เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งวันหลังจากเหตุการณ์ที่หน่วยลับเงาทมิฬได้ปลอมตัวเป็คนจากนิกายปีศาจหยินหยางแล้วโจมตีเมืองหลวงของราชวงศ์เพลิง์ ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว สร้างความตกตะลึงให้กับเมืองรอบข้าง และผู้คนในราชวงศ์เพลิง์ที่ได้รับรู้ถึงเหตุการณ์นี้ด้วย
ชื่อของ หลี่หวง ที่เคยถูกประชาชนดูิ่และเหยียดหยาม ตอนนี้กลับเป็ที่สนใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน ข่าวลือแพร่สะพัดว่า หลี่หวงไม่เพียงแค่เป็ผู้ที่ช่วยปกป้องเมืองหลวงจากการโจมตีของนิกายปีศาจหยินหยาง แต่เขายังควบคุมกองกำลังลึกลับที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน และที่สำคัญที่สุด นั้นคือหลี่หวงมีการบ่มเพาะพลัง และมันยังอยู่ในระดับการสร้างรากฐานขั้นที่ 9 อีกด้วยเื่นี้ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กองกำลังบางส่วนเป็อย่างมาก!
ยังมีข่าวลืออื่นๆ ที่เล่าถึงเื่ที่หลี่หวงถูกขุนนางและข้าราชการกดขี่มาโดยตลอด พวกเขาไม่ฟังคำสั่งของจักรพรรดิ ทำให้หลี่หวงไม่สามารถบริหารอาณาจักรได้อย่างเต็ม แถมยังมีพระมเหสีที่เป็สายลับที่แฝงตัวอยู่ในราชวงศ์เพลิง์มานานหลายปีอีกด้วย แต่หลี่หวงก็อดทนอดกลั้นจากการดูถูกและเหยียดหยามจาก ขุนนาง ข้าราชการ นายพล ประชาชน หรือองค์ชายคนอื่นๆ มาอย่างยาวนานเพื่อรอวันที่เขาจะแข็งแกร่งพอที่จะพลิกราชวงศ์เพลิง์ในตอนนี้
เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ได้ยินเื่ทั้งหมดและความยากลำบากของหลี่หวงแบกรับมาตลอดเวลาที่เขาเป็จักรพรรดิพวงเขาก็ร้องไห้ออกมาพร้อมเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดในใจอีกด้วย
...
ทางตอนเหนือของราชวงศ์เพลิง์ ณ ทุ่งกว้างที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ หญิงสาวผมสีขาวคนหนึ่งยืนอยู่บนเนินเขา สายตาของนางจ้องมองไปยังฝูงสัตว์อสูรที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหน้า พวกมันล้วนแต่เป็สัตว์อสูรที่ทรงพลัง หลายตัวมีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ระดับแกนทองคำขึ้นไป
นางยืนถือดาบด้วยท่าทางเยือกเย็น ขณะที่เสียงของทหารหญิงคนหนึ่งดังขึ้นเื้ั "ท่านแม่ทัพ... ท่านเชื่อข่าวลือของจักรพรรดิหลี่หวงหรือไม่?"
หญิงสาวผมสีขาวหันไปมองทหารหญิงคนนั้นเพียงชั่วครู่ ก่อนจะหันกลับไปมองฝูงสัตว์อสูรเบื้องหน้าอีกครั้ง ดวงตาของนางฉายแววเ็าและไร้ความรู้สึก "ข้าไม่สนใจ…." นางกล่าวอย่างเฉียบขาด
ทันใดนั้น นางก็ฟันดาบออกไป การโจมตีของนางรวดเร็วและรุนแรงจนแทบจะไม่ทันเห็นเงาของดาบ ฝูงสัตว์อสูรที่มีระดับแกนทองคำขึ้นไปถูกฟันขาดเป็เสี่ยงๆ ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว เืของพวกมันสาดกระจายไปทั่วทุ่งหิมะ
"ไม่ว่าข่าวลือจะจริงหรือไม่ ข้าสนใจเพียงแค่คนที่จะช่วยให้ราชวงศ์เพลิง์เดินไปข้างหน้าได้เท่านั้น" นางกล่าวอย่างหนักแน่น ก่อนจะเก็บดาบกลับเข้าสู่ฝักและเดินจากไปทันที
….
