หานรุ่ยและหยุนจ่านเฮ่อปรึกษากันเสร็จ หานรุ่ยก็มอบยาิญญาให้แก่เขาจำนวนหนึ่ง หนึ่งในนั้นมียาแก้พิษที่ดีที่สุดอยู่สองสามขวด เขาไม่รู้ว่ายาแก้พิษนี้จะล้างพิษให้แก่ลูกผู้พี่ของเขาทั้งสองได้หรือไม่ ทว่านี่คือสิ่งเขาทำได้มากที่สุด จากนี้ไป เขาต้องใส่ใจเื่ยาแก้พิษต่อไป เขาจะทำให้ลูกผู้พี่ทั้งสองของเขากลับมาเดินได้อีกครั้ง เขาเคยมีประสบการณ์เป็สวะ ทั้งถูกลดระดับจากอัจฉริยะกลายเป็สวะ ความรู้สึกนี้เขาลิ้มรสมาก่อน พูดตามตรงช่างทรมานนัก
หยุนจ่านเฮ่อมองกองยาชั้นเลิศในมือของเขา เวลานี้ เขารู้สึกเหมือนยากจกที่กลายเป็เศรษฐี แม้ว่าจะมีฐานะเป็ถึงนายน้อยของตระกูลหยุน แต่ก็ยังไม่เคยพบยาชั้นเลิศจำนวนมากเช่นนี้ หยุนจ่านเฮ่อพูดติดตลกกับหานรุ่ยว่า “เ้าไม่กลัวว่าข้าจะอยากได้ยาชั้นเลิศเหล่านี้ไว้เองหรือ?”
“ข้าเชื่อในตัวพี่รองหยุน พี่รองและพี่สามของข้าเคยบอกว่าพี่รองหยุนเป็คนที่เชื่อใจได้ และบอกว่าพวกท่านคือเพื่อนรักกัน” หานรุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น ยามนี้เขาได้ฝังความเกลียดชังในหัวใจของเขาไว้ รอเพียงเวลาะเิมันออกมา
หยุนจ่านเฮ่อส่ายหัว กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เ้าสองคนนั่นเชื่อใจข้าเพียงนี้ ข้าเกรงว่าพวกเขาคงมองข้าผิดไป แม้เงินจะเย้ายวนต่อจิตใจเพียงใด ข้าก็เป็คนธรรมดา ยิ่งกว่านั้นของที่เ้าให้มาพวกนี้ถือเป็ขุมทรัพย์ที่หายากยิ่ง มีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อได้”
หานรุ่ยเอ่ยถามพลางเลิกคิ้ว “ท่านเป็คนเช่นนี้หรือ?”
หยุนจ่านเฮ่อก็ตอบพลางเลิกคิ้วว่า “ข้าเป็คนเช่นนี้จริงๆ” พูดจบก็เห็นสีหน้าของหานรุ่ยที่ไม่แปรเปลี่ยน กล่าวต่อว่า “แต่มันขึ้นอยู่กับว่า เ้าจะจ่ายให้ข้ามากแค่ไหน ข้าถึงจะไม่ยักยอกมัน” พูดจบก็หยุดชั่วขณะหนึ่ง พูดว่า “เหตุผลหลักคือข้าไม่อาจเอาชนะพวกเ้าได้ ข้ายังไม่อยากรนหาที่ตายหรอก” พูดจบก็มองจุนห่าวครู่หนึ่ง คิดในใจ คนนี้สิถึงเป็ตัวละครที่โเี้ เขาไม่กล้ายั่วยุเทพแห่งการสังหารเช่นนี้หรอก ตอนนี้เขารอให้ราชวงศ์สุ่ยเย่ว์โชคร้ายก็พอ ยังไงตระกูลของเขากับตระกูลหานก็เป็มิตรต่อกัน เขาเชื่อว่าเพราะตัวหานรุ่ย จุนห่าวคงไม่โจมตีตระกูลหยุน
หานรุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พี่รองหยุนพูดขบขันนัก อันที่จริง ยาิญญานั้นก็มิได้มีค่ามากมายขนาดนั้น”
ฟังคำของหานรุ่ยแล้ว หยุนจ่านเฮ่อหัวเราะเฮ่อๆ สองครั้ง คิดในใจ ยาิญญาชั้นเลิศนี้จะไม่มีค่าได้อย่างไรล่ะ
หลังจากที่หานรุ่ยทราบเื่ของตระกูลหานแล้ว ก็ยิ่งตื่นตัวเื่องค์ชายสามมากขึ้น แต่ทว่า ผ่านไปสามวันแล้ว ลมพายุยังคงสงบนิ่ง หานรุ่ยไม่เชื่อว่า ด้วยนิสัยแค้นนี้ชำระขององค์ชายสามจะปล่อยจุนห่าวไป หานรุ่ยคิดว่าการที่ยามนี้พายุยังคงสงบเป็เพียงการโหมโรงก่อนที่พายุจะเริ่ม
