คำพูดของเจียงเฉินทำให้ดวงตาของเยี่ยนเิเบิกกว้าง เขาจ้องมองเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยท่าทีตื่นเต้น เมื่อเห็นความมั่นใจบนหน้าของเด็กหนุ่ม แล้วลองคิดถึงความสามารถและพร์ของเจียงเฉิน เห็นได้ชัดว่าไม่ธรรมดา และเจียงเฉินก็ดูไม่เหมือนคนชอบคุยโวโอ้อวด เขาจะต้องรู้วิธีรักษานางจริงๆ
"ท่านลุงเยี่ยน น้องเจียงเฉินเป็คนที่สุดยอดมาก พวกเราไม่สามารถใช้สามัญสำนึกคาดเดาความสามารถของเขาได้ ในเมื่อเหล่าคนที่เรียกตนเองปรมาจารย์ไม่สามารถช่วยได้ แต่ข้าพนันว่าน้องเจียงเฉินสามารถช่วยได้ถึงแปดส่วน"
หวังถิง กล่าวออกมา หลังจากผ่านการต่อสู้เสี่ยงตาย เยี่ยนเิได้ปฏิบัติกับทุกคนเหมือนกับเป็คนของเขา นอกจากนี้ผลชุนหยางก็ถูกเปิดเผยแล้วจึงไม่จำเป็ต้องซ่อนอีก นอกจากนี้อาการป่วยของคุณหนูก็ไม่ได้เป็ความลับอะไร
"น่าอัศจรรย์... มันน่าอัศจรรย์ยิ่ง ถ้าหากน้องชายเจียงเฉินสามารถช่วยชีวิตคุณหนูได้ ตระกูลเยี่ยนจะไม่มีวันลืมในสิ่งที่เขาทำ ท่านผู้นำตระกูลจะมอบรางวัลให้อย่างงาม"
เยี่ยนเิราวกับได้พบแสงแห่งความหวัง เขาทราบถึงอาการของคุณหนูเป็อย่างดี ผลชุนหยางทำได้เพียงสะกดข่มความหนาวเย็นในร่างกายคุณหนูเท่านั้น แต่มันไม่สามารถที่จะรักษาให้หายขาดได้ ดีที่สุดเพียงยืดอายุคุณหนูออกไป
คุณหนูของพวกเขาเป็โรคที่แปลกประหลาดยิ่ง แม้แต่ปรมาจารย์จากเมืองชื่อต่างก็อับจนหนทาง ไม่มีผู้ใดกล้าพูดว่าสามารถรักษาคุณหนูให้หายได้ สำหรับคำพูดของเจียงเฉินนั้น เยี่ยนเิก็ยังรู้สึกสงสัย พวกเขาไม่กล้าที่จะหวังอะไรมาก อาการป่วยของคุณหนูที่นานหลายปีทำให้พวกเขาเข้าใจความจริง ยิ่งให้ความหวัง ก็จะยิ่งผิดหวังมาก
แต่ว่า ถึงม้าจะตาย หมอม้าก็ยังมีชีวิต การมีความหวังย่อมดีกว่ารอให้ความตายมาเยือน ยิ่งไปกว่านั้น คือ เด็กหนุ่มตรงหน้ามีความสามารถที่ไม่ธรรมดา บางทีเขาอาจมีวิธีการพิเศษก็ได้
"อย่าได้ใส่ใจเลย"
เจียงเฉินโบกพัดด้วยสีหน้าผ่อนคลาย สัญญาเื่รางวัลจากตระกูลเยี่ยนนั้นคือสิ่งที่้า เขาไม่มีทางปฎิเสธอย่างแน่นอน แค่ช่วยชีวิตเยี่ยนเิและรักษาผลชุนหยางไว้ได้ยังไม่เพียงพอทำให้เขาสามารถขอสิ่งตอบแทนที่ดีได้ แต่ถ้าหากเขาสามารถช่วยรักษาคุณหนูให้หาย ไม่ใช่แค่บรรลุจุดประสงค์เท่านั้น ยังสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเยี่ยนหยวี่โหรวอีกด้วยและเมื่อถึงตอนนั้น ไม่ว่าจะ้าอะไร เยี่ยนหยวี่โหรวก็จะหามาให้เขา
