"หรือนางยังอยู่กับท่านอ๋องหลี?" หนานกงเยวี่ยขมวดคิ้ว "ไม่ได้ ข้าจะให้คนไปตามกลับมา"
ฮองเฮาอวี่เหวินอยู่ในจวน นางไม่ยอมปล่อยให้ฮองเฮาอวี่เหวินเจอพวกเขาแน่ นี่จะยิ่งทำให้ความประทับใจของฮองเฮาที่มีต่ออีหลานพังกว่าเดิมอีก
ทว่านางเพิ่งก้าวออกไปก้าวเดียว กลับโดนฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงเรียกรั้งไว้
"ไม่จำเป็" ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงเอ่ยด้วยเสียงเบาๆ ว่า “หากนางอยู่กับท่านอ๋องหลี ก็ปล่อยให้นางอยู่เถิด”
ขณะที่ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงพูด นางเหลือบมองหนานกงเยวี่ย "เ้าไปให้ท่านหมอมาดูอาการาเ็ที่ศีรษะของเ้าเสียหน่อยเถิด ท่าทีของเ้ายามนี้ดูเหมือนจะสูญเสียบุคลิกน่านับถือในฐานะคุณหนูใหญ่สกุลหนานกงเสียแล้ว"
หนานกงเยวี่ยรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง นางจึงไม่ถามอีกต่อไปว่าเหตุใดถึงยอมให้อีหลานอยู่กับท่านอ๋องหลี นางย่อเข่าคำนับด้วยท่าฝูเชินให้ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง จากนั้นจึงออกไปจัดการาแที่ศีรษะ
พวกนางคิดว่าเหนียนอีหลานยังอยู่กับหลีอ๋องจ้าวเยี่ยน ทว่านางได้กลับไปที่ลานเซียนหลานนานแล้ว ยามนี้กำลังนอนหลับฝันอยู่ มิรู้เลยว่างิ้วสนุกๆ กำลังรอนางมาเปิดฉากอยู่
ในเรือนหรูอี้
ฮองเฮาอวี่เหวินและองค์หญิงใหญ่ชิงเหอนั่งอยู่บนที่นั่งประธาน นางกำนัลน้อยคนหนึ่งที่คอยติดตามข้างกายฮองเฮาอวี่เหวินมาตลอด ไม่รู้ั้แ่เมื่อใดที่ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
"อิ้งเสวี่ย ข้าทำผิดต่อเ้าแล้ว" หลังจากเงียบไปนาน ในที่สุดฮองเฮาอวี่เหวินพลันพูดขึ้น เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่มีแต่รอยแผลเป็จนจำแทบไม่ได้ น้ำเสียงของนางแฝงนัยสงสาร ทอดถอนหายใจ
มือที่ยกถ้วยชาของจ้าวอิ้งเสวี่ยสั่นเล็กน้อยจนมิอาจจับสังเกตได้
นางรู้สึกแค้นเคืองราชวงศ์มาตลอด ยามนี้เมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ของฮองเฮาอวี่เหวิน เพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้นที่ในใจนางมีระลอกคลื่นหนึ่งสั่นไหว
ทำผิดหรือ?
นางทำผิดอย่างแท้จริง ในเมื่อทำผิดเช่นนั้นแล้ว นางยังปล่อยให้ตนต้องยอมจำนน มีชีวิตไม่สงบสุข
“ขอขอบพระทัยฮองเฮาที่ตัดสินให้อิ้งเสวี่ยเมื่อครู่นี้เพคะ" จ้าวอิ้งเสวี่ยลุกขึ้น ย่อเข่าคำนับให้คนทั้งสองที่นั่งบนตำแหน่งประธานด้วยท่าฝูเชิน “มิเช่นนั้น อิ้งเสวี่ยในยามนี้คงถูกปรักปรำใส่ร้าย เกรงว่าคงทำได้เพียงต้องเขียนชื่อลงในหนังสือหย่าของเหนียนเฉิงเสียแล้ว อิ้งเสวี่ยขอบพระทัยฮองเฮาที่ตัดสินให้เพคะ ทำให้อิ้งเสวี่ยมิต้องกลายเป็ม่าย ทำให้อิ้งเสวี่ยยังคงอยู่ในจวนเหนียนต่อไปได้”
ทุกคนที่นี่ต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่า เป้าหมายของนางหนานกงเยวี่ยครานี้ คือ้าให้จ้าวอิ้งเสวี่ยหย่าและไล่นางออกไปจากจวนเหนียน
หึ ให้นางหย่าหรือ
นางจะยอมให้หนานกงเยวี่ยสมปรารถนาได้อย่างไร!
การอยู่ในจวนเหนียน นางยังมีเื่อีกมากมายที่ต้องทำ
"หืม ถึงกับอยากจะหย่าท่านหญิงราชนิกุลของข้าเช่นนั้นเชียวหรือ" ฮองเฮาอวี่เหวินพ่นลมหายใจอย่างเยือกเย็น "หนานกงเยวี่ยนั่น หากเมื่อครู่ไม่ใช่เพราะพะวงเื่ตระกูลหนานกง..."
