ตอนที่หรงจิ่งฟื้นขึ้นมา ภาพที่เขาเห็นคือบ้านเรือนธรรมดาๆ ของชาวนา
เกิดเื่อะไรขึ้น? หรือว่าเขาถูกจับแล้วเช่นนั้นหรือ? แต่คนเหล่านี้จับตัวเขาอย่างโจ่งแจ้ง เหตุใดจึงไม่ขังเขาเอาไว้ กลับให้เขามาอยู่ในเรือนของชาวนา? คนเหล่านี้ประมาทเลินเล่อมากถึงขั้นนี้เชียวหรือ? ไม่กลัวเขาฟื้นขึ้นมาแล้วหลบหนีหรือ?
หรงจิ่งขมวดคิ้วเป็ปมคิดทบทวนเื่ราวทั้งหมด แต่เขาก็ยังคงไม่ค่อยเข้าใจจึงพยายามลุกขึ้นและด้วยความที่ไม่ทันระวังทำให้าแบนตัวของเขาปริ หรงจิ่งเจ็บจนกัดฟันแน่น
ซี๊ด...คนพวกนี้ช่างเหี้ยมโหดยิ่งนัก แม้จะไม่ทำร้ายเขาจนตายแต่ก็ไม่มีความปรานี เหตุเพราะเสียเืมากจึงทำให้เขาหมดเรี่ยวแรง เขาอดทนกับความเ็ปของร่างกาย เปิดเสื้อบริเวณแผงอกแต่กลับพบว่าถูกพันด้วยผ้าขาว ทั้งยังมีกลิ่นหอมของยาลอยฟุ้งออกมา
เป็ที่แน่ชัดว่ามีคนทายาให้เขาแล้ว ทั้งยังทำแผลให้เขาอีกด้วย
ดูเหมือนว่าเขาโชคดีหนีรอดจากการจับกุมของคนพวกนั้นมาได้แล้วถูกคนช่วยชีวิตไว้เช่นนั้นหรือ?
หรงจิ่งคิดเหตุและผลของเื่ทั้งหมดรอบหนึ่ง พอจะคาดเดาได้ว่าคนในเรือนนี้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ทั้งยังทำแผลให้เขา เขาควรขอบคุณต่างหาก
หรงจิ่งพยายามจะลุกขึ้น ประจวบเหมาะเวลานี้หญิงสาวหน้าตาใสซื่อเชื่อฟังเดินเข้ามา "เอ๋? ท่านตื่นแล้วหรือ? นี่ๆๆ ท่านอย่าเพิ่งขยับ แผลของท่านยังไม่หายดี" หญิงสาวรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับถ้วยยาในมือ ไม่รอให้หรงจิ่งพูดอะไรนางก็ใช้มือข้างหนึ่งกดหรงจิ่งกลับไปนอนบนเตียงดังเดิม
เจ็บเหลือเกิน!
หรงจิ่งคิดไม่ถึงว่าหญิงสาวหน้าตาอ่อนหวานน่ารักคนนี้จะมีเรี่ยวแรงมากจนน่าตกตะลึงเช่นนี้ กดเขาลงบนเตียงด้วยมือข้างเดียว ตอนที่แผ่นหลังของเขาล้มลงบนเตียง เขาคล้ายจะได้ยินเสียง 'กรึก' ดังขึ้น หรงจิ่งเจ็บจนเหงื่อแตก
หญิงสาวใรีบถอนมือกลับ จากนั้นแลบลิ้น ทุกครั้งที่นางร้อนใจก็มักจะเผลอลืมคุมเรี่ยวแรงของตนเสมอ เสียงเมื่อครู่ที่ดังขึ้นคงเจ็บเจียนตายกระมัง
"เอ่อ...เอ่อ ท่านจะโทษข้าไม่ได้! ผู้ใดใช้ให้ท่านาเ็แล้วยังขยับเขยื้อนไปมาอีก ข้าหวังดีกับท่าน" นางกลัวถูกเขาต่อว่าจึงพูดอธิบาย
หรงจิ่งรอให้ความเ็ปจางหายไป เขามั่นใจว่าหญิงสาวตรงหน้าคือคนที่ช่วยตนไว้ เขาพอจะจำได้แล้วว่าก่อนที่ตนจะหมดสติ คล้ายมีสตรีคนหนึ่งเดินมาตรงหน้า คาดว่าต้องเป็หญิงสาวคนนี้อย่างแน่นอน มิเช่นนั้นชายร่างใหญ่เช่นเขาจะออกมาจากป่าลึกบนหุบเขาได้อย่างไร แล้วยังถูกพากลับมาที่เรือนของชาวนา?
