กูเฟยเยี่ยนควบม้าลงจากยอดเขาโดยที่มุ่งหน้าตรงไปยังปิงไห่ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ในยามเช้าตรู่และในโลกอันกว้างใหญ่ ร่างผอมบางดูโดดเดี่ยวเป็พิเศษ
ลมหนาวปะทะใบหน้าแรงขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นของยาพิษก็รุนแรงขึ้นเช่นกัน ความมืดมิดตรงหน้าค่อยๆ คืบคลานเข้ามาเสมือนว่ามืดไปทั่วทุกหนทุกแห่งและใกล้จะกลืนกินผู้คน
กูเฟยเยี่ยนค่อยๆ มองไม่ชัดว่าตนเองกำลังมุ่งตรงไปยังทะเลน้ำแข็งปิงไห่ หรือมุ่งตรงไปยังสุดขอบโลก หรือปลายทางชะตากรรมของตนเอง
ทันใดนั้น ท่ามกลางเสียงคำรามของลมหนาว เสียงอันคุ้นเคยก็ดังก้องขึ้นมาในสมองของนาง เสียงนี้มาจากดินแดนแห่งความฝัน “รีบไป!”
รีบไป?
กูเฟยเยี่ยนดึงบังเหียนม้าหยุดกะทันหัน หญิงสาวตกตะลึงจนพูดไม่ออก ทว่านางยังไม่ทันได้ครุ่นคิด เสียงต่างๆนานาก็ดังก้องขึ้นในสมองของตน
“นี่เป็รับสั่งของเสด็จพ่อ รีบไปเดี๋ยวนี้! เร็วเข้า! ”
“รุ่ยเอ๋อร์ เร็วเข้า พาน้องสาวของเ้าหลบหนีไป! ”
“องค์รัชทายาท ท่านมิอาจเอาชีวิตไปทิ้งเปล่าๆ ได้! ”
“ตัวข้าเซวียนหยวนรุ่ยจะไม่มีวันละทิ้งหน้าที่อย่างเด็ดขาด เ้าพาน้องสาวของข้าหลบหนีไป! ไปสิ! ”
“นี่เป็การก่อการร้าย เร็วเข้า! รีบไป! ”
……
เป็เช่นนี้ได้อย่างไร?
เสียงเหล่านี้จะปรากฏอยู่ในฝันร้ายเท่านั้น บัดนี้นางยังคงมีสติอยู่อย่างเห็นได้ชัด ทำไม ทำไมจู่ๆ ถึงได้มีเสียงเหล่านี้ดังก้องอยู่ในศีรษะของนาง?
นี่คือความฝันหรือความทรงจำกันแน่? มันคือความฝันในความทรงจำหรือความทรงจำในความฝัน? มันคือเื่เท็จหรือ...เื่จริง? !
เมื่อเสียงเ่าั้ดังขึ้นเรื่อยๆ ศีรษะของกูเฟยเยี่ยนก็บังเกิดความปวดมากขึ้นราวกับว่ามิอาจหยุดได้ หญิงสาวรีบปิดครอบใบหูไว้แน่นทว่าก็ไร้ประโยชน์!
