“พรุ่งนี้ผักจึงจะส่งเข้าวังหลวง งวดนี้ขอผักกาดขาวกับกะหล่ำปลีเยอะหน่อย่นี้ อาหารขาดแคลน เพราะอากาศหนาวการเก็บเกี่ยวไม่ได้ผลสินค้าที่ส่งเข้าวังหลวงจึงเหลือแต่ข้าเพียงเ้าเดียว”
“นายท่านก็คงได้กำไรไม่น้อย”
“ส่งผักเข้าวังหลวงแต่ละครั้งล้วนแต่ต้องผ่านการคัดสรร ผักของท่านเ้าบ้านแม้จะไร้ที่ติ แต่ของคนอื่นก็ล้วนแต่ไม่ผ่านการคัดสรรเท่าที่คิดไว้ แม้จะผ่านก็ไม่เป็ดั่งใจหวังท่านเ้าบ้านและครอบครัวปลูกผักได้น่าพอใจ วังหลวงไม่เคยปฏิเสธผักจากไร่ของท่านเ้าบ้านเฉิน”แซ่เฉิน มันแซ่ต้นตระกูลของแป๋มนี่ ชักจะอย่างไงอย่างไงซะแล้ว หรือว่าแป๋มย้อนเวลามาเพราะเกี่ยวดองกับแซ่เฉินนี่
“ขอบคุณนายท่าน”
“ฝ่าาออกปากชื่นชมรสชาติผักของท่านเ้าบ้านว่าอร่อยสดใหม่ บอกผ่านขันทีมา ข้าได้ฟังแล้วยิ้มแทบไม่หุบ5555 หวังว่าจะคงความสดใหม่แบบนี้ไปนานๆ ”
“พี่จูเจี่ย ท่านเห็นไหม คนผู้นั้นมองท่านตาเป็มัน”แป๋มเลิกคิ้วสูง จะมาไม้ไหนเ้าเด็กนรก
“อย่าดีใจไป เขาไม่ได้มองเ้าเพราะเ้าสวยหรอกแม่นางจูเจี่ย แต่เขามองเพราะเขาคงสงสัยว่า ทำไมพวกเราปล่อยหมูออกมาเดินเพ่นพ่าน”มะกอกในมือเขกลงบนหัวเด็กชายดังโป๊ก เ้าตัวก่อกวนยกมือขึ้นลูบหัวปอยๆ
“ท่านแม่ พี่สาว รังแกข้าอีกแล้ว” แป๋มใช้ตะเกียบนมือชี้หน้าเ้าน้องชายตัวแสบ เสี่ยวซงผู้นั้นอมยิ้มแก้มปริเมื่อได้ยินประโยคทั้งหมด แป๋มเสมองไปเสียทางอื่น คนอะไรยิ้มสวยเป็บ้า หากจะหุ่นดีกว่านี้นี่คงหล่อเลยล่ะ ถึงจะมือเปื้อนขี้หมูทว่าใบหน้ากลับแจ่มใสไร้รอยกังวล ช่างสุขสันต์กันเสียจริงไร่แห่งนี้ แต่ละคนล้วนมีใบหน้าสุขสันต์ไม่มีใครที่อมทุกข์แม้แต่คนเดียว ไม่เหมือนโลกใบเก่าที่แป๋มอยู่ช่างเคร่งเครียดบีบรัดจนแทบไม่มีอากาศหายใจ แป๋มเผลอสูดหายใจเข้าลึกๆ สูดเอาอากาศบริสุทธิ์สะอาดของบ้านป่าสมัยที่ไร้มลพิษเข้าไปเต็มปอด ความเย็นสดชื่นจนเผลอยิ้ม เฮ้ออย่างน้อยก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด แม้จะมีแม่แบบยายป้ามีน้องนรก พ่อแสนดี และผู้ร่วมงานที่ดูดีสุดๆ
“จูเจี่ย มาช่วยพ่อเก็บผักกาดหัว (หัวไซเท้า) ดีกว่า”เ้าบ้านเฉินเรียกแป๋มเมื่อเห็นว่ากำลังจะไปโกยขี้หมู จะว่าไปเ้าบ้านเฉินคงรักลูกคนนี้ไม่น้อย ต่างจากยายป้านั่นที่รักแต่เด็กนรกน้องชายตัวแสบ
