หานโม่โบกมือ "ไม่ถึงกับมีความเห็นใด แต่การที่ท่านสอบสวนนักโทษเช่นนี้เห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่มีประโยชน์อันใดเลย"
ชายรูปงามมองใบหน้าอันจริงจังของหานโม่และคำพูดที่ไม่เหมือนกับการพูดเพ้อเจ้อแล้ว ดวงตาก็ยิ่งเต็มไปด้วยความสนใจทันที "โอ้? งั้นเ้าลองบอกมาว่าการสอบสวนควรเป็เยี่ยงไร?"
หานโม่เหลือบมองชายรูปงาม "ข้าเคยเห็นแล้วว่าฝีมือของท่านนั้นไม่ธรรมดา ถึงแม้ตอนนี้ข้าจะไม่รู้ว่าท่านเป็ใครมาจากไหน แต่ถ้าชายผู้นี้กล้าลอบสังหารท่านเพียงลำพัง เช่นนั้นเขาก็ต้องได้รับการฝึกฝนมาเป็อย่างดีแล้วแน่นอน"
ในดวงตาเขาปรากฏประกายแห่งความประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่เคยพูดว่าคนผู้นี้มาเพื่อลอบสังหารตัวเขา แล้วหญิงสาวผู้นี้รู้ได้อย่างไรกัน?
หานโม่มองชายที่ถูกทรมานอย่างสนใจ และเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไพเราะอ่อนหวาน แต่คำที่เอ่ยมากลับสามารถทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนตัวสั่นสะท้าน
“สามารถทำภารกิจที่อันตรายเพียงลำพังก็ต้องพร้อมที่จะตายด้วยเช่นกัน ท่านทรมานเขาเช่นนี้ สำหรับเขามันก็เป็เพียงแค่การหยอกล้อก็เท่านั้น เ็ปไหมก็เ็ป แต่นั่นก็เป็เพียงความเ็ปทางกาย”
หานโม่หันหน้ามามองชายรูปงามและจ้องเขม็งตรงไปที่เขา "หากท่านอยากทำให้คนคนหนึ่งแตกสลาย ก่อนอื่นเลยท่านต้องทำลายที่จิตใจเสียก่อน ตราบใดที่แนวป้องกันทางจิตใจได้พังทลายไปหมดแล้ว ปัญหาต่างๆ ก็จะได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายเช่นกัน"
“โอ้ จริงหรือ?” ชายรูปงามเองก็ไม่หลบเลี่ยงสายตาของหานโม่ นิ้วมือจับไปที่คางของนาง ใบหน้าของเขาอยู่ห่างจากนางไม่ถึงห้าหลีหมี่ ดวงตาสีดำสนิททั้งสองข้างที่งดงามราวกับหินเฮยเย่าจ้องหานโม่เหมือนกับจะดึงดูดนางเข้าไป
บังเกิดบรรยากาศแห่งความกระอักกระอ่วนขึ้นมาในทันที ใบหูของหานโม่เปลี่ยนเป็สีแดงโดยไม่รู้ตัว นางผลักเขาออกและรีบถอยหนีอย่างรวดเร็ว แต่ก็แสร้งทำเป็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เขาทำ "ข้าจะทำให้ท่านดูครั้งเดียวเท่านั้น"
ดวงตาของชายรูปงามเป็ประกายพลางนั่งลงที่ด้านข้างอย่างสบายๆ แล้วหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบช้าๆ แต่ดวงตาของเขากลับจับจ้องไปที่หานโม่ราวกับว่ากำลังดูบางสิ่งบางอย่างที่น่าสนใจ
หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งถ้วยชา [1]
บนหน้าผากของหานโม่ก็เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ชายโชคร้ายผู้นั้นกัดฟันแน่นราวกับจะยืนหยัดอดทนต่อไปทว่ากลับทรุดตัวลงไปบนพื้น ส่วนสิ่งที่อยู่ในปากของเขาได้ถูกชายรูปงามนำออกไปแล้ว และประโยคแรกที่เขาพูดออกมาก็คือการอ้อนวอนขอความเมตตา
“ข้ายอมแล้ว ข้าจะบอกแล้ว!”
