“ข้าซ่อนไว้ไม่ให้เขาเห็นมาโดยตลอดเ้าค่ะ”อวี๋กานเฉ่านั่งลงบนขอบเตียง เอ่ยเสียงเบาสั่นเครือเคล้าน้ำตาว่า“ฮั่นชิวคอยปกป้องข้ายามเผชิญหน้ากับแม่สามีทุกครั้ง แต่พอลับหลังเขาแม่สามีกลับทวีความรุนแรงยิ่งกว่าเดิมเ้าค่ะ”
สตรีแซ่จางฟังแล้วรู้สึกราวกับมีมีดปักลงกลางดวงใจโอบกอดอวี๋กานเฉ่าพลางเอ่ยทั้งน้ำตา “ยายแก่ชั่วร้ายในสกุลหลี่ผู้นั้นสมควรตายบุตรสาวที่ดีถึงเพียงนี้ของข้าแต่งเข้าครอบครัวพวกเขานึกไม่ถึงว่าจะถูกนางทรมานจนเป็เช่นนี้!”
สองแม่ลูกโอบกอดกันร้องไห้ครู่หนึ่งสตรีแซ่จางเอ่ยด้วยความแค้นเคือง “ไม่ได้วันพรุ่งนี้ให้ท่านพ่อของเ้าพาพี่ใหญ่ของเ้าไปที่จวนสกุลหลี่สักครั้งไม่อาจปล่อยให้ยายแก่ชั่วร้ายผู้นั้นคิดว่าทางฝั่งบ้านมารดาไม่มีผู้ใดออกหน้าแทนเ้าภายหน้าจะบีบบังคับเ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น ข้าจะไปคุยกับพ่อของเ้าเดี๋ยวนี้!”
“ท่านแม่ ท่านอย่าบอกท่านพ่อ ไม่อาจโวยวายที่สกุลหลี่เ้าค่ะ”อวี๋กานเฉ่าขวางสตรีแซ่จางเอาไว้
“เ้าอย่ามาขวางข้า สกุลหลี่รังแกผู้อื่นเกินไปแล้ว หากไม่แสดงสีหน้าให้ยายแก่ชั่วร้ายผู้นั้นดูสักหน่อยนางมีแต่จะยิ่งไม่สนใจเ้า เ้าไม่ได้ทำผิดหลักขับภรรยาทั้งเจ็ดข้อ ยายแก่ชั่วผู้ร้ายนั่นมาทรมานเ้าถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?” สตรีแซ่จางอยากจะบุกไปสกุลหลี่เพื่อคิดบัญชีกับมารดาของหลี่ฮั่นชิวเสียตอนนี้
อวี๋กานเฉ่าสะอื้นไห้ยิ่งกว่าเดิม “ท่านแม่ โวยวายไม่ได้เ้าค่ะสองวันมานี้แม่สามีคอยยุยงให้ฮั่นชิวหย่ากับข้าอยู่ตลอด...โชคดีที่ฮั่นชิวรักข้ากับพี่อวี้จึงไม่เชื่อวาจายุยงของแม่สามีเ้าค่ะ”กล่าวจบ อวี๋กานเฉ่าสะอื้นไห้จนไม่อาจเปล่งเสียงเสียแล้ว
“อะไรนะ? นางกล้า!สกุลหลี่ของนางมีสิทธิ์อะไรมาหย่าภรรยา? หลังจากเ้าแต่งเข้าจวนก็เคารพผู้าุโ ปรนนิบัติพ่อแม่ ดูแลสามีไม่มีเื่ใดให้ถูกประณาม นางกลับกล้ายุยงให้ฮั่นชิวหย่ากับเ้าวันพรุ่งนี้ข้าจะให้พ่อของเ้าไปหาผู้าุโสกุลหลี่ของพวกเขาดูสิว่าสกุลหลี่ยังจะมีคนที่รู้เหตุรู้ผลอยู่หรือไม่!”สตรีแซ่จางโมโหจนตัดสินใจเฉียบขาด วาจาเหล่านี้ล้วนแต่เป็การตะคอกออกมา
