### บทที่ 19: หอหมื่นสมบัติและเศษเสี้ยวแห่งปฐี
รุ่งอรุณของวันใหม่มาเยือนเมืองเมฆาอรุณ
เย่เฟิงลืมตาขึ้นจากการบำเพ็ญเพียรตลอดทั้งคืน เขารู้สึกได้ว่าพลังปราณของตนเองมั่นคงและกลมกลืนยิ่งขึ้น การฝึกฝนในโรงเตี๊ยมแห่งนี้แม้จะไม่ก้าวหน้าเท่ากับในสุสานโบราณ แต่ก็ช่วยให้เขาปรับตัวเข้ากับจังหวะของโลกภายนอกได้ดียิ่งขึ้น
เขาเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเองให้กลายเป็ชายวัยกลางคนหน้าตาธรรมดาสามัญเช่นเคย แล้วจึงออกจากห้องพักเพียงลำพัง เขาไม่ได้บอกแผนการในวันนี้ให้เซี่ยหนิงฉางทราบโดยละเอียด เพียงแค่บอกว่าเขาจะออกไปหา "เงินทุน" เท่านั้น
เขารู้ดีว่าการจะขายของที่ปล้นมาได้จากกลุ่มนักล่าอสูรนั้นมีความเสี่ยงและได้ราคาไม่มากนัก...เขา้าเงินทุนก้อนใหญ่เพื่อซื้อข้อมูลและทรัพยากรที่จำเป็สำหรับการแก้แค้น
ดังนั้น...เขาจึงตัดสินใจที่จะเสี่ยงครั้งใหญ่
เขาเดินไปตามถนนที่เริ่มคึกคักขึ้นเรื่อยๆ ใช้เวลาไม่นานก็มาหยุดยืนอยู่หน้าอาคารที่โอ่อ่าและโดดเด่นที่สุดในเมือง...หอหมื่นสมบัติ
ตัวอาคารนั้นสูงตระหง่านถึงเก้าชั้น สร้างจากไม้หอมหนานมู่สีเข้มทั้งหลัง ที่หน้าประตูทางเข้าขนาดใหญ่ มีผู้คุ้มกันร่างกำยำสี่คนยืนอยู่ ทุกคนล้วนมีระดับพลังอยู่ที่ขั้นสร้างรากฐานเป็อย่างน้อย สายตาของพวกเขาคมกริบและกวาดมองผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างเยือกเย็น บ่งบอกว่าที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะเข้ามาก่อเื่ได้
เย่เฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบจิตใจ แล้วเดินตรงไปยังประตูทางเข้าอย่างมั่นคง
ทันทีที่เขาก้าวเข้าไป พนักงานต้อนรับสตรีในชุดกี่เพ้าสีแดงสวยงามนางหนึ่งก็เดินเข้ามาต้อนรับด้วยรอยยิ้มที่เป็มืออาชีพ "ยินดีต้อนรับสู่หอหมื่นสมบัติเ้าค่ะ ไม่ทราบว่าคุณชาย้าจะเลือกซื้อสินค้า หรือ้าจะขายสินค้าเ้าคะ?"
"ข้ามีของบางอย่าง้าจะขาย...และ้าความเป็ส่วนตัว" เย่เฟิงตอบเสียงเรียบ พยายามกดเสียงของตนเองให้ทุ้มต่ำกว่าปกติ
"เช่นนั้นเชิญทางนี้เ้าค่ะ" นางไม่ได้แสดงความประหลาดใจแม้แต่น้อย นางผายมือไปยังห้องรับรองส่วนตัวห้องหนึ่งที่อยู่ด้านข้างอย่างนอบน้อม "กรุณารอสักครู่ เดี๋ยวจะมีผู้ประเมินาุโมารับรองท่านเ้าค่ะ"
เย่เฟิงเดินเข้าไปในห้องรับรองที่ตกแต่งอย่างหรูหราและนั่งลง ไม่นานนัก ประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง ผู้ที่เดินเข้ามาคือชายชราผู้หนึ่ง เขาสวมอาภรณ์สีเทาเรียบง่าย ผมและเคราเป็สีขาวโพลน แต่ดวงตาของเขากลับสุกใสและเปี่ยมไปด้วยสติปัญญา
"ข้าน้อย 'หลี่ก่วนซื่อ' คารวะคุณชาย" ชายชรากล่าวพร้อมรอยยิ้มบางๆ "ไม่ทราบว่าคุณชายมีสมบัติใด้าให้ข้าน้อยประเมินหรือ?"
เย่เฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาหยิบกล่องไม้ธรรมดาๆ กล่องหนึ่งออกมาวางบนโต๊ะอย่างแ่เบา
หลี่ก่วนซื่อมองกล่องไม้นั้นด้วยความสงบ เขาเคยเห็นสมบัติมาแล้วนับไม่ถ้วน ไม่ว่าของสิ่งนี้จะเป็อะไร ก็ยากที่จะทำให้เขาใได้
เย่เฟิงค่อยๆ เปิดฝากล่องออก...เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน
มันคือ "เศษหิน" ชิ้นเล็กๆ ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อยชิ้นหนึ่งเท่านั้น มันมีสีเหลืองขุ่นๆ และดูไม่มีอะไรพิเศษเลยแม้แต่น้อย
หลี่ก่วนซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย...นี่เด็กหนุ่มคนนี้กำลังจะล้อเล่นกับหอหมื่นสมบัติของพวกเขารึ?
