“ให้ตายเถอะ ใครมันช่างไร้คุณธรรมสร้างกำแพงไว้สูงถึงเพียงนี้!”
มู่เฟิงมองกำแพงตรงหน้าที่มีความสูงมากกว่าสิบห้าถึงสิบหกเมตรด้วยสีหน้าที่ราวกับร้องไห้ จากวรยุทธ์ของเขาในตอนนี้ เด็กหนุ่มสามารถะโได้สูงสุดเพียงเจ็ดถึงแปดเมตรเท่านั้น
“เ้าหนุ่ม มาดูกันว่าคราวนี้เ้าจะหนีไปไหนได้อีก!”
ทันใดนั้นอู๋เป้าก็ปรากฏตัวพร้อมกับกำลังคนที่เข้ามาห้อมล้อมมู่เฟิงเอาไว้อย่างหนาแน่น เขาจ้องมองไปยังเด็กหนุ่มก่อนจะแสยะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
ในทางกลับกัน สีหน้าของมู่เฟิงกลับดูสงบนิ่ง เขาจ้องมองไปยังอู๋เป้าด้วยสายตาเ็า
“ฆ่ามันเสีย!”
อู๋เป้าโบกมือส่งสัญญาณให้กับกลุ่มคนของตน
“เส้นทางของผู้แข็งแกร่งนั้นคับแคบเกินกว่าจะอยู่ร่วมกันได้ ท่านพ่อ ขอท่านโปรดคุ้มครองลูกด้วย!”
มู่เฟิงกำดาบในมือเอาไว้แน่น ขณะกล่าวพึมพำกับตัวเอง ทันใดนั้นเด็กหนุ่มก็ยกดาบขึ้นก่อนจะกระโจนเข้าหากลุ่มคนตรงหน้า
พรึ่บ!
ในขณะเดียวกัน ได้ปรากฏแสงสีขาวพุ่งออกมาจากแขนของเขาอย่างรวดเร็ว มันทะยานร่างจู่โจมคนผู้หนึ่งราวกับลูกธนู
ฟ่อ!
มันคืองูตัวหนึ่งที่มีความยาวมากกว่าสามฟุต งูขาวตัวนั้นฉกเข้าที่ดวงตาของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่ง ทำให้อีกฝ่ายกรีดร้องออกมาด้วยความเ็ป ดวงตาของเขาถูกเขี้ยวของมันเจาะจนทะลุ จากนั้นพิษร้ายก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ชายผู้นั้นล้มตัวลงบนพื้นและเกิดอาการชักกระตุกขึ้นมาทันที
“ฟ่อ!”
เสี่ยวเทียนร้องคำรามออกมา ในขณะที่ร่างกายของมันก็กำลังขยายใหญ่ขึ้น ความยาวของมันเพิ่มขึ้นเจ็ดถึงแปดเมตร ลำตัวหนาเท่ากับต้นขาของมนุษย์ เพียงไม่นานมันก็พุ่งเข้าไปกัดชายฉรรจ์ผู้หนึ่งจนตายในคราวเดียว
“อ๊าก!”
ชายฉกรรจ์ผู้นั้นกำลังตกตะลึงกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของงูขาวตัวใหญ่ั์ตัวนี้ และในชั่วพริบตานั้นเสี่ยวเทียนก็พุ่งเข้ากัดที่ลำคอของอีกฝ่าย ส่วนร่างกายของมันก็กอดรัดร่างกายของชายผู้นั้นเอาไว้อย่างแ่าจนไม่อาจขยับตัวได้
กร๊อบ กร๊อบ กร๊อบ!
เสียงบดกระดูกดังขึ้นอย่างชัดเจน ร่างของชายผู้นั้นถูกบีบอัดด้วยแรงรัดอันน่าสะพรึงของเสี่ยวเทียนจนกระดูกภายในของเขาแตกหัก ก่อนจะกระอักเืออกมา
“อสูรร้าย!”
เมื่อเห็นดังนั้นคนอื่นๆ ก็พากันตกตะลึง ภายในกลุ่มของพวกเขามียอดฝีมือระดับจื่อฝู่รวมอยู่ด้วย และคนผู้นั้นก็ไม่รอช้าที่จะเหวี่ยงดาบไปทางเสี่ยวเทียนในทันที ดาบสีขาวเล่มนั้นฟันลงไปบนร่างของเสี่ยวเทียนอย่างดุดัน
ปึก!
