ประกายไฟขนาดเล็กปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าก่อนจะเกิดการะเิอย่างไร้เสียงขึ้น เปลวเพลิงสีดำแผ่กระจายออกไปทั่วบริเวณมองไปจนสุดสายตาก็พบว่า โลกทั้งโลกเต็มไปด้วยความมืดมิด ก่อนที่เปลวไฟจะขยายวงกว้างออกไปกำลังพล 40,000 นายของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตก็อันตรธานหายไปทั้งกองทัพถูกทำลายจนหมดสิ้น
หลังจากที่าสิ้นสุดลงในเวลาอันสั้นวิดีโอของเปลวไฟแห่งนรกโลกันตร์ก็ได้ปรากฏขึ้นให้เห็นบนบอร์ดแสดงความคิดเห็นซึ่งทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง ก่อนที่เื่ราวนี้จะแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วเพียงไม่ถึงชั่วโมงก็มีอัตราการคลิกเข้าชมเกือบสิบล้านครั้งแล้วและจำนวนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราเร่งที่สูงมาก
''เวทมนตร์ระดับสูงสุด'' ''เปลวเพลิงแห่งนรกโลกันตร์''''เมามายซบตักสาวงาม'' ''กองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิต''คำเหล่านี้กลายเป็คำที่มีการค้นหามากที่สุดในเวลานี้สำหรับเวทมนตร์ระดับสูงสุดอันแรกที่ปรากฏขึ้นในเกม ''เปลวเพลิงแห่งนรกโลกันตร์''นั้น ทุกคนต่างรู้สึกตกตะลึงเป็อย่างมากพลังทำลายที่ไม่ว่ามนุษย์คนใดก็ไม่สามารถต้านทานมันได้เพียงพอที่จะทำลายเมืองทั้งเมืองให้หายไปได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งไม่เป็การพูดเกินจริงถ้าเกิดว่าใครมีม้วนคัมภีร์ระดับสูงสุดอยู่ในมือก็เท่ากับว่าเขามีอำนาจเทียบเคียงได้กับนายกเทศมนตรี และกลายเป็ผู้เล่นที่อยู่ในจุดสูงสุดของยอดพีระมิด
พละกำลังและความสามารถก็ยังคงเป็หลักประกันที่ดีเสมอ
"อะไรกัน...ทำไมเวทมนตร์ถึงได้ทรงพลังขนาดนี้กันนะนี่ฉันคิดผิดที่เลือกอาชีพนักรบหรือเปล่ากันนะ ข้อความจากนักรบผู้หนึ่ง
"ฉันก็เริ่มสงสัยเหมือนกันเมื่อเทียบกับทักษะเวทแล้ว ทักษะการโจมตีแบบกลุ่มของนักรบดูเป็เื่ด้อยไปเลย"นักรบอีกคนหนึ่งตอบขึ้น
"นี่ยังคงเป็เวทระดับสูงแต่ถ้าเป็เวทต้องห้ามล่ะ..." ข้อความนี้ส่งมาจากนักฆ่าคนหนึ่ง
"หรือว่านี่จะเป็โลกของผู้ใช้เวทแล้ว"ข้อความส่งมาจากนักธนูคนหนึ่ง
……
"ไม่รู้หรือว่าผู้เชี่ยวชาญคนแรกน่ะคืออาชีพนักรบนะ" ข้อความจากผู้เล่นอาชีพโจรคนหนึ่ง
"ความแข็งแกร่งของศิลปะป้องกันตัวนั้นเป็เื่ที่ไม่สามารถจินตนาการได้ถึง"ข้อความจากคนทั่วไป
……
"ฉันรักเวทมนตร์... "ข้อความจากผู้ใช้เวทธาตุมืด
"ฉันคงต้องตามหาทักษะเวทต้องห้ามบ้างแล้ว"ข้อความจากผู้ใช้เวทธาตุน้ำแข็ง
……
"กองทหารรับจ้างสิบอันดับแรกอะไรกัน?ทำไมถึงดูไร้ประโยชน์แบบนี้นะ..." ข้อความจากคนทั่วไป
"หมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทราย, กองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิต ... กากมาก..." ข้อความจากคนทั่วไปอีกคน
……
"คุณเป็ไอดอลของฉันเลย ฉันรักคุณ..."ข้อความจากผู้ใช้เวทหญิงคนหนึ่ง
"เมามายซบตักสาวงาม คุณมีแฟนหรือยัง? ฉันเองเป็ผู้หญิงที่หน้าตาดีคนหนึ่ง กำลังมองหาเพื่อน... "ข้อความจากนักบวชหญิงคนหนึ่ง
"ฉันชื่อ ''ต้นไม้หยกต้องลม''สวมใส่อุปกรณ์ระดับทอง มีสัตว์เลี้ยงหอยทากระดับ C ตอนนี้ยังโสดอยู่ สนใจจะรับคนสวยที่ติดอันดับเข้าร่วมกลุ่มไหม?"ข้อความจากอัศวินคนหนึ่ง
"ไปให้ไกลๆ เลย!"
