"ปู่ให้เสื้อคลุมที่เป็อุปกรณ์ิญญากับนายอย่างนั้นหรือ?"เสี่ยวหลัวลี่ถามขึ้นด้วยความสงสัยฉินโจ้วก็ไม่ได้คิดจะปิดบังแต่อย่างใด จึงนำเสื้อคลุมยื่นให้ดู พร้อมเปิดค่าสถานะ
เสื้อคลุมปีกราตรี : อุปกรณ์ิญญา ถักทอขึ้นจากปีกค้างคาวโลกันตร์พลังป้องกันกายภาพ +5,000 พลังป้องกันเวท +15,000 ทักษะเสริม : เทเลพอร์ต-สามารถเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่แห่งใดก็ได้ทันทีภายในระยะทาง 50 เมตร ระยะเวลาในการใช้ทักษะครั้งถัดไป : 4ชั่วโมง
เมื่อได้เห็นค่าสถานะดังกล่าว ดวงตาของเสี่ยวหลัวลี่ก็พลันแดงเรื่อด้วยความอิจฉาก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความปวดร้าว "ดูท่าปู่คงจะเสียหายหลายแสน ก่อนจะทำตาปริบๆ นี่เป็อุปกรณ์ิญญาที่ฉันใฝ่ฝันมาตลอดเลย"
"ถ้าอย่างนั้น ฉันยกให้" ฉินโจ้วยิ้มออกมาเล็กน้อยนานๆ เขาจะใจกว้างแบบนี้สักครั้ง
"ให้จริงหรือ?" เสี่ยวหลัวลี่กะพริบตากลมโตอย่างประหลาดใจดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อเลย
"อืม..." ฉินโจ้วพยักหน้า
"เย้... คิดไม่ผิดเลยที่ตามนายมา"เสี่ยวหลัวลี่รีบคว้าเสื้อคลุมเวทเอาไว้ และไม่รั้งรอที่จะสวมใส่มันทันทีทันทีที่ใส่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับมีเมฆดำครึ้มลอยบดบังดวงอาทิตย์เอาไว้เสี่ยวหลัวลี่หลับตาลงก่อนใช้ความรู้สึกรับรู้ และพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า "เวลานี้ฉันรู้สึกว่าพลังป้องกันของฉันนั้นราวกับเต่าตัวน้อยพี่ชายรูปหล่อ นายให้ของมีค่ากับฉัน แล้ว้าให้ฉันตอบแทนนายอย่างไร?"
"้าตอบแทนอย่างนั้นหรือ?"ดวงตาของฉินโจ้วกลอกไปมา หัวเราะร่า ก่อนจะพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
"เดี๋ยวฉันให้โควตาไว้ตามจีบฉันเป็ไง... จะบอกให้นายรู้ว่ามีคนใฝ่ฝันที่อยากจะได้ฉันเป็คู่ครองมากมายจนแทบจะนับไม่หวาดไม่ไหว แม้แต่บริษัทั์ใหญ่ยังอยากจะเชื่อมสัมพันธ์ด้วยเลย"ท่าทางของเสี่ยวหลัวลี่บ่งบอกถึงการได้รับการยอมรับอย่างสูง
"แต่ผมมีแฟนแล้ว"ฉินโจ้วปฏิเสธโดยปราศจากความลังเล
"เลิกเลย" เสี่ยวหลัวลี่ถึงกับเหลือบตามองบนเบะปากพลางแลบลิ้น โดยไม่ใส่ใจว่าที่พูดออกไปนั้นจะดีหรือไม่ก็ตาม
"เรากลับไปดูพวกนั้นดีกว่าว่าจะเอาสมบัติเ่าั้ออกมาได้อย่างไร"ดวงตาของฉินโจ้วส่องประกายสีทองออกมา บวกกับรอยยิ้มที่มุมปากทำให้ดูเ้าเล่ห์เป็อย่างยิ่ง
"ไม่เอา ฉันไม่อยากเห็นคนอื่นมาหยิบสิ่งของไปโดยที่ฉันไม่มีส่วนร่วม"เสี่ยวหลัวลี่ตอบปฏิเสธอย่างไม่เต็มใจ
"ฟังผมให้ดีนะที่นั่นมันมีเื่ที่ไม่คาดคิดรอทำให้คุณประหลาดใจอยู่" ฉินโจ้วพูดพร้อมรอยยิ้ม
"จริงหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่นายละกัน"เสี่ยวหลัวลี่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบตกลง
ชายชราก็จัดการสิ่งต่างๆ ด้วยความรอบคอบ เขาสั่งให้ผู้เล่นสองคนคอยยืนเฝ้าที่หน้าประตูห้องโถงเอาไว้แต่ถึงอย่างนั้นฉินโจ้วกับเสี่ยวหลัวลี่ก็ไม่ใช่ผู้เล่นธรรมดาทั่วไปจึงสามารถหลบหลีกการตรวจตราได้อย่างง่ายดายและแอบลอบกลับมาได้อย่างเงียบเชียบ