หากไม่พะวงเกี่ยวกับตระกูลหนานกง นางหรือจะยอมแค่ให้หนานกงเยวี่ยยอมรับผิดและขออภัยอิ้งเสวี่ย?
จ้าวอิ้งเสวี่ยและจิ้นหวางเฟยเข้าใจความกังวลของฮองเฮาอวี่เหวิน จึงไม่เอ่ยอะไรออกมา
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในยามนี้ ทำให้พวกนางพึงพอใจอย่างมาก
เื่ราวทั้งหมดในวันนี้ เหนียนเฉิงที่ประสบเหตุการณ์ร้ายแรง ชื่อเสียงของเหนียนอีหลานยังมาด่างพร้อย รวมกับความจนตรอกของหนานกงเยวี่ย แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับพวกนางแล้ว
“วันนี้ฮองเฮามาหาหม่อมฉัน มีเื่อะไรหรือเพคะ?” จู่ๆ จิ้นหวางเฟยกลับเอ่ยปากถาม แม้นางและฮองเฮาอวี่เหวินจะไปมาหาสู่กันเป็ประจำ ทว่าหลังจากเื่ที่เกิดขึ้นกับอิ้งเสวี่ย ความสัมพันธ์ของพวกนางกลับเหินห่างลงไปไม่น้อย ฝั่งหนึ่งกังวลว่าอีกฝั่งจะร้องขออะไรที่ทำให้ตนเองลำบากใจ อีกฝั่งก็รู้สึกแค้นเคืองในใจ
แต่ก่อนหน้านี้ ฮองเฮาอวี่เหวินเองก็แทบไม่มีเื่ด่วนจนต้องมาหานางด้วยตัวเองที่จวนจิ้นอ๋อง
อีกอย่าง วันนี้ยังมาหานางถึงที่นี่ ช่างทำให้นางรู้สึกแปลกใจเสียจริง
จ้าวอิ้งเสวี่ยเองก็อยากรู้เื่นี้เช่นกัน จึงหันมองฮองเฮาอวี่เหวิน ทว่ากลับเห็นเพียงพระนางและองค์หญิงใหญ่ชิงเหอแลกเปลี่ยนสบสายตากัน บางอย่างในดวงตา ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกใคร่อยากรู้
ฮองเฮาอวี่เหวินไม่ตรัสอะไร กลับกันเป็องค์หญิงใหญ่ชิงเหอที่หัวเราะออกมา “เรามาหาเ้าที่ไหนกัน พวกเรามิใช่ว่าถูกสาวน้อยผู้หนึ่งพามาหรอกหรือ นี่...เด็กสาวที่พาพวกเรามา ไม่รู้ว่าหายตัวไปไหนแล้ว ไม่รู้วิ่งเข้าไปที่ป่าไหนแล้ว”
น้ำเสียงขององค์หญิงใหญ่ชิงเหอ แฝงอารมณ์รักใคร่เอ็นดูอย่างไม่ปิดบัง
"เด็กสาวหรือเพคะ?" จิ้นหวางเฟยขมวดคิ้ว สงสัยว่าเด็กสาวที่องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเอ่ยถึงหมายถึงผู้ใด ทว่าจ้าวอิ้งเสวี่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลันตอบสนองออกมาอย่างรวดเร็ว
เด็กสาว?
เหนียนยวี่หรือ
ถ้าเป็เหนียนยวี่...
เมื่อได้ยินน้ำเสียงขององค์หญิงใหญ่ชิงเหอ ทุกคนต่างเล่าลือว่าคุณหนูรองที่เพิ่งไต่เต้าปีนป่ายกิ่งไม้สูงได้ไม่นาน กลับสูญเสียความโปรดปราน เกรงว่ามันคงจะไม่ใช่ความจริง!
เหนียนยวี่กลับมาจวนเหนียนแล้วงั้นหรือ?
เมื่อนึกถึงจดหมายเมื่อวานและของที่ซ่อนอยู่ในลานเซียนหลาน มุมปากจ้าวอิ้งเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะยกโค้งขึ้นช้าๆ
หนานกงเยวี่ยเอ๋ยหนานกงเยวี่ย เ้าคิดว่าเื่วันนี้จะปิดฉากลงเช่นนี้หรือ?
ยังมีบางเื่ที่ยังไม่ได้เริ่มเปิดฉากเลยด้วยซ้ำ นางอยากจะเห็นเสียจริงว่าของกำนัลชิ้นใหญ่ครานี้ที่เหนียนยวี่จะมอบให้เหนียนอีหลาน หนานกงเยวี่ยจะอดทนกล้ำกลืนได้หรือไม่!
จวนเหนียน
หลีอ๋องจ้าวเยี่ยนเดินเล่นรอบสวนตามใจชอบ ทว่าในหัวของเขากลับผุดภาพเงาร่างของเหนียนยวี่เข้ามาตลอด
นางใช้ชีวิตในจวนเหนียนแห่งนี้มาตลอดสิบห้าปี ทุกหนทุกแห่งที่นี่ ล้วนควรจะมีความทรงจำของนาง ไม่รู้เหตุใดที่เขามองไปทุกแห่งแล้วได้แต่นึกภาพเด็กสาวที่แต่งกายเป็บุรุษ ทุกการเคลื่อนไหว ทุกการขมวดคิ้ว ทุกรอยยิ้มอยู่ในสวนแห่งนี้
ทว่าเมื่อมาถึงที่นี่ จ้าวเยี่ยนกลับหยุดฝีเท้าลง
“ตรงนั้นกำลังทำอะไรกัน?”
ครั้นเห็นภาพที่กำลังสร้างเรือนข้างหน้า จ้าวเยี่ยนจึงเอ่ยถามคนใช้ของจวนเหนียนที่เดินผ่านมาข้างๆ อย่างตามใจ
ชายรับใช้ผู้นั้นผงะและรีบโค้งคำนับให้จ้าวเยี่ยน "ทูลท่านอ๋อง เป็คำสั่งของนายท่านที่ให้สร้างหอสูงให้คุณหนูรองพ่ะย่ะค่ะ"
"คุณหนูรอง?"
สร้างหอสูงให้เหนียนยวี่หรือ
เกือบครู่หนึ่งที่จ้าวเยี่ยนรู้สึกสนใจขึ้นมา
“พ่ะย่ะค่ะ คุณหนูรอง ก่อนหน้านี้คุณหนูรองอาศัยอยู่ที่ห้องคนใช้ ต่อมาคุณหนูใหญ่เห็นใจกับการใช้ชีวิตอย่างขาดแคลนของคุณหนูรอง ดังนั้นจึงไปรับคุณหนูรองมาอยู่ที่ลานเซียนหลานพ่ะย่ะค่ะ สองพี่น้องอาศัยอยู่ร่วมกัน ทว่ายามนี้คุณหนูรองถูกบันทึกนามลงในบันทึกราชวงศ์แล้ว ทั้งตอนงานเลี้ยงยังได้รับจี้หยกเกล็ดัมาอีก เป็ธรรมดาที่ไม่อาจอยู่เช่นเดิมได้ นายท่านจึงสั่งให้สร้างที่อยู่ให้คุณหนูรองเป็อย่างดีพ่ะย่ะค่ะ”
ข้ารับใช้จวนเหนียนเอ่ย
จ้าวเยี่ยนยืนฟังเงียบๆ ตอนนี้แม้แต่ข้ารับใช้จวนเหนียน ก็ยังรู้ว่าฐานะของเหนียนยวี่นั้นแตกต่างจากในอดีต
"เหนียนยวี่..." จ้าวเยี่ยนขบเคี้ยวชื่อนั้น แฝงนัยไม่ชัดเจน ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาสงบนิ่งคู่นั้น ราวกับมีคลื่นระลอกหนึ่งพาดผ่าน และเอ่ยถามต่อว่า “ลานเซียนหลานหรือ? จะไปลานเซียนหลานอย่างไร?”
"ไปตามทางร่มไม้นี้พ่ะย่ะค่ะ จากนั้นผ่านศาลาริมน้ำ เดินตรงไปอีกหน่อย ก็คือลานเซียนหลานแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
จ้าวเยี่ยนรอข้ารับใช้คนนั้นเอ่ยจบ เขารีบพยักหน้าและส่งยิ้มให้ จากนั้นจึงหันกลับไปและเดินไปตามทางที่ข้ารับใช้คนนั้นชี้...
ในลานเซียนหลาน
ข้ารับใช้ทั้งหมดถูกไล่ออกไปจากลานก่อนที่เหนียนอีหลานจะกลับมา ในขณะนี้ ลานเรือนช่างเงียบสงบ ยกเว้นเสียงร้องของจักจั่นในฤดูร้อน
ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในจวนเหนียนเมื่อครู่นี้ ไม่ได้รบกวนที่นี่เลยแม้แต่น้อย
เื้ับานประตูห้องที่ปิดสนิท
ควันจากกระถางธูปลอยฟุ้งวนขึ้นเป็เกลียวเบาบาง
หนึ่งสตรีบนเตียงหลับตาแน่น วงคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย บางคราส่งเสียงครางในลำคอ ราวกับนอนหลับไม่สนิทเท่าใดนัก
“ไม่ อย่าเข้ามา...” ทันใดนั้นสตรีบนเตียงร้องอุทานขึ้นมาอย่างใ มือของนางจับหน้าอกตัวเองโดยไม่รู้ตัว พลางส่ายหัวไปมา “ไปให้พ้น เหนียนยวี่ ออกไปเดี๋ยวนี้...ไม่ ฮองเฮา ฮองเฮา ไม่ใช่ข้า...”
เตียงนุ่มส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด หน้าต่างถูกเปิดออก
เหนียนยวี่ที่แต่งตัวเป็นางกำนัลก่อนหน้านี้ เสื้อผ้าบนตัวนางยามนี้ถูกเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว เห็นท่าทีดิ้นรนของเหนียนอีหลานที่หลับฝันอยู่บนเตียง มองเห็นร่องรอยบนเตียง มุมปากของเหนียนยวี่พลันยกยิ้มชั่วร้าย