……
เมามายซบตักสาวงามดูเหมือนว่าคราวนี้จะมีชื่อเสียงขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบโดยการก้าวขึ้นมาอยู่เหนือกว่ากองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิต ซึ่งเขาก็ไม่ได้คิดว่าจะมีชื่อเสียงขึ้นมานี่เป็สิ่งที่ฉินโจ้วไม่ได้คาดคิดเขาคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรน่าตื่นเต้นมากไปกว่านี้แต่ผู้คนกลับให้ความสนใจเื่นี้มากกว่าที่เขาคิดเอาไว้ซึ่งในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เขาเองก็ไม่มีทางเลือก
ในส่วนของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตเองก็มีชื่อเสียงเช่นกันพวกเขาในเวลานี้มีชื่อเสียงขึ้นมากกว่าแต่ก่อนตอนที่ยังคงเป็กองกำลังที่ทรงประสิทธิภาพแต่อย่างไรก็ตามชื่อเสียงลักษณะนี้กองทหารของหมาป่าโลหิตเองไม่ได้อยากได้แม้สักนิด
ในขณะที่ผู้เล่นทั้งหลายกำลังพูดถึงเกี่ยวกับเื่นี้อยู่นั้นบนท้องฟ้าก็มีเสียงประกาศดังขึ้น!
ติ๊ง! ประกาศจากเขตเหยียนหวง :ฉินหวังกรุ๊ปได้สร้างเมืองขึ้นชื่อ ''ด๊อกทาวน์'' ตั้งอยู่ที่เทือกเขาแห่งความมืดมิด ขอเชิญผู้เล่นทุกท่านเข้ามามีส่วนร่วมด้วยกันจึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
ติ๊ง! ประกาศจากเขตเหยียนหวง: ฉินหวังกรุ๊ปได้สร้างเมืองขึ้นชื่อ ''ด๊อกทาวน์''ตั้งอยู่ที่เทือกเขาแห่งความมืดมิด ขอเชิญผู้เล่นทุกท่านเข้ามามีส่วนร่วมด้วยกันจึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
ติ๊ง! ประกาศจากเขตเหยียนหวง :ฉินหวังกรุ๊ปได้สร้างเมืองขึ้นชื่อ ''ด๊อกทาวน์'' ตั้งอยู่ที่เทือกเขาแห่งความมืดมิด ขอเชิญผู้เล่นทุกท่านเข้ามามีส่วนร่วมด้วยกันจึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
"ฉินหวังกรุ๊ปกลายเป็กลุ่มผู้นำที่ 13 แล้ว ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน ก็ขึ้นมาถึงระดับกลุ่มผู้นำแล้ว" คนผู้หนึ่งกล่าวขึ้น
"ถึงว่าพี่ชายของฉันก็อยู่ในฉินหวังกรุ๊ปได้ข่าวว่าเงินเดือนดี สวัสดิการเยี่ยม และที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดมีสาวๆ สวยๆเต็มไปหมด พ่อแม่ฉันปกติก็ห่วงเื่คู่ครองของพี่ชายฉัน แต่อาทิตย์ที่ผ่านมาพี่ชายฉันก็พาแฟนสาวกลับมาบ้านแล้ว และเห็นว่าทั้งคู่ตัดสินใจซื้อบ้านในเมืองแล้วด้วย"ผู้เล่นคนที่สองกล่าวขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ
"น่าเสียดายคราวก่อนที่ฉินโจ้วกรุ๊ปจ้างให้ฉันไปเป็ผู้คุ้มกัน แต่ฉันปฏิเสธไป"ผู้เล่นคนที่สามพูดขึ้นมา
"นาย... นายเพิ่งจะเลเวล43 เองไม่ใช่หรือฉันจำได้ว่าผู้คุ้มกันของฉินหวังกรุ๊ปต้องระดับเลเวล 45 ขึ้นไปนี่"ผู้เล่นคนที่ห้าพูดแย้งเื่ที่โกหกขึ้นมาทัน
