หน้ากากสีแดงเข้มแนบติดกับใบหน้าของผมได้อย่างคงที่ผิวััที่เย็นเฉียบทำให้ผมค่อยๆ กลับสู่ความสงบ
เกิดเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากด้านล่างอยู่สักพักแล้วเสียงก็เงียบไป ส่วนใหญ่คงรู้กันอยู่แล้วใช่ไหมว่าหวังตัวจวี๋เป็คนอย่างไร? ชื่อเสียงเื่แสนยานุภาพของเ้าดินแดนแห่งความตายเพียงพอที่จะกำราบผู้ฝึกตนพเนจรเหล่านี้คิดไปคิดมา ผมถูกใบหน้านี้ของหวังตัวจวี๋หลอกมาั้แ่ต้นจนจบเคยบอกว่าเขาเป็คนที่มีอุดมการณ์เดียวกันกับอวี๋เคอ มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ขาวสะอาดทว่ามือก็ต้องเปื้อนไปด้วยเืสดๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่หลังจากเสียงอึกทึกครึกโครมนี้หายไปเสียงฝีเท้าที่พื้นรองเท้าเสียดสีกับบันไดไม้ก็ดังตามมาติดๆ ทำให้ใจผมเต้นแรงขึ้นทันที
เขาคงจำผมไม่ได้หรอกใช่ไหม?
เสียงฝีเท้าอันแ่เบาดังเข้ามาใกล้ทางนี้ขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้องของผม ผมแอบสบถเบาๆ ทว่ากลับได้ยินเสียงคนที่อยู่ด้านนอกเคาะประตูสามครั้งอย่างแสนจะมีมารยาทจากนั้นเสียงอันสุภาพอ่อนโยนก็ดังเข้ามาในหูทันที “เมื่อครู่ได้ทำให้ท่านขวัญเสียต้องขออภัยอย่างสุดซึ้ง ข้าขออภัยแทนเขาด้วยนะขอรับ”
!!!!! โม่ชิง ?????
นะ นะ นี่มันเื่อะไรกัน? ทันใดนั้นผมก็นึกขึ้นได้ว่าตอนที่ปัดศีรษะนั่นกลับไปได้เห็นคนที่หน้าตาคล้ายกับนายน้อยสามของตระกูลโม่กำลังยืนอยู่ข้างกายของหวังตัวจวี๋อยู่จริงๆแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็โม่ชิงจริงๆ
เขาเป็คนของโลกผู้ฝึกตนไม่ใช่หรือ? ตอนที่ส่งเขาให้กับหวังตัวจวี๋ก่อนหน้านี้คนผู้นี้ยังทำท่าทางทุกข์ทนขมขื่นอยู่เลยแล้วทำไมตอนนี้ถึงได้มาพูดแทนคนผู้นั้นได้ มันเกิดอะไรขึ้นในระยะเวลาสั้นๆเพียงครึ่งเดือนนี้กันแน่?
ทว่าไม่ต้องรอให้ผมคิดเยอะน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ของหวังตัวจวี๋ก็ดังขึ้น “นี่โม่ชิงคนพวกนี้ได้รับการบั่นทอนจิตใจแล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าเล่า? เหตุใดเ้าถึงต้องไล่ขอโทษทุกคน? ไปเถอะ ไปเถอะข้าพาเ้าไปเที่ยวสนุกที่แดนแม่น้ำแห่ง์ดีกว่า ตอนเด็กๆเ้าบอกเสมอว่าอยากไปไม่ใช่หรือ ครั้งนี้ก็ถือโอกาสไปเลยสิ! ”
ปริมาณข่าวสารคงจะเยอะไปสักหน่อย...
เหตุการณ์ทั้งหมดในเื่ “มหันตภัยแห่งแดนเซียนปีศาจ” ถูกเขียนวนอยู่รอบตัวเอกตัวแสดงสมทบอย่างหวังตัวจวี๋และโม่ชิงไม่ได้เขียนขยายความอะไรไว้มากมายเสียด้วยซ้ำดังนั้นความเป็มาเื่ชาติกำเนิดและเื่ราวในชีวิตของพวกเขายิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยที่แห่งนี้เหมือนโลกแห่งความเป็จริงยิ่งกว่าโลกในหนังสือทุกคนมีจุดเริ่มต้นและจุดจบที่นี่ และน่าจะ... รวมถึงตัวผมเช่นกัน
รอยประทับของหินสีดำกลางฝ่ามือเริ่มร้อนขึ้นมาเรื่อยๆภาพที่เคยเห็นในความฝันฉายแวบเข้ามาในหัว ผมคิดว่าบางทีนั่นอาจจะเป็จุดเริ่มต้นโชคชะตาของอวี๋เคอก็เป็ได้
ตอนนี้ได้บัวหิมาลัยสองหัวมาอยู่ในมือแล้วแต่ผมกลับไม่ได้รีบร้อนที่จะรักษาดวงตาของซ่งฉียวนหากไม่มีสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดจะรักษาไปแบบสะเพร่าไม่ได้ เพราะหากมีคนมาขัดจังหวะเข้าราคานี้คงไม่มีใครจ่ายได้ อีกอย่าง แม้ว่าาแบนร่างกายของเขาจะหายดีแล้วแต่จุดตันเถียนถูกทำลาย รากฐานของการฝึกตนถูกทำลายไปเส้นลมปราณในร่างกายของเขาก็แทบจะไม่ต่างอะไรจากคนที่ไร้พลังวิเศษร่างกายเช่นนี้ไม่มีทางที่จะเก่งกาจได้แน่นอน
