“เ้าโง่สามคนนี่ กินข้าวๆ กินข้าวเสร็จพวกแกจะรู้เองว่าเป็ยังไง” หนิวเหมิ่งพูดเสียงดัง ทั้งสามคนก็ยิ่งไม่เข้าใจกว่าเดิม
“ไปๆๆ วันนี้อาหารที่โรงอาหารไม่แย่เลย เนื้อหมูเพิ่งมาส่งวันนี้ได้ยินว่ามีอาหารทะเลด้วย เรารีบไปกัน หลานๆพวกนั้นกินข้าวเร็วกว่าที่พวกมันวิ่งซะอีก” ต้าจู้พูดยิ้มๆจากนั้นทั้งห้าคนก็เดินตรงไปทางโรงอาหาร
“พี่เหมิ่งจื่อ ทำไมกลับมาอีกแล้วเนี่ยอยู่ข้างนอกทำอะไรผิดมาอีกแล้วใช่ไหม” เมื่อมาถึงโรงอาหารหลายคนก็หัวเราะขึ้นเสียงดัง
“นี่ไอ้หนู ใครไม่เคารพเดี๋ยวฉันจะซ้อมพวกแกให้ดู” หนิวเหมิ่งพูดด้วยเสียงดัง
“พี่เหมิ่ง เวลาพี่อยู่ข้างนอกแล้วไปทำผิดก็มาหลบที่ค่ายทหารใช่ไหม ฮ่าๆ” กัวไฮว่ถามอย่ายิ้มแย้ม หนิวเหมิ่งก็สีหน้ามืดมน ดูเหมือนว่าจะจริงเมื่อก่อนทุกครั้งที่ตนกลับมาค่ายทหาร ก็เป็เพราะตนก่อเื่ไว้ถึงจะกลับมา
“ไอ้หนู เดี๋ยวกินข้าวเสร็จฉันจะจัดการพวกแก” หนิวเหมิ่งพูดเสียงดังอย่างอดกลั้นจากนั้นทุกคนก็หัวเราะลั่นขึ้นมาอีกครั้ง
อาหารของค่ายห้าสามหนึ่งไม่เลวเลยทีเดียวแม้จะไม่ได้ฟุ่มเฟือยอย่างที่ร้านแดนเซียนในแดนมนุษย์เมื่อวานทว่าเมื่อยิ่งรีบประทานกลิ่นหอมของอาหารก็ยิ่งปรากฎออกมาอีกครั้งคนที่ทานอาหารด้วยกันต่างก็มีความรู้สึกที่ดีต่อเด็กหนุ่มหน้าตาสุภาพอ่อนน้อมที่หนิวเหมิ่งพามาคนนี้กัวไฮว่เองก็ชอบความสนุกสนานคึกคัก ไม่นานก็ไปคลุกคลีอยู่กับพวกพี่ๆ ทหาร
“ไอ้น้อง ฉันจะบอกนายไว้ให้นะ แกอย่าอยู่ใกล้หนิวเหมิ่งมากเกินไปเลยเดี๋ยวจะเสียคนเอาร้อยเปอร์เซ็นต์ จริงสิเมื่อกี้พวกเราได้ยินมาว่านายรู้จักกับหลี่เย่า าาทหารอู่เฉิงหมอนั่นเองก็ร้ายลึก อย่าไปเข้าใกล้เขามากเชียวล่ะ” นายทหารอายุมากคนหนึ่งพูดยิ้มๆ
“พี่เหล่าหลี่ ทำไมพี่ไม่ให้น้องกัวไฮว่พูดหน่อยล่ะ ให้เขาแนะนำเ้าสี่ตัวอันตรายเมืองอู่เฉิง ตัวอสรพิษหน่อยสิ” หนิวเหมิ่งพูดยิ้มๆ
“จะต้องไปแนะนำอะไรอีกครั้งก่อนที่พี่เย่าดื่มไปมากก็ไม่ได้พูดไปหมดแล้วทุกอย่างเหรอหรือว่าน้องชายเองก็รู้จักไอ้เด็กไม่เรียนหนังสือไม่รู้วิชาเ้าสี่ผู้ไม่รู้จักยางอายนั่นด้วยเหมือนกัน”
“อะแฮ่มๆ ต่อไปถ้าพวกพี่มีโอกาสไปเมืองอู่เฉิงแล้วพวกพี่จะรู้เื่นั้นเอง ผมรู้จักเ้าสี่ สี่ตัวอันตรายเมืองอู่เฉิงนั่นตอนนี้เขาไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว” กัวไฮว่พูดกระแอมไอสองสามครั้ง “พี่ๆ ครับ ่นี้ไม่มีเวลาคุยเล่นกับพวกพี่เลยไว้ผมจัดการเื่กลุ่มเป้าหลงเมื่อไหร่จะกลับมาหาทุกคนที่ค่ายทหารห้าสามหนึ่งนะครับ”
“ไอ้น้อง นายบอกว่านายจะไปกลุ่มเป้าหลงเหรอ ไปทำอะไรที่นั่นน่ะไอ้พวกเครื่องฆ่าคน ไม่มีน้ำใจมนุษย์เลยสักนิด จะไปสนุกเท่าพวกเราได้ยังไง” นายทหารแก่รายหนึ่งพูดยิ้มๆ
“เครื่องฆ่าคน? เฮอะๆ นั่นแหละสนุกผมจะไปปฏิรูปพวกเขาสักหน่อย ไว้ยังไงผมจะพาคนจากกลุ่มเป้าหลงมาเป็ส่วนหนึ่งของค่ายทหารห้าสามหนึ่งนะ” กัวไฮว่พูดอย่างยิ้มแย้ม
“แค่กๆ ไอ้น้อง แกไปปฏิรูปก็ไปสิ ไม่ต้องพาพวกเขามา” จู้จื่อพูดยิ้มๆ
“กินข้าวอิ่มแล้วพวกพี่คุยกันไปก่อนนะ พี่ๆ สามคน ไปกันเถอะเมื่อกี้บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะช่วยให้พวกพี่ไปถึงเขตแดนเซียนเทียน พวกพี่ลืมกันแล้วเหรอ” กัวไฮว่มองหานต้าจู้ เว่ยเถี่ย หลิวเฮยซานพร้อมกับพูดยิ้มๆ
“ไอ้น้อง พูดล้อเล่นอะไรกัน วันนี้ก็ไม่ได้ดื่มเหล้านี่ถ้านายอยากไปกลุ่มเป้าหลงก็รีบไปจัดการเถอะ” เว่ยเถี่ยพูดยิ้มๆ
“ถ่วงเวลาไม่ได้แล้ว รีบไปเถอะ เมื่อกี้ผมเห็นว่าที่นั่งตรงพื้นที่ว่างทางทิศตะวันออกไม่เลวเลยนะผมจะไปรอพี่ๆ ตรงนั้น รีบไปเถอะ” เมื่อกัวไฮว่พูดเสร็จก็ออกไปจากโรงอาหาร
“เ้าโง่ พวกแกสามคนโง่หรือแกล้งโง่เนี่ยตอนนี้พวกแกยังไม่รู้อีกเหรอว่าทำไมฉันถึงบรรลุเขตแดนโฮ่วเทียนได้ทำไมพวกแกถึงได้ตกข่าวกันขนาดนี้เนี่ย กัวไฮว่นี่ก็คือผอ.คลินิกไม่ที่ขายยากระตุ้นปราณที่งานประมูลเมืองหลวงเมื่อวานไงล่ะ เ้าโง่มัวอึ้งอะไรอยู่” หนิวเหมิ่งพูดเสียงดังจากนั้นทั้งสามก็มองหน้ากันแล้วรีบวิ่งไปหากัวไฮว่อย่างไวราวกับบินไป
“ไอ้น้อง เฮอะๆ ถึงว่าไอ้น้องถึงกล้าไปกลุ่มเป้าหลง พูดตรงๆ นะถ้านายอยากได้เงิน พวกพี่สามคนให้ตายก็ไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นหรอกแต่ถ้านายอยากได้คน ต่อไปถ้ามีเื่อะไร แค่น้องออกปากพูดพวกเราสามคนก็จะบุกน้ำลุยไฟ ไม่ถอยกลับแน่นอน” หานต้าจู้พูดยิ้มๆ
“ถ้าพูดเื่เงินกับผมก็ไสหัวไปเลย พี่ดูผมเหมือนคนขาดเงินเหรอที่ช่วยพวกพี่นี่เพราะเห็นว่าเข้ากันได้ดีกับพวกพี่ๆถ้าวันหลังเกิดเื่อะไรผมก็จะไม่ทำอะไรให้พวกพี่แล้วพวกพี่พูดแบบนี้ดูถูกผมมากนะครับ” กัวไฮว่พูดขึ้นด้วยท่าทางโมโหเล็กน้อย
“เฮอะๆ ไอ้น้องเข้าใจผิดแล้ว ในเมื่อไอ้น้องพูดแบบนั้น งั้นก็มาเถอะ ถ้าพวกเราบรรลุโฮ่วเทียนได้ต่อไปเราก็จะได้มีชีวิตดีๆ ด้วยกันแล้วล่ะ” เฉินเฮยซานพูดเสียงดัง
กัวไฮว่ผงกศีรษะด้วยความพึงพอใจจากนั้นก็ส่งเม็ดยาสีเขียวมรกตในมือทั้งสามเม็ดไปให้หานต้าจู้และคนอื่นๆ
“กลืนลงไปเลย แน่นอนว่าเจ็บนิดหน่อย เดี๋ยวผมจะฝังเข็มบนตัวพวกพี่นิดหน่อยพวกพี่ให้ความร่วมมือก็พอแล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ต้าเถี่ย เฮยซาน งั้นฉันก่อนล่ะนะ” หานต้าจู้พูดด้วยความตื่นเต้นสุดขีด