อวี๋กานเฉ่ากลั้นเสียงสะอื้นไห้ ปาดน้ำตาเอ่ย “ท่านแม่ข้า...เกรงว่าร่างกายของข้าคงไม่อาจตั้งครรภ์แล้วเ้าค่ะเมื่อสามปีก่อนข้าเคยตั้งครรภ์อยู่ครั้งหนึ่งตอนกำลังทำงานลื่นล้มจนตกเืเ้าค่ะ ตลอดหลายปีมานี้ไม่เคยตั้งครรภ์อีกเลยแม่สามีกลั่นแกล้งสารพัดและยุยงให้ฮั่นชิวหย่าภรรยาก็เพราะเื่นี้เ้าค่ะ”
“เมื่อสามปีก่อนเ้าเคยตั้งครรภ์เหตุใดถึงไม่เคยได้ยินเ้าพูดถึงมาก่อน?” สตรีแซ่จางนึกไม่ถึงว่าแท้จริงแล้วสาเหตุของเื่นี้จะอยู่ที่บุตรสาวของตน
อวี๋กานเฉ่าเอ่ยด้วยสีหน้าเศร้าระทม“ตอนแรกพี่อวี้พึ่งจะอายุครบหนึ่งขวบ ข้าก็ไม่รู้ว่าตนตั้งครรภ์แล้วหลังจากหกล้มจนตกเืถึงได้รู้ว่าตนตั้งครรภ์ นี่ไม่ใช่เื่น่ายินดีอะไรข้าจึงไม่ได้บอกท่าน ในจวนไม่มีคุณชาย แม่สามีคอยเร่งเร้าอยู่ตลอดตลอดสองปีมานี้ข้าก็อยากมีลูก แต่กลับไม่ตั้งครรภ์อีกเลยเ้าค่ะ”
สตรีแซ่จางเผยสีหน้าเป็กังวล “เ้าไปหาหมอแล้วใช่หรือไม่?”
อวี๋กานเฉ่าส่ายหน้า “ยังเ้าค่ะ ข้าไม่กล้าไปหาท่านหมอเหตุที่กลับมาครั้งนี้ก็อยากให้ท่านปู่ตรวจดูสักหน่อยเ้าค่ะ...”นางมองสตรีแซ่จางด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ เอ่ยอย่างอกสั่นขวัญหายว่า “ท่านแม่หากข้าไม่อาจมีลูกอีกแล้ว ถ้าฮั่นชิวจะปลดภรรยา ข้าจะทำอย่างไรดีเ้าคะ? พี่อวี้พึ่งจะสี่ขวบ ข้าจะหักใจจากนางได้อย่างไร!”
“เหลวไหล! เ้าคลอดพี่อวี้แล้ว นอกจากนั้นยังตั้งครรภ์อีกครั้ง ถึงจะเสียไปแต่จะไม่อาจมีลูกอีกได้อย่างไร?” สตรีแซ่จางไม่มีเวลามาบริภาษสกุลหลี่ยามนี้ในจวนมีท่านหมอผู้หนึ่งที่เก่งกาจเสียยิ่งกว่าท่านผู้เฒ่านางจับจูงมืออวี๋กานเฉ่าแล้วเอ่ยว่า “ไป พวกเราไปหาภรรยาเ้าห้ากัน”
อวี๋กานเฉ่ารีบใช้ชายแขนเสื้อซับน้ำตาบนใบหน้า “ท่านแม่ท่านจะพาข้าไปหาน้องสะใภ้ห้าทำไมกัน?”
