"บางทีอาจจะเป็พวกมัน" หลี่ชิงหยุนตกอยู่ในห้วงความคิด
ทั้งสองเดินตามหยวนหลินมาจนถึงแผนกรักษา นางเปิดห้องส่วนตัวให้ทั้งสองเข้าไปทันที
ในห้องนี้เป็ห้องรักษาธรรมดา บนโต๊ะหยกมีเข็มทางการแพทย์และหม้อปรุงยาระดับสูงวางอยู่เพื่ออำนวยความสะดวก
"เ้าจะบอกข้าได้หรือยังว่าฉีสีดำนี้คืออะไร?" กู่หลิงเจี้ยนอยากรู้ที่มาของมัน
หลี่ชิงหยุนพยักหน้า "ผู้าุโกู่ สิ่งนี้คือฉีแห่งความตายที่บริสุทธิ์อย่างมาก"
อาการของกู่หลิงเจี้ยนนั้นคลับคล้ายกับเสิ่นอี้หลานอย่างยิ่ง เพียงแต่อาการของกู่หลิงเจี้ยนแลดูจะหนักกว่า นั่นหมายความว่าก่อนหน้านี้เขาต้องเข้าไปในสถานที่บางแห่งที่มีซากศพเป็จำนวนมาก ซากศพที่เน่าเสียจะเริ่มผสานกับฉีแห่งธรรมชาติ จนกลายมาเป็ฉีแห่งความตาย เพียงแต่จะต้องใช้เวลามากกว่าหลายพันหรือหลายหมื่นปีกว่าซากศพจะเริ่มสร้างฉีแห่งความตายได้ด้วยตนเอง
ฉีแห่งความตายสามารถหาได้จากสนามรบโบราณ และยังมีคนบางกลุ่มที่ใช้ฉีแห่งความตายในการฝึกฝน พวกเขาสามารถดูดซับฉีแห่งความตายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง
ทว่าในอาณาจักรเซวียนผู้ฝึกฝนที่ใช้ฉีแห่งความตายนั้นถือเป็ข้อห้ามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!
แม้กระทั่งในอาณาจักรนภา มีกลุ่มที่หลบซ่อนในมุมมืดซึ่งใช้ฉีแห่งความตายในการฝึกฝนเช่นกัน
"ฉีแห่งความตาย?" กู่หลิงเจี้ยนพึมพำ ใบหน้าของเขาดูหวาดกลัว เขาเคยได้ยินมาว่าฉีแห่งความตายเป็ข้อห้ามของอาณาจักร หากใครโดนสิ่งนี้เข้าสู่ร่างกายมากเกินไปคนผู้นั้นแทบจะไม่ต่างจากซากศพเดินได้อย่างแน่นอน
"ผู้าุโกู่ ไม่จำเป็ต้องกังวล ข้าสามารถขับไล่ฉีแห่งความตายให้ท่านได้" หลี่ชิงหยุนต้องใช้การขับไล่ฉีแห่งความตายโดยตรงให้แก่กู่หลิงเจี้ยน และมิอาจใช้วิธีการดูดซับเช่นเดียวกับเสิ่นอี้หลานได้
แม้ว่าจะเป็ฉีแห่งความตายเหมือนกัน แต่อาการที่แสดงออกมาของคนทั้งสองนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง
หลี่ชิงหยุนอธิบายความน่ากลัวของฉีแห่งความตายให้กู่หลิงเจี้ยนฟังั้แ่อาการข้างต้นไปจนถึงผลกระทบที่รุนแรงที่สุด
กู่หลิงเจี้ยนมีใบหน้าที่มืดมิดทันที 'หากข้าทำตามคำแนะนำจากแพทย์ของราชวงศ์หยุน เกรงว่าในตอนนี้ข้าคงกลายเป็ศพเดินได้ไปเสียแล้ว'