"แม่นางพูดเล่นไปแล้ว แม่นางช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าซาบซึ้งใจยิ่งนัก แล้วจะตำหนิแม่นางได้อย่างไร" หรงจิ่งคลี่ยิ้มสะกดใจที่หล่อเหลาที่สุดของตนเอง พูดกับหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
ทว่าผู้ใดจะคาดคิด หญิงสาวกลับพูดอย่างตรงไปตรงมา "คนที่ช่วยชีวิตท่านไม่ใช่ข้า แต่เป็คุณหนูของข้า แผลบนกายท่าน คุณหนูของข้าก็เป็คนรักษา ท่านอย่าเข้าใจผิด"
คุณหนู? หรือว่าจะเป็บุตรีของมหาเศรษฐีคนใด? แต่...เห็นชัดว่านี่คือบ้านเรือนของชาวนา แล้วจะมีคุณหนูอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
ไม่รอให้หรงจิ่งได้ครุ่นคิด เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น "เสี่ยวหมาน บอกให้เ้าป้อนยา เหตุใดจึงนานเช่นนี้?"
เสี่ยวหมานตอบกลับเสียงดัง "คุณหนู ชายคนนี้ตื่นแล้วเ้าค่ะ" หลังจากนั้นนางก็หันกลับมาพูดกำชับหรงจิ่งเสียงเบา "เมื่อครู่ท่านล้มเอง อย่ามาโทษข้า ข้าทำเพราะหวังดีกับท่าน" พูดจบ เสี่ยวหม่านก็ยื่นยาให้เขา ให้เขากินเอง
หรงจิ่งยิ้มเศร้า ั้แ่เล็กจนโตเขาเป็คุณชายที่ถูกประคบประงบอย่างดีไม่เคยถูกปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน นางช่วยชีวิตเขาไว้ แค่ว่ากิริยาหยาบคายเล็กน้อยก็เท่านั้น หรงจิ่งพยักหน้ารับปากเสี่ยวหมาน
ตอนซ่งอวี้เดินมา หรงจิ่งดื่มยาในมือจนหมดแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาเหยเกขึ้นมาทันที
ขมยิ่งนัก...ผู้ใดเป็คนจ่ายยาเนี่ย? ดื่มเพียงหนึ่งคำก็ขมแล้ว ราวกับแช่ตัวอยู่ในน้ำขมอย่างไรอย่างนั้น? พลังทำลายล้างรุนแรงเกินไปแล้ว
"ขมเป็ยา แม้คุณชายจะไม่ได้าเ็สาหัส แต่ท่านมีแผลไม่น้อยทั้งยังเสียเืมาก ยาต้มนี้ดีต่อร่างกายของท่าน" หลังจากซ่งอวี้ชื่นชมใบหน้าบิดเบี้ยวของหรงจิ่งจนพอใจนางค่อยอธิบาย
แม้รสชาติในปากทำให้หรงจิ่งอยากอาเจียนแต่เขาก็พยายามทำหน้าให้ดูปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ "ได้ยินว่า คุณหนูเป็คนช่วยชีวิตข้า?" เขาอยากจะยกมือขึ้นคารวะ แต่ว่าสองมือของเขาไม่มีเรี่ยวแรงจริงๆ ยกมือได้ครึ่งทางก็วางลงอย่างหมดเรี่ยวแรง
ซ่งอวี้พยักหน้าไม่ปฏิเสธ พลางเอ่ยบอก "ข้าเพียงไม่อาจทนเห็นคนตายต่อหน้าตนเท่านั้น ในเมื่อท่านล้มลงตรงหน้าข้าแล้ว ข้าย่อมไม่มีวันปล่อยให้ท่านตายกลางป่าลึกบนหุบเขา ท่านไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ รอแผลประสานดีก็จะเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้นแล้ว"
เมื่อคราวก่อนช่วยชีวิตหลี่เฉิงแต่กลับทำหัวใจตนเองหล่นหาย ครั้งนี้ซ่งอวี้จึงไม่คิดจะสนิทสนมกับหรงจิ่ง แม้กระทั่งเื่ดูแลหรงจิ่งนางก็ให้เสี่ยวหมานเป็คนทำ
หรงจิ่งยิ้ม มองข้ามความเ็าในน้ำเสียงของซ่งอวี้ "ข้าหรงจิ่ง ได้รับความช่วยเหลือจาก ไม่รู้ว่าคุณหนูมีนามว่าอะไร?"