“นางรู้วิชาหมอ” สตรีแซ่จางพาอวี๋กานเฉ่าออกมาจากห้อง
ภายในลานเรือน อวี๋เฉียวซานกำลังลากลูกกลิ้งหินสีขาวทางด้านสตรีซ่งนำฟางข้าวที่ถูกบดเอาเมล็ดออกไปวางกองไว้อีกด้าน
ครั้นเห็นสตรีแซ่จางรีบเดินออกมาอย่างขุ่นเคืองอวี๋เฉียวซานยังนึกว่านางออกมาเรียกตนกลับเรือนแต่นึกไม่ถึงว่าสตรีแซ่จางจะไม่สนใจกลับเอ่ยไปทางสตรีแซ่ซ่งที่กำลังง่วนกับการทำงานว่า “น้องสะใภ้รองแม่หนูเมิ่งอยู่ในห้องใช่หรือไม่?”
“อยู่เ้าค่ะ พี่สะใภ้ใหญ่มาหาแม่หนูเมิ่งด้วยเื่ใดหรือเ้าคะ?” สตรีแซ่ซ่งยังนึกว่าสตรีแซ่จางมาเพื่อขอให้อวี๋เจียวออกเงินส่งอวี๋จือโจวไปเรียนในสำนักศึกษาระดับอำเภอ
สตรีแซ่จางพาอวี๋กานเฉ่าเดินมาถึงหน้าประตูเรือนฝั่งตะวันออกปากเอ่ยออกไปว่า “กานเฉ่ารู้สึกไม่ค่อยสบายนัก ข้าจะให้แม่หนูเมิ่งช่วยตรวจดูนางสักหน่อย”
ขณะเอ่ยได้เลิกม่านเดินเข้าไปในเรือนฝั่งตะวันออกหลังจากทักทายอวี๋เมิ่งซานไม่กี่ประโยค สตรีแซ่จางจึงเคาะประตูห้องด้านข้าง“แม่หนูเมิ่ง เ้าหลับแล้วหรือ?”
เมิ่งอวี๋เจียวกับอวี๋ฝูหลิงต่างปีนขึ้นมาบนเตียงแล้วผู้หนึ่งนั่งอ่านตำราอยู่บนเตียง อีกผู้หนึ่งนั่งเย็บชุดมงคล
ครั้นได้ยินเสียงเคาะประตู อวี๋ฝูหลิงขานรับหนึ่งเสียงนางสวมเสื้อคลุมตัวนอก ตามด้วยลงจากเตียงเพื่อไปเปิดประตูให้สตรีแซ่จาง
สตรีแซ่จางเดินเข้ามาในห้อง กักเก็บอารมณ์ขุ่นเคืองเอ่ยพลางแย้มยิ้มว่า “แม่หนูเมิ่ง พี่หญิงกานเฉ่าของเ้ารู้สึกไม่ค่อยสบายนักข้าอยากให้เ้าช่วยตรวจดูสักหน่อย”
อวี๋เจียววางตำราในมือไว้บนหัวเตียง สวมเสื้อคลุมแล้วลงจากเตียง“พี่กานเฉ่า ท่านไม่สบายส่วนใดหรือเ้าคะ?”
สตรีแซ่จางชำเลืองมองอวี๋ฝูหลิงอย่างค่อนข้างเป็กังวลแต่ไม่อาจปิดบังเื่ที่มาหาอวี๋เจียวเพื่อตรวจโรคจึงเอ่ยเสียงเบาว่า“เมื่อสามปีก่อนพี่กานเฉ่าของเ้าแท้งบุตรแล้วไม่เคยตั้งครรภ์อีกเ้าลองตรวจดูสิว่าร่างกายของนางมีอะไรผิดปกติหรือไม่”
อวี๋เจียวบอกใบ้ให้อวี๋กานเฉ่านั่งลง จากนั้นยกมือขึ้นจับชีพจร
อวี๋กานเฉ่าลอบพึมพำภายในใจเหตุใดนางถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าภรรยาน้องห้าตรวจโรคได้ผู้ที่ถูกซื้อตัวมาเสริมมงคลจะต้องเป็คนในครอบครัวที่ขัดสนยากจนอย่างยิ่งสกุลที่รู้วิชาหมอมีหรือจะขายลูกสาวลูกชาย? เพียงแต่นางไม่เอ่ยออกมาเท่านั้น
“เปลี่ยนมืออีกข้างเ้าค่ะ” อวี๋เจียวเอ่ย
อวี๋กานเฉ่ารีบยื่นมืออีกข้างออกไปสตรีแซ่จางเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้นว่า “ร่างกายของกานเฉ่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่?”
