“เป็พระชายาของพระองค์เพคะพระองค์รีบคิดหาวิธีช่วยพระนางเถิด”
จากการกระทำของหลงเทียนอวี้ จิ่นเยว่มองออกว่าเขาเป็ห่วงหลินเมิ้งหยามาก
ทว่าหลงเทียนอวี้มักจะเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ในใจั้แ่เด็กภายนอกเ็า ทว่าหัวใจของเขามิได้เย็นะเืตาม
อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยโกรธเกรี้ยวทำร้ายผู้บริสุทธิ์
“หลินเมิ้งหยา? เกิดอะไรขึ้นกับนาง?” หลงเทียนอวี้เลิกคิ้วขึ้นไม่อยากจะเชื่อว่าบนโลกนี้จะมีคนสร้างปัญหาให้นางได้
จิ่นเยว่ถอนหายใจก่อนจะเล่าเื่พระพุทธรูปเ้าแม่กวนอิมให้ฟัง
“ฮองเฮายังคงมีจิตใจน่าขยะแขยงจวบจนทุกวันนี้ท่านน้า หากข้าจำไม่ผิด น้าิเยว่และซีเยว่ก็ต้องจบชีวิตลงเพราะการกลั่นแกล้งในคราวนั้นใช่หรือไม่?”
คำพูดของหลงเทียนอวี้ฉุดเอาความทรงจำอันแสนเ็ปของจิ่นเยว่กลับมาอีกครั้ง
นางพยักหน้าลง ดวงตาสั่นไหว
ิเยว่คือพี่สาวฝาแฝดของนางตอนแรกพวกนางสองพี่น้องถูกพระสนมเต๋อเฟยพาเข้าวัง
คิดไม่ถึงเลยว่าพวกนางจะถูกพรากจากกันตลอดกาล
ดังนั้นจิ่นเยว่จึงไม่คิดอยากให้เ้าของสิ่งนั้นทำร้ายใครได้อีก
“วางใจเถิด ข้าจะคิดหาทางแก้ไขเื่นี้เองขอบคุณท่านน้ามาก”
แม้หลงเทียนอวี้จะไม่รู้เื่ราวในอดีต แต่ทุกครั้งที่น้าจิ่นเยว่เอ่ยถึงเื่นี้หยาดน้ำตามักจะรินไหลออกมาจากใบหน้าของนางโดยไม่รู้ตัว
เขา...ไม่มีทางปล่อยให้เื่นี้เกิดขึ้นซ้ำสอง!
ภายในตำหนัก หลินเมิ้งหยานอนอยู่บนตั่งนุ่มนิ่มของตนเองตลอดสามวัน
ใช้ข้ออ้างที่ว่าพระชายาประชวรไม่อาจออกจากห้องได้แต่ความจริงแล้วนางอยู่ภายในห้องและมองดูเสี่ยวอวี้วาดภาพพระพุทธรูปเ้าแม่กวนอิม
“พี่สาว ข้าวาดเสร็จแล้ว ท่านลองดู”
ตลอดสามวันที่ผ่านมาเสี่ยวอวี้วาดภาพพระพุทธรูปเ้าแม่กวนอิมออกมาสิบกว่าใบ
จากตอนแรกที่เหมือนเพียงสามส่วนตอนนี้กลับกลายเป็สวยงามเกินของจริงไปเสียแล้ว
หลินเมิ้งหยาตกตะลึงในความสามารถทางด้านการวาดภาพของเสี่ยวอวี้
“เ้าหนูพี่สาวคิดไม่ถึงเลยว่าเ้าจะมีพร์ในการวาดภาพเช่นนี้เมื่อก่อนเ้าร่ำเรียนจากปรมาจารย์ท่านใดมาอย่างนั้นหรือ?”