เยี่ยนหยวี่โหรวเป็หอการค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองชื่อ พวกเขามีธุรกิจค้าขายมากมายรวมถึงร้านขายโอสถ ร้านขายโอสถเป็กิจการของตระกูลเยี่ยนเพียงผู้เดียว
ส่วนเยี่ยนหยวี่โหรวนั้น เป็ที่ตั้งตระกูลเยี่ยน เปรียบเสมือนกับบ้านสำหรับพวกเขา
เมืองชื่อนั้นใหญ่โตมาก ใหญ่ยิ่งกว่าเทียนเซียงกับเมืองเทียนหุ่ย ตั้งอยู่ในูเาอาณาเขตหลายร้อยลี้ โดยมีเมืองชื่อตั้งอยู่ใจกลาง อาคารบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นมาอย่างประณีต ทั้งเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศแบบดั้งเดิมและเมื่อถึงเวลากลางคืนเมืองก็จะประดับประดาด้วยแสงไฟ เสียงภายในเมืองได้ยินไปถึงด้านนอก ทำให้รู้สึกถึงความคึกคัก
"น้องชายเจียงเฉิน เ้าเห็นตึกที่สูงที่สุดไหม นั่นล่ะคือ เยี่ยนหยวี่โหรว"
เยี่ยนเิชี้ไปยังตึกที่สูงที่สุดในเมือง เป็อาคารสูงกว่าสิบจ้าง ในแต่ละชั้นมีแสงไฟเห็นได้ชัดเจน และมีศาลาขนาดใหญ่บนดาดฟ้าอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแสงสลัวๆ เป็การออกแบบได้อย่างเยี่ยมยอด
"ไม่แปลกใจที่เมืองชื่อแข็งแกร่งที่สุดในบรรดา 28 หัวเมือง แค่บรรยากาศก็เหนือกว่าเมืองอื่นๆมาก"
เจียงเฉินผงกหัวเห็นด้วยจากใจจริง แต่สำหรับขนาดของเมืองชื่อ เจียงเฉินไม่ได้สนใจเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ๆในทวีปศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีอาณาเขตครอบคลุมหลายพันลี้ เมืองชื่อเป็แค่เมืองเล็กๆเมืองหนึ่งเท่านั้น
เหล่าเมืองโบราณในทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้นมีม่านพลังปกคลุมอยู่ ม่านพลังนั้นถูกสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญระดับสูง พวกเขารวบรวมพลังจากสิ่งที่อยู่รอบๆสร้างดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับบ่มเพาะพลัง เมืองชื่อระดับไม่ได้ใกล้เคียงกับเมืองโบราณเ่าั้เลย
อย่างไรก็ตาม มันต้องใช้เวลานานมากในการที่จะไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้หากเขา้าที่จะไปทวีปศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ต้องใช้เวลามากกว่าหลายร้อยปี
"เข้าเมืองกันเถอะ"
หลังจากที่รอดพ้นจากสถานการณ์อันตรายมาได้ เยี่ยนเิรู้สึกมีความสุข พวกเขาทิ้งเกวียนขนส่งไว้และเร่งฝีเท้าเข้าเมืองชื่อ
ณ เยี่ยนหยวี่โหรว
เยี่ยนหยวี่โหรวนั้นดูแตกต่าง จากดูใกล้ๆ เมื่อยืนข้างๆหน้าทางเข้าและมองไปที่ทางเข้าสีทองคำอร่าม ััถึงความมั่งคั่งและความมีชื่อเสียงได้
