ซาบซึ้งจากก้นบึ้งหัวใจ บรรยากาศรอบด้านกลายเป็ภาพชวนยินดีปรีดาอยู่พักใหญ่ เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยเองก็ปรารถนาให้เป็เช่นนั้น
เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยโบกมือกางม่านลมปราณคลุมตนเองและเฉินเทียนหยวนไว้ ป้องกันเสียงไม่ให้เล็ดรอดออก
“เ้าตำหนักเนี่ย ท่านจะอธิบายเื่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้หรือยัง?” เฉินเทียนหยวนมองเนี่ยเมี่ยเจวี๋ย
เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยพยักหน้ารับ “ท่านประมุข ท่านสมควรทราบเื่องค์หญิงโยวเยว่ดีใช่หรือไม่?”
“อืม ราชินีชือกุ่ยสละราชบัลลังก์ให้แก่องค์หญิงโยวเยว่ สุดท้ายเพราะมีการก่อฏทำให้องค์หญิงต้องหลบหนีมายังพรรคเทพหมาป่า์เรา ข้าเพิ่งทราบเื่ไม่กี่วันมานี้เอง!” เฉินเทียนหยวนพยักหน้า
“เหตุใดราชินีชือกุ่ยถึงต้องสละราชบัลลังก์แล้วเลือกหลบหนีไปด้วย?” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยจ้องหน้าเฉินเทียนหยวนพร้อมถามเสียงเข้ม
เฉินเทียนหยวนขมวดคิ้วไม่ตอบคำ
“ท่านไม่ต้องปิดบังหรอก อย่างไรก็ปิดบังไม่ได้ เหตุผลก็เพราะราชินีชือกุ่ยเป็มารอย่างไร! นางเป็มาร! พอตัวตนของนางถูกเปิดโปง นางก็ไม่อาจปกครองราชวงศ์ชือกุ่ยได้อีก ต่อให้นางไม่ยอมหนี ข้าราชบริพารราชวงศ์ชือกุ่ยก็ต้องก่อฏอยู่ดี นางจำต้องหนี!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยกล่าวอย่างจริงจัง
“เฮ้อ!” เฉินเทียนหยวนถอนหายใจบาง
“ไม่จำเป็ต้องถอนหายใจ มารอย่างไรก็คือมาร! วิถีธรรมและวิถีมารไม่อาจอยู่ร่วมกัน หากนางยังเป็ราชินีต่อไป ก็ต้องมีชีวิตถูกสังเวยเพิ่มขึ้น! นางเลยหนีไป! แล้วเหตุใดนางถึงทิ้งลูกสาวให้รับสืบทอดบัลลังก์ต่อ?” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยจ้องหน้าเฉินเทียนหยวนเขม็ง
“เพราะองค์หญิงโยวเยว่เป็ธิดาของเขาผู้นั้น!” เฉินเทียนหยวนขมวดคิ้ว
“ถูกต้อง บิดาขององค์หญิงโยวเยว่เป็มนุษย์! ซ้ำยังเป็ยอดคนั์ใหญ่ฝั่งธรรมะ! นี่เป็เหตุผลที่ราชินีชือกุ่ยคิดว่าจะไม่มีใครกล้าล่วงเกินองค์หญิงโยวเยว่ แต่นางคิดผิด! ต่อให้บิดาขององค์หญิงโยวเยว่จะเป็ยอดคนวิถีธรรม แต่มารดานางก็ยังเป็มารอยู่ดี! ธิดาที่ถือกำเนิดจากมนุษย์และมาร? เฮ้อ ไหนเลยกลุ่มขุนนางตงฉินประจำราชวงศ์ชือกุ่ยจะยอมปล่อยให้องค์หญิงสืบทอดบัลลังก์ได้? พวกมันย่อมต้องก่อฏ! แต่เพราะเห็นแก่หน้าบิดาขององค์หญิงโยวเยว่ พวกมันจึงไม่ลงมือสังหารนาง ทำแค่เพียงผนึกพลังฝีมือนางไว้แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้ตายเอง!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยว่า
“ข้ารู้…!” เฉินเทียนหยวนขมวดคิ้วแน่น
“ดูเถอะ บิดาขององค์หญิงโยวเยว่เองก็มีเส้นสายมากมาย แต่เมื่อเห็นองค์หญิงโยวเยว่ตกอยู่ในอันตราย มีผู้ใดบ้างที่ยืนหยัดปกป้องนาง? นอกจากจางเจิ้งเต้าแล้ว มีใครบ้างแยแสสนใจ! ยอดคนมากฝีมือมีใครบ้างสนใจใยดีองค์หญิงโยวเยว่ ไม่มีเลย! ท่านประมุข ทำไมท่านถึงต้องดูแลนาง ทำไมท่านถึงคิดรับตัวองค์หญิงโยวเยว่เข้ามา?” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยถามอย่างกังวล
เฉินเทียนหยวนขมวดคิ้วถาม “นี่เป็เหตุผลที่ท่านมายังยอดเขาหยั่งรู้กระบี่วันนี้? ไม่ใช่เพราะหวังเค่อ แต่เพราะเื่องค์หญิงโยวเยว่?”
“ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว? ข้าเห็นศิษย์ท่านแล้ว ถึงมันจะลื่นเป็ปลาไหลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้หลงเดินทางผิด ท่านรับมันเป็ศิษย์ข้าก็วางใจ! แต่องค์หญิงโยวเยว่…!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยปั้นหน้าบูด
“ข้าจำได้ว่าท่านเคยส่งมู่หรงลวี่กวงไปตามจีบองค์หญิงโยวเยว่ในอดีต?” เฉินเทียนหยวนมุ่นคิ้ว
“ตามจีบรึ? เปล่าเลย เป็ลวี่กวงเข้าใจผิดไปเอง! ข้าใช้ลวี่กวงให้เข้าเป็แม่ทัพราชวงศ์ชือกุ่ย เข้าหาองค์หญิงโยวเยว่ก็เพื่อจะได้จับตาดูนางได้สะดวกเท่านั้น!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยตอบเสียงเข้ม
“แล้วตอนนี้…?” เฉินเทียนหยวนถามอย่างจริงจัง
“ข้าไม่สนใจว่าท่านประมุขกับบิดาขององค์หญิงโยวเยว่มีความสัมพันธ์แบบใด แต่ท่านประมุข ท่านยึดมั่นแนวทางวิถีธรรมมาชั่วชีวิต ปราบพิฆาตหมู่มาร แล้วเหตุใดครั้งนี้ท่านถึงได้ยอมละทิ้งอุดมการณ์? องค์หญิงโยวเยว่ไม่ใช่มนุษย์นะ!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยว่า
“บิดาของนางเป็มนุษย์!” เฉินเทียนหยวนถอนหายใจ
“ไม่ใช่! ลูกผสมระหว่างมนุษย์กับมารโดยทั่วไปแล้วไม่อาจถือกำเนิด แต่เมื่อถือกำเนิดแล้ว ทายาทก็จะเป็ ‘ทารกร่างมาร’ หากกลายเป็มาร จะกลายเป็มารร้ายในหมู่มาร!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยเอ่ยอย่างกังวล
“หากทารกร่างมารไม่กลายเป็มาร ก็แสดงว่ายังสามารถเดินตามวิถีธรรมได้!” เฉินเทียนหยวนส่ายหน้า
“ท่านประมุข ท่านลืมตำนานนั้นไปแล้วรึ? ทารกร่างมารคือต้นเหตุของหายนะทั้งปวง นอกจากตัวนางแล้ว ไม่ว่าจะมิตรหรือศัตรูรอบตัวนางก็ล้วนต้องประสบพบเจอเภทภัย ไม่ต้องกล่าวถึงว่าราชวงศ์ชือกุ่ยหลังให้กำเนิดองค์หญิงโยวเยว่แล้วต้องเผชิญกับวิบากกรรม ไม่แน่ครั้งนี้ราชินีชือกุ่ยถูกเปิดเผยตัวตนก็อาจเป็เพราะองค์หญิงโยวเยว่ด้วย! จะปล่อยนางไว้ไม่ได้! ต้องลงมือสังหาร!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยเอ่ยอย่างร้อนรน
“เหลวไหล!” เฉินเทียนหยวนตอบอย่างไม่เชื่อถือ
“ท่านประมุข ท่านคิดหลอกตัวเองอยู่?” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยถามอย่างกังวล
“องค์หญิงโยวเยว่ไม่ได้กลายร่างเป็มาร ไม่เคยก่อกรรมทำเข็ญ ในร่างปราศจากจิตมาร ข้าลงโทษนางไม่ได้ อีกอย่าง ข้าก็ได้ส่งคนไปแจ้งข่าวแก่บิดานางแล้ว ด้วยฐานะของบิดานาง จะต้องหาทางรับมือเื่ขององค์หญิงโยวเยว่ได้อย่างเหมาะสมแน่! ท่านไม่เชื่อใจบิดานางรึ?” เฉินเทียนหยวนถามอย่างจริงจัง
เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยนิ่งเงียบอยู่นาน “ท่านประมุข ข้าเชื่อในการตัดสินใจของท่าน! แต่ว่าเื่นี้ไม่อาจรั้งรอได้!”