ภายในห้องโถง ผู้คนต่างพยายามอย่างเต็มที่ ทำให้ต้องสูญเสียเหล่าพี่น้องไปเป็จำนวนไม่น้อยแต่ก็ยังไม่สามารถทำลาย ''ผงสุดชื่นมื่น'' ลงได้ในที่สุดเมื่อทุกคนต่างไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว ชายชราก็หยิบกล่องออกมาจากแขนของเขาก่อนจะเปิดมันขึ้นเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน
"คางคกเผือก...?" เสี่ยวหลัวลี่ที่นอนพังพาบอยู่บนไหล่ของฉินโจ้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแ่เบาท่าทางเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"จักจั่นหยก...!" แบล็กแมมบาถึงกับอุทานออกมาเขาเองก็พอจะมีความรู้และประสบการณ์อยู่ไม่น้อย แค่เหลือบมองเพียงครั้งเดียวก็สามารถจดจำได้เขามีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นมา
สิ่งที่ชายชราหยิบออกมาก็คือ จักจั่นหยกซึ่งมีสีขาวราวกับหยก และเย็นเยียบคล้ายกับน้ำแข็ง หลังจากที่เปิดกล่องออกมาอากาศเย็นเฉียบก็พวยพุ่งขึ้นมาทันที อุณหภูมิในห้องโถงก็เริ่มลดลงเล็กน้อยจากนั้นชายชราก็สั่งให้คนนำเหล้าออกมาไหหนึ่ง ก่อนจะหยิบมีดสั้นออกมาหันมองไปทางจักจั่นหยกด้วยความเสียใจก่อนจะผ่าท้องของมันและหยิบเอาไข่มุกขาวที่มีขนาดเท่าปลายนิ้วออกมา ละลายลงในเหล้าในระหว่างที่กำลังดำเนินการอยู่นั้น ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปากของชายชราเลยแม้แต่น้อยสีหน้าท่าทางของเขาราวกับเพิ่งเสียลูกชายไป
จักจั่นหยกนั้นสามารถรักษาพิษได้มากมายหลายร้อยชนิดเลยทีเดียวเป็สิ่งของที่ล้ำค่าและมีมูลค่ามากมายยิ่งนัก
คนอื่นๆ ที่เหลือก็รู้ว่าในเวลานี้ชายชรานั้นอารมณ์ไม่ดีเป็อย่างมากจึงไม่มีใครกล้าพูดอะไร หลังจากนั้นไม่กี่นาที เหล้าสีเหลืองก็เปลี่ยนไปเป็สีแดงอย่างน่าอัศจรรย์ชายคนรับใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังของชายชราจึงได้นำเหล้าไป และหยดลงบนอัญมณีจากนั้นก็เกิดควันดำสีจางระเหยออกมาจากสมบัติ ก่อนจะสลายไปในอากาศ
"ไม่ดีแล้วจักจั่นหยกสามารถแก้พิษได้เกือบทุกชนิด แบบนี้สมบัติมากมายก็ต้องอยู่ในมือของพวกเขาน่ะสิ"เสี่ยวหลัวลี่เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ
"ตาเฒ่านี่เป็คนที่แน่วแน่ยิ่งนัก"ฉินโจ้วกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดจักจั่นหยกอายุพันปีนั้นสามารถแก้พิษได้มากมายหลายร้อยชนิดถึงแม้ว่าเงินหมื่นเหรียญทองนั้นจะหาได้ยากแต่ทรัพย์สมบัติเหล่านี้ก็มีค่ามากมายกว่าหมื่นเหรียญทองอย่างแน่นอนแต่นั่นก็หมายถึงหนึ่งชีวิตต้องดับสูญ เพื่อให้อีกหลายชีวิตได้รอดต่อไปถ้าต้องให้ฉินโจ้วเป็คนเลือก เขาคงไม่เลือกที่จะเสียจักจั่นหยกไปแน่
หลังจากที่เทสมบัติทั้งหมดลงไปในเหล้า แมวดำก็พยักหน้า ให้ลูกสมุนของเขาเดินเข้ามาอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนจะเอื้อมมือลงไปคว้าเหรียญทองขึ้นมากำหนึ่งอย่างระมัดระวังหลังจากนั้นไม่ถึงอึดใจ สีหน้ายังคงเป็ปกติ จึงมีเสียงโห่ร้องขึ้นด้วยความดีใจ ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จแล้วท่าทางของชายชราจึงดูผ่อนคลายลง