อวี๋เจียวไม่เอ่ยสิ่งใด ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงชักมือกลับแล้วเอ่ยว่า“ไม่ใช่โรคภัยร้ายแรงอะไรก่อนหน้านี้พี่กานเฉ่าแท้งบุตรจนร่างกายได้รับความเสียหายพลังหยางของไตพร่องเล็กน้อย กินยาบำรุงไม่กี่ชุดก็จะไม่เป็อะไรแล้วเ้าค่ะ”
อวี๋กานเฉ่าถอนหายใจหลังได้ฟัง ใบหน้าแต่งแต้มรอยยิ้ม“ข้ายังตั้งครรภ์ได้อีกจริงหรือ? ต้องบำรุงนานเพียงใด?”
อวี๋เจียวเอ่ยพลางยกยิ้มบาง “ย่อมตั้งครรภ์ได้เ้าค่ะก่อนหน้านี้ท่านเคยคลอดบุตร ตอนนี้ร่างกายแค่ผิดปกติเล็กน้อยดื่มน้ำแกงบำรุงครรภ์หนึ่งเดือนเพื่อบำรุงก็จะดีขึ้นเ้าค่ะ”
สตรีแซ่จางได้ฟังแล้วยินดียิ่งนัก “ในเมื่อแม่หนูเมิ่งกล่าวเช่นนี้ย่อมหมายความว่าตั้งครรภ์ได้อีกแน่นอนหัวใจดวงนี้ของป้าใหญ่ก็วางใจแล้ว”
“ตามข้าไปเขียนเทียบยาในห้องของพี่ห้าเถิดเ้าค่ะ”อวี๋เจียวคลุมเสื้อคลุมบนกายให้เรียบร้อย จากนั้นพาสองแม่ลูกเดินออกไปข้างนอก
อวี๋เมิ่งซานที่อยู่ด้านนอกเอ่ยถามด้วยความเป็ห่วง“กานเฉ่าไม่สบายแล้วหรือ? ไม่สบายส่วนใด?”
“ไม่มีอะไร แค่ปวดเอวเล็กน้อยเท่านั้นแม่หนูเมิ่งบอกว่าแค่จัดยาให้กินก็จะดีขึ้นแล้ว” สตรีแซ่จางรีบแย้มยิ้มเอ่ยนางไม่อยากให้คนในจวนรู้ว่าอวี๋กานเฉ่า้ารักษาโรคตั้งครรภ์ไม่ได้
อวี๋เจียวเคาะประตูห้องของอวี๋ฉี่เจ๋อไม่นานนักประตูห้องถูกเปิดออก อวี๋ฉี่เจ๋อสวมอาภรณ์สีดำตัวยาวยืนอยู่ภายในห้องใบหน้าดุจหยกปรากฏร่องรอยของอาการป่วย “มีเื่อะไร?”
