หลังจากซื้อห้องมือสองแล้ว เมื่อซูอินมีเวลาว่างก็เริ่มจัดการเื่อื่นๆ ต่ออย่างเื่เงินบริจาคช่วยเหลือ
เื่กองทุนเงินบริจาคช่วยเหลือเด็กยากจนผ่านไปอย่างราบรื่นเหมือนกับการซื้อห้องมือสอง
ซึ่งแท้ที่จริงเป็เพราะเธอได้เพื่อนที่พึ่งพาได้
อวี๋ิกวงเป็คนหนึ่งที่มาจากชนบทเหมือนหลิงจื้อเฉิง สอบติดมหาวิทยาลัย ใช้ความรู้เปลี่ยนแปลงโชคชะตา สำหรับเื่เงินช่วยเหลือนักเรียนยากไร้ แน่นอนว่าเขาเองมีความสนใจเช่นกัน
นอกจากนั้นหากวิเคราะห์ในมุมมองนักธุรกิจ การก่อตั้งเช่นนี้ไม่เพียงกดคู่แข่งอย่างหลิงกวงกรุ๊ปไว้ได้ ยังสามารถยกระดับในสังคมของอวี๋หรงกรุ๊ป ในเวลาเดียวกันก็สามารถได้รับการสนับสนุนจากคนใหญ่คนโตที่อยู่เื้ัของซูอินได้อีกด้วย
ในเมื่อเป็สิ่งที่ตนเองให้ความสนใจ อีกทั้งยังได้รับผลตอบรับที่ล้ำค่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่อวี๋ิกวงจะไม่ยอมทำ
เขาไม่ใช่แค่ลงมือทำ แต่ทำอย่างตั้งใจด้วย
งานเลี้ยงฉลองวันเกิดในวันนั้น เมื่อได้รับข่าวจากบุตรสาว เขาก็ส่งเลขาฯ ไปดำเนินการก่อตั้งสมาคมทันที ไม่เพียงแค่นั้น ยังให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของอวี๋หรงกรุ๊ปติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง
และเมื่อถึงเวลาอันสมควร ฉินหล่างซึ่งกลับมาจากปฏิบัติหน้าที่ก็ได้รับข้อความจากเด็กสาวที่ขอเลขบัญชีเพื่อคืนเงิน ระหว่างที่ติดต่อกันเขาได้รู้เื่การจัดตั้งกองทุนการกุศล จึงนำเื่นี้ไปบอกโจวโฮ่วเซิง
โจวโฮ่วเซิงมีตำแหน่งดูแลด้านการศึกษาของมณฑล เมื่อออกคำสั่ง คนที่อยู่ใต้บัญชาการของเขาจะไม่ดำเนินการได้อย่างไร
อวี๋หรงกรุ๊ปซึ่งรับผิดชอบเงินกองทุนพยายามทุ่มสุดตัว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุมัติไฟเขียวและให้ความร่วมมือเต็มที่ ทั้งสองฝ่ายร่วมงานกันเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้น
วันต่อมาซูอินเข้าไปยังสำนักงานที่ตั้งอยู่ในอาคารของอวี๋หรงกรุ๊ป ก่อนจะพบว่าเื่กองทุนการศึกษาเริ่มดำเนินการแล้ว
ในเวลานี้ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องแล้ว การตกแต่งห้องสำนักงานภายในเสร็จสิ้นสวยงาม มีเ้าหน้าที่มืออาชีพคอยทำงานอยู่ในนั้น คีย์ข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ แปลเอกสาร ทุกคนต่างกำลังยุ่งกับงานของตนเอง
เมื่อเห็นบรรยากาศเช่นนั้นซูอินถึงกับตะลึง
“นี่…เร็วเกินไปหรือเปล่าคะ”
นับจากงานเลี้ยงฉลองวันเกิดจนมาถึงวันนี้เป็เวลาเพียงครึ่งเดือน ในชาติก่อนกองทุนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนจัดเตรียมเอกสารมากมายเพื่อส่งให้ทางรัฐบาลอนุมัติด้วยซ้ำ
“ไม่เท่าไรหรอก ความจริงที่ขั้นตอนต่างๆ ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ต้องขอบใจอินอินนะ”
“หนูหรือคะ”
ซูอินชี้นิ้วมาที่ปลายจมูกของตนเอง เธอมองชายวัยกลางคนที่สง่างามซึ่งไม่รู้ว่าเขาเข้ามาตอนไหน ก่อนจะส่ายหัวอย่างอดไม่ได้