"เก็บทั้งหมดใส่หีบเอาไว้ อย่าวางสลับกันของดีเอาไว้เก็บทีหลัง ทุกคนมารวมกันที่นี่แล้วรีบแจกจ่ายแบ่งกันออกไปจัดการ"
ภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญทำให้ห้องโถงที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายถูกจัดการจนเกลี้ยงเกลาลงได้อย่างรวดเร็วเวลานี้มีเหรียญทองล้ำค่าถึง 15 หีบสีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความปีติยินดี ไม่ต้องแปลกใจเลย หลังเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ทุกคนก็จะได้รับรางวัลมากมายเพียงพอที่จะใช้ชีวิตอย่างสบายได้
"นายเป็ใครกัน? หยุดเดี๋ยวนี้นะอ๊ากกก..."
ในขณะนั้นเสียงร้องจากผู้ที่เฝ้าประตูห้องโถงก็ดังขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้อง ก็มีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยพุ่งตรงเข้ามายังห้องโถงเป็เหล่านักรบติดอาวุธ พร้อมด้วยผู้ใช้เวทอีกจำนวนหนึ่ง ก่อนจะยืนล้อมทุกคนเอาไว้หลังจากนั้นก็มีกลุ่มชายหนุ่มจำนวนห้าคนเดินเข้ามา
"แมงป่องแดง ทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?"เมื่อชายชราเห็นผู้ที่เข้ามาเยือน สีหน้าก็เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยท่าทางเคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
"ผู้าุโ ไม่ได้เจอกันเสียนานเลยผมเองก็ไม่คิดว่าคุณจะยังดูหนุ่มแน่นอยู่เลยทั้งที่อายุไม่น้อยแล้วก่อนหน้านี้เห็นส่งแต่พวกเด็กๆ ไปทำงานให้ แต่ทำไมคราวนี้ถึงกับต้องลงมือเอง นานทีจึงจะได้พบเห็น"แมงป่องแดงเอ่ยขึ้นอย่างเ็า อาจดูเหมือนว่าทักทายแต่น้ำเสียงก็ไร้ซึ่งความเคารพยำเกรงถึงแม้ว่ากลุ่มของเขาทั้งห้าคนจะเข้ามาพร้อมกันแต่พวกเขาก็หยุดยืนแยกห่างออกไปเล็กน้อย แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า นี่เป็ความสัมพันธ์แบบการร่วมมือไม่ใช่พวกของเขาเองทั้งหมด
ชายชราได้แต่ทำเสียงไม่พอใจแต่ก็ไม่มีการสั่งการใดเพิ่มเติม
"ทุกคนคงเข้าใจกฎของจิ้งจอกทะเลทรายของพวกเราเป็อย่างดีแล้วผลประโยชน์ครึ่งหนึ่งต้องเป็ของเราแต่เนื่องจากว่าวันนี้ทุกคนต่างก็มีส่วนร่วมด้วย ดังนั้นวันนี้จึงเป็ข้อยกเว้นผม้าเพียงแค่ 30% ที่เหลือพวกคุณก็ไปจัดสรรปันส่วนกันเอาเอง"สายตาเ็าและเฉียบคมมองผ่านหัวหน้าของทั้งสามกลุ่ม ซึ่งก็คือ แมวดำ ยาฆ่าแมลงพิษร้ายแรงและแบล็กแมมบา น้ำเสียงที่เปล่งออกมาไร้ซึ่งข้อกังขาแต่อย่างใด
หัวหน้าทีมของกลุ่มผู้เล่นห้าคนก็ก้าวออกไปด้านข้างท่ายืนตัวตั้งตรงประดุจหอก ดวงตาคล้ายกับสายฟ้า ท่าทางที่แสดงออกมาดูนิ่งเฉยราวกับก้อนหินก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง "ตัวตนของพวกเรา ทุกคนคงรู้จักเป็อย่างดีแล้วส่วนแบ่งเหรียญทองและอัญมณี จำนวน 20% นั้นพวกเราไม่้าพวกเราขอแค่สิ่งของที่มีอยู่ในประวัติศาสตร์หวังว่าพวกคุณคงไม่ทำให้พวกเราต้องลำบากใจ"
"ช่างน่าสนุกอะไรเช่นนี้"เสี่ยวหลัวลี่เองตอนนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย จู่ๆ เธอก็หันไปถามฉินโจ้ว"ว่าแต่... ฉันเกือบลืมไปแล้ว ทำไมนายถึงไม่กลัวผงสุดชื่นมื่นล่ะ?"