“อ้อ?”
“บิดาขององค์หญิงโยวเยว่ ใช่ทุกคนสามารถพบเขาได้ที่ไหนกัน? คนที่ท่านส่งไปจะพบตัวเขาไม่ใช่เื่ง่าย! เื่นี้อาจเตะถ่วงยืดยาวไปได้อีกนาน ถ้าหากมีใครล่วงรู้เข้า…!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยขมวดคิ้วแน่น
“ก็จริง ตัวตนขององค์หญิงโยวเยว่เป็เื่ละเอียดอ่อน บิดาของนางหลายปีมานี้ไม่เคยไปเยือนราชวงศ์ชือกุ่ยก็เพราะกลัวคนสงสัย ถ้าหากมีใครเชื่อมโยงขึ้นมา…!” เฉินเทียนหยวนขมวดคิ้วแน่น
“ดังนั้น ข้าจึงหวังให้ท่านประมุขเป็คนไปพบบิดาองค์หญิงโยวเยว่ด้วยตัวเอง! หากท่านลงมือเอง ย่อมรวดเร็วไม่มีผิดพลาดอย่างที่สุด! ท่านประมุข!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยจ้องเฉินเทียนหยวนอย่างจริงจัง
เฉินเทียนหยวนมุ่นคิ้วไตร่ตรอง ขณะเดียวกันก็เหลือบมองเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยไปด้วย
“ท่านประมุข ท่านคิดว่าข้าจงใจหลอกลวงท่านเพื่อจะได้สังหารองค์หญิงโยวเยว่ใช่หรือไม่?” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยมองเฉินเทียนหยวนกลับ
เฉินเทียนหยวนไม่เอ่ยปาก ชัดเจนว่ามันก็กังวลเื่นี้เช่นกัน
“ไม่ต้องห่วงไป ท่านประมุข! ข้าเนี่ยเมี่ยเจวี๋ย ขอสาบานกับท่าน! ระหว่างที่ท่านไม่อยู่ ยกเว้นข้าจะตาย องค์หญิงโยวเยว่จะไม่พบอันตรายใดทั้งนั้น!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยยืนยันหนักแน่น
เฉินเทียนหยวนมองหน้าเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยอยู่นาน ก่อนสุดท้ายจะพยักหน้ารับ เพราะเฉินเทียนหยวนเชื่อมั่นในตัวเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยว่านางเป็คนรักษาคำพูด
“ดี ในเมื่อเป็เช่นนี้ เื่องค์หญิงโยวเยว่ก็ต้องฝากท่านดูแลไปก่อน ข้าจะรีบไปพบบิดาขององค์หญิงโยวเยว่ด้วยตัวเอง!” เฉินเทียนหยวนเอ่ยอย่างจริงจัง
“ดี!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยพยักหน้ารับ
ทั้งสองตกลงกันเรียบร้อย เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยโบกมือคลายม่านลมปราณเก็บเสียงรอบด้านออก ทั้งคู่หันกลับไปมองพวกหวังเค่อที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ก่อนจะเห็นมู่หรงลวี่กวงหน้าเปลี่ยนสีก่อนจะขยับตัวออก
มู่หรงลวี่กวงฉวยสัจปราณขุ่นมาไว้ในมือไม่ให้องค์หญิงโยวเยว่ได้แตะต้อง หวังเค่อพลันถอนหายใจโล่งอกพร้อมซาบซึ้งในตัวอีกฝ่าย
“ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องขอบคุณท่าน!” หวังเค่อเผลอกล่าวออกมาอย่างซาบซึ้งจริงใจ
มู่หรงลวี่กวง “???”
