หลินลั่วหรานเปิดไฟในห้องก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบจิตสงบใจของตัวเองลง
แม้ว่าตอนที่เธอได้เจอกับพื้นที่ลึกลับนั่นจะดูสงบนิ่งแค่ไหนก็ตาม แต่พอได้สติกลับมา มันก็ยากที่จะควบคุมตัวเองได้
คนที่เติบโตมาในยุคที่ถูกอบรมมาตามหลักวิทยาศาสตร์ทุกคนก็คงจะสามารถเข้าใจความรู้สึกของหลินลั่วหรานในตอนนี้ได้กันทั้งนั้น
เธอดันตัวลุกยืนขึ้นถ้าหากว่าทั้งหมดนั้นเป็เื่จริง ดูจากรูปการณ์แล้วสงสัยว่าคงจะต้องไปปลูกผักขายเหมือนอย่างในนิยายแล้วล่ะ
เมื่อหลินลั่วหรานนึกถึงเงินในกระเป๋าที่มีเงินอยู่เพียงพันหกร้อยหยวนขึ้นมาก็ต้องรีบคิดตัดสินใจให้เร็วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
เธอเป็เด็กผู้หญิงมุทะลุถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว เธอคงจะพุ่งตรงออกไปซื้อเมล็ดพืชในทันที
ยังไงวันนี้ก็พักผ่อนเร็วหน่อยแล้วกันพรุ่งนี้จะได้ตื่นขึ้นมาเช้าๆ ไม่ว่าอย่างไรเื่พื้นที่ลึกลับนั่นคงจะไม่ใช่เื่ไม่ดีอะไรเมื่อมีโอกาสที่จะหลุดพ้นจากความจน แล้วก้าวเข้าสู่หนทางแห่งความรวยแล้วเธอก็ควรจะลองดูสักครั้ง
อยู่ๆหลินลั่วหรานก็นึกถึงผลไม้ที่นำออกมาด้วยขึ้นมา จะกินหรือว่าไม่กินนั่นยังคงเป็ปัญหาชวนสับสนสำหรับเธออยู่
เดี๋ยวก่อนนะ!!
เธอขยี้ดวงตาของตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดไปนี่เพิ่งจะผ่านไปเพียงสักพักเท่านั้นแต่ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าผลไม้ลูกนี้กลับไม่ได้สีแดงสดใสเหมือนอย่างเก่าเสียแล้ว?
ไม่ใช่ว่าจะเน่าแล้วนะ?
หลินลั่วหรานขมวดคิ้วเข้าหากันถ้านี่เป็ของวิเศษจาก์จริง แล้วมาโดนตัวเองทำให้เสียเปล่าแบบนี้เธอคงจะต้องร้องไห้ตายแน่ๆ ถึงแม้ว่าต้นไม้ในพื้นที่ลึกลับจะยังคงอยู่ก็เถอะแต่ก็ไม่มีอะไรที่จะมายืนยันได้ว่ามันจะออกผลอีกครั้งเมื่อไร...
หลินลั่วหรานรู้สึกราวกับตัวเองเป็นักโทษที่มีความผิดเธอคว้าเอาผลไม้นั้นใส่เข้าปากโดยไม่ลังเล แต่เพียงแค่แตะโดนปากเท่านั้นยังไม่ทันได้รับรสอะไร ผลไม้ลูกน้อยก็ไหลลงท้องไปเรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่เธอจะมารู้ตัวเอาทีหลัง พระเ้านี่เราตะกละขนาดนี้ั้แ่เมื่อไรกัน แม้แต่จะล้าง ก็ยังไม่ล้างก่อนจะกิน!
เธอนอนอยู่บนโซฟามากว่าครึ่งชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้น...ของวิเศษจาก์อะไรกัน ไร้สาระสุดท้ายหลินลั่วหรานก็หงุดหงิดขึ้นมาจนได้ก็ผลที่ได้รับไม่ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่คาดหวังเอาไว้เสียเลยเป็ใครก็คงต้องผิดหวังกันทั้งนั้น
ไอ้เ้าไข่มุกที่เปล่งแสงสลัวๆอยู่ที่ข้อมือเองก็เหมือนกัน ดึงเท่าไรก็ดึงไม่ออกในใจของเธอได้แต่คิดว่าต่อให้ยังเข้าไปในพื้นที่ลึกลับนั่นได้และต้นหญ้าก็ยังคงเขียวขจี น้ำแร่ก็ยังคงใสสะอาดเหมือนอย่างเคยแต่ความมั่นใจที่เคยมีต่อหนทางรวยนั้นกลับหายไปเสียแล้ว
พูดง่ายๆ ก็คือ ไร้ค่าชะมัด!