หวังถิงและคนอื่นๆดูรอบๆ แม้จะไม่ได้มาเป็ครั้งแรกก็ตาม แต่พวกเขาก็ประทับใจในสิ่งที่หอคอยหมอกฝนมี
"เยี่ยนซิง เ้าพาหวังถิงและคนอื่นๆไปชมรอบๆทีนะ ดูแลเขาดีๆและสุภาพกับพวกเขาด้วยล่ะ"
เยี่ยนเิบอกคนที่อยู่ข้างๆเขา
"อย่าได้กังวล"
เยี่ยนซิงผงกหัวตอบรับ ในฐานะที่เป็หนึ่งในคนตระกูลเยี่ยน เขาไม่ได้สนใจอะไรมากกับหวังถิงและคนอื่นๆ และตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาคือสหายที่รู้ตื้นลึกหนาบางด้วยกันและได้เผชิญกับสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิตด้วยกัน พวกเขาได้ร่วมสู้ด้วยกันและเกือบที่จะตายไปด้วยกัน เขาจึงดูแลพวกเขาเหมือนสหาย แม้เยี่ยนเิไม่ได้ขอให้เขาทำเช่นนั้นก็ตาม
"น้องชายเจียงเฉิน ไปพบท่านผู้นำตระกูลเยี่ยนกันเถอะ"
เยี่ยนเิมองไปที่เจียงเฉิน
"ตกลง"
เจียงเฉินผงกหัวตอบรับ การตัดสินใจนี้ตรงกับความ้าของเขา เขาจึงไม่รอช้า
"ไปกันเถอะ"
ในขณะที่พูด เยี่ยนเิได้เดินไปยังเยี่ยนหยวี่โหรว
เจียงเฉินเริ่มถาม "พวกเราไม่ได้ไปพบท่านผู่นำตระกูลโดยตรงเลยหรือ"
"มีบางสิ่งที่เ้าควรทราบไว้ก่อน เยี่ยนหยวี่โหรวและตระกูลเยี่ยนอยู่ติดๆกัน ด้านหลังคืออาณาเขตตระกูลเยี่ยน โดยหลัก เยี่ยนหยวี่โหรวคือทางเข้าหลักสู่ตระกูลเยี่ยน แขกมีเกียรติคนใหญ่คนโตจะเข้าทางด้านหน้า ส่วนคนทั่วไปก็เข้าทางประตูด้านหลัง"
เยี่ยนเิอธิบายขณะที่ยิ้มอยู่
"ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว"
เจียงเฉินตระหนักถึงตัวเขาได้เป็แขกผู้ทรงเกียรติของตระกูลเยี่ยน
พวกเขาได้เข้าสู่เยี่ยนหยวี่โหรวที่ส่องสว่างแม้กระทั่งเวลากลางคืน เยี่ยนหยวี่โหรวก็ยังเปิดกิจการ ชั้นแรกเป็พื้นที่สำหรับค้าขายมีร้านเล็กๆตั้งอยู่จำนวนมาก
"ร้านค้าพวกนี้ไม่ได้เป็ของตระกูลเยี่ยนหรอกนะ พวกเขามาเช่าที่และตระกูลเยี่ยนเก็บค่าเช่าที่จากพวกเขา"
เยี่ยนเิอธิบายเจียงเฉินเกี่ยวกับทุกอย่างของเยี่ยนหยวี่โหรว แต่เมื่อเขาพบว่าเจียงเฉินหมดความสนใจแล้วหลังจากพาเดินดูรอบๆ เขาจึงหยุดอธิบายและดูท่าทีของเจียงเฉิน เยี่ยนเิรู้สึกว่าชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าของเขาไม่ได้ดูสนใจในเยี่ยนหยวี่โหรวมากนัก
มันเหมือนกับเขาได้พบเห็นสิ่งต่างๆมามากมาย และเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเจียงเฉินเป็เช่นนี้ ทำให้เยี่ยนเิรู้สึกแปลกๆ ชายหนุ่มจากเมืองเทียนเซียงนั้นเคยเห็นอะไรใหญ่โตแบบนี้มาก่อนหรือ?