เยี่ยวั่งจือเคยพาเขาไปยังถ้ำหมื่นกระดูกที่อยู่ณ เหวลึกของหุบเขาิญญาเพื่อฟื้นฟูเส้นลมปราณใช้เืของอสูรร้ายโบราณเฉวียงฉีสร้างร่างเหนืุ์ให้กับเขาจนกลายเป็ปัจจัยพื้นฐานที่จะเปลี่ยนซ่งฉียวนให้แข็งแกร่งขึ้นในอนาคต
ผมได้ยินอาจิ่วบอกว่าอวี๋เคอมีที่พำนักอยู่ในแดนันิทราซึ่งอยู่ใกล้กับเหวลึกในหุบเขาิญญามากที่แห่งนั้นเป็ที่ที่อวี๋เคอผ่านมาเห็นแล้วรู้สึกว่าทิวทัศน์ค่อนข้างสวยงามจึงร่ายเวทสร้างเรือนไม้หลังเล็กขึ้นมาหลังหนึ่ง ด้านในค่อนข้างธรรมดาและเรียบง่ายดังนั้นกู้จิ่นเฉิงน่าจะไม่รู้ว่ามีสถานที่แห่งนั้นอยู่และไม่น่าจะว่างมากเสียจนสามารถร่ายคาถาคุ้มกันไว้ที่นั่นได้
ผมวางแผนจะไปอยู่ที่นั่นหลังจากเยียวยาาแของซ่งฉียวนจนหายดีแล้วแบบนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่ากู้จิ่นเฉิงจะหาเจอและยังได้ให้ซ่งฉียวนอยู่ในสถานที่ที่เงียบสงบอีกด้วย อีกทั้งในเนื้อเื่หลักเยี่ยวั่งจือยังอาศัยอยู่ในที่ที่ไม่ไกลจากเหวลึกในหุบเขาิญญามากนักและอาศัยมาเป็เวลาสองปีแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้นก็ได้เวลาออกเดินทางสิงโตสองหัวก็ได้พักผ่อนไปมากพอสมควร ผมสั่งให้เขาเร่งมุ่งหน้าไป ใช้เวลาประมาณแปดเก้าวันก็เดินทางมาถึงชายแดนของแดนันิทราที่อยู่ทางเหนือสุดระหว่างที่ผ่านวังปีศาจ ผมให้อาจิ่วนำสารไปบอกกู้จิ่นเฉิงแล้วว่าจะไม่ได้กลับไปสักพัก คิดว่าเขาเองก็คงจะเคยชินกับนิสัยดื้อรั้นของอวี๋เคอแล้วเพราะไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเป็พิเศษ
แต่ครั้งนี้ผมรอบคอบมากขึ้นจึงตั้งใจให้สิงโตสองหัววนไปวนมาอยู่หลายรอบกว่าจะไปยังเหวลึกในหุบเขาิญญาแบบจริงจังบางทีผมอาจจะอ่อนไหวเกินไปแต่ผมไม่้าให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังของคนผู้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมไม่กล้าจินตนาการถึงผลที่จะตามมาหลังจากที่เขารู้ว่าผมแอบคอยดูแลซ่งฉียวนอยู่
ทางด้านซ่งฉียวนนั้นนิ่งเงียบมาตลอดทางเสียเป็ส่วนใหญ่ราวกับกำลังน้อยใจผม คาดว่าคงโกรธเื่ที่ผมรับปากว่าจะหมั้นหมายไปและคิดว่าตัวเองเป็ตัวถ่วงของผม กินข้าวก็น้อย ช่างมีนิสัยเป็เด็กน้อยเสียเหลือเกิน
ผมเกลี้ยกล่อมเด็กไม่เป็เลยในตอนนั้นการวางแผนครอบครัวเป็เื่ที่รัดกุมมากพ่อกับแม่ไม่ได้มีพี่น้องให้กับผม เื่นี้จึงเป็จุดอ่อนของผม เขาไม่พูดจาผมเองก็ไม่พูดเช่นกัน อาจิ่วที่อยากให้บรรยากาศครึกครื้นแต่ก็ไม่ยอมเป็ฝ่ายพูดก่อนเขาโมโหจนต้องบินออกไปแบบไร้จุดหมายอยู่บ่อยครั้ง เมื่อกลับมาถึงรถม้าก็นอนช่างเป็ฤดูหนาวที่น่าจดจำไปจนตาย
เหตุผลที่แดนันิทรามีชื่อว่าแดนันิทรานั่นมีความเกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ในการมาของพวกเราในครั้งนี้ และเืของเฉวียงฉีด้วยเมื่ออสูรร้ายได้ถือกำเนิดขึ้น สี่เผ่าใหญ่แห่งตระกูลสัตว์เทพก็ได้มากำราบสะกดิญญาในตอนนั้นเผ่าพันธุ์ัเขียวมีพลังแข็งแกร่ง จึงได้ทำหน้าที่นำทัพแต่ไม่คาดคิดว่าอสูรร้ายเฉวียงฉีจะมีพลังที่น่าอัศจรรย์ ซ้ำยังกระหายเือีกด้วยทำให้เผ่าัเขียวต้องสูญเสียจนยับเยิน และมีผู้วิเศษล้มตายไปเป็จำนวนไม่น้อยจนกระทั่งสามารถปรับบรรทัดฐานให้สี่ตระกูลใหญ่แห่งสัตว์เทพมีอำนาจเท่าเทียมกันได้ในปัจจุบันและเพื่อไว้อาลัยให้กับนักรบัเขียวที่เสียชีวิตเ่าั้ จึงตั้งชื่อว่าแดนันิทรา
ฝันร้ายของัเขียวและปราณสังหารของอสูรร้ายที่ถูกสะกดในถ้ำหมื่นกระดูกได้ฝังกลบเศษซากิญญาของเผ่าัเอาไว้