เสียงเ่าั้และคำพูดที่คุ้นเคยยังคงผุดขึ้นมาในสมองของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า อีกทั้งยังโจมตีจิติญญาของนางอย่างไม่ขาดสาย
“เยี่ยนเอ๋อร์ เ้าตื่นสิ! เ้ามองดูท่านพี่ เ้าตื่นสิ! ”
“เยี่ยนเอ๋อร์ เ้าเลิกนอนได้แล้ว เสด็จพ่อกับเสด็จแม่รอพวกเราอยู่ เ้าตื่นขึ้นมาดีหรือไม่? ”
“เยี่ยนเอ๋อร์ พี่ให้คำสาบาน…สาบานว่าจะไม่รำคาญเ้าแล้ว เ้าตื่นสิ เ้าพูดจาสิ เยี่ยนเอ๋อร์ เ้าเป็อะไรไป? ”
“เยี่ยนเอ๋อร์ หยิ่งจื่อมาแล้ว เ้ารีบตื่นเร็ว พี่หยิ่งของเ้ามาหาเ้าแล้ว! ”
กูเฟยเยี่ยนควบคุมความคิดของตนเองไม่ได้ นางถึงกับปล่อยมือทั้งสองข้างออกจากใบหูโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวจ้องมองทะเลน้ำแข็งตรงหน้าอย่างเลื่อนลอยและเคลิบเคลิ้ม นางเพียงรู้สึกว่าเสียงเ่าั้ดูเหมือนจะไม่ได้ผุดออกมาจากหัวสมองของนาง แต่…แต่…แต่มาจากพิษในทะเลน้ำแข็งตรงหน้า
นางมองภาพตรงหน้าครู่หนึ่ง สายตาเริ่มมีความเลือนรางเสมือนว่าสภาพความเป็จริงกับโลกแห่งความฝันมีความไม่ชัดเจน นางดูเหมือน…ดูเหมือนว่าพบเห็นทุกสิ่งทุกอย่างในฝันร้าย ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นปรากฏขึ้นบนทะเลน้ำแข็งปิงไห่ตรงหน้า
เพียงครู่เดียว าก็เกิดความโกลาหล ทั่วทั้งทะเลน้ำแข็งราวกับเป็สนามรบที่เต็มไปด้วยเขม่าดินปืน
เพียงครู่เดียว การสู้รบก็เกิดความดุเดือด ทั่วทั้งทะเลน้ำแข็งราวกับเป็สนามรบอันกว้างใหญ่ไพศาล
เพียงครู่เดียว คลื่นพายุก็โหมซัดอย่างบ้าคลั่ง พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน [1] พื้นผิวทะเลน้ำแข็งทั้งหมดแตกออกเป็เสี่ยงๆ ในทันที เศษซากน้ำแข็งที่แตกสลายทั้งหมดถูกกวาดขึ้นไปบนท้องฟ้าและกลายเป็ัดูดซับน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งในเวลาเดียวกันก็ปรากฏถึงเงาเฟิ่งหวงกางปีกขนาดใหญ่มโหฬารบนฟากฟ้า
เพียงครู่เดียว ทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความสงบ โลกทั้งใบดูเหมือนว่าจะเงียบสงัด ทะเลน้ำแข็งยังคงเป็ทะเลน้ำแข็ง ท้องฟ้ายังคงเป็ท้องฟ้า เด็กหญิงตัวเล็กๆ คนนั้นปรากฏตัวบนทะเลน้ำแข็งอีกครั้ง
เด็กน้อยไล่ตามร่างของเด็กชายตัวใหญ่ ไม่ช้าก็ะโขึ้นไปบนแผ่นหลังเพื่อโอบรอบคอของเขาพลางหัวเราะอย่างไร้เดียงสา ดีใจ และผาสุก…
ท่ามกลางเสียงหัวเราะอันไร้เดียงสา ทั่วผืนทะเลน้ำแข็งราวกับบุปผาบานยามวสันต์ ความขจีนั้นผุดขึ้นบนมวลน้ำแข็ง เพียงชั่วขณะ โลกแห่งหิมะและน้ำแข็งก็กลายเป็หุบเขาทุ่งหญ้า ลำธาร และทุ่งบุปผา…
“ท่านพี่หยิ่ง เยี่ยนเอ๋อร์ไม่้าเป็เ้าหญิง เยี่ยนเอ๋อร์้าเป็ภรรยาของพี่”
"เ้าทึ่ม"
กูเฟยเยี่ยนหลับตาลงแล้ว ทั้งๆ ที่หยาดน้ำตานองหน้าทว่ากลับยิ้มแย้ม คาบเกี่ยวระหว่างความจริงกับโลกแห่งความฝันของนางเลือนรางอย่างสมบูรณ์ และคาบเกี่ยวระหว่างความทรงจำกับโลกแห่งความฝันก็มีความเลือนรางเช่นกัน ไม่อาจแบ่งออกได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งใดคือความทรงจำ สิ่งใดคือความฝัน สิ่งใดคือความจริง และสิ่งใดคือความเท็จ
ถึงขนาดที่ว่ากูเฟยเยี่ยนยังไม่สามารถแยกแยะตนเองกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ในความฝันที่ถูกเรียกนามว่าเยี่ยนเอ๋อร์ด้วยเช่นกัน
ฝันร้ายทุกครั้งในยามก่อนนางเหมือนจะเป็ผู้บุกรุกและผู้ชมเหตุการณ์ คอยเฝ้าดูเด็กน้อยคนนั้นและเฝ้าดูทุกสิ่งทุกอย่างในความฝัน ทว่าในครั้งนี้แตกต่างออกไป นางดูไม่เหมือนผู้ชมเหตุการณ์และไม่เหมือนผู้บุกรุก นางดูเหมือนว่าจะเป็เด็กผู้หญิงคนนั้น!