ผู้เล่นคนที่สามถึงกับอับอายก่อนจะแหวกฝ่าฝูงชนหนีออกไป ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะอันดังจากกลุ่มฝูงชน
"ฉินหวังกรุ๊ปในเวลานี้ดูเหมือนจะมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาอย่างแท้จริงแล้ว..."เสียงผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็พูดถึงในทำนองเดียวกัน
ภายใต้คำแนะนำของฉินโจ้ว ''ลมกระจ่างจันทร์แรม'' ''กลุ่มแมลงตัวเล็ก''และ ''น้องชายมีด'' ก็นำสมาชิกของพวกเขาเข้าร่วมกับฉินหวังกรุ๊ปในขณะที่ ''นกหัวขวาน'' และคนอื่นๆ ที่เหลือนั้นเป็ธรรมดาที่จะไม่มีใครคัดค้านที่จะเข้าร่วมเมื่อรวมเข้ากับที่ฉินหวังกรุ๊ปรับคนมาก่อนหน้านี้แล้วก็ทำให้มีฝ่ายป้องกันถึง 100,000คนแล้ว หลังจากที่มีการจัดการปรับปรุงแก้ไขใหม่จึงได้กลายมาเป็ห้ากองพัน
กองพันที่หนึ่งคือ กองพันแมลง ผู้บังคับกองพันก็คือ''หงยี่'' ที่เชี่ยวชาญในการวางแผนการต่อสู้จำนวนคนตอนนี้ก็คือ 10,000 คน รองรับได้สูงสุด 100,000คน อยู่ในระหว่างรับคนเพิ่ม
กองพันที่สองคือ กองพันดาวตก นำโดย ''ลมกระจ่างจันทร์แรม'' หัวหน้าหน่วยจู่โจม มีกำลังพลอยู่ 10,000 คน รองรับได้สูงสุดที่50,000 คน
กองพันที่สามคือ กองพันทะลายภูผาโดยมี ''น้องชายมีด'' เป็ผู้บัญชาการมีหน้าที่เก็บกวาดปัญหาที่ยุ่งยาก จำนวนคนในตอนนี้คือ 10,000 คน รองรับได้สูงสุดที่ 50,000 คนอยู่ในระหว่างการรับคนเพิ่ม
กองพันที่สี่คือ กองพันเกราะเหล็กมีผู้บัญชาการคือ ''กัวหยากัว’(หม้อแรงดัน) ฝ่ายป้องกัน มีจำนวนคนตอนนี้ 50,000 คนรองรับสูงสุดอยู่ที่ 100,000 คนซึ่งในเวลานี้กำลังรับคนเพิ่มอยู่
กองพันที่ห้าคือกองพันเงา มีผู้บัญชาการคือ ''หายไปกับสายลม''หน้าที่ลอบสังหาร ลอบโจมตี หาข่าว แทรกซึม ล้วงข้อมูล มีจำนวนคนอยู่20,000 คน รับได้สูงสุดอยู่ที่ 100,000 คน ซึ่งอยู่ในระหว่างการรับคนเพิ่ม
หลังจากที่มีการประกาศการตั้งเมืองปัญหาที่รุมเร้าของฉินหวังกรุ๊ปก็ดูเหมือนจะถูกแก้ไขได้ในทันทีโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่กองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตนั้นได้ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าด้วยน้ำมือของฉินโจ้วกองกำลังขนาดเล็กที่ดูเหมือนก่อนหน้านี้จะขัดแย้งกันอยู่ก็พลันอันตรธานหายไปราวกับไม่เคยมีมาก่อนซึ่งก็ไม่รู้ว่าไปหลบซ่อนอยู่ที่ไหนกันหมด
หลังจากกลุ่มของฉินโจ้วมีกองกำลังป้องกันตนเองแล้วความแข็งแกร่งของทั้งกลุ่มระดับก็เพิ่มสูงขึ้น และไม่มีใครกล้าที่จะมาตอแยได้อีก