หลินเมิ้งหยาเอ่ยถามลอยๆทว่าหลินจงอวี้กลับตอบกลับด้วยท่าทางเขินอาย
“ไม่มีปรมาจารย์ท่านใดสอนข้าหรอกแต่เป็ขอทานเฒ่าที่เก็บข้ามาเลี้ยงต่างหากแม้เขาจะมีท่าทางเลอะเทอะเหมือนคนสติไม่ดี แต่เขากลับรอบรู้เป็อย่างมาก”
ทันทีที่เอ่ยถึงขอทานเฒ่าเสี่ยวอวี้อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางเคารพเลื่อมใส
นางลูบศีรษะเด็กน้อย ครุ่นคิดตอนที่เด็กคนนี้ยังเด็ก สิ่งที่ขอทานเฒ่าให้กับเขาคงเป็ความอบอุ่นอันแสนเรียบง่าย
เขาเป็เด็กที่ทำให้คนอื่นรู้สึกเอ็นดูหัวใจของหลินเมิ้งหยาพลันรู้สึกอ่อนโยนขึ้นมา
“เ้าเป็ใครกัน! ที่นี่คือห้องของพระชายาเ้ากล้าบุกเข้ามาได้อย่างไร!”
ด้านหน้าตำหนัก อยู่ๆ ก็เกิดเสียงก่นด่าเอะอะโวยวายขึ้น
หลินเมิ้งหยาและเสี่ยวอวี้สบตากัน ก่อนจะออกไปดู
ป๋ายจื่อ ป๋ายจีและป๋ายซ่าวยืนอยู่ไม่ไกลจากสวนด้านหน้าพระตำหนักเหตุเพราะพวกนางคือสาวใช้ระดับหนึ่ง ดังนั้นปกติจึงอยู่ภายในห้องคอยรับใช้เ้านาย
เมื่อครู่เสียงก่นด่าไม่น่าฟังถูกส่งออกมาจากปากของป๋ายซ่าว
ขณะเดียวกันนางยืนเท้าเอวถลึงตาคู่สวยดั่งนกการเวก อีกทั้งยังไม่คิดหลีกทางให้กับผ๋อจื่อตรงหน้า
“เหตุใดแม่นางป๋ายซ่าวจึงพูดจาเยี่ยงนี้ ผอจื่อ1ได้รับคำสั่งมาจากผู้ดูแลให้ตรวจสอบทุกซอกทุกมุมให้ดีอย่าว่าแต่ห้องของท่านเลย แม้จะเป็ห้องบรรทมของพระชายา ข้า...”
“หุบปากของเ้าเดี๋ยวนี้! ผู้ดูแลของเ้าคือใครหน้าไหน!พระชายาคือเ้านายตัวจริงของจวนแห่งนี้! ยัยแก่คนนี้หากเ้ากล้าลบหลู่พระชายา ข้าป๋ายซ่าวจะไม่มีวันให้อภัย!”
ทาสรับใช้ในสวนหน้าพระตำหนักล้อมวงดูไม่มีใครสังเกตเห็นว่าพระชายาและหลินจงอวี้มาถึงแล้ว
ป๋ายซ่าว...สาวใช้ที่มีความภักดีและมิกลัวเกรงต่ออันตราย
หลินเมิ้งหยารู้ ตัวเองไม่มีทางดูคนผิด
“ฮึ ไม่ว่าเ้าจะเป็ป๋ายซ่าวหรือผู้ใดแต่วันนี้ข้าจะต้องเข้าไปตรวจสอบห้องนั้นให้ได้ เข้ามานี่ จับตัวนางออกไป!”
ผอจื่อคนนั้นกลับดื้อดึงเช่นกันนางปักใจแล้วว่าจะเข้าไปในห้องพวกสาวรับใช้ให้ได้
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรป๋ายซ่าวถือเป็คนของจวนแห่งนี้ ไม่มีใครกล้าแตะต้อง
“ข้าอยากรู้จริงเชียวว่าใครหน้าไหนกล้าเข้ามาตรวจสอบห้องของสาวใช้ประจำตัวข้า?”