นางฝันถึงตนเองมาโดยตลอดหรือ? ่เวลาในวัยเด็กของตนเอง? ความฝันเ่าั้ซุกซ่อนความความทรงจำก่อนอายุแปดปีที่หายไปของนาง?
กูเฟยเยี่ยนสูญเสียความทรงจำ นางพลัดพรากจากครอบครัว ทุกสิ่งที่นางได้รับการช่วยเหลือจากท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับปิงไห่หรือ? นางฝันถึงเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงของปิงไห่เมื่อสิบปีก่อนหรือ?
กูเฟยเยี่ยนปิดเปลือกตาแน่นเนื่องจาก้าเห็นใบหน้าของเด็กน้อยชัดๆ เพียงแค่เห็นใบหน้าของเด็กน้อยอย่างชัดเจน นางก็จะรับรู้ นางจะรับรู้ว่าเด็กน้อยคนนั้นคือตัวนางเองหรือไม่!
เพียงแต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ยังมองเห็นไม่ชัดเจน ยิ่งพยายามมากเพียงใด ศีรษะก็จะบังเกิดความเ็ปมากขึ้นเรื่อยๆ ภาพที่ปรากฏก็จะเลือนรางลงเช่นกัน หลายปีมานี้นางไม่เคยมองเห็นอย่างชัดเจนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็เด็กผู้หญิงคนนั้น หรือเด็กชายตัวใหญ่ที่ถูกเรียกว่าท่านพี่หยิ่ง และคนอื่นๆ
ทันใดนั้น!
ความเ็ปอย่างรุนแรงก็พุ่งจู่โจมเข้ามาเหมือน่เวลาที่ตื่นขึ้นมาจากความฝันทุกครั้ง ความเ็ปนี้เกินขอบเขตที่นางจะรับไหวจึงทำลายความคิดของนางจนแตกออกเป็เสี่ยงๆ ทั้งหมด
กูเฟยเยี่ยนโอบศีรษะพลางะโเสียงดังลั่นด้วยความเ็ป "ข้าเป็ใคร! ข้าเป็ใครกันแน่! และพวกเ้าเป็ใครกัน..."