ณ ฐานที่มั่นขององค์ชายสาม
องค์ชายสามกลับมาพร้อมกับคนรับใช้ ดูจากรอยยิ้มบนใบหน้าขององค์ชายสามคงมองออกได้ว่า ครั้งนี้องค์ชายสามต้องได้สิ่งที่ยิ่งใหญ่มาแน่
ั้แ่ที่ผู้าุโหวังตายอย่างไร้ศพครั้งนั้น องค์ชายสามไม่อยากถูกครหาว่าเป็พวกทำงานไม่ราบรื่น องค์ชายสามจึงประกาศว่าผู้าุโหวังได้หลบหนีไปกับทารกของาาเสือดาว ยังไงทารกเสือดาวก็คือลูกของาาเสือดาว สายเืสูงส่ง คงเลี้ยงดูอย่างดี จะเป็ประโยชน์อย่างมากในอนาคต ดังนั้นจึงเป็ไปได้ที่ผู้าุโหวังจะหวังในลาภยศ จึงไม่มีใครสงสัย
ครั้งนี้องค์ชายสามนำลูกน้องฝีมือดีของเขาไปไล่ล่าเสือเฟิงหลิง...หนึ่งในสิบาาของเทือกเขาอู๋หยิน องค์ชายสามไปคราวนี้ ไม่เพียงพายอดฝีมือที่มีลมปราณขั้นสิบสองไปด้วย ยังเชิญประธานสมาคมผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรมาด้วย เสือเฟิงหลิงคือาาที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาาาในเทือกเขาอู๋หยิน เพิ่งเข้าสู่ขั้นสูงได้ไม่นาน มีพลังปราณต่ำกว่า และพ่ายแพ้ในที่สุด กลายเป็สัตว์ในพันธะสัญญาขององค์ชายสาม เมื่อองค์ชายสามทำพันธะสัญญากับสัตว์ตัวนี้แล้ว จึงเทียบได้ว่าลูกสมุนยอดฝีมือที่มีลมปราณขั้นที่สิบสองเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง ทั้งยังจงรักภักดีต่อเขา องค์ชายสามจะไม่มีความสุขได้อย่างไร
ทว่าความปิติที่ได้ทำพันธะสัญญากับเสือเฟิงหลิงพลันหายไป เมื่อเขาเห็นน้ำตาของหงอวี้หรู ทันทีที่เห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาของหญิงงามอย่างหงอวี้หรู การที่นางออกจากวังเป็การส่วนตัว องค์ชายสามจึงไม่ชอบใจตรงจุดนี้นัก แต่ก็ถูกแทนที่ด้วยความทุกข์
องค์ชายสามอุ้มหงอวี้หรูมานั่งบนตักของตัวเอง เช็ดน้ำตาให้นางเบาๆ และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ที่รักเกิดอันใดขึ้น มีใครรังแกเ้าหรือ? ข้าบอกให้เ้ารออยู่ที่วังมิใช่หรือ? หรือว่าคนในวังรังแกเ้าหรือเปล่า?”
หงอวี้หรูวางศีรษะไว้ในอ้อมแขนขององค์ชายสาม พูดด้วยด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า “คนในวังทราบดีว่าข้าเป็คนขององค์ชาย จะรังแกข้าได้อย่างไร เป็เพราะข้าไม่ได้พบหน้าองค์ชายหลายวัน ข้าคิดถึงท่าน” พูดจบก็ใช้มือโอบด้านหลังขององค์ชายสาม และเริ่มกอดรัดองค์ชายสามอย่างตั้งใจ
องค์ชายสามถูกหงอวี้หรูลูบไล้จนเกิดอารมณ์ เงยศรีษะของหงอวี้หรูเพื่อจะจูบนาง ทว่าเมื่อเห็นดวงตาที่มีน้ำตาไหลริน องค์ชายสามสะกดความ้าทางเพศ และเอ่ยขึ้น “เกิดอันใดขึ้นกันแน่ เล่าให้ข้าฟังสิ หือ?”