อวี๋เจียวเอ่ยอย่างผ่อนคลาย “ช่วยข้าเขียนเทียบยาหน่อยเ้าค่ะ”
อวี๋ฉี่เจ๋อไม่เอ่ยถามมากความเบี่ยงกายให้พวกนางไม่กี่คนเข้ามาในห้อง
เขาเดินมานั่งลงหน้าโต๊ะตำรา กางกระดาษบนโต๊ะให้เรียบนิ้วมือเรียวยาวหยิบพู่กันขนหมาป่าขึ้นมา ผินหน้ามองไปทางอวี๋เจียวดวงตาดอกท้อสงบนิ่งดุจบึงน้ำฤดูหนาวลึกล้ำดำมืด
อวี๋เจียวหรี่ดวงตาดุจผลซิ่งลงใบหน้างามละเอียดใต้แสงเทียนอ่อนโยนขึ้นสามส่วน นางเอ่ยอย่างเชื่องช้าว่า“โก่วฉีจื่อ [1] ห้าสลึงฟู่เผินจื่อ [2] สามสลึงชงเว่ยจื่อ [3] โท่วซือจื่อ [4] อย่างละสี่สลึง ชื่อเย่า เจ๋อหลาน [5] เซียงฟู่ [6] อย่างละสองสลึงตันเซินสามสลึง เซียนเหมา [7] ไป๋เสาอย่างละครึ่งสลึง นำมาต้มให้ได้สามถ้วย ดื่มขณะร้อนเ้าค่ะ”
น้ำเสียงของนางไพเราะน่าฟัง ทำให้ผู้อื่นเชื่อถืออย่างน่าประหลาด
........................
เชิงอรรถ
[1] โก่วฉีจื่อ 枸杞子หรือเก๋ากี้ การแพทย์แผนจีนจัดให้เก๋ากี้เป็ยารสหวานมีฤทธิ์เป็กลาง แก้ไอ เสมหะน้อย เจ็บร้อนผ่าวในลำคอ จมูกและปากแห้ง วิงเวียนศีรษะหน้ามืดตาลาย บำบัดโรคตาบอดกลางคืน หูอื้อ บำรุงไต เื ตับ และแก้กลุ่มอาการร่างกายอ่อนแอ สายตามืดมัว ซูบผอม ปวดเอว กระตุ้นการทำงานของลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่กล่อมประสาท ช่วยให้นอนหลับได้ดีและยังสามารถลดน้ำตาลในเืบำบัดอาการน้ำกามหลั่งเอง
[2] ฟู่เผินจื่อ 覆盆子สรรพคุณ:บำรุงไตรักษาตา รสชาติและคุณสมบัติ: รสหวานเปรี้ยว อุ่นเล็กน้อย เข้าสู่เส้นลมปราณ:กระเพาะปัสสาวะ ไต
[3] ชงเว่ยจื่อ 茺蔚子 มีสรรพคุณทำให้เืไหลเวียนดี สลายเืคั่ง ลดความอ้วน ลดไขมัน
[4] โท่วซือจื่อ 菟丝子สรรพคุณ: บำรุงไต,ตับ รักษาตาแก้ท้องเสีย บำรุงครรภ์ รสชาติและคุณสมบัติ: รสหวาน อุ่น เข้าสู่เส้นลมปราณ: ตับม้าม ไต
[5] เจ๋อหลาน 泽兰ช่วยให้เืและลมปราณไหลเวียนดี ปรับประจำเดือน ขับปัสสาวะ ลดบวม
[6] เซียงฟู่ 香附 หรือหญ้าแห้วหมู มีกลิ่นหอม รสเผ็ดปร่า ขมเล็กน้อยสรรพคุณเป็ยาบำรุงหัวใจ ขับเหงื่อ ขับระดู ขับปัสสาวะ แก้ไข้ ขับลมในลำไส้แก้ปวดท้อง ท้องอืด เป็ยาบำรุงกำลัง บำรุงธาตุ บำรุงทารกในครรภ์ เป็ยาฝาดสมานสงบประสาท เป็ยาอายุวัฒนะ
[7] เซียนเหมา 仙茅 หรือว่านพร้าว มีสรรพคุณเป็ยาชักมดลูก มีฤทธิ์ให้ความอบอุ่นเสริมหยางให้ไต แก้หยางไม่พอ ธาตุไฟน้อย