แม้ว่าเขาจะไม่พอใจ แต่เขาไม่สามารถทำอะไรกับมันได้เลย
"ผู้าุโกู่ เรามาเริ่มกันเลย" หลี่ชิงหยุนหยิบเข็มออกมา กู่หลิงเจี้ยนกำลังนั่งหันหลังให้กับหลี่ชิงหยุนเพื่อเตรียมพร้อมในการรักษา
"ผู้าุโ ท่านปลดการป้องกันออก ข้าจะใส่ฉีพิเศษของข้าเข้าไป" หลี่ชิงหยุนแนะนำการรักษาให้กับกู่หลิงเจี้ยนทีละขั้นตอน
กู่หลิงเจี้ยนแค่ฟังคำแนะนำและทำตามโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
หลี่ชิงหยุนใช้ฉีต้นกำเนิดในการขับไล่ฉีแห่งความตาย คราวนี้เขาต้องใช้พลังิญญามากกว่าปกติ เพราะฉีแห่งความตายในร่างกายของกู่หลิงเจี้ยนเริ่มฝังลึกอยู่ในเส้นลมปราณ เขาจำเป็ต้องล้างเส้นลมปราณของกู่หลิงเจี้ยนใหม่อีกครั้ง
หลี่ชิงหยุนเริ่มฝังเข็มในร่างกายของกู่หลิงเจี้ยนอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับไล่ฉีแห่งความตายให้ออกมาทางิั
ขณะนี้ฉีแห่งความตายส่วนใหญ่ได้ถูกขับออกผ่านรูขุมขนของกู่หลิงเจี้ยนอย่างช้าๆ ในกระบวนการการขับไล่ฉีแห่งความตายนั้น กู่หลิงเจี้ยนรู้สึกทรมานอย่างมาก ความเ็ปจากฉีแห่งความตายที่ฝังลึกเริ่มมีผลกระทบต่อเส้นลมปราณของเขา จนเส้นลมปราณของเขาเกือบจะเสียหาย
แต่เขาทำได้เพียงแค่กัดฟันอดทนจนกว่าฉีแห่งความตายส่วนใหญ่จะถูกขับออก
ผ่านไป 30 นาที ฉีแห่งความตายส่วนใหญ่ถูกขับออกไปเกือบทั้งหมด
ร่างกายของกู่หลิงเจี้ยนมีเมือกสีดำทั่วทั้งร่างกายของเขา นี่คือสิ่งแปลกปลอมที่แฝงอยู่กับฉีแห่งความตายอย่างแม่นยำ
สิ่งแปลกปลอมมีกลิ่นเหม็นและน่าสะอิดสะเอียนเกินไป กู่หลิงเจี้ยนทนไม่ไหวจนต้องไปทำความสะอาดร่างกายในทันที
ระหว่างรอหลี่ชิงหยุนกำลังนั่งสมาธิ เพื่อฟื้นฟูพลังิญญาที่เสียไป
เมื่อเห็นว่ากู่หลิงเจี้ยนกลับมา หลี่ชิงหยุนจึงดำเนินการรักษาขั้นต่อไปทันที
คราวนี้ถึงกระบวนการการล้างเส้นลมปราณ หลี่ชิงหยุนต้องกำจัดฉีที่แปลกปลอมทั้งหมดออกจากร่างกายของกู่หลิงเจี้ยนเพื่อทำให้เส้นลมปราณบริสุทธิ์
"ผู้าุโกู่ นี่คือขั้นตอนสุดท้าย ข้าจะเริ่มล้างเส้นลมปราณของท่านใหม่ ร่างกายของท่านที่ผ่านการล้างเส้นลมปราณของท่านในครั้งนี้ จะสามารถปฏิเสธฉีแห่งความตายได้โดยอัตโนมัติ" หลี่ชิงหยุนกำลังใช้ความสามารถอย่างเต็มที่เพื่อช่วยกู่หลิงเจี้ยน