ฟังคำขององค์ชายสาม น้ำตาของหงอวี้หรูพลันไหลรินเป็สาย และหยุดไม่ได้ ขณะนี้หงอวี้หรูเสียใจจริงๆ หงอวี้ชิ่งไม่เพียงเป็พี่น้องของเธอ แต่ยังเป็หุ้นส่วนของเธอ อำนาจภายนอกของหงอวี้ชิ่งที่พัฒนาขึ้น ย่อมให้ความช่วยเหลือแก่หงอวี้หรูได้ ส่วนหงอวี้หรูก็ใช้อำนาจจากองค์ชายสาม ช่วยให้อำนาจหงอวี้ชิ่งพัฒนาขึ้นเช่นกัน ทั้งสองคนช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกัน บัดนี้หงอวี้ชิ่งสิ้นชีพแล้ว เธอจึงเธอขาดความช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่ ยังไงเธอและหงอวี้ชิ่งก็เป็พี่น้องกัน วางใจกว่าใช้งานผู้อื่นนัก ทว่าเวลานี้ทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้นแล้ว จุนห่าวไม่เพียงสังหารหงอวี้ชิ่ง แต่ยังตัดแขนตัดขาของหงอวี้หรูด้วย หงอวี้หรูจะไม่เคียดแค้นได้อย่างไร? หากปราศจากกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งแล้ว เธอจะไม่ได้รับความช่วยเหลืออีกต่อไป ตอนนี้เธอกลายเป็เด็กกำพร้าที่ไม่มีสิ่งใดเลย ซึ่งทำให้เธอลำบากยิ่งนักที่จะไปถึงอำนาจสูงสุดในอนาคต เธอจะไม่เคียดแค้นได้อย่างไร? อีกอย่าง หงอวี้ชิ่งคือพี่ชายของเธอ ยิ่งเพิ่มความเคียดแค้นที่มีต่อจุนห่าวยิ่งขึ้น
เธอคิดว่า มีเพียงศพของคนที่ฆ่าหงอวี้ชิ่งเท่านั้น ถึงจะคลายความเกลียดชังในใจของเธอได้
มองหงอวี้หรูที่น้ำตาไหลรินไม่หยุด องค์ชายสามร้อนใจยิ่งนัก คิดในใจ ต้องได้รับความไม่เป็ธรรมจนทุกข์ทรมานมากแน่ ถึงได้ร้องไห้ถึงเพียงนี้ ในอาณาจักรสุ่ยเย่ว์ มีใครไม่รู้บ้างว่าเขารักหงอวี้หรู เขาไม่รู้ว่าใครอุกอาจเช่นนี้ ที่กล้าทำให้พระสนมของเขาขุ่นเคือง หากเขาล่วงรู้ เขาต้องให้อาหู่กลืนกินเ้านั่นแน่ อาหู่ก็คือนามของเสือเฟิงหลิงที่เป็สัตว์ในพันธะสัญญาขององค์ชายสาม
“อย่าร้องไห้นะคนดี เ้าอยากให้ข้าเป็ทุกข์หรือ เ้าบอกข้ามา ใครทำให้เ้าเสียใจ ข้าจะสั่งสอนมัน จะให้อยู่หรือตายขึ้นอยู่กับเ้าแล้ว” องค์ชายสามกล่าวขณะเช็ดน้ำตาของหงอวี้หรู ท่าทางนั้นอ่อนโยนมาก แสดงว่าองค์ชายสามรักหงอวี้หรูอย่างจริงใจ
ฟังคำขององค์ชายสาม หงอวี้หรูพูดความสายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นว่า “ข้า้าให้มันตาย ข้า้าให้ศพของมันแตกเป็หมื่นชิ้น จากนั้นก็เผามัน เหมือนกับที่มันทำกับท่านพี่และกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่ง”
ฟังคำที่พูดติดๆ ขัดๆ ของหงอวี้หรู องค์ชายสามกระส่ำกระส่ายในใจ พูดอย่างขึงขังว่า “เ้าพูดอะไรนะ? มีคนเผาพี่ชายเ้าและกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่ง?”