“คุณอาอวี๋ อย่ามาล้อเล่นหนูเลยค่ะ หนูก็เป็แค่คนเสนอความเห็นในวันนั้น ส่วนเื่เงินสองแสนหยวนก็เพียงพอแค่ใช้สำหรับตกแต่งห้องสำนักงาน ส่วนที่เหลือแม้แต่ค่าจ้างเ้าหน้าที่มากมายเหล่านี้ หนูก็คงรับผิดชอบไม่ไหวหรอกค่ะ”
เธอมองรอบๆ ห้องสำนักงาน คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ เครื่องถ่ายเอกสาร ยุคสมัยนี้ไม่ใช่ของราคาถูกเหมือนกับในยุคถัดไป ยุคสมัยนี้ของเหล่านี้เป็สินค้าไฮเทค ประสิทธิภาพก็ไม่ดีเท่าไร แต่ราคาสูงปรี๊ด
อวี๋ิกวงมองเด็กสาวตัวน้อยที่ไม่ได้แสดงท่าทีเสแสร้ง ทำให้เขารู้ว่าซูอินไม่รู้เื่นี้มาก่อน
พ่อตาของเขารับราชการ อวี๋ิกวงทำธุรกิจมาหลายปี เคยติดต่อกับหน่วยงานราชการมาไม่น้อย จึงพอจะรู้กฎระเบียบทั่วไปบ้าง อีกฝ่ายทำงานด้านนี้จึงไม่มีอะไรต้องปิดบัง และไม่จำเป็ต้องทำเื่นี้ให้ลึกลับและซ่อนเร้น
“เื่พวกนี้ง่ายมาก ของต่างๆ ในบริษัทล้วนเป็ของสำเร็จรูป หากมีเงินจ่ายสักหน่อยก็จัดการได้แล้ว ส่วนที่ยากที่สุดคือเอกสารจำนวนมาก ในนั้นมีความเกี่ยวข้องกันค่อนข้างเยอะ เดิมทีเื่แบบนี้หากไม่ใช้เวลาถึงครึ่งปี ไม่มีทางได้รับอนุมัติอย่างแน่นอน แต่ครั้งนี้เพราะเธอ เลขาธิการผู้อำนวยการกองการศึกษาโจวที่ดูแลด้านการศึกษาในมณฑลสนใจเื่นี้โดยเฉพาะ เขาประสานงานกับเ้าหน้าที่ที่จัดการเื่นี้ให้ เมื่อส่งเอกสารไปก็แทบไม่ต้องทำอะไรพวกเขาพร้อมที่จะอนุมัติ
เลขาธิการผู้อำนวยการกองโจวงั้นหรือ
ซูอินนึกถึงชายสูงอายุรูปร่างสูงคนนั้น จากนั้นภาพชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาก็ผุดขึ้นมาอีก
เป็เขาแน่ๆ
เมื่อรวบรวมสติ ซูอินก็เข้าใจความเชื่อมโยงที่เกิดขึ้น
ทว่าครั้งนี้ซูอินไม่ได้รู้สึกสับสน อาจเป็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากเขาหลายครั้ง ในใจเธอจึงเริ่มเกิดความรู้สึก “กอดแข้งทองคำ 24K เอาไว้ให้แน่น”
เส้นใหญ่ขนาดนี้ ก็ต้องเกาะหนึบเอาไว้สิ
ใบหน้าหล่อเหลาผุดขึ้นมาในหัว แค่ซูอินนึกถึง รอยยิ้มแห่งความสุขก็ปรากฏที่มุมปาก
ในค่ายทหารที่ไกลจากเมืองผิงออกไปราวๆ หนึ่งร้อยกิโลเมตร ฉินหล่างซึ่งกำลังฝึกทหารใต้บังคับบัญชาด้วยความทรหดก็เกิดความรู้สึกแปลกๆ โดยไม่มีเหตุผล อธิบายไม่ถูกว่าเป็ความรู้สึกแบบใด แต่มันไม่ใช่ความรู้สึกแย่ จนทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มที่มุมปาก
เนื่องจากรอยยิ้มที่นานๆ จะได้เห็นสักครั้ง ทำให้เหล่าทหารที่กำลังฝึกฝนอย่างทุกข์ทรมานชะงักไปชั่วขณะ
ครูฝึกฉินคิดจะหากลเม็ดอะไรมาถ่วงเวลาพวกเขาอีกหรือเปล่า
ณ ห้องสำนักงานกองทุนเงินช่วยเหลือนักเรียนยากจน ในอาคารอวี๋หรงกรุ๊ป
ระหว่างที่ฟังคำอธิบายจากเ้าหน้าที่ ซึ่งซูอินพอจะเข้าใจการทำงานพื้นฐานของกองทุนอยู่แล้ว
ในชาติก่อนเธอเคยช่วยหลิงเมิ่งจัดการเื่เล็กๆ น้อยๆ มาบ้าง หนึ่งในนั้นรวมถึงเื่หาเงินเข้ากองทุนการกุศลเงินบริจาคช่วยเหลือนักเรียนยากไร้ ถึงแม้จะเป็แค่เื่เล็กน้อย แต่ก็ได้ลงมือด้วยตัวเอง ทำให้เธอมีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการดำเนินงานกองทุนช่วยเหลือเด็กยากไร้
พูดได้คำเดียวว่าทีมนี้เป็มืออาชีพ การดำเนินงานสมเหตุสมผล ทำให้ซูอินรู้สึกนับถือพวกเขามากๆ