กู่หลิงเจี้ยนแค่พยักหน้า ตอนนี้เขาเชื่อใจหลี่ชิงหยุนโดยสมบูรณ์
ด้วยความสามารถของฉีต้นกำเนิดที่บริสุทธิ์ มันมีความสามารถในการป้องกันฉีแปลกปลอมซึมเข้าสู่เส้นลมปราณได้ อีกทั้งมันยังทำให้การดูดซับฉี์และโลกเป็ไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
นั่นหมายความว่าหากกู่หลิงเจี้ยนโดนฉีแห่งความตายเข้าสู่ร่างกายอีกครั้ง ฉีต้นกำเนิดในเส้นลมปราณของกู่หลิงเจี้ยนจะปฏิเสธฉีแห่งความตายโดยอัตโนมัติ
หลี่ชิงหยุนส่งฉีต้นกำเนิดจำนวนมากเข้าสู่เส้นลมปราณทั่วร่างของกู่หลิงเจี้ยนโดยตรง
ฉีสีทองไหลเวียนจากตันเถียนเข้าสู่เส้นลมปราณไปทั่วร่างกาย
กู่หลิงเจี้ยนรู้สึกได้ถึงความบริสุทธิ์ของฉีที่กำลังไหลผ่านเส้นลมปราณของเขา ความรู้สึกนี้ทำให้เขาอ้าปากค้าง 'ฉีที่บริสุทธิ์นี้คืออะไร? แม้แต่ฉี์และโลกก็ยังไม่บริสุทธิ์เท่านี้'
ร่างกายของกู่หลิงเจี้ยนเปล่งแสงสีทองจางๆออกมา เขารู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าเขาได้เกิดใหม่จริงๆ
เพียงเวลาไม่นานเส้นลมปราณที่เสียหายจากฉีแห่งความตาย เริ่มฟื้นตัวช้าๆ
หลี่ชิงหยุนส่งฉีต้นกำเนิดจำนวนมากเข้าสู่ร่างกายของกู่หลิงเจี้ยนโดยสมบูรณ์ จากนี้เขาเพียงแค่ต้องรอกู่หลิงเจี้ยนปรับแต่งฉีต้นกำเนิดให้เข้ากับเส้นลมปราณของเขา
เขาหยิบยาฟื้นฟูพลังงานออกมากินและเข้าสมาธิทันที
เวลาผ่านไป 15 นาที กู่หลิงเจี้ยนมีความรู้สึกว่าเขากำลังจะกลับเข้าสู่ระดับลมปราณฟ้าขั้นสูงอีกครั้ง
ออร่าฉีรอบๆตัวของกู่หลิงเจี้ยนเริ่มหนาแน่นขึ้น ความเร็วในการดูดซับฉีของ์และโลกก็เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว!
"วู้ม!"
ออร่าลมปราณโลกขั้นสูงะเิออกมาจากตันเถียนของกู่หลิงเจี้ยนโดยตรง
เขาลุกขึ้นยืนทันทีและหัวเราะอย่างพึงพอใจ "ฮ่าๆๆๆ! ข้ากู่หลิงเจี้ยนกลับมาแล้ว!"
หลี่ชิงหยุนรับรู้ถึงออร่าของกู่หลิงเจี้ยน เขาลืมตาขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้นยืน "ยินดีด้วยผู้าุโกู่"
กู่หลิงเจี้ยนพึงพอใจชายหนุ่มผู้นี้จริงๆ เขาแตะไหล่หลี่ชิงหยุนเบาๆพลางถาม "เ้าหนู เ้าชื่อหลี่ชิงหยุนใช่หรือไม่?"