"ซ่งอวี้"
"คุณหนูซ่ง บุญคุณที่คุณหนูช่วยข้าไว้ วันข้างหน้าข้าหรงจิ่งย่อมทดแทนบุญคุณ" หรงจิ่งลุกขึ้นนั่งด้วยความยากลำบาก จ้องมองซ่งอวี้ด้วยดวงตาทอประกาย แล้วให้คำสัญญา
บุญคุณในการช่วยชีวิตจะไม่ตอบแทนได้อย่างไร น้ำเสียงของหรงจิ่งหนักแน่นมากทั้งยังไม่ยอมให้ปฏิเสธ แน่นอน แม้จะปฏิเสธก็เปล่าประโยชน์ ขอเพียงเขามีชีวิตกลับไปย่อมมาตอบแทนบุญคุณ
ทว่าซ่งอวี้กลับไม่เก็บเื่นี้มาใส่ใจ พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจแล้วเดินออกไปทิ้งให้เสี่ยวหมานคอยดูแลเขา ั้แ่ต้นจนจบสีหน้าของซ่งอวี้นิ่งสงบไม่ได้มีอารมณ์สุขหรือทุกข์ใดๆ
น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ ซ่งอวี้อยู่ข้างนอกมีสีหน้าเช่นนี้หรือ?
หรงจิ่งมองซ่งอวี้ที่อยู่นอกหน้าต่าง พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง "ดูเหมือนว่าคุณหนูของแม่นางเข้าถึงยากยิ่งนัก"
เสี่ยวหมานได้ยินเช่นนั้นก็โต้กลับด้วยความโมโห "คนอย่างพวกท่านจะเข้าใจอะไร คุณหนูเป็คนดี นางไม่รังเกียจที่ข้ากินเก่ง บอกให้ข้าจนกว่าจะอิ่ม อีกทั้งยังบอกอีกว่าสิบปีข้างหน้าคุณหนูจะอนุญาตให้ข้าไถ่ถอนตนเอง"
ฟังแค่น้ำเสียง ก็รู้แล้วว่าเสี่ยวหมานกลายเป็คนคลั่งไคล้คุณหนูของตนแล้ว ไม่อาจทนฟังผู้อื่นตำหนิซ่งอวี้ได้แม้แต่คำเดียว
หรงจิ่งหัวเราะในใจ ทว่าคิดไม่ถึงว่าจะกระเทือนถึงแผล เขาอดไม่ได้ที่จะสูดปากด้วยความเ็ป เสี่ยวหมานถลึงตามองเขาครู่หนึ่ง "ท่านพักรักษาตัวเถอะ อย่าทำลายน้ำใจของคุณหนูที่ช่วยท่านเอาไว้ พูดไปแล้ว ความเป็จริงข้ากับพี่อาฝูไม่เห็นด้วยที่คุณหนูช่วยท่าน ในเรือนมีเพียงสตรี การให้ท่านที่เป็บุรุษมาอยู่ในเรือนรังแต่จะทำให้คุณหนูเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่คุณหนูจิตใจดีทนเห็นท่านตายไม่ได้ หากท่านไม่รักษาตัวให้ดีแล้วจะคุ้มค่ากับที่คุณหนูช่วยท่านเอาไว้ได้อย่างไร"
แววตาของหรงจิ่งเป็ประกายแวววับ เม้มริมฝีปาก สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไร ล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับตาลง
เสี่ยวหมานคิดว่าเขานอนหลับไปแล้วจึงเก็บข้าวของ เดินออกไปจากห้อง
รอให้เสียงฝีเท้าของเสี่ยวหมานไกลออกไป หรงจิ่งที่หลับตาอยู่นั้นก็ลืมตาขึ้นมา แววตาของเขาสดใสไม่มีความง่วงแม้แต่น้อย
เขายกมือขวาขึ้น เหตุเพราะาเ็เวลานี้เขาจึงยังไม่มีเรี่ยวแรง แผลบนมือของเขามีคนทำแผลให้แล้ว แผลของเขาพันด้วยผ้าอย่างดี
ทั้งหมดนี้ซ่งอวี้เป็คนทำ
"ซ่งอวี้...คนที่ช่วยข้าคือเ้าเช่นนั้นหรือ? เดิมทีข้ายังคิดว่าจะเข้าหาเ้าอย่างไร ทว่าคิดไม่ถึงว่า์กลับเป็ใจ...ข้าจะดูสิว่า เ้าเป็คนอย่างไรกันแน่..."
หรงจิ่งพูดพึมพำในห้องที่ว่างเปล่า ลดมือขวาลงช้าๆ หลับตาลงแล้วนอนหลับไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้