เสียงกรีดร้องนี้ทำให้ม้ารู้สึกใ จู่ๆ ม้าก็ร้องเสียงดังและยกกีบหน้าขึ้น
ในวินาทีนั้นม้าควบคุมตนเองไม่ได้ กูเฟยเยี่ยนจึงตกลงมาจากหลังม้าและกลิ้งลงมาจากไหล่เขา
หมางจ้งที่หลบซ่อนอยู่ด้านข้างยังคงตกตะลึงอยู่
เขามองกูเฟยเยี่ยนอยู่ดีๆ จู่ๆ นางก็ปิดใบหูและโอบรอบศีรษะ จากนั้นจึงร้องไห้ หัวเราะ และะโเสียงดัง เขานึกว่า…นางบ้าไปเสียแล้ว หมางจ้งใมากเหลือเกิน
ม้าตื่นใวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว หมางจ้งจึงฟื้นคืนสติ ทันทีที่เขาเห็นกูเฟยเยี่ยนกลิ้งลงจากูเา ร่างกายเขาก็มีเม็ดเหงื่อไหลพลั่ก ในขณะที่เขากำลังจะไล่ตามไปช่วย ทว่าจู่ๆ ยามนี้ก็มีเงาสีม่วงพุ่งทะยานมาจากจุดที่ไม่ไกลนัก โดยที่เงานั้นพุ่งตามไปทันที
ไป๋หลี่ิชวน!
หมางจ้งไม่กล้าเคลื่อนไหวเพราะความชำนาญในการต่อสู้ของเขามิอาจต่อกรกับไป๋หลี่ิชวนได้ เขาถึงกับแอบดีใจที่ตนเองช้าไปหนึ่งก้าวจึงไม่ถูกสังเกตเห็น มิฉะนั้นเขาไม่มีทางรอดอย่างแน่นอน
ทว่าเขาก็ไม่อาจหลบซ่อนเช่นนี้ได้!
ทำอย่างไรดี?
กูเฟยเยี่ยนตกอยู่ในเงื้อมมือของไป๋หลี่ิชวน ผลที่ตามมานั้นอันตรายกว่าที่จะจินตนาการได้!
จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยน่าจะเดินทางมาถึงปิงไห่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว ทว่าป่าเขาในที่นี้ไม่มีที่สิ้นสุด อีกทั้งแนวชายฝั่งทะเลทอดยาวไปไกล เขาจะไปตามหาเตี้ยนเซี่ยได้จากที่ใด?
หมางจ้งยังคงสองจิตสองใจ ทางด้านของไป๋หลี่ิชวนช่วยกูเฟยเยี่ยนไว้ได้แล้ว บัดนี้กูเฟยเยี่ยนสลบไสล ไป๋หลี่ิชวนจึงอุ้มหญิงสาวขึ้นมาพลางโผทะยานไปยังที่ราบเชิงเขา หมางจ้งรีบตามไปอย่างรวดเร็วทว่าไม่กล้าเข้าใกล้มากนัก จึงดักซุ่มอยู่บริเวณต้นหญ้า นอกเหนือจากการจับตามอง เขายังคิดวิธีการอื่นไม่ได้ชั่วขณะ
ครั้นไป๋หลี่ิชวนร่อนลงบนพื้นราบ เขาก็วางกูเฟยเยี่ยนลงบนพื้น
เมื่อครู่นี้เขากำลังเดินเล่นอยู่ไม่ไกล ทันทีที่ได้ยินเสียงม้าจึงรีบเร่งเข้ามา คิดไม่ถึงว่าจะพบเข้ากับฉากที่สาวน้อยคนนี้ตกลงมาจากม้า นางมาที่นี่ได้อย่างไร? มาเพียงคนเดียว? ไม่กล้าเกินไปหน่อยหรือ?
“ฮ่าๆ นังหนู ในเมื่อพบกันโดยบังเอิญ พวกเราก็มาคิดบัญชีกันเถอะ! เ้าว่า...พวกเราจะคิดบัญชีอย่างไรดี?”
ดวงตาชั่วร้ายและลึกลับของไป๋หลี่ิชวนคู่นั้นหรี่ลงเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นดั่งเส้นรัศมีวงกลมอันงดงาม เขากำลังยิ้มอย่างพึงพอใจและแฝงไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง ทว่าในยามนี้กูเฟยเยี่ยนกลับตัวสั่นเทา…
——————
เชิงอรรถ
[1] พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน หมายถึง การเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง หรือความโกลาหลอลหม่าน