มู่หรงลวี่กวงทำหน้างุนงง มันมองหน้าหวังเค่ออยู่นานแต่ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ เ้าหวังเค่อมันป่วยหรือเปล่า?
“มู่หรงลวี่กวง เ้ายังเก็บลูกปัดโหยหาที่ข้าเคยมอบให้ไว้อยู่หรือเปล่า?” องค์หญิงโยวเยว่พลันถามขึ้น
“ลูกปัดโหยหา? ข้าพกติดตัวไว้ตลอด!” มู่หรงลวี่กวงตาเป็ประกาย
มู่หรงลวี่กวงขยับมือเรียกลูกปัดขนาดเท่ากำปั้นออกมาจากกำไลมิติ ภายในลูกปัดคล้ายมีแมลงตัวเล็กถูกผนึกไว้ แมลงนี้มีหนวดสิบแปดเส้นยื่นเหยียดไปสิบแปดทิศทาง โดยมีหนวดเส้นหนึ่งที่ทอแสงสีแดงบางเบาออกมา
“เ้าคืนมันมาให้ข้าได้ไหม?” องค์หญิงโยวเยว่ถาม
มู่หรงลวี่กวงใบหน้าบูดเบี้ยวไปครู่หนึ่ง ลูกปัดนี้องค์หญิงโยวเยว่มอบให้มันขณะมันออกจากราชวงศ์ชือกุ่ย ตอนแรกนางตั้งใจมอบให้อีกฝ่ายในฐานะของแทนใจ แต่โชคร้ายที่อีกฝ่ายไม่เคยสนใจใยดีเลย
“องค์หญิง ท่านเคยมอบมันให้ข้าแล้ว เพราะเหตุใด?” มู่หรงลวี่กวงทำท่าอิดออด
ทว่าองค์หญิงโยวเยว่กลับฉวยลูกปัดไปจากมือมู่หรงลวี่กวง ก่อนที่นางจะพลิกข้อมือแสดงลูกปัดจิ๋วสิบแปดลูกของตนให้อีกฝ่ายดู
องค์หญิงโยวเยว่มองดูลูกปัดคำนึงบนมือพร้อมยิ้มแห้ง “ลูกปัดโหยหานี้เป็คู่กับลูกปัดคำนึงบนข้อมือข้า! พวกมันผนึกแมลงคำนึงเอาไว้ ตัวที่อยู่บนลูกปัดเ้าเป็ตัวผู้ ส่วนสิบแปดตัวที่ผนึกอยู่ในลูกปัดข้าเป็ตัวเมีย!”
“โอ้?”
“หลายวันมานี้ข้าเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว มู่หรงลวี่กวง ในอดีตเป็ข้าเข้าใจผิดไปเอง! ที่จริงแล้วเ้าไม่สนใจใยดีข้าเลยสักนิด! ลูกปัดเหล่านี้เป็ท่านแม่มอบให้ข้า ข้าจึงสวมติดตัวไว้ตลอด ในเมื่อเ้าไม่คิดอะไรกับข้า เช่นนั้นลูกปัดโหยหานี้ก็ไม่รบกวนฝากเ้าดูแลอีก คืนข้ามาเถอะ!” องค์หญิงโยวเยว่ถอนหายใจ
“องค์หญิง ข้าก็บอกท่านไปหมดแล้ว สิ่งที่ข้าพูดในตำหนักหมาป่าบูรพาล้วนทำไปเพื่อหลอกล่อพวกมาร ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ในใจข้ายังมีท่านเสมอนะ!” มู่หรงลวี่กวงรีบเอ่ยอย่างร้อนรน
มู่หรงลวี่กวงรู้สึกว่าองค์หญิงที่ชมชอบนับถือมันในอดีตเริ่มอยู่ห่างไกลออกไปทุกที หัวใจมันยิ่งมายิ่งกังวล สิ่งที่สมควรเป็ของข้ากลับสูญเสียไปทีละน้อย?