"ถูกต้อง" หลี่ชิงหยุนไม่เข้าใจว่ากู่หลิงเจี้ยนถามด้วยเหตุใด
"เอาล่ะ ข้าจะจดจำความโปรดปราณนี้ไว้...จากนี้เ้าจะเป็น้องชายของข้า! แค่เรียกข้าว่าพี่กู่" กู่หลิงเจี้ยนยิ้มอย่างจริงใจ
ร่างกายของเขาในตอนนี้ แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง หลังจากเขาปรับแต่งฉีต้นกำเนิดในเส้นลมปราณ เขารับรู้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ด้วยการดูดซับฉี์และโลกในร่างกายของเขาก็เพิ่มมากขึ้น ในอนาคตเขาจะสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่จริงใจของกู่หลิงเจี้ยน หลี่ชิงหยุนรู้สึกยินดีเป็อย่างมาก
ในชีวิตที่แล้วเขาเป็หมาป่าเดียวดายมาโดยตลอด เขารู้สึกว่ากู่หลิงเจี้ยนผู้นี้เป็คนที่เชื่อถือได้ เขา้ามีเพื่อนประเภทนี้โดยธรรมชาติ
"เข้าใจแล้วพี่กู่" หลี่ชิงหยุนเริ่มสนิทสนมกับกู่หลิงเจี้ยนมากขึ้น ทั้งสองเดินออกจากห้องรักษาและสนทนาระหว่างทาง พวกเขาตรงไปยังแผนกธุรกิจก่อนหน้านี้
หยวนชางและหยางฉีกำลังนั่งดื่มชาและพูดคุยกันระหว่างรอหลี่ชิงหยุน
เสียงรองเท้าสองเสียงดังขึ้นจากนอกห้องแผนกธุรกิจ หลี่ชิงหยุนและกู่หลิงเจี้ยนเดินมาพร้อมๆกัน ราวกับว่าทั้งคู่เป็เพื่อนที่ดีกันมานานแสนนาน
"ฮ่าๆๆๆ น้องชายหลี่ขอบคุณสำหรับความโปรดปราณครั้งนี้ หากเ้ามีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้ เ้าสามารถติดต่อข้าได้โดยตรง" กู่หลิงเจี้ยนยื่นหยกสื่อสารให้กับหลี่ชิงหยุน
"เข้าใจแล้วพี่กู่" หลี่ชิงหยุนรับไว้ด้วยความยินดี จากนั้นเขาจึงถาม "พี่กู่ จากนี้ท่านจะไปไหนต่อ?"
กู่หลิงเจี้ยนที่ได้ยินเช่นนั้นเขาก็ตอบกลับ "ข้าจะกลับไปที่ตระกูลของข้าในราชวงศ์จี หากเ้ามีเวลาว่างเ้าสามารถมาหาข้าได้ที่ตระกูลกู่"
"ตระกูลกู่..." หลี่ชิงหยุนพึมพำ เขาเคยจำได้ว่ามีตระกูลดั้งเดิมสี่ตระกูลตั้งอยู่ในราชวงศ์จี
สี่ตระกูลดั้งเดิมประกอบด้วย ตระกูลเฉียน,ตระกูลตงฟาง,ตระกูลกู่และตระกูลเยว่
ตระกูลดั้งเดิมคล้ายกับตระกูลขุนนางในราชวงศ์โม่ เพียงแต่สี่ตระกูลดั้งเดิมไม่ได้เป็ข้าราชบริพารของกษัตริย์จีเหมือนกับราชวงศ์โม่
ในราชวงศ์โม่ทุกอย่างอยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์ แต่ในราชวงศ์จี กษัตริย์จะทำหน้าที่แค่ปกครองราชวงศ์เท่านั้น ที่นั่นกษัตริย์ไม่ได้มีส่วนร่วมในทางธุรกิจในประเทศมากนัก
อีกทั้งการออกกฏหมายของราชวงศ์จี ต้องผ่านการเห็นชอบจากสี่ตระกูลดั้งเดิมเป็อันดับแรก
ราชวงศ์จีทุกตระกูลมีกองกำลังทหารเป็ของตัวเอง อำนาจระหว่างสี่ตระกูลจึงมั่นคงและแทบจะไม่มีการแข่งขันกันภายใน
มีข่าวลือว่าสี่ตระกูลดั้งเดิมนั้นมีมาก่อนที่ราชวงศ์จีจะถือกำเนิดเสียอีก...