“อื้อ บ่ายนี้ ขณะที่ข้าและท่านพี่กำลังสนทนากัน ทันใดนั้นก็มีคนมาหาเื่ เขาฆ่าท่านพี่และคนของท่านพี่ที่พามาด้วยเป็พันๆ คน” หงอวี้หรูพูดอย่างสะอึกสะอื้น หยุดครู่หนึ่งแล้วพูดเสียงสั่นเครือว่า “องค์ชาย ท่านมิได้เห็นฉากนั้น ฉากที่เืไหลรินดั่งน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำ และทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยศพ สุดท้าย ชายคนนั้นก็เผาร่างของท่านพี่และคนอื่นๆ นับพันคนจนไม่เหลืออะไร การสังหารคนจำนวนมากขนาดนั้น สายตาของชายผู้นั้นหาได้กระพริบตาไม่ เห็นได้ว่า เป็คนเหี้ยมโหดเพียงใด”
“เหตุใดเขาถึงต้องสังหารพวกพี่ชายเ้า เ้ามิได้มองผิดไปใช่ไหม? มีคนเดียวจริงๆ หรือ?” องค์ชายสามถามด้วยใบหน้าครุ่นคิดอย่างหนักหน่วง ขณะที่พูด เขาตบหลังของหงอวี้หรู เพื่อให้เธอไม่ต้องหวาดกลัวขณะนึกคิด
องค์ชายสามคิดในใจ พลังของคนคนนึง จะสังหารคนนับพัน ซึ่งในนั้นยังมีคนที่มีพลังปราณขั้นสิบเอ็ดถึงสองคน ความแข็งแกร่งของชายคนนี้ช่างจะน่ากลัวขนาดไหน? แม้แต่คนที่มีพลังปราณขั้นสิบสอง ก็มิอาจสังหารคนจำนวนมากเช่นนี้ได้ ยังไงพลังิญญาก็มีจำกัด ลมปราณของคนที่อยู่ขั้นสิบสองย่อมหมดลงเช่นกัน
“เหตุผลที่มันฆ่าพี่ชายของข้า เพราะมันบอกว่าไม่ถูกชะตากับกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่ง ข้าเห็นด้วยตาตัวเองว่ามีมันคนเดียว ในเวลานั้นมีผู้คนจำนวนมาก ทุกคนต่างเห็นเช่นกัน หากองค์ชายไม่เชื่อข้า ท่านส่งคนไปถามดูก็ได้” หงอวี้หรูกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ที่รัก ไม่ต้องตื่นเต้น มิใช่ว่าข้าไม่เชื่อเ้า แต่การที่คนๆ เดียวจะสังหารคนนับพัน ทั้งในนั้นยังมีผู้ฝึกลมปราณที่อยู่ระดับสูงหลายคน ข้าแค่ไม่อยากจะเชื่อ หากเป็เช่นนั้นจริง ความแข็งแกร่งของเขาช่างน่ากลัวนัก” องค์ชายสามพูดอย่างเอาใจ เขารู้จักคนที่หงอวี้ชิ่งพามาด้วย เพราะเขาเองที่ส่งข่าวถึงหงอวี้ชิ่ง ให้เขานำผู้ฝึกลมปราณระดับสูงในกลุ่มของเขามาด้วยทั้งหมด เดิมทีตั้งใจให้หงอวี้ชิ่งช่วยเหลือเขา คิดไม่ถึงว่ากลับถูกสังหารด้วยเงื้อมมือของคนคนหนึ่ง คิดยังไง เขาก็ไม่อยากจะเชื่อ
“จริงๆ หลังจากเขาฆ่าท่านพี่และทุกคน ก็โยนของจำนวนหนึ่งออกมา พอของชิ้นนั้นัักับร่างกาย จากนั้นไม่นานทุกคนก็เืออกทางทวารทั้งเจ็ดจนสิ้นใจ ข้าเป็ห่วงท่านพี่จึงวิ่งออกมาดูที่เกิดเหตุ ดีที่ข้าซ่อนตัวในฝูงชน ได้เห็นการกระทำทั้งหมด เป็เพราะท่านพี่บอกให้ข้าอยู่ในเต็นท์ ข้าถึงหลบหนีออกมาได้ ไม่เช่นนั้น ข้าคงไม่ได้เห็นหน้าองค์ชายอีก” หงอวี้หรูพูดด้วยความหวาดกลัว
“โชคดีที่เ้าไม่เป็อันใด เ้าวางใจ ข้าต้องล้างแค้นให้หงอวี้ชิ่งแน่” องค์ชายสามพูดเชิงสาบาน คิดในใจ ชายคนนั้นใช้ยาพิษนี่เอง ก็มิได้น่ากลัวอย่างที่เขาคิด เขามีอาหู่ที่เพิ่งทำพันธะสัญญาเมื่อครู่นี้ มีนักพรตลมปราณขั้นที่สิบสองอยู่สามคน และนักพรตระดับสูงหลายคน การรับมือกับคนๆ นั้นคงไม่เป็ปัญหา ต่อให้หงอวี้หรูไม่พูด ยังไงเขาก็ไม่อาจปล่อยชายคนนั้นแน่ รู้ทั้งรู้ว่าหงอวี้ชิ่งคือคนของเขา ยังกล้าแตะต้อง นั่นหมายความว่าไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา คนที่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาก็ไม่จำเป็ต้องอยู่บนโลกนี้ องค์ชายสามคิดชั่วช้า เมื่อคิดทบทวน ชายคนนั้นฆ่าคนจำนวนมาก ตอนนี้ยังจะอยู่ที่นั่นหรือ? หากเขาหนีไปแล้ว การค้นหาเท่ากับการงมเข็มในมหาสมุทรทีเดียว
คิดถึงตรงนี้ องค์ชายสามเอ่ยถามขึ้น “ชายคนนั้นยังอยู่หรือ?”