ด้วยทรัพยากรทางการเงิน บุคลากร และวัตถุดิบต่างๆ ของฉินหวังกรุ๊ปการที่จะสร้างเมืองขนาดเล็กขึ้นสักเมืองหนึ่งนั้น ความยากไม่ต่างจากการสร้างสะพานหรือซ่อมถนนสักเส้นเพียงแค่สองวันครึ่ง เมืองใหญ่ที่มีขนาดพื้นที่ราว 100,000 ตารางกิโลเมตรก็ได้ถูกสร้างขึ้น ประกอบด้วยภัตตาคาร ร้านขายยา โรงตีเหล็ก ร้านขายของชำร้านตัดเย็บเสื้อผ้าก็มีพร้อม และที่สำคัญที่สุดของด๊อกทาวน์คงจะเป็การสร้างระบบขนส่งระยะไกล(เทเลพอร์ท) ตรงไปยังเมืองั ซึ่งหาได้ค่อนข้างยาก จนถึงตอนนี้ในเหยียนหวงก็มีเพียงเมืองงูของกลุ่มสายฟ้าที่มีระบบขนส่งเช่นนี้
โดยสามวันแรกนั้นสามารถใช้เทเลพอร์ทได้ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆซึ่งทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกไปก็ทำให้ผู้คนทั้งหลายต่างรู้สึกตื่นเต้นก่อนที่จะรีบแห่กันไปทันทีไม่เหมือนกับกองกำลังอื่นๆ ที่ต้องพึ่งพาชื่อเสียงเพื่อใช้ดึงดูดผู้เล่นที่ด๊อกทาวน์นั้นมีอยู่เพียงแค่สองอย่างอาวุธและอุปกรณ์ชั้นเยี่ยมกับยาโพชั่นคุณภาพสูงสุดซึ่งทันทีที่มีการประกาศตั้งเมืองด๊อกทาวน์บริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรนั้นก็ได้ประกาศย้ายสำนักงานใหญ่ไปอยู่ที่ด๊อกทาวน์ทันทีไม่มีใครรู้เหตุผลว่าเพราะอะไร แต่เท่าที่รู้ดูเหมือนว่ากลุ่มผู้นำระดับสูงเ่าั้พยายามจะขอเข้าร่วมอย่างไม่ย่อท้อซึ่งที่ผ่านมาก็ยังไม่มีใครสามารถเข้าร่วมได้ แต่แล้วจู่ๆบริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรก็ตัดสินใจอย่างกะทันหัน ทำให้ผู้คนจำนวนมากต่างก็รู้สึกแปลกใจเป็อย่างมาก
ในราคาที่เท่ากันมีเพียงที่ด๊อกทาวน์แห่งเดียวที่คุณสามารถหาซื้ออาวุธ อุปกรณ์ และยาโพชั่นคุณภาพสูง ซึ่งจนถึงบัดนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนจำนวนมากมายให้ความสนใจแล้ว
ในคืนนั้นเองได้มีผู้เล่นไม่ต่ำกว่าสามล้านคนหลั่งไหลไปที่เมืองงูเลยทำให้ด๊อกทาวน์ได้รับความนิยมไปด้วยในเวลาเดียวกันทำให้เกิดการกระตุ้นในการพัฒนาทางการค้าของด๊อกทาวน์ขึ้น ทั้งอาหารการกิน เสื้อผ้าและที่อยู่อาศัย ที่เชื่อมโยงถึงกันหมด
การก่อสร้างในด๊อกทาวน์นั้นเต็มไปด้วยความคึกคัก แต่ฉินโจ้วก็ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมโดยปล่อยให้หวังโหรวและชูหลิงเป็คนจัดการตามแผนการพัฒนา หลังจากนั้นเขาก็ออกมาเพื่อไปยังห้องโถงสำหรับเปลี่ยนอาชีพ นี่เป็อีกครั้งที่ได้พบกับผู้ใช้เวทแห่งความมืดที่มีแต่หนังหุ้มกระดูกถ้าไม่ได้เห็นเส้นเืปูดโปนที่คล้ายกับหนอนดินอยู่บนมือนั้นกำลังสูบฉีดเือยู่ก็คงไม่ต่างจากมัมมี่เลยแม้แต่น้อย
"ผู้กล้าน้อย ข้าดีใจที่ได้พบเ้าอีกครั้ง การปรากฏตัวของเ้าแสดงให้เห็นถึงเมล็ดพันธุ์แห่งความมืดยังไม่ได้ถูกตัดขาด"ปากของผู้ใช้เวทแห่งความมืดขยับขึ้นลงในขณะที่พูดเผยให้เห็นฟันขาวเรียงรายอยู่ด้านใน ไม่รู้ว่าตาเฒ่าคนนี้อายุเท่าไร จึงยังมีสุขภาพฟันที่ดีอยู่เช่นนี้แต่น้ำเสียงของแกกลับไม่ชวนฟังเอาเสียเลย ไม่ต่างจากนำเหล็กสองชิ้นมาถูกัน
เมล็ดพันธุ์อย่างนั้นหรือ? บ้าหรือเปล่า... ฉันเนี่ยนะเหมือนเมล็ดพันธุ์ ฉินโจ้วไม่ได้ชอบคำนี้สักเท่าไรแต่ในเวลานี้เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธตามที่พ่อมดาุโ้าได้คงได้แต่เออออไปตามนั้น "ข้าดีใจที่ท่านพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่จำข้าได้ ช่างเป็เกียรติอย่างสูง ท่านเทพแห่งความมืดผู้ยิ่งใหญ่ เวทมนตร์โบราณของท่านนั้นยากยิ่งนัก"
ริมฝีปากของพ่อมดาุโเต็มไปด้วยรอยแตก ิัก็ดูแห้งผากก่อนจะยิ้มให้อย่างอ่อนโยน และพูดขึ้นว่า "ผู้กล้าน้อย เท่าที่พบมาเ้าดูเป็คนที่น่าจะมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะเป็ผู้ใช้เวทแห่งความตายข้าชื่นชมในตัวเ้าเป็อย่างมาก และข้าเข้าใจวัตถุประสงค์ของการมาของเ้าเป็อย่างดี เมื่อเร็วๆ นี้สภาเวทแห่งความตายได้ค้นพบช่องว่างมิติขนาดใหญ่ซึ่งทำให้มอนสเตอร์จำนวนมากถูกอัญเชิญออกมานั่นเป็สาเหตุที่ทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้น ผ่านมาหลายปีแล้ว ที่ข้าทุ่มเทค้นคว้าวิชาเวทอย่างต่อเนื่องจนทำให้ค้นพบสิ่งสำคัญ ตราบใดที่สำเร็จล่ะก็ รูปแบบการต่อสู้ในอนาคตก็จะเปลี่ยนไปยกตัวอย่างเช่น ใช้พลังจิตเพียงเล็กน้อยก็เพิ่มพลังให้กับวงกลมไสยเวท จะทำให้เวทมนตร์ขยายออกไปเป็ร้อยเท่าหรือแม้แต่พันเท่าซึ่งอาวุธทำลายล้างดังกล่าวก็เพียงพอที่จะรบกวนเทพแห่งความมืดและการค้นคว้าเวทเกี่ยวกับมิตินั้นก็เพื่อจะลดค่าใช้จ่ายส่วนตัวซึ่งในการวิจัยนั้นต้องใช้วัตถุดิบเป็จำนวนมาก และวัตถุดิบของเราที่มีอยู่ก็ถึงจุดวิกฤติแล้ว"
"เทพแห่งความมืดผู้ยิ่งใหญ่ยังคงจดจำคุณงามความดีของเ้าผู้ใช้เวทผู้ยิ่งใหญ่ได้เป็อย่างดีที่ได้ให้การสนับสนุนมาตลอด ว่าแต่เ้า้าช่วยเราในการหาวัตถุดิบหรือไม่?"ตอนแรกฉินโจ้วยังไม่เข้าใจจนเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายจึงเข้าใจได้ทั้งหมด
"ไม่... ไม่ใช่อย่างนั้น ผู้กล้าน้อยวัตถุดิบทั่วไปนั้นใช้ไม่ได้เสียเวลาเปล่า เวลาของเราตอนนี้เข้าขั้นวิกฤติแล้วหายนะกำลังคืบคลานเข้ามาทุกขณะแล้วเราจำเป็ต้องใช้เหรียญทองเพื่อซื้อวัตถุดิบ"ในขณะที่พูดถึงเกี่ยวกับหายนะของโลก ท่าทางของพ่อมดาุโก็มีการเปลี่ยนแปลงในชั่วพริบตา
เวร... แล้วไง...