"เพราะว่าพิษไม่สามารถทำอันตรายอะไรผมได้น่ะสิ!"ฉินโจ้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เสี่ยวหลัวลี่ถึงกับกลอกตามองบนอีกครั้ง ท่าทางบ่งบอกว่าไม่เชื่อเลยสักนิด
ภายในห้องโถงสีหน้าของผู้เล่นแต่ละคนในเวลานี้ดูบูดเบี้ยว เมื่อต้องเห็นสมบัติที่อยู่ในมือถูกฉกฉวยไปครึ่งหนึ่งซึ่งเป็เื่ที่แทบจะทนไม่ได้ แต่ก็อย่างว่า ในเขตทะเลทรายตะวันตกนี้ ไม่มีใครหน้าไหนกล้าท้าทายอำนาจของจิ้งจอกทะเลทรายและยังมีห้าคนที่ยืนอยู่ถัดไปนั่นแม้แต่จิ้งจอกทะเลทรายเองก็ยังไม่อาจตอแยได้ง่ายดายนัก
ในที่สุดชายชราก็พูดขึ้นว่า"กฎของจิ้งจอกทะเลทรายนั้น ผมเองก็ย่อมรู้ดีแต่ในครั้งนี้จิ้งจอกทะเลทรายไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะฉะนั้นส่วนแบ่ง 30% ก็ดูจะไม่เหมาะสม"
ใบหน้าของแมงป่องแดงถึงกับสลดลงเล็กน้อย แต่สายตายังคมกริบก่อนจะพูดขึ้นอย่างเ็าว่า "ทั้งพระราชวังถูกค้นจนหมดแล้วคิดว่าสมบัติควรจะอยู่ที่ไหนกัน? ถ้าพวกนายไม่โง่งมนักก็คงจะต้องเดาได้อยู่แล้วคิดว่าพวกเราจะเก็บสถานที่แห่งนี้ไว้ทำไมกัน? ไว้อำนวยความสะดวกให้พวกนายอย่างนั้นหรือ?เมื่อพวกนายสามารถแก้พิษของผงสุดชื่นมื่นได้ ผมก็ขอส่วนแบ่งแค่ 30%หรือผู้าุโ้าให้พวกเราจิ้งจอกทะเลทรายกลับบ้านมือเปล่า?