เสียงเรียบดังขึ้นหลินเมิ้งหยาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน
ราวกับได้เจอญาติมิตรก็มิปาน ผอจื่อร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสารต่อหน้าหลินเมิ้งหยา
“พระชายาของหม่อมฉัน หม่อมฉันมิอาจขัดคำสั่งได้ผู้ดูแล้าให้หนู่ปี้เข้าไปตรวจสอบแต่แม่หญิงป๋ายซ่าวกลับไม่ให้หม่อมฉันเข้าไปท่านจะให้ทาสแก่อย่างหม่อมฉันทำเช่นไรเพคะ”
ดวงตาของหลินเมิ้งหยาสงบนิ่ง ทว่าเพียงนางเหลือบมองผอจื่อผู้นั้นกลับหยุดร้องไห้กะทันหัน
เหตุใดพระชายาจึงดูน่าหวั่นเกรงกว่าท่านอ๋องถึงสามเท่าเช่นนี้เล่า?
“เมื่อครู่ข้าได้ยินว่าแม้แต่ห้องข้าเองก็้าตรวจสอบได้สิ ข้าจะให้เ้าตรวจ แต่ข้ามีเื่จะพูดก่อนหากเ้าทำให้ข้าวของของข้าเสียหายแม้เพียงเข็มเล่มเดียวเ้าจะต้องรับผิดชอบมันด้วยชีวิต”
หลินเมิ้งหยาสงบนิ่ง ทว่าผอจื่อที่ได้ยินดังนั้นกลับใจนตัวโยน
แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของผู้ดูแลขึ้นมาได้นางจึงขุดความกล้าที่มีน้อยนิดออกมา
“พระชายาอนุญาตแล้ว เข้ามาไปตรวจสอบห้องของพระชายากับข้า”
ั์ตาเย็นะเืหลินเมิ้งหยาจับตัวป๋ายซ่าวที่คิดจะเข้าไปห้ามเอาไว้ ก่อนจะส่ายหน้า
“เชิญพระชายาก่อนเลยเพคะ”
ห้องของเ้านาย ไม่อนุญาตให้ทาสรับใช้เข้าไป ผอจื่อคนนั้นจึงคิดจะเข้าไปเพียงคนเดียว
หลินเมิ้งหยาจับมือหลินจงอวี้ นั่งลงบนโต๊ะสายตาเ็าจ้องมองผอจื่อที่กำลังตรวจสอบอย่างละเอียด
“ปัง” เสียงดังขึ้นหลินจงอวี้โยนกล่องไม้ที่เก็บพระพุทธรูปซึ่งอยู่บนโต๊ะลงพื้น
“นายน้อยอวี้ เหตุใดจึงไม่ระมัดระวังกันเล่า!”
ใบหน้าของผอจื่อฉีกยิ้มกว้างขณะก้มตัวลงเก็บกล่องทว่าหลินจงอวี้กลับชำเลืองมองด้วยสายตาเ็าพลางร้องะโ
“เข้ามา โต๊ะตัวนี้เละเทะหมดแล้วข้ายังจะวาดภาพได้อย่างไร เข้ามาช่วยข้าเก็บเดี๋ยวนี้!”
