ตลอดเส้นทางกลับบ้าน จิตหยั่งรู้ของเย่เฟิงััได้ว่ามีเ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติซ่อนอยู่เพิ่มขึ้นมากมาย
ภายในบ้าน ซูเมิ่งหานกำลังดูแลหลงหว่านเอ๋อร์ในห้องนอนชั้นบน ส่วนชูชูเตรียมอาหารเย็น เมื่อเย่เฟิงนำยาถอนพิษมาได้แล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็ต้องกังวลอะไรอีก
“ลูกพี่เย่ เป็ยังไงบ้าง?”
หนานฟางทักทายเย่เฟิงด้วยรอยยิ้มก่อนเอ่ยถาม แต่สายตาจับจ้องใบหน้าสวยของจื่อเจี้ยนหลานตลอด
“ทุกอย่างราบรื่นดี โชคดีที่ได้จื่อเจี้ยนหลานช่วยไว้” เย่เฟิงยิ้ม ก่อนวางมือบนไหล่หญิงสาว พร้อมแนะนำอีกฝ่ายกับเธอ “นี่คือหนานฟาง เธอเรียกเขาว่าพี่หนานก็ได้นะ”
“สวัสดีค่ะพี่หนาน” จื่อเจี้ยนหลานทักทายอย่างเขินอาย
“หวัดดีๆ” หนานฟางโบกมือให้สาวงามเหมือนกับไม่ต้องเกรงใจ แต่ในใจอิ่มเอมอย่างยิ่ง แค่ถูกเรียกว่า ‘พี่หนาน’ เธอก็ได้ใจเขาไปแล้ว!
แต่ผู้หญิงคนนี้เป็ผู้หญิงของเย่เฟิงอีกคนงั้นเหรอ? ถ้าเป็แบบนั้นจริง เขาก็เศร้าใจยิ่งนัก
เย่เฟิงไม่พูดกับหนานฟางต่อ เขาพาจื่อเจี้ยนหลานกลับบ้านพักของตน ชายหนุ่มยังระลึกได้ว่าหลงหว่านเอ๋อร์ที่ถูกพิษกำลังนอนรออยู่บนเตียง
หลังจากเดินขึ้นชั้นบน จื่อเจี้ยนหลานก็ไม่กล้าตามเข้าไป ซึ่งเย่เฟิงก็ไม่บังคับเธอ เขาปล่อยให้หญิงสาวนั่งรอในห้องนั่งเล่นสักพักหนึ่ง ขณะที่เขาเข้าห้องนอนก็เห็นหลงหว่านเอ๋อร์นอนอยู่ใต้ผ้าห่ม เธอกำลังหัวเราะอย่างร่าเริงขณะพูดคุยกับซูเมิ่งหาน
ดูเหมือนว่าไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นสินะ?
“หว่านเอ๋อร์ เธอเป็ยังไงบ้าง?”
เย่เฟิงเดินเข้าไปถามอย่างกังวล และรีบเร่งไปข้างเตียงอย่างกระวนกระวาย
“ดีขึ้นแล้ว ฉันเพิ่งรู้ว่าพิษใจสลายไม่ค่อยมีผลต่อผู้ฝึกวิถีเซียนมากนัก...”
หลงหว่านเอ๋อร์ยิ้ม เื่ที่เย่เฟิงพาจื่อเจี้ยนหลานมา เธอเองก็รู้ตั้งนานแล้วแต่ไม่สนใจเท่าไร เพราะรู้ว่าเขาจะต้องมีคำอธิบายให้พวกเธอแน่นอน
“ถึงยังไงเธอก็ต้องกินยาถอนพิษนะ มาเถอะ”
เย่เฟิงหยิบยาถอนพิษออกมา และป้อนให้เธอสองเม็ด เพราะตอนนั้นเขาเห็นจื่อเจี้ยนหลานกินไปสองเม็ด จึงให้หลงหว่านเอ๋อร์กินไปสองเม็ดเช่นกัน
การกระทำของเย่เฟิงทำให้หลงหว่านเออร์ประทับใจมาก ขณะเย่เฟิงกำลังป้อนยา เธอจึงดึงเขาลงมาหอมแก้มฟอดใหญ่
เย่เฟิงทำตัวไม่ถูก ผู้หญิงคนนี้ช่างยั่วยวนเหลือเกิน
…………
ไม่นานหลงหว่านเอ๋อร์ก็ฟื้นฟูจากการถูกพิษอย่างรวดเร็ว เย่เฟิงพาทุกคนไปห้องนั่งเล่นชั้นล่างเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับจื่อเจี้ยนหลาน และแนะนำเธอให้ทุกคนรู้จัก
จื่อเจี้ยนหลานเพิ่งรู้ว่าเย่เฟิงมีผู้หญิงถึงสองคน ซูเมิ่งหานผู้สวยบริสุทธิ์และหลงหว่านเอ๋อร์ผู้แสนยั่วยวน เธอไม่คิดเลยว่าผู้หญิงทั้งสองคนจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้ จึงแปลกใจเล็กน้อย
ส่วนหนานฟางก็เพิ่งรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเย่เฟิงกับจื่อเจี้ยนหลานเป็แค่น้องสาวอย่างบริสุทธิ์ใจ อีกอย่างจื่อเจี้ยนหลานจะมาอาศัยอยู่ที่นี่นับจากนี้เป็ต้นไป
“ก็ให้อยู่กับแกที่นี่สิ”
เย่เวิ่นเทียนประกาศว่าให้จื่อเจี้ยนหลานพักอยู่ที่บ้านของเย่เฟิง
เย่เฟิงแทบน้ำตานองหน้าที่ได้ยินชายชราพูดเช่นนั้น หากเป็คนอื่น เมื่อเห็นสาวสวยก็คงอยากเป็ของตัวเอง แต่ตาเฒ่านี่พอเห็นสาวงามกลับอยากได้มาเป็หลานสะใภ้...