"ตระกูลกู่? พี่กู่ ท่านมาจากสี่ตระกูลดั้งเดิมในราชวงศ์จีใช่หรือไม่?" หลี่ชิงหยุนถาม
กู่หลิงเจี้ยนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "ถูกต้อง น้องชายหลี่ เ้าไม่เคยออกจากราชวงศ์นี้มาก่อน แต่จริงๆแล้วเ้ามีความรู้ค่อนข้างมาก"
หลี่ชิงหยุนแค่ยิ้มอย่างเจื่อนๆ
"น้องชาย รับสิ่งนี้ไป" กู่หลิงเจี้ยนโยนแหวนเก็บของให้กับหลี่ชิงหยุน
"พี่กู่นี่คือ?" หลี่ชิงหยุนสงสัย
"ด้านในแหวนมีทรัพยากรบ่มเพาะปราณสำหรับเ้า ข้าเองได้เข้าสู่ระดับลมปราณฟ้าแล้ว สิ่งของในแหวนนี้ไม่จำเป็สำหรับข้าอีกต่อไป ถือเสียว่าสิ่งของเหล่านี้เป็การขอบคุณ" กู่หลิงเจี้ยนจากไปทันที โดยไม่รอหลี่ชิงหยุนพูดอะไรต่อ
"พี่กู่ ขอให้เดินทางปลอดภัย" หลี่ชิงหยุนะโบอกลากู่หลิงเจี้ยนในระยะไกล
เขามีความรู้สึกแปลกๆก่อนที่มุมปากจะเผยรอยยิ้มบริสุทธิ์ "นี่...ข้ามีสหายแล้วงั้นรึ?"
หลังจากกู่หลิงเจี้ยนจากไป หยวนชางและหยางฉีก็เดินเข้ามาหาหลี่ชิงหยุน
"นายน้อยหลี่ ท่านรักษาเขาได้จริงๆหรือ?" หยวนชางเห็นท่าทางที่จริงใจของกู่หลิงเจี้ยนต่อหลี่ชิงหยุนแล้ว ดูเหมือนว่าทั้งสองจะกลายเป็สหายที่ดีต่อกัน
"ถูกต้อง ตอนนี้อาการของพี่กู่หายเป็ปกติแล้ว" หลี่ชิงหยุนพยักหน้า ก่อนที่เขาจะหันไปหาหยางฉีพลางกล่าว "ผู้าุโหยาง ท่านได้โสมเก้าตะวันมาหรือยัง?"
หยางฉีส่งโสมเก้าตะวันให้หลี่ชิงหยุนโดยตรง "จากนี้ข้าต้องรบกวนเ้าแล้ว"
"เอาล่ะ ข้าจะไปกลั่นยาเดี๋ยวนี้" หลี่ชิงหยุนไปที่ห้องปรุงยาพร้อมกับหยวนชางและหยางฉี
เนื่องจากข้อตกลงของหยวนชาง หลี่ชิงหยุนจำเป็ต้องกลั่นยาให้กับสมาคมการแพทย์ตามใบสั่งยาที่ได้รับมา
"นี่คือใบสั่งยาของลูกค้า ส่วนวัตถุดิบมีทั้งหมดสามชุดอยู่ในแหวนเก็บของ" หยวนชางยื่นใบสั่งยาให้หลี่ชิงหยุน
เหตุผลที่ต้องมีวัตถุดิบสามชุด ก็เพื่อป้องกันการกลั่นยาที่ล้มเหลว หรือเตาหลอมะเิ
หากเป็เม็ดยาที่กลั่นได้ยาก วัตถุดิบสำรองอาจจะเพิ่มมากขึ้นถึงสิบชุด
ด้วยทักษะของหลี่ชิงหยุน เขาสามารถกลั่นยาให้สำเร็จได้เพียงแค่ใช้วัตถุดิบหนึ่งชุด ส่วนอีกสองชุดที่เหลือ ก็แค่เก็บเข้ากระเป๋าของเขา
หลี่ชิงหยุนยิ้มอย่างเ้าเล่ห์ 'ั้แ่นี้เป็ต้นไป ข้าก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสมุนไพรที่ต้องใช้อีกต่อไป...นี่มันกำไรชัดๆ'
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เ้าเล่ห์ของหลี่ชิงหยุน หยวนชางและหยางฉีรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก