“พระชายาเห็นว่าเ้าหายออกจากงาน นางไม่สบายใจอย่างมาก ข้าก็เลยออกมาตาม ไม่คิดว่าจะเจอเ้าที่นี่ หากไม่อยากอยู่ร่วมงานแล้วก็ควรบอกกล่าวให้คนอื่นรับรู้ จะได้ให้คนติดตามมาดูแล กว่าถึงเดินทางถึงจวนก็ไม่ใช่ระยะทางที่ใกล้เท่าใดนัก ยิ่งเป็สตรีสองคนก็ยิ่งอันตราย” เขาพูดกึ่งสั่งสอน ก่อนนางยิ้มเล็กน้อย
“โดยปกติแล้ว บ้านเมืองสงบสุข ไม่เคยได้ยินข่าวปล้นจี้ น่าแปลก ตรงที่วันนี้เป็วันงานของสกุลซุนแท้ ๆ มีเหล่าขุนนางและทหารมากมายมาร่วมงาน โจรพวกนี้ก็ยังกล้า ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจแค่มาก่อกวน” ชินอ๋องยกกระบี่ขึ้นดู ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นตราสัญลักษณ์ของกองทัพติดอยู่
“คนของใต้เท้าเหยาซื่องั้นเหรอ” ชายหนุ่มอุทานขึ้น ก่อนหยางซิ่วหนิงจะเดินเข้ามาแล้วยิ้มเล็กน้อย
“ตราสัญลักษณ์พวกนี้ หากถูกขโมยมาก็คงไม่แปลก” ชินอ๋องได้ยินดังนั้น จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เ้ากำลังจะบอกอะไรข้า”
“ใต้เท้าเหยาเป็คนซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อราชสำนักเสมอมา ยิ่งกว่านั้นคุณชายเหยาก็เป็สุภาพบุรุษ ทั้งตระกูลมีแต่คนดี... ไม่มีทางเลี้ยงคนเลวพวกนี้ไว้แน่ บางทีกระบี่เล่มนี้ คนพวกนั้นอาจจงใจทำตกไว้ เพื่อใส่ความสกุลเหยา” ชินอ๋องได้ยินดังนั้นจึงยิ้มมุมปาก แล้วก้าวเท้ามาหาหยางซิ่วหนิง ก่อนนางจะชะงัก แล้วรีบถอยหลังทันที
“ใคร ๆ ต่างก็ว่าเ้าเล่ห์เหลี่ยมเยอะ สร้างมิตรเมื่อ้าผลประโยชน์ สร้างศัตรูเมื่อถูกขัดขวาง ขนาดพระชายาที่เป็น้องสาวแท้ ๆ ของเ้า ก็โดนเ้ารังแกสารพัด เ้าไม่คิดบ้างเหรอ ว่าคนพวกนี้อาจเป็ศัตรูของเ้าที่มาแก้แค้น”
“ท่าน!” หยางซิ่วหนิงเผลอยกมือขึ้นชี้หน้าเขา หากแต่พยายามเก็บอารมณ์ขุ่นมัวไว้ แล้วกลั้นใจไม่โต้เถียง
“หม่อมฉันขอตัวลาเพคะ” นางนิ่วหน้า แล้วฝืนย่อตัวเคารพ ก่อนจะเดินจากไปด้วยใบหน้าง้อเง้า
“ตามไปส่งนางจนถึงจวน” ชินอ๋องหันไปสั่งทหาร ก่อนเขาจะเดินกลับเข้าจวนสกุลซุนไปพร้อมกระบี่ในมือ
สองเท้าของหยางซิ่วหนิงจ้ำอ้าวตรงไปยังจวนสกุลหยางด้วยความเจ็บใจอย่างถึงที่สุด สองเท้าเดินฉับ ๆ พร้อมอิงอิงวิ่งตามเป็ระยะ
“ชินอ๋อง ท่านคิดว่าท่านสูงส่ง จึงกล้าต่อว่าข้า หึ! ใช่! ข้าชั่วร้าย แต่ก็ไม่ได้ครึ่งหนึ่งของท่านหรอก บังอาจก่อฏ แถมยังหลอกใช้ข้าเป็เครื่องมือ พอได้ทุกอย่างมาแล้ว ก็จับข้าแขวนคอ ใครกันแน่ที่เลวทรามโเี้!!” นางพูดะโสุดเสียง เพื่อระบายโทสะ ก่อนอิงอิงและทหารที่ติดตามมาจะชะงักนิ่ง มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทว่าหญิงสาวที่เผลอะโออกมาค่อย ๆ รู้สึกตัว
“เอ่อ..ข้า...” นางอึกอัก พยายามหาคำแก้ตัว
“ข้า...ช่างเถอะ อย่าสนใจเลย ข้าก็แค่เลอะเลือนชั่วขณะ” หญิงสาวพูดปัด แล้วจ้ำอ้าวกลับจวนสกุลหยางไปทันที
ภายในตำหนักเซียนซือ ทั้งหมดนั่งมองไปยังกระบี่ที่มีตราสัญลักษณ์ของกองทัพอยู่ ใต้เท้าหยางและภรรยาหันมองไปยัง ใต้เท้าเหยาซื่อเป็สายตาเดียวกัน ก่อนเขาจะยกมือขึ้นปฏิเสธ
“เป็ไปไม่ได้ คนที่มีสัญลักษณ์นี้ที่กระบี่ ต้องทำคุณงามความดี ข้าจึงจะมอบสัญลักษณ์นี้ให้ ไม่ใช่ว่าทหารคนใดจะมีก็ได้ อีกอย่างปล้นจี้กลางเมือง ไม่ใช่น้ำใจของทหารกล้าที่ข้าเฝ้าอบรมมา” คำยืนยันของใต้เท้าเหยาซื่อ ทำให้พระชายาที่นั่งอยู่หันมายังชินอ๋อง
“พวกเขาเพียงแค่้าปิ่นที่ข้ามอบให้พี่ใหญ่ ความจริงแล้วปิ่นนั้นก็ไม่ได้มีค่ามาก ถึงขนาดต้องลงทุนมาเสี่ยง ทั้งที่รู้ว่าภายในงาน มีแต่เหล่าขุนนางและทหารมากมาย หม่อมฉันคิดว่าอาจเป็การป้ายสีสกุลเหยา” ซินอ๋องทอดสายตาไปยังกระบี่นั้นแล้วพยักหน้า
“เ้าพูดเหมือนที่ซิ่วหนิงพูด” คำตอบของชินอ๋องทำให้ทุกคนหันมองหน้ากัน ก่อนหยางฮูหยินจะเอ่ยขึ้น
“ยัยตัวดีนั่นน่ะนะ คิดเื่เช่นนี้ได้ด้วย หึ! นึกแล้วก็เจ็บใจ หากไม่เพราะนางออกไปตามลำพังเช่นนั้นก็คงไม่เกิดเื่ นี่ถ้าชินอ๋องไม่ตามออกไป ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” หยางฮูหยินพูดด้วยความขุ่นเคือง ก่อนใต้เท้าเหยาซื่อจะเอ่ยขึ้น
“สมแล้วที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าคุณหนูใหญ่สกุลหยางฉลาดหลักแหลม”
“ฉลาดแกมโกงน่ะสิไม่ว่า” คำพูดของหยางฮูหยินทำให้ชินอ๋องหลุดยิ้มออกมา ก่อนใต้เท้าหยางจะเอ่ยปราม
“ฮูหยิน ต่อหน้าชินอ๋อง สำรวมกิริยาด้วย” หยางฮูหยินได้สติกลับมา พร้อมรอยยิ้มของชินอ๋องยังคงเปื้อนอยู่บนใบหน้า
“เช่นนั้นกระบี่เล่มนี้ข้ามอบคืนให้ใต้เท้าเหยาซื่อก็แล้วกัน คาดว่าท่านคงตามคืนเ้าของได้ไม่ยากนัก” ใต้เท้าเหยาซื่อเอื้อมมารับกระบี่คืนด้วยกิริยานอบน้อม ก่อนชินอ๋องจะเอ่ยเตือนบางอย่าง
“เื่วันนี้ที่เกิดขึ้น ข้าอยากให้ทุกคนระวังตัวไว้บ้างก็ดี ถึงขนาดกล้าป้ายสีสกุลเหยาได้ อาจเป็ฝีมือของคนในวังหลวงที่เป็ศัตรูของพวกเรา”
“หรือว่าจะเป็ฝีมือของใต้เท้าซุน” พระชายาพูดขึ้นด้วยความแคลงใจ ก่อนซินอ๋องจะส่ายศีรษะ
“แม้ใต้เท้าซุนขึ้นรับตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีได้ไม่นาน และพยายามผูกมิตรกับเหล่าขุนนางไว้ได้หลายคน การกระทำอ่อนหัดเช่นนี้ ไม่น่าใช่ฝีมือใต้เท้าซุนเป็แน่”
“พระองค์กำลังจะบอกว่าเป็ฝีมือของคนที่ใต้เท้าซุนไปผูกมิตรด้วยงั้นเหรอพ่ะย่ะค่ะ” ใต้เท้าเหยาซื่อเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ ก่อนชินอ๋องจะนิ่งเงียบไป
“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ เอาล่ะ วันนี้ทุกคนเหนื่อยมามากแล้ว แยกย้ายกันกลับจวนเถอะ หากมีเหตุการณ์อะไรไม่ชอบมาพากล ก็ขอให้รีบมาแจ้งข่าวแก่ข้า จะได้จัดการได้ทันท่วงที”
“เพี้ย!” เสียงฝ่ามือของใต้เท้าซุนฟาดลงบนใบหน้าลูกสาวด้วยความโกรธ บ่าวไพร่ที่อยู่บริเวณนั้นต่างใอย่างที่สุด ก่อนใต้เท้าซุนจะไล่ทุกคนให้ออกไป เหลือเพียงลูกสาวตัวดีที่ก่อเื่ใหญ่ไว้ในวันงาน