ที่ป่าแห่งหนึ่งที่เป็ที่ตั้งของนิกายปีศาจหยินหยาง นิกายปีศาจหยินหยางเป็หนึ่งในกองกำลังที่มีความแข็งแกร่งอันดับที่สองในราชวงศ์เพลิง์ ทันใดนั้น เสียงะโบางอย่างได้ดังก้องไปทั่วทั้งห้องโถงขนาดใหญ่ ชายคนหนึ่งยืนอยู่กลางห้องโถงนิกาย ศีรษะของเขาสั่นไหวด้วยความโกรธ "ไอ้จักรพรรดิสวะนั่น! มันกล้าดียังไงมาฆ่าลูกสาวของข้า!" ชายคนนั้นคือ หัวหน้านิกายปีศาจหยินหยาง พ่อของจิ้งอี๋ หญิงสาวที่ถูกเงาทมิฬสังหารอย่างทรมาน
หัวหน้านิกายปีศาจหยินหยาง ะโเสียงดังลั่น "รวบรวมคนทั้งหมดของเราเดี๋ยวนี้! เราจะไปฆ่าไอ้จักรพรรดิสุนัขนั่น!"
ผู้าุโหลายคนที่ยืนอยู่ข้างเขารีบเคลื่อนไหวตามคำสั่งทันที พวกเขาไม่ได้กลัวากับราชวงศ์เพลิง์แม้แต่น้อย เนื่องจากว่าราชวงศ์เพลิง์นั่นอ่อนแอลงอย่างมากและด้วยการสนับสนุนจาก ราชวงศ์ขนนกสีขาว ที่เป็ศัตรูคู่แค้นกับราชวงศ์เพลิง์มาอย่างยาวนาน ทำให้พวกเขากล้าลุกขึ้นต่อต้านอย่างเปิดเผย
ราชวงศ์ขนนกสีขาวได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนนิกายปีศาจหยินหยางทั้งด้านกองกำลังและทรัพยากร อีกทั้งบรรพบุรุษของพวกเขายังเดินทางไปยังราชวงศ์ขนนกสีขาวเพื่อรักษาอาการาเ็จากการต่อสู้ในอดีตอีกด้วย หัวหน้านิกายมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถทำลายจักรพรรดิหลี่หวงและยึดครองราชวงศ์เพลิง์ได้ในไม่ช้า
แต่ในขณะที่หัวหน้านิกายกำลังเตรียมตัวอยู่นั้น หัวหน้านิกายได้ชกไปที่เงาของ เสาในโถงนิกายด้วยความรุนแรง จนทำให้โถงนิกายสั่นะเืและพังทลายลงในทันที ควันฟุ้งกระจายไปปกคลุมทั่วพื้นที่
ในหมอกควันที่กำลังปกคลุม หัวหน้านิกายปีศาจหยินหยางอยู่นั้น ดาบสองเล่มก็พุ่งแทงทะลุผ่านเท้าของหัวหน้านิกายปีศาจหยินหยาง เขาร้องด้วยความเ็ป เขากำหมัดและพยายามต่อยลงไปที่พื้นเพื่อหนีจากการโจมตี แต่ก่อนที่หมัดของเขาจะไปชนกับพื้น ดาบอีกหลายเล่มก็พุ่งเข้ามาแทงร่างของเขา ดาบทุกเล่มแทงทะลุจุดสำคัญของร่างกายเขา เส้นเอ็นตามข้อต่อต่างๆ ถูกตัดขาดอย่างแม่นยำและรวดเร็ว และเขากรีดร้องออกมาอย่างเ็ปแล้วเขาก็ไม่สามารถขยับร่างกายได้อีกต่อไปแล้ว
ความเ็ปที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างทำให้หัวหน้านิกายปีศาจหยินหยางแทบสิ้นหวัง เขาพยายามที่จะตั้งสติ แต่เมื่อควันจางลง เขามองเห็นภาพที่ทำให้เขาใจนความหวังของเขาหมดไป ภาพตรงหน้าของเขาคือทะเลเืของศิษย์และผู้าุโทุกคนในนิกายของเขาถูกสังหารจนหมดสิ้น ร่างของพวกเขานอนเรียงรายเต็มไปด้วยเืและเศษชิ้นส่วนร่างกายบางชิ้นยังมีเืไหลออกมาอยู่ด้วยซ้ำ
หัวหน้านิกายมองภาพนั้นด้วยความมึนงง สับสน และสิ้นหวัง ทันใดนั้น เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่างมากดที่หัวเขา มันคือมือของใครบางคนได้จับหัวของเขาไว้แน่น ทันใดนั้น เขากรีดร้องออกมาด้วยความเ็ป เสียงของเขาดังก้องไปทั่วทั้งนิกาย แต่ไม่มีใครเหลืออยู่ฟังเสียงกรีดร้องของเขาสักคน
"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้