“ใครก่อนใครหลังอะไรกันล่ะ พวกพี่สามคนมาด้วยกันเลย เร็วเลย ผมไม่มีเวลาอยู่กับพวกพี่นานขนาดนั้นหรอกนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ ทั้งสามนำยาเข้าไปในปากด้วยกันในมือกัวไฮว่มีเข็มเพิ่มขึ้นมาเล่มหนึ่ง เขาฝังไปบนร่างของทุกคนคนละเก้าเล่มจากนั้นก็ไปยืนเอ้อระเหยอยู่ด้านข้างทว่าหนิวเหมิ่งมองทั้งสามคนด้วยความระมัดระวัง
“พี่เหมิ่ง พี่ๆ สามคนนี่มีอะไรให้มองนักเหรอ พี่ไปที่สระน้ำเล็กๆตรงทางทิศตะวันตกก่อนเถอะ ไปไล่พวกเบื้องบนเบื้องล่างที่ตกปลาอยู่ใต้ต้นไม้เถอะเดี๋ยวพวกเขาสามคนต้องใช้สระน้ำนั่น” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“อืม ฉันจะไป” เมื่อหนิวเหมิ่งได้ยินที่กัวไฮว่พูดก็ทำตามคำสั่งจะไปสนเบื้องบนเบื้องล่างที่ตกปลาอยู่ตรงทางนั้นทำไมกันล่ะทว่าไม่นานก็ได้ยินเสียงชายแก่สองสามคนก่นด่าเสียงดังอยู่ข้างสระน้ำ
“คุณปู่หลิว ปู่แน่ใจนะครับว่าจะไม่ยอมให้สระนี่น่ะ งั้นก็ได้ตอนนี้เฮยซานเตรียมกำลังจะบรรลุเขตแดนโฮ่วเทียน ถ้าบรรลุแล้วขนาดตัวจี๊ดกลุ่มเป้าหลงยังต้องสยบให้เลยในเมื่อปู่ไม่หลีกทางให้ งั้นผมก็กลับแล้วส่วนเฮยซานก็จะติดอยู่ที่สุดยอดโฮ่วเทียนไปทั้งชีวิต” หนิวเหมิ่งพูดเสียงดังเขาหันหลังเตรียมจะเดินจากไป
“ไอ้หนู เธอว่าไงนะ เมื่อกี้ฉันเห็นว่าพวกแกไปที่สนาม พวกเรายังคุยๆกันอยู่เลยว่ากินข้าวเสร็จพวกแกจะทำอะไรอีก หรือว่าเฮยซานจะบรรลุอีกแล้วจริงๆ น่ะ” ชายชราผู้เป็นายทหารระดับสูงถลึงตาพูด
“สามนาที แค่สามนาที ถ้าพวกปู่ไม่อยากให้เสียเื่ ก็รบกวนรีบไปจากสระนี่ไม่งั้นก็รับผิดชอบผลลัพธ์กันเอาเอง” หนิวเหมิ่งพูดเสร็จก็หันศีรษะวิ่งไปทางกัวไฮว่
“เหล่าหลิว จะไปหรือไม่ไป” นายทหารชั้นสูงอีกรายถามขึ้นเบาๆ
“เด็กบ้านี่ เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ และอย่าทำผิดพลาดเพราะไม่เชื่อถ้าเขากล้าหลอกพวกเรา งั้นก็ไปจัดการกันที่ศาลทหาร ให้สระพวกเขาไป ให้คนของแกไปจัดการพื้นที่สามกิโลเมตรจากสระน้ำค่ายทหารห้าสามหนึ่งเริ่มสถานการณ์เตรียมรบขั้นแรก ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าใกล้พวกเขา” หลิวเป่ยเจิงพูดเสียงดัง ผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างๆก็วิ่งไปยังห้องรักษาการด้วยความรวดเร็วราวกับบินไปจากนั้นไม่นานก็มีเสียงไซเรนดังขึ้นทั่วทั้งค่ายทหารห้าสามหนึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
“พี่เหมิ่ง เมื่อกี้สั่งสอนพวกเบื้องบนไปแล้ว รู้สึกสบายเลยใช่ไหมล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ที่บอกว่ารับผิดชอบผลลัพธ์เองนี่น่าสนใจนะฮ่าๆ” หนิวเหมิ่งเกาศีรษะแล้วหัวเราะลั่นขึ้นมา