เธอนับถือเ้าหน้าที่ที่ทำงาน อันที่จริงเหล่าเ้าหน้าที่ก็นับถือเธอเช่นกัน
อวี๋ิกวงให้ความสำคัญกับกองทุนการกุศลช่วยเหลือนักเรียนยากจนครั้งนี้มาก เขาให้เลขาฯ ติดตามภาพรวมของเื่นี้ คนที่ถูกส่งไปจัดการเื่นี้เป็คนระดับหัวกะทิจากอวี๋หรงกรุ๊ป ซึ่งคนระดับหัวกะทิของอวี๋หรงกรุ๊ปล้วนแต่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ ในยุคที่นักศึกษาเป็สิ่งล้ำค่า กลับละทิ้งงานรับราชการที่ใครๆ ต่างก็อิจฉา แล้วเลือกมาทำงานในบริษัท เพราะพวกเขาล้วนยึดมั่นกับความคิดของตนเอง
พวกเขาภาคภูมิใจในตนเอง
เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเป็เพียงเด็กที่เพิ่งเรียนจบมัธยมต้น ถึงแม้เธอจะเป็คนเสนอให้ก่อตั้งกองทุนการกุศลนี้ แต่เด็กคนหนึ่งจะมาเข้าใจอะไรกับเื่ของบริษัทและการดำเนินงานในองค์กร
ถึงแม้จะไม่ได้คาดหวัง แต่ตามชื่อแล้วเด็กสาวคนนี้ถือเป็เ้าของกองทุนการกุศลนี้ ด้วยจิติญญาแห่งความเป็มืออาชีพ พวกเขาได้ตอบข้อซักถามของเธออย่างจริงจัง
คิดไม่ถึงว่า เด็กสาวคนนี้จะตามความคิดของพวกเขาทัน
ไม่เพียงแค่ตามความคิดของพวกเขาทัน ในขณะที่พูดเื่ขั้นตอนดำเนินงาน เธอก็สามารถเสนอแิที่ทำให้แววตาของพวกเขาเป็ประกาย
เปรียบดั่งทองคำที่ส่องประกาย มีความสามารถ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ได้รับความสำคัญเสมอ
ซูอินอาศัยวิสัยทัศน์ที่ล้ำหน้าเสนอแิสร้างสรรค์ อุดช่องโหว่เล็กๆ น้อยๆ ในการดำเนินงานของกองทุน ซึ่งการเสนอแินั้นทำให้เธอได้รับการยอมรับจากเ้าหน้าที่มืออาชีพ และร่วมเป็ส่วนหนึ่งของทีมอย่างรวดเร็ว
หลังจากเข้าใจพื้นฐานการดำเนินงานแล้ว ทีมงานจึงเริ่มหารือเื่โครงการแรกของกองทุน
นี่เป็่เวลาที่เหมาะสมในการก่อตั้งกองทุน เพราะเป็่เวลาที่เพิ่งประกาศผลสอบขึ้นชั้นมัธยมปลายและเข้ามหาวิทยาลัย หลายๆ ครอบครัวที่ยากจนจะต้องเผชิญความลำบากเื่ค่าเล่าเรียน ในเื่นี้ทางกองทุนการกุศลจึงแบ่งเป็สองโครงการ แยกเป็ให้การสนับสนุนนักเรียนในเมืองผิงที่บ้านฐานะยากจนแต่มีผลการเรียนดี ซึ่งกำลังจะเข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับมหาวิทยาลัยทั้งหมด 20 คน
ทางทีมงานไตร่ตรองมาเป็อย่างดี ซูอินไม่คัดค้าน ก่อนที่เธอจะใช้โอกาสนี้เล่าถึงนักเรียนที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยซึ่งเธอได้เจอตอนที่ไปซื้อห้องมือสอง
“จากข้อมูลของสำนักงานกิจการพลเรือนและสำนักงานด้านการศึกษา พวกเราได้เลือกนักเรียนออกมาจำนวนหนึ่ง เหมือนว่านักเรียนคนนั้นจะอยู่ในรายชื่อนี้เหมือนกัน”
เ้าหน้าที่ซึ่งทำหน้าที่เลือกรายชื่อนักเรียนหยิบกระดาษออกมาหนึ่งแผ่น ไล่หาั้แ่บนลงล่าง ไม่นานปากกาลูกลื่นก็มาหยุดที่ตำแหน่งหนึ่ง
“ใช่เขาไหมคะ”
ซูอินดูที่อยู่และรายชื่อ พบว่ามันถูกต้อง
ที่แท้เขาก็มีรายชื่ออยู่ในข่ายที่ถูกเลือกให้ได้รับเงินทุนอยู่แล้ว
“ใช่ค่ะ ไม่ผิดแน่ พวกคุณเก่งมากๆ”
ทีมงานใหม่นี้พึ่งพาได้จริงๆ หลังจากผ่านความรู้สึกประหลาดใจไปแล้ว ซูอินก็เกิดความรู้สึกปีติยินดีจากก้นบึ้งของหัวใจ