มีทางเดินยาวไปสู่ประตูหลัง เยี่ยนเินำเจียงเฉินข้ามทางเดินไปยังอาณาเขตตระกูลเยี่ยน
อาณาเขตหลักตระกูลเยี่ยนมีรูปแบบแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มันดูเรียบง่ายและงดงาม บ่อน้ำพุมีความอุดมสมบูรณ์ มีเสียงนกร้องมีดอกไม้นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมหวน ผู้ที่ออกแบบสถานที่นี่ ต้องเป็คนที่รู้วิธีที่ทำให้ชีวิตมีความสุข
"ท่านลุงเิ ท่านกลับมาแล้วรึ"
ที่ประตูด้านหน้า ยามสองคนได้กล่าวต่อเยี่ยนเิอย่างสุภาพ เห็นได้ชัดว่าเยี่ยนเิเป็คนที่มีตำแหน่งสูงในตระกูลเยี่ยน เขาเป็ผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ขั้นปลาย และมีโอกาสสูงที่จะทะลวงเข้าสู่แก่นแท้มนุษย์
"ใช่"
เยี่ยนเิผงกหัว นำเจียงเฉินเข้าไปพื้นที่ด้านในของตระกูลเยี่ยน
ภายในห้องโถงประชุมขนาดใหญ่ของตระกูลเยี่ยน
"น้องชายเจียงเฉิน ดื่มชารอขณะที่ข้าไปตามท่านผู้นำตระกูลก่อนนะ"
เยี่ยนเิกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
"ตกลง"
เจียงเฉินนั่งลงและโบกพัด มันเหมือนกับว่าเขาไม่ได้้าลิ้มรสชาเลย
ไม่นานหลังจากนั้น เยี่ยนเิได้กลับมาพร้อมคนอีกหกคน เจียงเฉินได้ตรวจสอบพวกเขาด้วยััเทวะ และพบว่าทุกคนอยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ ความแข็งแกร่งของตระกูลเยี่ยนช่างทรงพลังยิ่งนัก ไม่แปลกใจเลยที่จะเป็หนึ่งในตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองชื่อ
ชายที่เดินนำหน้าคนอื่นมามีอายุราวๆสี่สิบ เขาสวมชุดคลุมสีขาว และหน้าตาเขาเฉียบแหลม คิ้วของเขาคมเหมือนดาบ และดวงตาเปล่งประกายดั่งดวงดารา เขามีภาพลักษณ์ของผู้ที่มีเกียรติและทรงอำนาจ ทำให้ทุกคนที่เห็นเขาเคารพ คนผู้นี้คือผู้นำตระกูลเยี่ยน เยี่ยนเจิ้นอวิ๋น สำหรับคนอื่นๆก็อยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์พวกเขาเป็สมาชิกหลักของตระกูลเยี่ยน ผู้เชี่ยวชาญระดับแก่นแท้มนุษย์ทุกคนได้อยู่ที่นี่แล้ว มันแสดงให้เห็นถึงว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับคุณหนูเยี่ยนอย่างจริงจัง
ในฐานะหนึ่งในตระกูลใหญ่ในเมืองชื่อ ตระกูลเยี่ยนมีเครือข่ายที่กว้างขวาง พวกเขามีอัจฉริยะจำนวนมากในตระกูล และพวกเขามีผู้เชี่ยวชาญฉีไห่จำนวนมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยามนี้คือเวลากลางคืน ตระกูลเยี่ยนจึงเงียบมาก นอกเหนือจากนั้นโถงประชุมตระกูลเยี่ยนไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าไปได้
เมื่อเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นได้มาถึง เขาได้มองตรงไปยังเจียงเฉินทันที เมื่อเขาเห็นว่าเจียงเฉินนั้นเป็เพียงแค่หนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งคิ้วเขาขมวดขึ้น