หลินลั่วหรานมอบคำจำกัดความให้เ้าไข่มุกด้วยความขุ่นเคืองก่อนจะรู้สึกว่าตัวเองนั้น ทำตัวราวกับยังเป็เด็กสาวที่ยังไม่โตเต็มวัยช่างน่าขำเสียจริง
แต่ทั้งหมดนี่ก็เป็สิ่งที่ได้รับมาโดยไม่ได้คาดคิดได้ก็ดีแต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่มีอะไรน่าโมโหนี่นา อย่างน้อยก็พอจะใช้เป็โกดังเคลื่อนได้อยู่เมื่อคิดได้ดังนั้นจิตใจก็สงบขึ้นมามากทีเดียวหลินลั่วหรานมองไปยังนาฬิกาเรือนเก่าบนผนังที่กำลังบอกเวลาสี่ทุ่มวันนี้ควรจะนอนให้เร็วเสียหน่อย พรุ่งนี้จะได้มีแรงออกไปหางานใหม่!
หลินลั่วหรานไม่ได้เป็คนแต่งหน้าอะไร ดังนั้นเธอจึงล้างหน้าแปรงฟันด้วยความว่องไว
จิตใต้สำนึกของหลินลั่วหรานกำลังพยายามบังคับให้ร่างกายที่นอนแผ่อยู่บนเตียงรีบเข้าสู่ห้วงนิทรา แต่ภาพของหลี่อันผิงกลับปรากฏขึ้นมาไม่หยุดหย่อนท่าทางนิ่งสงบตอนที่ไปพบกับหลี่อันผิงในวันนี้ ล้วนแต่เป็สิ่งที่หลินลั่วหรานพยายามอย่างหนักทั้งนั้นสุดท้ายแล้ว มันก็เป็ความสัมพันธ์ตั้งเจ็ดแปดปี ต่อให้ไม่ใช่คนแต่เป็หมาที่เลี้ยงเอาไว้ ก็ต่างต้องมีความรู้สึกแบบนี้กันทั้งนั้น...
ความโศกเศร้าเริ่มจับกุมจิตใจของเธอภายในหัวเองก็รู้สึกปวดตุ้บๆ ขึ้นมา เธอพลิกตัวไปมาบนเตียงอยู่นาน ก่อนจะหลับใหลไป
นาฬิกาบนผนังแสดงเวลาห้าทุ่มห้าสิบห้านาทีแสงจันทร์ที่ทะลุผ่านเข้ามาในห้อง สาดส่องกระทบกับไข่มุกบริเวณข้อมือของหลินลั่วหรานปรากฏเป็แสงสว่างสลัวๆ
แสงจากไข่มุกประกายอยู่รอบตัวของหลินลั่วหรานคิ้วของเธอค่อยๆ คลายออกจากกันเพราะความสบายใจจากความฝัน
ประกายแสงเ่าั้ค่อยๆซึมซับเข้าไปในกายของหลินลั่วหราน
ติ๊กต็อก ติ๊กต็อก
เข็มนาฬิกาซ้อนทับตรงกัน เป็เวลาเที่ยงคืนตรงตามในความคิดในสมัยก่อนแล้ว ่เวลานี้เป็่เวลาที่อยู่ตรงกลางพอดีและถือเป็่เวลาที่มืดครึ้มที่สุดของวัน
และใน่เวลานี้เอง ที่แสงอาทิตย์แรกจะปรากฏ
ในที่สุดเ้าผลไม้อุ่นๆที่หลินลั่วหรานกินเข้าไปก่อนหน้านี้ ก็เริ่มปรากฏฤทธิ์ขึ้นมาใน่เวลาอันเหมาะสม โดยไม่ขาดและไม่เกินไปแม้แต่นาทีเดียว
ไอร้อนถูกส่งผ่านขึ้นมาจากช่องท้องราวกับจะสามารถไหลผ่านไปทั่วสายโลหิตในร่างของหลินลั่วหรานได้ภายในชั่วพริบตา
ปวด เ็ปความร้อนรุ่มที่เกิดขึ้นจากในร่างกาย ร้อนระอุขึ้นมา ราวกับเธอกำลังนอนอยู่ในเตาอบ
นี่ตัวเราเป็อะไรไปเนี่ย!?
ความเ็ปราวกับร่างกายจะฉีกขาดถาโถมเข้าโจมตีหลินลั่วหรานและแม้จะเ็ปทรมานมากแค่ไหน เธอก็ไม่อาจจะลืมตาตื่นขึ้นมาได้เลย
หากว่าไม่สามารถจะตื่นขึ้นมาได้อย่างนั้นก็หลับให้สนิทไปเลยก็แล้วกัน...หลินลั่วหรานคิดขึ้นมาได้อย่างมึนๆ งงๆก่อนที่จะหมดสติไป เพราะความเ็ปที่มากล้น...