“ไม่ ไม่จริง! เ้ารู้ว่าราชวงศ์ชือกุ่ยของข้าล่มสลาย แต่เ้าไม่เคยเป็ห่วงข้าเลยสักนิด!” องค์หญิงโยวเยว่ส่ายหน้า
“จะเป็ไปได้อย่างไร? ข้าไม่ทราบว่าท่านอยู่ที่ไหน ไม่อย่างนั้นคงออกตามหาท่านไปนานแล้ว!” มู่หรงลวี่กวงรีบแก้ตัว
“ถ้าหากเ้า้าตามหาข้าจริง เ้าก็คงหาข้าพบไปนานแล้ว แมลงตัวผู้ในลูกปัดโหยหามีหนวดอยู่สิบแปดเส้นคอยเฝ้าััถึงตัวเมีย ขอเพียงเ้าศึกษาดูลูกปัดโหยหานี้สักหน่อย เ้าก็สามารถหาตำแหน่งของข้าพบได้ไม่ยาก แต่เ้าไม่เคยแม้แต่จะมอง! ระหว่างเดินทางมาที่นี่ ข้าก็ตั้งใจไม่คิดถึงเื่นี้ แต่เ้าไม่เคยออกตามหาข้า! เ้าไม่สนด้วยซ้ำว่าข้าจะอยู่หรือตาย!” องค์หญิงโยวเยว่กล่าวอย่างขมขื่น
“ขะ ข้าไม่รู้จริงๆ…!” มู่หรงลวี่กวงเพิ่งเอ่ยปากแก้ตัว
“ไม่ใช่ว่าเ้าไม่รู้ แต่เ้าไม่เคยดูลูกปัดโหยหาเลยต่างหาก! หลังจากกลับมา เ้าก็โยนลูกปัดโหยหาเข้าหลืบมุมแล้วลืมไปเสียสนิทสิท่า!” หวังเค่อฉวยโอกาสแทงมีดใส่หนึ่งแผล
“เ้า!” มู่หรงลวี่กวงเบิกตากว้าง
ไอ้หวังเค่อผู้นี้ สรุปคำขอบคุณของมันเมื่อครู่เป็เื่แสร้งทำใช่หรือไม่? ไอ้ชายชู้นี่!
องค์หญิงโยวเยว่เองก็ดูเหมือนจะยอมตัดใจจากมู่หรงลวี่กวงโดยสมบูรณ์แล้ว ไม่ว่ามู่หรงลวี่กวงจะอธิบายอย่างไรก็เปล่าประโยชน์
“มู่หรงลวี่กวง เ้าไม่ต้องเสียเวลากับข้าอีกแล้ว ข้าเสียราชวงศ์ชือกุ่ยไปแล้ว ตอนนี้ข้าไม่เหลืออะไรอีก แม้แต่รูปโฉมข้าก็ยังเสียหาย! ตัวข้าที่เ้าเห็นวันนั้นเป็เพราะแต่งหน้าเท่านั้น!” องค์หญิงโยวเยว่เอ่ยซ้ำ
“เสียโฉมรึ?” มู่หรงลวี่กวงตะลึงไป
หวังเค่อรีบสอดปากทันที “องค์หญิง ที่จริงแล้วในใจข้าเห็นว่าแผลเป็บนหน้าท่านไม่อาจนับเป็อย่างไรได้ ดวงหน้าท่านยังคงงดงามดุจเทพเซียนไม่เสื่อมคลาย ต่อให้มีแผลเป็ ท่านก็ยังคงเป็สาวงามอันดับหนึ่งในสายตาข้าเสมอ!”
จางเจิ้งเต้าได้ยินวาจาเลี่ยนหูของหวังเค่อเป็ต้องอับอาย ตัวข้ายังเทียบชั้นหวังเค่อไม่ได้จริงๆ มันกล้าเอ่ยวาจาชวนขนลุกเช่นนี้ออกมาได้ยังไง?