“อยู่ เขาอาศัยอยู่ในค่ายของพี่ข้า โอหังยิ่งนัก” หงอวี้หรูบอกสิ่งที่เธอรู้ทั้งหมดแก่องค์ชายสาม จากนั้นก็พูดต่อว่า “ข้างกายเขายังมีคนติดตามอีกสามคน คือซวงเอ๋อร์ผู้หนึ่งและเด็กชายอายุประมาณ 3 ขวบสองคน”
ฟังหงอวี้หรูที่พูดว่าชายคนนั้นมีซวงเอ๋อร์ผู้หนึ่งและเด็กชายอีกสองคนมาด้วย องค์ชายสามรู้สึกว่าบุคคลนี้มิได้แข็งแกร่งมากพอ ซวงเอ๋อร์ผู้นั้นและเด็กๆ ก็คือจุดอ่อนของเขา ตราบใดที่มีจุดอ่อนให้จัดการ แต่ยังไงชายคนนี้ช่างใจกล้านัก ที่พาซวงเอ๋อร์และเด็กสองคนมาด้วย กล้าท้าทายสังหารคนของเขา สังหารแล้วก็หาได้หนีไปไม่ ยังรออยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าเพราะสมองของเขามีปัญหาหรือยังไง ยังไงก็ตาม เขาไม่เชื่อว่าบุคคลนั้นเป็คนกล้าหาญสูงส่ง
“เข้ามา ไปเชิญผู้าุโจ้าวและผู้าุโโจวมา บอกว่าข้ามีเื่ปรึกษาพวกเขา” องค์ชายสามออกคำสั่ง ผู้าุโเหล่านี้ล้วนเป็ผู้ลี้ภัยที่อยู่ในการดูแลราชวงศ์สุ่ยเย่ว์ เมื่อพลังปราณถึงลมปราณขั้นสิบสองก็จะกลายเป็ผู้าุโ เป็ที่เคารพของราชวงศ์สุ่ยเย่ว์ และทำงานให้กับราชวงศ์สุ่ยเย่ว์เสมอ
เมื่อได้ยินว่าองค์ชายสามเชิญผู้าุโจ้าวและผู้าุโโจวมา หงอวี้หรูยยิ้มออก คิดในใจ คนสองคนนี้เป็ยอดฝีมือที่มีลมปราณขั้นสิบสอง ต้องสังหารชายผู้หยิ่งผยองนั่นให้ลาจากโลกนี้ได้แน่ คิดถึงชายคนนั้นที่กำลังจะตาย หงอวี้หรูสบายใจขึ้นมาก แต่เมื่อคิดถึงใบหน้าอันหล่อเหลาของจุนห่าว หงอวี้หรูก็เสียดายเล็กน้อย ทว่าเมื่อคิดๆ ดู ชายที่ไม่มีประโยชน์ต่อเธอ สู้ตายเสียดีกว่า
เพื่อความปลอดภัย องค์ชายสามเรียกมาเพียงนักพรตที่มีลมปราณขั้นสิบสองสองคน กำชับกับพวกเขาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นค่อยให้พวกเขาออกไป
หลังจากกำชับเรียบร้อยแล้ว องค์ชายสามก็ไม่อาจระงับความ้าทางเพศของเขาได้ ในไม่ช้าองค์ชายสามก็ไปคลุกคลีกับหงอวี้หรู