ฤทธิ์ของผลไม้นั้นค่อยๆกระจายไปทั่วร่างกายที่ถูกใช้งานมาอย่างหนักของหลินลั่วหรานก่อนไหลไปตามเส้นเืทั่วทั้งร่างกายของเธอโดยที่มีพลังจากน้ำแร่และไข่มุกที่คอยฟื้นฟูให้อยู่อย่างไม่หยุดหย่อน
เ้าของร่างได้สลบไปเสียแล้ว เพื่อที่จะเลี่ยงการเ็ปอันแสนทรมานที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้
หลินลั่วหรานที่สลบไปนั้น ไม่ได้รู้เลยว่า “ผลอัคนี” ที่เธอได้กินเข้าไปแท้จริงแล้วเป็ผลไม้วิเศษที่มีอิทธิฤทธิ์มากกว่าผลไม้ในตำนานเล่าขานเสียอีกไม่ว่าใครก็ต่างพากันแย่งชิง ผลไม้ที่มีพลังวิเศษมากมายขนาดนี้แต่กลับโดนหลินลั่วหรานที่ไม่ได้รู้เื่อะไรกินเข้าไปเสียแล้วสิ้นเปลืองพลังไปกว่าเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนของพลังทั้งหมดผลที่ปรากฏออกมาจึงมีเพียงช่วยชำระล้างร่างกายของเธอแต่เพียงเท่านั้นก่อนที่ส่วนที่เหลือจะถูกเก็บเอาไว้ในสายเืและร่างกายของเธอ
ชำระโลหิตเป็เพียงฤทธิ์อย่างหนึ่งของผลอัคนีเท่านั้น ในนิยายมักจะเปรียบ “ปราณชำระไขสันหลังและโลหิต” เป็เื่เดียวกันแต่ในความจริง การชำระโลหิตนั้นง่ายมากสิ่งที่มีฤทธิ์ในการบำรุงรักษาโลหิตบนโลกนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย หากแต่ “การชำระไขสันหลัง” นั้นมีฤทธิ์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในตัวคนได้ นี่ต่างหาก ที่เป็พลังที่หาได้ยากนัก
ผ่านไปกว่าสามสี่ชั่วโมง ก่อนที่พลังที่ไหลแผ่ไปทั่วร่างของหลินลั่วหรานจะหยุดลงทั่วทั้งร่างของเธอถูกห่อหุ้มไปด้วยหยาดเหงื่อสีดำสนิท ก่อนจะค่อยๆกลายเป็ดักแด้รูปร่างมนุษย์สีดำขลับ
ไข่มุกเองก็ดูเหมือนว่าจะใช้พลังไปมากเมื่อพบว่าร่างกายของหลินลั่วหรานไม่ได้ร้อนระอุเหมือนก่อนหน้าแล้ว จึงค่อยๆสงบนิ่งอยู่บนข้อมือของเธอ และส่องประกายแสงอ่อนๆ ตัดกับดักแด้สีดำต่อไป
“กริ๊ง” นาฬิกาปลุกที่ถูกวางไว้ข้างที่นอนขยับเคลื่อนไหวไปมาหลินลั่วหรานขยี้ดวงตาของตัวเองเบาๆ
เปลือกตาแห้งผากราวกับมีบางอย่างติดอยู่บนเปลือกตา...หลินลั่วหรานใช้แรงทั้งหมดที่มีในการขยี้ตาของตัวเองอีกครั้งก่อนจะรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติไป ทำไม...บนมือเองก็มีเหมือนกันนะ
เธอสะบัดหัวของตัวเองเล็กน้อยเพื่อปลุกให้ตัวเองตื่นขึ้น ก่อนจะลืมตาขึ้นมาพบกับสิ่งผิดปกติบนร่างกายของตัวเอง
เปลือกสีดำเข้มที่ปกคลุมอยู่บนตัวส่งกลิ่นเหม็นเน่า และสกปรกไปทั่วทั้งเตียงและผ้าห่ม
หลินลั่วหรานนึกถึงความร้อนรุ่มและความเ็ปที่เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกขึ้นมา
พระเ้า นั่นไม่ใช่ความฝันอย่างนั้นเหรอ?