องค์หญิงโยวเยว่ไม่ได้รู้สึกเลวร้ายอะไรกับวาจาของหวังเค่อ ตรงกันข้าม นางกลับชายตามองหวังเค่อด้วยใบหน้าขึ้นสี
่เวลาอัปยศนี้ทำให้มู่หรงลวี่กวงหน้าบูดบึ้ง ไอ้คู่รักนักเล่นชู้นี่! เ้ากล้าลอบส่งสายตาให้กันต่อหน้าข้า?
แม้องค์หญิงโยวเยว่เวลานี้จะเปิดเผยหน้าแค่ส่วนตา แต่ก็เป็ดวงตางามล้ำไร้คู่เปรียบ ในอดีตนางเคยส่งสายตาขวยเขินให้เพียงข้าคนเดียว บัดนี้กลับส่งสายตาให้ชายอื่น?
“องค์หญิง ไม่ว่าท่านจะเป็เช่นไร ข้าก็ไม่มีวันรังเกียจ! อีกอย่าง พรรคเทพหมาป่า์ข้าก็มีของวิเศษมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าเสียโฉมเช่นไรล้วนสามารถรักษาได้! ขอข้าดูได้หรือไม่?” มู่หรงลวี่กวงเอ่ยถาม
องค์หญิงโยวเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ปฏิเสธ นางยกผ้าคลุมปิดหน้าขึ้นอย่างนุ่มนวล
ทันทีที่ผ้าคลุมหน้าถูกเปิดออก าแคมดาบน่าหวาดหวั่นก็เปิดเผยออกมา แผลเป็นี้แม้จะดุดัน แต่ก็ยากจะปิดบังรูปโฉมอันงดงามไร้ทัดเทียมขององค์หญิงโยวเยว่ได้
แผลเป็เช่นนี้ลบออกได้ไม่ยาก!
มู่หรงลวี่กวงผ่อนคลายลงทันที มันขยับมือเล็กน้อย คนคิดฉีกยิ้มกล่าวว่าจะช่วยรักษาแผลเป็ให้องค์หญิงโยวเยว่ นี่เป็เื่ที่ข้าถนัดพอดี ข้าจะฉวยโอกาสนี้ชิงหัวใจองค์หญิงกลับมาอีกครั้ง
แต่คนยังไม่ทันกล่าวคำ สัจปราณขุ่นในฝ่ามือมู่หรงลวี่กวงก็ถูกมันปลดปล่อยออกด้วยตัวเอง ลอยเข้าสู่โพรงจมูกของมู่หรงลวี่กวง กลิ่นเน่าบูดพุ่งตรงอัดแน่นเต็มห้วงความคิดของมู่หรงลวี่กวง
เหม็น เหม็นอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน!
วาจาเลิศหรูที่มู่หรงลวี่กวงตระเตรียมมาถูกกลิ่นเหม็นสะกัดไว้ ในใจเหลือเพียงเสียงคำรามกึกก้อง กลิ่นเหม็นคล้ายพุ่งทะยานเข้าสู่ห้วงลึกสุดของิญญาจนมู่หรงลวี่กวงตาเหลือกทันที
“โอ้กกกกก~~~~~~!”
มู่หรงลวี่กวงพลันอาเจียนออกมาตรงหน้าองค์หญิงโยวเยว่ สีหน้ารังเกียจที่ปรากฏขึ้นในชั่วพริบตานั้นทำให้องค์หญิงโยวเยว่ผู้อ่อนโยนถึงกับตัวแข็งทื่อ
มู่หรงลวี่กวงแค่เห็นหน้าข้าถึงกับสำรอกออกมาหมดท้อง? นี่ตัวข้าตอนนี้อัปลักษณ์ขนาดนั้นเชียว?
“โอ้กกกกก~~~!” “อ้วกกกก~~~~!”
มู่หรงลวี่กวงยังคงอาเจียนไม่หยุด
องค์หญิงโยวเยว่ “…!”
เนี่ยเมี่ยเจวี๋ย “…!”
เฉินเทียนหยวน “…!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้