นี่มันรีดไถกันนี่ขู่กรรโชกทรัพย์กันเห็นๆฉินโจ้วเองไม่คิดว่าระบบจะช่างไร้ยางอายถึงกับขูดรีดกันแบบนี้ แล้วเขาจะปฏิเสธได้อย่างไรกัน คำตอบในใจก็เห็นอยู่แล้วว่า ‘ไม่’ แต่ก็คงทำได้เพียงต้องกล้ำกลืนฝืนทนเท่านั้น
"เทพแห่งความมืดผู้ยิ่งใหญ่อยู่ที่นี่แล้วสามารถมอบความปรารถนาให้กับเ้าได้ทุกสิ่ง อยู่ที่เ้าจะมีเงินมากเท่าไรแค่นั้นเอง"
พ่อมดาุโไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพียงแค่ชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้วซึ่งทั้งแกร็น เรียวยาว เหลือแต่กระดูก ดูดำคล้ำ และเหี่ยวแห้งนี่เป็มุมมองของฉินโจ้วเมื่อเห็นหนึ่งนิ้วที่ชูขึ้นมา
"1 เหรียญทอง" ฉินโจ้วพูดขึ้นทันที
พ่อมดาุโส่ายหน้า
"10 เหรียญทอง" ฉินโจ้วคาดเดาราคา
พ่อมดาุโส่ายหน้า
"100 เหรียญทอง" ฉินโจ้วถามขึ้น
พ่อมดาุโก็ยังคงส่ายหน้า
"1,000 เหรียญทอง" ฉินโจ้วเริ่มเกิดความไม่แน่ใจ
พ่อมดาุโก็ยังคงส่ายหน้าอยู่ดี
"10,000 เหรียญทอง" ฉินโจ้วเริ่มเหงื่อตก
ในที่สุดพ่อมดาุโก็หยุดส่ายหน้าก่อนจะแสดงท่าทีราวกับสั่งสอนเด็ก และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่า"ผู้กล้าน้อย ถ้าเ้าบริจาคสัก 50,000 เหรียญทองเ้าก็จะได้พบกับผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึง แต่ก็แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับความสมัครใจนะ"
"เทพแห่งความมืด ท่านพ่อมดที่เคารพ ไม่ทราบว่าพอจะเปิดเผยได้หรือไม่ว่าผลประโยชน์ที่ว่านั้นคืออะไร? ฉินโจ้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเงิน 50,000 เหรียญทอง ก็เป็จำนวนที่ไม่ใช่น้อยๆถึงแม้ว่าเขาพอที่จะมีเงินอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อยากเป็ไอ้โง่ที่ถูกหลอก เื่นี้แม้จะดูเหมือนเป็ภารกิจที่ซ่อนอยู่หรือต่อให้ไม่ใช่ แต่อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าขั้นตอนเป็อย่างไรก็ยังดีปกติแล้วทุกคนก็้าผลประโยชน์กันทั้งนั้น แต่มันจะคุ้มค่ากับเงิน 50,000เหรียญทองหรือไม่ เื่นี้เขาจำเป็ต้องคิดให้รอบคอบ
พ่อมดาุโส่ายหน้าและพูดขึ้นว่า"ศักดิ์ศรีของเทพแห่งความมืดอันยิ่งใหญ่นั้นไม่สามารถลบหลู่ได้"
โกหกทั้งเพ...