พื้นที่ลึกลับ ผลไม้ความเ็ป...ถ้าเอาทั้งสามสิ่งนี้มาเรียงต่อกัน หลินลั่วหรานไม่ใช่คนโง่เธอรีบลุกขึ้นก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปยังห้องน้ำทันทีหลินลั่วหรานรีบกวาดสายตาไปยังกระจกที่ติดอยู่้าของอ่างล้างหน้าใบหน้าของเธอกลายเป็สีดำสนิท เหลืออยู่ให้เห็นเพียงดวงตาทั้งสองของเธอ เพียงกะพริบตาเบาๆเธอก็รู้สึกราวกับว่าฝ้าบนกระจกนั้น จะค่อยๆ กระจ่างขึ้นมา
เธอค่อยๆ ขยับมือไม้ที่สั่นไหวของเธอไปยังใบหน้าเธอกำลังพยายามเก็บความรู้สึกดีใจเอาไว้
เพราะเมื่อถูเอาชั้นผิวที่ทั้งดำทั้งเหม็นนั่นออกไปใบหน้าและฝ่ามือของเธอก็ปรากฏเนื้อผิวสีขาวสะอาดผ่องใสออกมา เมื่อเห็นดังนั้นหลินลั่วหรานจึงรีบเปิดฝักบัวอาบน้ำไปพร้อมกับความยินดี...
หลังจากที่เธออาบน้ำชำระล้างคราบสกปรกเหม็นเน่าออกไปจนหมดสิ้นแล้วกลับมายืนอยู่หน้ากระจกอีกครั้ง เธอก็ต้องตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง
ผิวพรรณเปลี่ยนเป็ขาวใสไม่ใช่ขาวซีดเหมือนคนป่วยอย่างเคย แต่เป็สีขาวราวกับเปลือกไข่มีความมันวาวชุ่มฉ่ำ แถมพวงแก้มทั้งสองยังประดับไปด้วยสีแดงระเรื่อตามธรรมชาติเรือนผมของเธอมันเงาเปล่งประกาย งดงามราวกับเส้นไหม ปลายผมที่แห้งแตกเองก็หายไปหมดแล้ว
แต่อวัยวะต่างๆบนใบหน้ากลับไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใดจะมีก็เพียงแค่ดวงตาที่ถูกชีวิตที่ผ่านมาทรมานเสียจนไร้ชีวิตชีวาเท่านั้นที่เปลี่ยนไปตอนนี้ดวงตาทั้งสองเต็มไปด้วยพลัง ดวงตาเปล่งประกายวับวาวเหมือนอย่างที่คนโบราณว่าไว้
สรุปก็คือ เธอยังคงเป็หลินลั่วหรานคนนั้นแต่เมื่อมองดูแล้ว กลับแตกต่างจากหลินลั่วหรานคนเก่าไปอย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้เธอดูเด็กลงกว่าห้าปี!
หลินลั่วหรานใช้เวลาอยู่นานก่อนจะสามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองลงได้ แต่กว่าที่เธอจะรู้สึกตัวเวลาก็เลยผ่านมากว่าเที่ยงวันแล้ว จากตอนแรกที่ตั้งใจไว้ว่าจะออกไปหางานใหม่แต่ดูท่าว่าจะไม่ได้เสียแล้ว
หลินลั่วหรานเหม่อไปสักพักก่อนที่รอยยิ้มจะค่อยๆ หายไปจากใบหน้า เวลาแบบนี้จะไปหางานอะไรอีกตอนนี้สิ่งที่ควรทำคือพยายามหาประโยชน์ที่แท้จริงของพื้นที่ลึกลับและสระน้ำแร่นั่นก่อนถึงจะถูก!
เธอกวาดสายตาไปรอบห้อง ห้องเก่าๆ ห้องนี้พื้นห้องถูกปูด้วยกระเบื้องที่เต็มไปด้วยรอยเพราะความเก่าจนทำให้มองดูสกปรกเสียเหลือเกินและไม่ว่าจะทำความสะอาดเท่าไรก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกปลอดโปร่งขึ้นมาเลย
ที่ผ่านมาหลินลั่วหรานใช้ชีวิตโดยที่ต้องเคร่งครัดเื่ค่าใช้จ่ายมาโดยตลอดเพราะแบบนั้นเธอจึงไม่มีจิตใจจะไปปลูกดอกไม้ใบหญ้าอะไรทั้งนั้นเธอมองพิจารณาบ้านหลังน้อยของตัวเอง...คงจะมีแค่หัวห่อสิ่วโอวที่เคยซื้อติดมือมาจากตลาดแล้วล่ะเธอคิด ก่อนจะเอื้อมมือผ่านลวดดัดออกไปอย่างท้อใจ
ที่จริงห่อสิ่วโอวหัวนี้เป็เพียงสิ่งที่หลินลั่วหรานคิดจะซื้อมาเพื่อใช้บำรุงผมที่แห้งเสียจนดูไม่ได้ของตัวเองก็เท่านั้นแต่ตอนนี้ เหมือนว่ามันจะมีความหมายสำคัญขึ้นมาแล้วล่ะ
ดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของหลินลั่วหรานมองตรงไปยังห่อสิ่วโอวต้นนั้น
สายลมพัดผ่านทำให้ใบของห่อสิ่วโอวสั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อยราวกับว่ามันกำลังแสดงการตอบรับให้กับเ้าของที่กำลังวางแผนบางอย่าง...