ชูชูรีบเตรียมห้องให้จื่อเจี้ยนหลานเมื่อรู้ว่าั้แ่นี้ไปสาวน้อยคนนี้จะอาศัยที่นี่
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเรียบร้อย เย่เฟิงก็ได้รับสายจากหลินซือฉิง จากนั้นเอ่ยลาเหล่าสาวๆ ก่อนออกไปข้างนอก
นอกวิลล่าชิงเฟิงมีร้านกาแฟร้านหนึ่ง เย่เฟิงเห็นหลินซือฉิงแต่งตัวเซ็กซี่นั่งอยู่ที่นั่น เขาเข้าไปนั่งตรงข้ามเธอก่อนส่งยิ้มให้และเอ่ยถาม “ทำไมไม่ไปที่บ้านผมล่ะ?”
“ที่บ้านนายมีสาวๆ ตั้งเยอะ ถ้าฉันไปคงกดดันแย่เลย” หลินซือฉิงกะพริบตาและยิ้มขี้เล่น “ได้ยินว่าวันนี้นายพาสาวสวยกลับมาด้วย?”
“แค่กๆ ผมเห็นเธอเป็แค่น้องสาว”
เย่เฟิงเก้อเขินเล็กน้อย จึงกระแอมไปหนึ่งที
“อืม น้องสาว”
หลินซือฉิงปิดปากหัวเราะ
“…”
เย่เฟิงไม่เอ่ยอะไร เขาเดาว่าอีกฝ่ายคงมีจุดประสงค์ที่เรียกเขามาในครั้งนี้ จึงหยิบแหวนเพชรเม็ดโตออกมาจากแหวนมิติ และวางบนโต๊ะกาแฟ
แหวนเพชรสิบกะรัตทำให้ดวงตาของหลินซือฉิงเป็ประกาย
“นี่คือ?”
หัวใจของหลินซือฉิงเต้นแรงขึ้น
“ผมรับปากกับพี่แล้วว่าจะหาของให้พี่นำไปโฆษณา แหวนนี่จะใช้ได้ไหม?”
เย่เฟิงเห็นหลินซือฉิงหน้าแดง เขาไม่รู้ว่าเป็เพราะเธอกลัวหรือใกันแน่
“เอ่อ...”
หลินซือฉิงเพิ่งรู้ตัวว่าเธอเข้าใจผิด จึงอดหน้าแดงไม่ได้
ความจริงเธอเห็นเย่เฟิงหยิบแหวนเพชรวงใหญ่ออกมาก็คิดไปเองว่าเขาคิดอะไรเกินเลยกับเธอหรือเปล่า ความจริงเธอเรียกเย่เฟิงออกมาไม่ใช่เื่โฆษณางานแสดงสินค้าแต่อย่างใด ก็แค่...
เธอหยิบแหวนเพชรที่อยู่บนโต๊ะอย่างระมัดระวัง ก่อนมองสองรอบ หญิงสาวรู้สึกคุ้นตาของสิ่งนี้เล็กน้อย เธอใคร่ครวญอย่างรอบคอบ และถามด้วยความสงสัยออกไปว่า “เพชรจักรพรรดิงั้นเหรอ?”
“เพชรจักรพรรดิ?” เมื่อเย่เฟิงได้ยินแบบนั้นก็แปลกใจเล็กน้อย และอธิบายต่อ “นี่เป็ของเ้าสำนักอิ่นเซียน ผมเอามันมาด้วย...”
“...”