แม้ว่าดาบเล่มนี้จะฟันลงบนเกล็ดสีขาวของเสี่ยวเทียนอย่างรุนแรงแล้ว แต่มันกลับทิ้งไว้เพียงรอยถากอย่างผิวเผินเท่านั้น ไม่ได้ทำให้เสี่ยวเทียนาเ็หรือรู้สึกเ็ปอะไรเลยแม้แต่น้อย
หางเรียวยาวของเสี่ยวเทียนตวัดออกไปเบื้องหน้า มันหวดลงบนศีรษะของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งอย่างแรง
ผัวะ!
แรงจากการตวัดหางของเสี่ยวเทียนนั้นค่อนข้างหนักหน่วงเป็อย่างมาก ทำเอาศีรษะของชายผู้นั้นขาดกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร ก่อนที่ร่างไร้ศีรษะจะมีเืสีแดงสดพุ่งกระฉุดออกมาจนอาบย้อมไปทั่วร่าง
จากนั้นเสี่ยวเทียนก็พ่นน้ำแข็งสีขาวเข้าใส่ชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่ง ทำให้ร่างของชายผู้นั้นกลายเป็ประติมากรรมน้ำแข็งไปในทันที เพียงไม่นานมันก็แตกกระจายร่วงหล่นลงบนพื้นและกลายเป็เพียงเศษน้ำแข็งเท่านั้น
นี่เป็พลังอันแข็งแกร่งเหนือธรรมชาติที่มีมาแต่กำเนิดของสัตว์อสูรอย่างเสี่ยวเทียน
“รีบสังหารเ้าสัตว์เดรัจฉานนั่นเสีย!”
อู๋เป้าที่กำลังยกดาบหมายจะสังหารมู่เฟิงะโสั่งการออกมาทันที เวลานี้ภายในใจของเขากำลังเดือดดาลเป็อย่างยิ่ง
กลุ่มคนกว่าสามสิบคนที่เขาพามาในตอนแรกถูกกลุ่มเด็กหนุ่มและงูั์ตัวนี้สังหารไปไม่น้อย จนเวลานี้มีคนหลงเหลือเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น
หากวันนี้ไม่สามารถสังหารมู่เฟิงให้ตายคามือเขาได้ ต่อไปอู๋เป้าก็คงไม่กล้าแบกหน้าออกมาให้ใครเห็นแล้ว
กลุ่มพยัคฆ์เหลืองทั้งหมดรีบโอบล้อมเสี่ยวเทียนเอาไว้ทันที ในขณะที่อู๋เป้าเลือกที่จะจัดการกับมู่เฟิงเพียงลำพัง
แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง!
ดาบทั้งสองเล่มกำลังเข้าโรมรันกันอยู่ภายในตรอก ประกายไฟจากการกระทบกันของโลหะปรากฏออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีปราณดาบอีกหลายเล่มที่พุ่งกระแทกเข้ากับกำแพงที่อยู่ด้านข้างจนเกิดรอย
เมื่อผู้คนจากสองฟากฝั่งในซอยได้ยินเสียงการต่อสู้ พวกเขาต่างก็ปิดประตูหน้าต่างอย่างแ่า ไม่มีใครกล้าโผล่หน้าออกมาเลยสักคน
ฉึก!
ไม่นานมู่เฟิงก็โดนปราณดาบเฉือนเข้าที่บริเวณทรวงอก ซึ่งทำให้เกิดาแลึกจึงมีเืไหลทะลักออกมาจำนวนมาก เด็กหนุ่มก้าวถอยออกไปสองสามก้าว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยอดฝีมือระดับจื่อฝู่ขั้นเก้า
“ฮึ่ม ไอ้หนู ข้าจะใช้ดาบเล่มนี้หั่นเ้าให้เป็ชิ้นๆ เอง”
อู๋เป้าแสยะยิ้มออกมาอย่างเหี้ยมโหด
มู่เฟิงยังคงจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเ็า แต่ในความเป็จริงแล้วเขากำลังส่งกระแสจิตไปยังหยกเทพชูร่า
“เยว่เอ๋อร์ เยว่เอ๋อร์ เ้ารีบช่วยข้าคิดหาวิธีเร็วเข้า”
มู่เฟิงลอบส่งกระแสจิตหาอีกฝ่ายอย่างร้อนรน
“ข้าช่วยเ้าไม่ได้ ตอนนี้เ้าต้องพึ่งพาตัวเอง ก่อนหน้านี้หยกเทพชูร่าได้ดูดซับพลังเืไปไม่น้อย เ้าลองดูสิว่าตอนนี้เ้าสามารถเรียกดาบโลหิตชูร่าออกมาได้หรือไม่”
ซีเยว่แนะนำ
“ตายเสีย!”