“จูจิ้น ไม่ช่วยแม่ของเ้าคัดล้างผัก ออกห่างๆพี่สาวเสียบ้างไม่อย่างนั้นเป็ได้ทะเลาะกัน” ท่านเ้าบ้านพูดดักทาง จูจิ้นที่ทำท่าจะก้าวเดินตามแป๋มก็ชะงักฝีเท้าแป๋มหันมาเบ้ปากใส่ยักคิ้วแผล็บๆ
“จูเจี่ยรู้ไหม หัวไซเท้าจะต้องปลูนอุณหภูมิต่ำ ไม่ร้อนเกินไปจึงได้ผลผลิตดี แล้วต้องรดน้ำให้ชุ่มตลอดจะได้กรอบอร่อย หากรดน้ำสม่ำเสมอ การทำเค็มเป็หัวใช้โป้จึงอร่อยไม่มีเสี้ยนเนื้อเหนียวนุ่ม กินกับข้าวต้มร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร”แป๋มกลืนน้ำลายลงคอเมื่อพูดถึงหัวไช้โป้ กับข้าวต้มกุ้ย อยู่ๆทำไมอยากกินขึ้นมา
“พรุ่งนี้เช้า จะให้แม่ของเ้าต้มข้าวต้มให้คนในบ้านกินเสียเลย สองสามวันมานี้อากาศหนาว ได้ข้าวต้มร้อนๆยามเช้า เทพบน์ยังต้องโน้มลงมาขอชิม”
ท่านเ้าบ้านเฉินดึงหัวไชเท้าออกมาจากดินง่ายดาย แป๋มนึกสนุกเลยลองดึงบ้างแต่โอ้โห้ต้องใช้แรงอย่างมากเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อหรือว่าแป๋มไม่เคยจะออกกำลังกายเื่แบบนี้จึงถือว่าหนักหนา หงายหลังก้นจ้ำเบ้า เ้าน้องชายตัวเแสบจูจิ้น หัวเราะตัวงอ
“จูเจี่ย คราวหลังพี่ต้องมีหลักให้ยึดเกาะไม่เช่นนั้นเห็นทีท่านพ่อต้องตามไปเก็บท่านขึ้นมาจากตีนเนินนู่นล่ะ”เ้าน้องบ้านนี่กัดไม่เลิก ใครกันช่างสอนให้พูดแค่หกขวบทำไมปากร้ายนัก
“จูจิ้นอย่าว่าพี่เขา ปกติจูเจี่ยไม่ค่อยชอบออกแรงวันนี้เห็นทีฝนจะตกเพราะพี่สาวเ้าช่วยท่านพ่อถอนหัวผักกาดด้วย”อ้าว ยายจูเจี่ยนี่ปกติก็ไม่ทำอะไรหรือ เหมือนแป๋มไม่มีผิดเพี้ยน ทำให้คนอื่นว่าได้ เฮ้อป่านนี้แม่จะเป็อย่างไรบ้างแม่ที่ไม่เคยบ่นเคยด่า แต่คอยยกทั้งอาหารและของว่างมาวางไว้ให้แป๋มหน้าโต๊ะคอม วันๆ แทบไม่ต้องขยับตัว นอกจากอย่างเข้าห้องน้ำ กินเสร็จก็พิมพ์นิยายพิมพ์ๆๆๆๆ และพิมพ์ กินหน้าจอคอม ดื่มหน้าจอคอม ดึกๆ ถึงจะคลานลงจากเก้าอี้เข้าที่นอนชีวิตวนเวียนซ้ำๆ จนอ้วนเป็ลูกขนุน ตอนเด็กๆ หน้าตาดี ไม่มีไขมันตอนนี้อ้วนจนบดบังความสวยเสียหมด
“เฮ้อข้าก็อยากผอม แต่จะทำอย่างไรได้ ลดหุ่นมันยากยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด”ท่านเ้าบ้านยิ้ม
“ไม่ยาก แค่เ้าพูดว่าอยาก ข้าจะหาวิธีให้เอง”แป๋มยิ้มบ้าง มีวิธีจริงๆหรือ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้