หรือสิ่งนี้จะเกี่ยวกับการเพิ่มความสามารถของเวทแห่งความมืดฉินโจ้วนึกชั่งใจถึงผลได้ผลเสียก่อนจะกัดฟันแน่น เอาก็เอาวะ... ก่อนจะให้ไปอีก 60,000เหรียญทอง
นี่เป็ครั้งที่สองที่ใบหน้าแห้งเหี่ยวราวกับมัมมี่ของพ่อมดาุโกำลังแสยะยิ้มก่อนจะพูดขึ้นมาว่า "เทพแห่งความมืดผู้ยิ่งใหญ่เ้าจะได้รับคำอวยพรแห่งความมืด ผู้กล้าน้อย"
ติ๊ง! ระบบแจ้งเตือนั้แ่ที่คุณบริจาคเพื่อการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับวงกลมไสยเวทคุณจะได้เรียนรู้ทักษะนี้ก็ต่อเมื่อผลการวิจัยของวงกลมไสยเวทสำเร็จเรียบร้อยเท่านั้น
นั่นน... ว่าแล้วไง ถูกหลอกจนได้
นี่เป็ครั้งแรกที่ฉินโจ้วมีปฏิกิริยาตอบสนองวงกลมไสยเวทนั้นยังไม่ได้ถูกคิดค้นขึ้นมาก่อน นี่ก็ไม่ต่างจากการจ่ายเช็คเด้งเขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า ตาเฒ่าคนนี้จะฉลาดแกมโกงเช่นนี้ถึงกับให้เขาจับหมาป่าหิมะด้วยมือเปล่า ประมาทไปแล้ว... ดูท่าจะประมาทไปจริงๆ 50,000เหรียญทอง คงไม่ต่างจากการโยนหินให้กระดอนไปบนผืนน้ำเสียแล้ว (เสียเงินเปล่า)
ฉินโจ้วไม่รู้สึกแปลกใจ ถ้าวันหนึ่งมีการวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับวงกลมไสยเวทจนสำเร็จแต่่ชีวิตของผู้ใช้เวทนั้นอยู่ได้ราวร้อยปีและเวลาสำหรับการค้นคว้าวิจัยนั้นดูแล้วไม่น่าจะสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้นหรือจะพูดอีกนัยหนึ่งว่า ถ้าฉินโจ้ว้าศึกษาจนสำเร็จ เกรงว่าคงต้องรอนานหน่อยบางทีอาจจะแค่หนึ่งปีหรือห้าปี ไม่ก็อาจจะมากกว่าห้าสิบปีก็เป็ได้
"ท่านพ่อมดผู้าุโที่เคารพไม่ทราบว่าตอนนี้ผมสามารถเปลี่ยนอาชีพได้แล้วหรือยัง?" ฉินโจ้วสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะพูดเข้าประเด็น เขากังวลว่าถ้าอยู่นานกว่านี้เขาไม่แน่ใจว่าจะโดนตาเฒ่าคนนี้ขูดรีดไปอีกเท่าไร
"โอ้... ผู้กล้าน้อยดูเหมือนว่าข้าจะไม่สามารถเปลี่ยนอาชีพให้เ้าได้ในเวลานี้"พ่อมดาุโส่ายหัวหลังจากที่พูดจบ
"ทำไมล่ะ?" ฉินโจ้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่พอใจ
"เ้าต้องทำภารกิจหนึ่งให้สำเร็จเสียก่อนภารกิจเปลี่ยนอาชีพ"
"ภารกิจอะไรกัน?" ฉินโจ้วคิดว่า10,000 เหรียญทองนั่นคือภารกิจแล้วแต่นี่ดูเหมือนว่าจะต่างออกไปอีก ดูเหมือนชายชราคนนี้จะมีปัญหามากมายเสียเหลือเกิน
"นำอิฐเรืองแสงธาตุศักดิ์สิทธิ์อายุหนึ่งร้อยปีจำนวนหนึ่งร้อยก้อน มีเวลาให้แค่ห้าวันเท่านั้น ถ้าทำภารกิจล้มเหลว ต้องรอไปอีกสามเดือนจึงจะทำภารกิจใหม่ได้อีกครั้ง" พ่อมดาุโเอ่ยขึ้นอย่างไม่เร่งร้อน
บ้าเอ๊ย...!
ฉินโจ้วอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ นี่มันภารกิจประเภทไหนกันฟะ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้