"น้องชายเจียงเฉิน ก่อนอื่นข้าต้องขอขอบคุณเ้าที่ได้ช่วยชีวิตเยี่ยนเิและปกป้องชุนผลหยาง พวกเราจะตอบแทนเ้าอย่างดีแน่นอน แต่ทว่าเ้าแน่ใจหรือว่าสามารถรักษาบุตรสาวข้าได้"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นพูดเข้าประเด็น เขาแสดงให้เห็นถึงความสุภาพของเขาต่อเจียงเฉิน แต่เขายังไม่แน่ใจว่าเจียงเฉินสามารถที่จะรักษาบุตรสาวของเขาได้หรือเปล่า แค่ช่วยชีวิตเยี่ยนเิและปกป้องผลชุนหยางก็ทำให้เขามีทัศนคติที่ดีต่อเจียงเฉินได้แล้ว
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่สามารถที่จะเมินชายหนุ่มที่ทรงพลังได้
"แน่นอน"
เจียงเฉินกล่าวออกมา
"ความภาคภูมิใจดีต่อชายหนุ่มอย่างเ้า เ้าช่วยชีวิตเยี่ยนเิพวกข้าจะดูแลเ้าในฐานะสหายของตระกูลเยี่ยน แต่น้องชาย อย่าได้โกหกพวกเรา โรคของหยวี่เอ๋อร์นั้นแม้แต่ปรมาจารย์ทั้งหลายยังช่วยไม่ได้เลย"
ชายแก่คนหนึ่งกล่าวออกมา มันเห็นได้ชัดว่าเขานั้นไม่เชื่อถือในตัวเจียงเฉินว่ามีความสามารถที่จะรักษาโรคร้ายของคุณหนูได้
"ในเมื่อพวกท่านไม่เชื่อถือในตัวข้า งั้นข้าต้องขอตัวกลับก่อน ไม่จำเป็ที่ต้องขอบคุณข้าหรอกงานของข้าก็เสร็จสิ้นแล้ว"
เมื่อเจียงเฉินพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากตรงไปยังทางออกของห้องโถงประชุม
เมื่อเห็นเจียงเฉินได้ออกไปโดยไม่ได้กล่าวอะไร ทุกคนที่อยู่ที่นั่นใจหายกันถ้วนหน้า
"ช้าก่อนน้องชาย"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นรีบไปรั้งเจียงเฉินไว้ คนอื่นๆต่างคิ้วขมวด ถ้าเป็ชายหนุ่มคนอื่นๆที่กล้าเสียมารยาทต่อหน้าพวกเขา พวกเขาจะจับมาทุบตี แต่ชายหนุ่มผู้นี้เป็คนที่ได้ช่วยตระกูลเยี่ยนเอาไว้ และพวกเขาได้ยอมรับว่าเขาช่างแตกต่างจากชายหนุ่มคนอื่นๆ
"เ้าสามารถบอกข้าได้หรือไม่ว่าจะรักษาบุตรสาวข้าเช่นไร"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นถามออกมา
"ข้าต้องทำการวินิจฉัยโรคของคุณหนูด้วยตาตัวเองเสียก่อน หากท่านไม่ไปขอให้คุณหนูมาที่นี่ บอกข้าเสียเถิดว่าท่านไม่ได้เชื่อถือข้า ข้าจะได้กลับไป"
เจียงเฉินนิ่งเงียบแสดงความโกรธออกมาก่อนที่จะเดินตรงไปยังทางออก
"น้องเจียงเฉิน อย่าได้มีโทสะเลย"
เยี่ยนเิได้หยุดเจียงเฉินไว้
"ใช่ กรุณาอย่าได้มีโทสะเลยน้องเจียงเฉิน เยี่ยนเิไปพาหยวี่เอ๋อร์มาที่นี่หน่อย"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นยิ้มขออภัย นี่เป็ครั้งแรกที่เขายอมเชื่อฟังชายหนุ่มระดับฉีไห่ เขาไม่ได้เห็นความสามารถชายหนุ่มผู้นี้ หรือจะมีวิธีรักษาพิเศษ เขาคงต้องลองที่จะเสี่ยงดูให้ชายหนุ่มได้ลองดู
ไม่นานนักจากนั้น เยี่ยนเิได้กลับมา และด้านหลังเขามีเด็กสาวอยู่ เมื่อเจียงเฉินได้เห็นเด็กสาวผู้นี้แล้ว แม้แต่เจียงเฉินผู้มากประสบการณ์เขายังตาเป็ประกายเมื่อพบเด็กสาวผู้นี้
งดงาม งดงามยิ่งนัก งดงามอย่างปฎิเสธไม่ได้
เด็กสาวผู้นี้สวมกระโปรงสีขาวคาดเข็มขัดไหมสีม่วง นางมีรูปร่างโค้งเว้าได้รูป ผมนุ่มยาวสลวย เส้นผมของนางยาวจนถึงไหล่ นางมีดวงตาสุกใส มีฟันขาวบริสุทธิ์ ริมฝีปากบางสมบูรณ์แบบ แม้ไม่ได้แต่งหน้า รูปร่างหน้าตาของนางไร้ที่ติ สิ่งที่ทำให้นางสวยไร้ที่ติ ไม่เพียงรูปร่างหน้าตานาง ดวงตายังเป็ผลึกใสดั่งน้ำบริสุทธิ์ นางงดงามเหมือนกระดาษสีขาวสะอาด ไร้ที่ติ