ขณะที่อู๋เป้าร้องคำรามและฟาดฟันกระบี่ลงมาเพื่อสังหารเด็กหนุ่ม ฉับพลันนั้นแผ่นยันต์สี่แผ่นก็ได้ปรากฏขึ้นบนมือของมู่เฟิง นี่คือแผ่นยันต์ชุดสุดท้ายที่เขามีแล้ว เด็กหนุ่มตัดสินใจขว้างมันใส่ฝ่ายตรงข้ามในทันที
เมื่ออู๋เป้าเห็นแผ่นยันต์ทั้งสี่แผ่นกำลังพุ่งเข้ามา เขาก็รีบหลบอย่างรวดเร็ว ถึงอย่างไรของสิ่งนี้ก็ทรงพลังมาก เขาไม่้าที่จะเผชิญหน้ากับมันโดยตรง
ตูม! ตูม! ตูม…!
แผ่นยันต์ทั้งสี่แผ่นได้ะเิพลังออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อู๋เป้าต้องล่าถอยออกไปเล็กน้อย
ทันใดนั้นเอง มู่เฟิงก็ทำการโคจรพลังปราณจากมวลคลื่นพลังทั้งสามลูกที่อยู่ภายในจุดตันเทียนของตน พลังปราณเ่าั้ได้หลั่งไหลไปยังหยกเทพชูร่า ก่อนที่พลังปราณทั้งหมดจะเข้าไปกระตุ้นลายอักขระเทวาลายหนึ่งที่อยู่ภายในตัวหยกทันที
เมื่อลายอักขระเทวาดูดซับพลังปราณเ่าั้เข้าไปแล้ว มันก็ได้ดูดซับเอาพลังเืบางส่วนที่ถูกกักเก็บอยู่ภายในตัวหยกเข้าไปด้วย และทันใดนั้นเองเส้นโลหิตสายหนึ่งก็พุ่งออกมาในทันที หยกเทพชูร่าปรากฏขึ้นในมือของมู่เฟิง สีโลหิตจากตัวหยกส่องประกายแวววาว และวินาทีถัดมามันก็ถูกควบแน่นขึ้นเป็ดาบขนาดใหญ่เล่มหนึ่งที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายกระหายเื!
ดาบเล่มนี้มีความยาวกว่าห้าฟุต เท่ากับความสูงครึ่งตัวของมนุษย์ ด้ามจับของมันยาวสองฟุต ในขณะที่คมดาบยาวสามฟุต ตัวดาบมีสีแดงเื ส่วนด้ามจับนั้นก็มีส่วนที่คล้ายกับเกล็ดยื่นออกมา มองดูแล้วเหมือนกับเกล็ดของั ทำให้สามารถจับได้พอดีไม่ลื่นมือ
และด้วยท่าทางการถือดาบก็ทำให้มันดูคล้ายกับเขี้ยวของัเล็กน้อย ความโค้งของคมดาบนั้นไม่มากนัก ส่วนสันดาบก็มีบางอย่างยื่นออกมาคล้ายกับตะขอสีแดงเื ในขณะที่ด้านหน้าของดาบก็มีภาพอักขระที่กำลังเปล่งประกายสีโลหิตออกมา ส่วนคมดาบนั้นมีความคมเป็อย่างยิ่ง ทั้งยังมีกลิ่นอายกระหายเืแผ่กระจายจากตัวดาบอีกด้วย
ถือเป็ดาบโลหิตที่ให้ความรู้สึกทรงพลังเป็อย่างมาก
เมื่อดาบเล่มนี้ปรากฏขึ้น อุณหภูมิในตรอกก็ลดฮวบลงหลายองศา จิตสังหารที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวก็ได้แผ่กระจายออกมาจากตัวดาบ
มือของมู่เฟิงกระชับดาบเอาไว้แน่น เขากัดฟันจนสันกรามนูนเด่น ดวงตาคู่นั้นของเขามีทั้งความรู้สึกประหลาดใจและความยินดี
“นี่คือดาบโลหิตชูร่า!”
ดาบเล่มนี้ค่อนข้างมีน้ำหนักมาก เกรงว่าน้ำหนักของมันคงไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันจิน และด้วยน้ำหนักของมันนี้เองที่ทำให้มู่เฟิงไม่สามารถกวัดแกว่งมันได้อย่างอิสระ ดังนั้นยังไม่จำเป็ต้องพูดถึงการสังหารศัตรูเลย
มู่เฟิงนั้นมีความสูงหกฟุตซึ่งถือว่าไม่เตี้ยเลยแม้แต่น้อย แต่ดูเหมือนว่าการถือดาบเล่มนี้จะไม่ค่อยเข้ากับเขาเท่าไรนัก
อู๋เป้าจ้องมองดาบโลหิตเล่มใหญ่ที่ปรากฏขึ้นในมือของมู่เฟิงอย่างกะทันหันด้วยความใ
“ช่างเป็ดาบที่ล้ำค่ายิ่งนัก ดาบเล่มนี้เกรงว่าคงจะเป็อาวุธปราณที่ไม่ต่ำกว่าขั้นสาม!”