แต่ก่อนที่เขาจะได้ทันเอ่ยปากพูดอะไร...เขาก็ััได้ถึงมัน...
มันคือไอพลังงานธาตุดิน...ที่บริสุทธิ์และหนาแน่นจนน่าเหลือเชื่อ!
สีหน้าของหลี่ก่วนซื่อเปลี่ยนไปในทันที! เขารีบหยิบแว่นขยายผลึกแก้วชนิดพิเศษออกมาสวม แล้วก้มลงไปมองเศษหินชิ้นนั้นอย่างละเอียด
ยิ่งมอง...ดวงตาของเขาก็ยิ่งเบิกกว้างขึ้น! มือที่เคยสงบนิ่งของเขาเริ่มสั่นเทาเล็กน้อย!
"เป็ไปไม่ได้..." เขาพึมพำกับตัวเอง "พลังปฐีที่บริสุทธิ์และเก่าแก่ถึงเพียงนี้...นี่...นี่มันไม่ใช่หินธรรมดา...แต่มันคือเศษเสี้ยวที่แตกออกมาจาก 'สมบัติ์ปฐี' อย่างไม่ต้องสงสัย!"
เขารีบเงยหน้าขึ้นมามองเย่เฟิงอีกครั้ง สายตาของเขาในคราวนี้ไม่มีความสงสัยอีกต่อไปแล้ว มีเพียงความตกตะลึงและความเคารพอย่างสุดซึ้ง!
เขารู้ดีว่าสมบัติ์ปฐีนั้นล้ำค่าเพียงใด การที่จะได้มาแม้เพียงเศษเสี้ยว ก็ต้องมีวาสนาหรือพลังอำนาจที่ไม่อาจจินตนาการได้ เื้ัของชายวัยกลางคนลึกลับที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ต้องยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เขาจะคาดเดาได้อย่างแน่นอน!
"คุณชาย...ของ...ของล้ำค่าชิ้นนี้...ท่าน้าจะขายมันจริงๆ หรือขอรับ?" หลี่ก่วนซื่อถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย
"ใช่" เย่เฟิงตอบสั้นๆ "เสนอราคามา"
หลี่ก่วนซื่อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ "เศษเสี้ยวปฐีนี้ แม้จะเล็กมาก แต่ความบริสุทธิ์ของมันนั้นนับว่าสูงสุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา หากนำไปใช้เป็แกนพลังงานของค่ายกล หรือนำไปให้ปรมาจารย์หลอมศาสตราหลอมรวมเข้ากับอาวุธ...มูลค่าของมัน...ประเมินค่ามิได้!"
เขาครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว "หอของเรายินดีที่จะเสนอราคาให้ท่านที่...หินปราณชั้นกลาง...สามพันก้อน! และจะทำการซื้อขายกันอย่างเงียบเชียบที่สุด!"
สามพันก้อน!
เย่เฟิงใจเต้นแรงขึ้นมาทันที! นี่คือความมั่งคั่งมหาศาลที่เขาไม่เคยคาดฝันมาก่อน! เพียงแค่เศษเสี้ยวเล็กๆ กลับมีค่าถึงเพียงนี้!
แต่ใบหน้าภายใต้หน้ากากมายาของเขายังคงเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลง "ตกลง"
"ยอดเยี่ยม!" หลี่ก่วนซื่อดีใจอย่างยิ่ง เขาไม่กล้าที่จะต่อรองราคาเลยแม้แต่น้อย การได้สร้างสายสัมพันธ์กับลูกค้าระดับนี้สำคัญกว่าผลกำไรเล็กๆ น้อยๆ มากนัก
เขาจัดการเื่การซื้อขายอย่างรวดเร็วและเป็ส่วนตัวที่สุด หินปราณชั้นกลางสามพันก้อนถูกบรรจุลงในถุงมิติใบใหม่แล้วมอบให้แก่เย่เฟิง
ก่อนที่เย่เฟิงจะจากไป หลี่ก่วนซื่อก็ได้มอบป้ายหยกสีดำสนิทแผ่นหนึ่งให้แก่เขา "คุณชาย นี่คือ 'ป้ายเหล็กนิล' ของหอเรา เป็สัญลักษณ์ของแขกผู้ทรงเกียรติ ท่านสามารถใช้มันเพื่อรับส่วนลด 10% และเข้าใช้ห้องรับรองพิเศษได้ทุกสาขาของหอหมื่นสมบัติ"
เย่เฟิงรับป้ายนั้นมาแล้วพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเดินจากไปโดยไม่กล่าวอะไรอีก
หลี่ก่วนซื่อยืนมองตามแผ่นหลังนั้นไปจนลับสายตา เหงื่อเย็นเยียบไหลซึมออกมาเต็มหน้าผาก...วันนี้...เขาเกือบจะได้ล่วงเกินตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวตนหนึ่งไปแล้ว...
ส่วนเย่เฟิงนั้น...เขากำลังเดินกลับไปยังโรงเตี๊ยมวิหคหลับใหลอย่างสงบ...ในมือของเขากำถุงมิติที่บรรจุความมั่งคั่งมหาศาลเอาไว้
เขามีเงินทุนเริ่มต้นแล้ว...และเขาก็ได้ทิ้งร่องรอยที่น่าสงสัยเอาไว้ให้หอหมื่นสมบัติติดตามแล้วเช่นกัน...
ทุกย่างก้าวในเมืองเมฆาอรุณแห่งนี้...ล้วนเต็มไปด้วยโอกาสและความเสี่ยงที่เท่าเทียมกัน
(จบตอนที่ 19)