ทุกคนเองต่างก็เข้าใจจิ้งจอกทะเลทรายได้ค้นพบสถานที่แห่งนี้มาเป็เวลานานแล้วแต่ยังไม่สามารถแก้ไขเื่พิษของ''ผงสุดชื่นมื่น''ได้ เดิมทีก็ตั้งใจจะค้นหาสถานที่อื่นก่อนจะถอยหนีจากคลื่นสีดำที่ถาโถมจนถูกฝังก่อนจะลงมาอยู่ที่นี่หลังจากที่ชายชราได้แก้ไขเื่พิษได้แล้ว เขาก็รีบปรากฏตัวขึ้นทันที ใช้ยุทธวิธี ''ต้อนเสือไปขย้ำหมาป่า'' ทำให้ได้ส่วนแบ่ง 30% มาโดยไม่ต้องใช้ความพยายามแต่อย่างใดดูเหมือนคราวนี้คงต้องดีดลูกคิดกันนานหน่อย
อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เื่นี้ไม่สามารถย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรได้อีกเนื่องจากความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้ ทำให้พวกเขาได้แต่ก้มหน้ายอมรับเพียงเท่านั้น
"ห้าคนนั้นเป็ใครกัน? ทำไมท่าทางของพวกเขาถึงได้ดูแข็งแกร่งมาก!" เสี่ยวหลัวลี่กระซิบถามขึ้น ฉินโจ้วเองได้แต่ยิ้มขื่นไม่ใช่แค่ท่าทางดูแข็งแกร่ง แต่ความสามารถของทุกคนดูไม่ด้อยไปกว่าเขาเลยชายแดนของทะเลทรายกว้างใหญ่ ยังเต็มไปด้วยเสือหมอบัซ่อน สายน้ำสุดลึกล้ำ ไม่ต่างจากที่จงหยวนเลย
"พวกเขาเป็คนจากกองทัพ"
ภายใต้การยินยอมจากหัวหน้าทั้งสามกลุ่มแมวดำ ยาฆ่าแมลงพิษร้ายแรงแบล็กแมมบา และชายชราทำให้จิ้งจอกทะเลทรายจึงเข้ามาทำหน้าที่จัดแบ่งสมบัติเหล่านี้แมงป่องแดงนำคนมาด้วยมากกว่าสองร้อยคนซึ่งทำให้ไม่มีกองกำลังอื่นใดกล้าที่จะเคลื่อนไหว การจัดประเภท นับจำนวน และคัดแยกสมบัติเหล่านี้เป็งานที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบแมงป่องแดงจึงได้พาผู้เล่นหญิงที่มีประสบการณ์มาด้วย
เมื่อทหารทั้งห้านายตรวจดูสมบัติทั้งหมดแล้วคนที่เป็หัวหน้าก็ได้กล่าวขึ้นว่า"สมบัติของอาณาจักรโบราณโหลวหลานมีมากกว่านี้ แสดงว่ายังมีสถานที่บางแห่งยังไม่ถูกค้นพบ"
"ความหมายของอู๋ซานเกอก็คือ น่าจะยังมีกลไกที่ถูกซ่อนอยู่?"ในใจของแมงป่องแดงถึงกับเต้นรัวทางกองทัพย่อมต้องมีข้อมูลมากมายกว่านี้เป็แน่ ตราบใดที่เขายอมติดตามไปด้วยถึงแม้จะได้แค่ส่วนเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ต้องมีมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว
"เพราะอาวุธเวทที่มีชื่อของอาณาจักรโบราณโหลวหลานนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่"อู๋ซานเกอไม่ได้คิดจะมีลูกเล่นหรือวางแผนอะไรเอาไว้ จึงพูดขึ้นมาอย่างตรงไปตรงมา
ทันทีที่ชายชราและคนอื่นที่เหลือได้ยิน สีหน้าก็เริ่มสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งความหมายของ ''อู๋ซานเกอ'' ก็คือสมบัติที่แท้จริงนั้นยังไม่ถูกค้นพบ ถ้าหากพวกเราติดตามเขาไปความสูญเสียที่นี่ก็จะถูกกอบกู้กลับมาได้อีกครั้ง ถ้าลองคิดดูตามนี้สิ่งต่างๆ ก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอย่างที่เขาคิด
"ได้เวลาแล้ว" ฉินโจ้วได้ปล่อย ''อ่อนแรง'' ออกไป กระแสลมสีเทาได้พุ่งตรงเข้าใส่ดวงไฟที่เป็ภาพวาดบนผนังทันใดนั้นเองเสียงสั่นะเืเล็กน้อยก็ดังขึ้นจากพื้นดิน
"เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?" ดูเหมือนมีใครบางคนัับางอย่างที่เกิดขึ้นได้ในทันที
"คงจะเป็เสียงกลไกกำลังทำงานชายชราเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ"
"อาจมีบางคนแตะถูกสวิตช์เข้าโดยไม่ได้ตั้งใจทุกคนระวังตัวเอาไว้" สิ้นเสียงของอู๋ซานเกอบริเวณใจกลางพื้นดินก็แยกออกจากกันทันทีเผยให้เห็นสี่เหลี่ยมกว้างราวหนึ่งเมตรขึ้นเป็เส้นทางใต้ดินสายหนึ่งมีผู้เล่นสองคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นพอดี จึงร่วงหล่นลงไป และตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอย่างใ
เสียงร้องะโออกมาด้วยความใ ดังก้องไปราวกับไม่มีวันสิ้นสุด!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้