ประกายความละโมบฉายชัดในดวงตาของอู๋เป้า ท่าทีของเขาดูยินดีเป็อย่างยิ่ง เขารีบยกดาบขึ้นหมายจะสังหารมู่เฟิงให้เร็วที่สุด
“เ้าจงตายเสียเถอะ!”
อู๋เป้าคำรามออกมาเสียงดัง และ้าจะสังหารอีกฝ่ายให้ตายในดาบเดียว
“ย๊าก!”
ด้านมู่เฟิงก็ร้องคำรามออกมาเช่นกัน เขาใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อเหวี่ยงดาบโลหิตชูร่าไปทางอู๋เป้า ซึ่งการกระทำนี้ทำให้เขาต้องสูญเสียพลังปราณไปเป็จำนวนมาก
พรึ่บ!
ดาบโลหิตชูร่าพลันเปล่งแสงสีโลหิตออกมา ในขณะที่คมดาบก็กวาดไปทางอู๋เป้าพร้อมกับจิตสังหารอันแรงกล้า
เปรี้ยง!
ฉับพลันนั้นอาวุธปราณในมือของอู๋เป้าก็ถูกดาบโลหิตชูร่าทำลายจนย่อยยับ ตอนนี้มันได้กลายเป็เพียงแค่เศษเหล็กชิ้นเล็กชิ้นน้อยเท่านั้น และปราณดาบสีโลหิตก็พุ่งตรงเข้าไปเฉือนร่างของอู๋เป้าต่อในทันที
“ไม่นะ!”
ฉัวะ!
ปราณดาบสีโลหิตพุ่งผ่านร่างของอู๋เป้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระแทกเข้ากับกำแพงบ้านหลังหนึ่งจนปรากฏเป็รูโหว่ขนาดใหญ่ขึ้น และเพียงไม่นานกำแพงบ้านหลังนั้นก็พังทลายลงมา
ร่างของอู๋เป้าถูกผ่าออกเป็สองส่วน เืและอวัยวะภายในของเขาสาดกระเซ็นไปทั่วพื้น
“นายท่านเป้า!”
กลุ่มพยัคฆ์เหลืองที่กำลังต่อสู้พัวพันอยู่กับเสี่ยวเทียนในระยะไกลนั้น ต่างก็หน้าซีดด้วยความใเมื่อเห็นฉากนี้ จากนั้นพวกเขาก็มองไปยังมู่เฟิงที่กำลังถือดาบและหอบหายใจอย่างสยดสยอง
“หนี หนี หนีเร็ว!”
คนพวกนั้นใกลัวจนวิ่งหนีเตลิดไปทันที
เสี่ยวเทียนเลื้อยเข้ามาหามู่เฟิงที่ร่างกายยังคงเปื้อนเื เวลานี้นอกจากปากที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตแล้ว บนตัวของเขายังมีาแอีกหลายแห่งด้วย
มู่เฟิงทรุดตัวลงนั่งก่อนจะเอนกายนอนบนพื้นอันเย็นเฉียบ การใช้ดาบโลหิตชูร่าเมื่อครู่ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของตนถูกอะไรบางอย่างกดทับจนแทบหายใจไม่ออก ทำให้เขาเกือบจะหยุดหายใจ แต่ตอนนี้ความรู้สึกเ่าั้ได้หายไปแล้ว หยกเทพชูร่าก็กลับคืนสู่สภาพเดิมอยู่ในมือของมู่เฟิงอีกครั้ง
เสี่ยวเทียนเลื้อยมาอยู่ด้านข้างของมู่เฟิงเพื่อคอยปกป้องเด็กหนุ่ม ตอนนี้ความแข็งแกร่งทางกายของเขานั้นต่ำมาก กระทั่งพลังปราณยังถูกใช้ไปจนหมด เกรงว่าแม้แต่เด็กคนหนึ่งยังสามารถสังหารเขาได้
แต่บนใบหน้าของมู่เฟิงกลับมีร่องรอยของความตื่นเต้นยินดีปรากฏออกมาให้เห็น
“สุดยอดเลย ดาบโลหิตชูร่าเล่มนี้ช่างทรงพลังยิ่งนัก!”