หลินซือฉิงไร้คำพูด เมื่อได้ยินเย่เฟิงพูดเื่เช่นนี้ราวกับเป็เื่ปกติ
“เพชรจักรพรรดิเป็เพชรที่มีคุณภาพสูงซึ่งผลิตในประเทศอังกฤษเมื่อไม่กี่ปีก่อน มันมีจำนวนไม่มาก และแต่ละชิ้นก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย”
หลินซือฉิงมองแหวนเพชรเม็ดใหญ่ในมือ และรู้สึกนับถือวิธีการของเย่เฟิงจริงๆ “เพชรเม็ดนี้น่าจะเป็เพชรเม็ดที่หายไปเมื่อหลายปีก่อน ไม่คิดว่าจะตกอยู่ในมือของเ้าสำนักอิ่นเซียน”
“แล้วมันมีมูลค่าเท่าไร?” เย่เฟิงถามสิ่งที่ตนกังวล
“คาดว่าประมาณยี่สิบล้าน แต่... ถ้าใช้เป็โฆษณาการตลาดสำหรับงานแสดงสินค้านี้ล่ะก็ มูลค่าอาจสูงยิ่งกว่ายี่สิบล้านเสียอีก”
หลินซือฉิงครุ่นคิดพักหนึ่ง และพูดด้วยรอยยิ้ม “เพชรจักรพรรดิมีชื่อเสียงในแวดวงของชนชั้นสูง หากนำมาใช้โฆษณาก็จะดึงดูดเศรษฐีมากมายให้เข้าร่วมงานนี้ได้ และจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่ไม่อาจประเมินค่าได้”
“ถ้าเทียบกับการลงทุนของไดมอนต์กรุ๊ปล่ะ อันไหนดีกว่า?”
เย่เฟิงไม่เข้าใจเื่ธุรกิจมากนัก เขา้ารู้เื่นี้ให้ชัดเจนก็เท่านั้น
“ก็ไม่ต่างกันมาก แต่มันก็มีความแตกต่างกันอยู่” หลินซือฉิงส่ายหัว “เมื่อเทียบกันแล้ว ไดมอนต์กรุ๊ปมีฐานลูกค้ามากกว่า แต่ถ้าใช้เพชรจักรพรรดิเพื่อการโฆษณาก็อาจทำให้คนสนใจการซื้อขายในงานแสดงนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว...”
ตระกูลหลินปล่อยให้เธอดูแลและจัดการงานแสดงสินค้านี้ นั่นคือการให้เธอรับผิดชอบเต็มที่ โดยมีงบประมาณกำหนดไว้ให้ั้แ่ต้น
ไดมอนต์กรุ๊ปถอนตัวออกไปถือเป็เื่ใหญ่สำหรับหลินซือฉิง โชคดีที่การมีอยู่ของเพชรจักรพรรดิทำให้เธอกลับมามั่นใจอีกครั้ง แม้งานแสดงจะมีเพียงลูกค้าธรรมดาและไม่ค่อยเป็ที่นิยมมากนัก แต่จุดประสงค์ของงานคือการทำเงิน ตราบใดที่สามารถดึงดูดคนระดับสูงได้ ก็จะได้เงินไม่น้อยเลยทีเดียว
“ถ้าอย่างงั้นก็ดีครับ” เย่เฟิงยิ้มและพยักหน้า “ผมให้พี่”
“ได้ยังไงกัน” แม้หลินซือฉิงจะพูดแบบนั้น แต่เธอก็เก็บแหวนเพชรก่อนจะส่งยิ้มงดงาม “ถ้าขายเพชรจักรพรรดินี่ได้ พี่สาวคนนี้จะแบ่งเงินให้นายครึ่งหนึ่ง ดีไหม?”
“ถ้าไม่เอาก็เสียดายแย่เลยสิ”
แน่นอนว่าเย่เฟิงคงไม่ปฏิเสธเื่แบบนี้ เดิมทีเขาแค่้ามอบให้อีกฝ่าย แต่ในเมื่อหลินซือฉิงจะแบ่งเงินให้ก็นับว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียว
“ยังพอมีเวลาอีกสามวันก่อนจะถึงวันงาน ถึงตอนนั้นความปลอดภัยก็ขึ้นอยู่กับนายแล้วนะ”
หลินซือฉิงพูดพลางยิ้ม
“ผมจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้แน่นอน ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะ”
หลังจากเย่เฟิงพูดจบก็ลุกขึ้นกลับไปนอนกอดสาวสวยที่บ้าน แม้ผู้หญิงตรงหน้ามีรูปร่างเซ็กซี่และน่าดึงดูดแค่ไหนก็ทำได้แค่มองแต่ไม่อาจััได้!
“เดี๋ยวก่อนสิ นายจะรีบไหนกัน?”
หลินซือฉิงกระวนกระวายเล็กน้อย เพราะเธอเรียกเย่เฟิงไม่ใช่แค่เื่นี้ มันยังมีเื่อื่นอยู่ด้วยนี่สิ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้