สาวรับใช้ระดับสองรีบโผล่หัวออกมาพวกนางจ้องมองมือของผอจื่อที่กำลังถือกล่องไม้ใบหน้าโล่งอกและยืนต่อหน้านายน้อยอวี้
“ตรวจสอบเสร็จหรือยัง? หากเสร็จแล้วก็ไสหัวออกไปเสีย”
หลินจงอวี้กลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยน้ำเสียงและสีหน้าเ็า
หลินเมิ้งหยาจ้องมองเ้าเด็กน้อยมุมปากหยักยิ้มขึ้น เ้าเด็กคนนี้เป็เด็กที่ฉลาดไม่เบา
“ตรวจเสร็จแล้ว ตรวจเสร็จแล้วห้องของพระชายาไม่มีสิ่งใดผิดปกติ แต่หม่อมฉันต้องเตือนพระชายาก่อนเล็กน้อยหลายวันมานี้เกิดความโกลาหลภายในเมืองหลวงมิเช่นนั้นคงไม่มีหัวขโมยเข้ามาขโมยของในพระตำหนักพระชายาเองก็ต้องระวังตัวไว้นะเ้าคะ”
เปลือกตาของหลินเมิ้งหยามิได้เปิดขึ้นคิดว่านางจะไม่รู้หรือว่าพวกเขา้าจะทำอะไรจึงแสดงละครใหญ่โตถึงเพียงนี้
“อืม ข้ารู้แล้ว”
แม้แต่ผอจื่อยังคิดไม่ถึงเลยว่าพระชายาจะพูดง่ายขนาดนี้
ขณะเดียวกันพลันคิดว่าจวนแห่งนี้จะต้องมีเื่ดีๆเกิดขึ้นในอนาคต
คนกลุ่มนั้นค่อยๆ จากไป
หลินเมิ้งหยาเปิดหน้าต่างออกดูมุมปากหยักยิ้มเ็า
คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนยื่นหมอนมาให้ตอนนอนคนของฮองเฮาเ่าั้ดูจะใจร้อนเกินไป
หลินเมิ้งหยาไม่พูดอะไร สายตาจับจ้องถ้วยชาในมือ
“นายหญิงเหตุใดท่านจึงให้พวกนางเข้ามาค้นห้องเล่าเ้าคะ”
ป๋ายซ่าวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อครู่หากนางไม่ยื้อเวลาเอาไว้ป๋ายจีและป๋ายจื่อคงเก็บของไม่ทันเป็แน่
แต่ถึงกระนั้นกลับทำให้นายหญิงต้องอึดอัด
“พวกนางเป็เพียงลูกไล่เท่านั้น ไม่มีอะไรหรอกแต่เ้านั่นแหละ ข้าดูไม่ออกเลยจริงๆ ว่าเ้าจะเก่งกล้าถึงเพียงนั้น”
ป๋ายซ่าวที่เคยแสดงความกล้าออกมาเมื่อครู่หน้าแดงก่ำก่อนที่จะกำชายเสื้อของตัวเองเล่น
“หนู่ปี้...แม่ของหนู่ปี้เป็เพียงแม่ม่ายคนในชนเผ่าล้วนคิดกลั่นแกล้งหนู่ปี้และน้องชายน้องสาว ดังนั้นหนู่ปี้ก็เลย...”
“ถือเป็เื่ที่ดีเ้าสามารถปกป้องตัวเองและเอาใจใส่ผู้อื่น เื่นี้เป็เื่ที่ดีเ้าอย่าได้รู้สึกต่ำต้อยไปเลย จวนของพวกเรายังขาดคนเก่งกล้าเช่นเ้าอยู่!”
หลินเมิ้งหยาชื่นชมป๋ายซ่าวแม้ป๋ายจื่อจะจงรักภักดี แต่นางไร้เดียงสาจนเกินไป
ส่วนป๋ายจีเป็คนสงบนิ่ง อุปนิสัยอ่อนโยน
แต่ป๋ายซ่าวเป็คนมีเสน่ห์และกล้าหาญมีความเป็ผู้นำ หากสั่งสอนให้ดีจะมีประโยชน์เป็อย่างมาก
“จริงสิเพคะพระชายาคนพวกนั้นบอกว่าที่มาตรวจสอบก็เพราะมีหัวขโมยเข้ามาขโมยของพวกเราเองก็ต้องทำการป้องกันนะเพคะ!”