ชายรูปงามเหลือบมองหน้าหานโม่ด้วยรอยยิ้ม สาวน้อยผู้นี้ทำให้เขามองนางแตกต่างออกไปจากเดิม
หานโม่ไม่ได้ตั้งใจจะฟังความลับของพวกเขา จึงเดินลึกเข้าไปข้างในห้องเพียงคนเดียว เพื่อให้เวลาแก่พวกเขาทั้งสอง
เขามองสาวน้อยผู้นี้อีกครั้งด้วยสายตาที่แตกต่างไปจากเดิม พลางรับฟังคำสารภาพของชายผู้นั้นไปด้วย ดวงตาของเขาที่เดิมทีทอประกายด้วยความประหลาดใจก็ค่อยๆ สงบลง และจากนั้นก็เปลี่ยนเป็ความเ็าที่ไม่รู้จบ
“เ้าน่าจะติดตามเ้านายที่ดีกว่านี้” หลังจากที่รอชายผู้นั้นพูดจบ ชายรูปงามก็ตวัดแส้ในมือหนึ่งที ร่างของชายคนนั้นก็สลายไปราวกับเถ้าถ่าน
เมื่อเห็นภาพนี้ ดวงตาหานโม่ก็หรี่ลงเล็กน้อย
ความแข็งแกร่งของชายหนุ่มผู้นี้ช่างยากจะหยั่งรู้ได้ และไหนจะความรู้สึกแปลกๆ บางอย่างจากตัวเขาอีก
วิธีการฆ่าคนเพื่อปิดปากแบบนี้ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าวิธีการฆ่าของหานโม่ในชาติก่อนเลย
“คิดว่าพอใช้ได้หรือไม่?” เสียงของชายผู้นั้นดังขึ้นใกล้ๆ ใบหู หานโม่สะดุ้งใ ร่างกายทุกส่วนถอยออกมาตามสัญชาตญาณ และนึกไม่ถึงเลยว่าจะทำให้ตัวเองเข้ามุมอับพอดี!
ชายรูปงามฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้ วางมือสองข้างไปบนกำแพงทั้งสองฝั่งเพื่อกักตัวหานโม่ไว้ในพื้นที่ว่างระหว่างแขนทั้งสอง
หานโม่ขมวดคิ้วมุ่น “เ้าหมายความว่าอย่างไร?”
นางเพิ่งจะช่วยเขาไปเองนะ!
แม้ว่าหานโม่จะไม่ได้รู้สึกถึงความเป็ศัตรูจากชายผู้นี้ แต่นางก็ไม่ชอบสถานการณ์ที่ไม่อาจตอบโต้ได้เช่นนี้ที่สุด
ชายผู้นั้นก้มหัวลงมา เส้นผมบางส่วนของเขาระลงมาที่หน้าอก พร้อมทั้งการเคลื่อนไหวของมือเขาที่ลากผ่านโดนมือของหานโม่ ทำให้หานโม่ต้องชักมือหนีด้วยความรู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย
“เพื่อตอบแทนที่เ้าช่วยข้าสอบสวนจนได้ข้อมูลที่สำคัญมา เ้าพูดมา ข้าควรมอบรางวัลอะไรให้เ้าดี?” ชายรูปงามราวกับไม่เห็นการต่อต้านของหานโม่ ใบหน้าของเขาขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และในวินาทีนั้นลมหายใจของคนทั้งสองก็ราวกับหลอมรวมกันเป็หนึ่ง
........................................................................
เชิงอรรถ
[1] หนึ่งถ้วยชา คือ หน่วยนับเวลาแบบโบราณของจีน เท่ากับเวลา 15 นาที