หลินเมิ้งหยาส่ายหน้า แม้จะมีหัวขโมยเข้ามาแต่ก็ไม่มีทางย่ำกรายมาถึงตำหนักของนางได้
นับั้แ่วันที่นางถูกชิงหูจับตัวไป
พ่อบ้านเติ้งแทบเป็บ้าเขาสั่งให้องครักษ์จำนวนมากซุ่มดูอยู่ที่ตำหนักของนาง
แม้นางจะไม่พบร่องรอยใดๆ แต่นางกลับััได้
“เ้าจงไปแจ้งข่าวกับพ่อบ้านเติ้งบอกพ่อบ้านเติ้งให้สืบด้วยว่าคนที่ผ๋อจื่อเรียกว่าผู้ดูแลคือใคร จำเอาไว้ต้องทำเื่นี้ให้เงียบเฉียบที่สุด อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น”
ป๋ายซ่าวกลับออกไป หลินเมิ้งหยานั่งภายในห้องก่อนจะเริ่มคลายปมทั้งหมด
สายลับที่แอบซ่อนตัวอยู่ในจวนอวี้โดยมิทำให้ผู้อื่นสงสัยจะยอมเปิดเผยตัวตนได้อย่างไร
ทั้งหมดจะต้องมีเหตุมีผล
ตกลง้าจะซ่อนอะไรเอาไว้กันแน่?
ยังไม่ทันที่เื่ของพระพุทธรูปเ้าแม่กวนอิมจะจบยังจะมีเื่เพิ่มขึ้นมาอีก แม้แต่นางยังรู้สึกมึนงง
ไม่ได้การ นางจะต้องทำใจให้เย็น มิเช่นนั้นคนของนางจะต้องพบเจอกับอันตราย!
“เ้าเด็กน้อย กำลังคิดอะไรอย่างนั้นหรือ?”
เสียงเ้าเล่ห์พลันดังขึ้นหลินเมิ้งหยารีบเปิดตาออก ภายในห้องนอกจากนางยังมีหลินจงอวี้ที่กำลังแสดงสีหน้าสงสัย
“ชิงหู? มิใช่ว่าอีกสามเดือนเ้าจึงจะมาคุ้มกันข้าหรือ?ออกมาเถิด อย่าหลบซ่อนเลย”
หลินเมิ้งหยาส่งเสียงเรียบกลางอากาศ
อยู่ๆ ร่างขาวนวลก็ปรากฏขึ้นต่อหน้านาง
ทั้งที่ไม่ได้เจอกันเพียงไม่กี่วันเท่านั้นแต่รู้สึกราวกับว่าเขาสูงขึ้นเล็กน้อย
“เ้า...”
“เหยียหล่อขึ้นอีกแล้วใช่หรือไม่?”
หลินเมิ้งหยาอดไม่ได้ที่จะถลึงตาทำไมเ้าเด็กนี่จึงหลงตัวเองเช่นนี้กันนะ?
“เ้าเป็นักฆ่า หาใช่โจรขโมยดอกไม้หล่อไปแล้วจะได้อะไร?”
เมื่อเทียบกับหลินเมิ้งหยาที่มีท่าทีสงบนิ่งหลินจงอวี้กลับรู้สึกเหมือนเจอศัตรูตัวฉกาจเขาตั้งแนวป้องกันเด็กหนุ่มท่าทางประหลาดตรงหน้า มือกำกริชที่ถือเอาไว้แน่นใบหน้าเรียวเล็กเริ่มแข็งเกร็ง
“ดูเ้าเถิด หาได้คิดเชยชมความงดงามของเหยียไม่เอ๋? นี่คือพี่ชายที่ไหนกันเหตุใดจึงหล่อเหลาเช่นนี้ แม้แต่เหยียยังอดที่จะยอมแพ้มิได้”
หลินเมิ้งหยาเข้าไปลูบศีรษะหลินจงอวี้ก่อนจะเอ่ยวาจาโอ้อวด
“นี่คือน้องชายของข้า เป็อย่างไรเล่าสุนัขจิ้งจอกอย่างเ้าเทียบไม่ติดเลยใช่หรือไม่!”
***********************
1 ผอจื่อ สรรพนามแทนตัวสาวใช้