ณ ยอดเขาจื่ออวิ๋นในถ้ำเสวียนหยวน
เสียงกัมปนาทะเืไปทั่วทิศ พลังอันรุนแรงปลุกเร้าลมและสายฟ้า เสียงคำรามขึ้นไปถึง์
ท่ามกลางลมแรง ฟ้าร้องคำราม ฟ้าผ่า และฝนที่โหมกระหน่ำ พลังของทัณฑ์์ที่มาอย่างกะทันหันเข้าปกคลุมสถานที่นั้น
“เกิดอะไรขึ้น? ใครก่อให้เกิดทัณฑ์์?”
“ดูเหมือนว่าชิวซานอวิ๋นที่อยู่ในถ้ำเสวียนหยวนจะเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่านแล้ว”
“ให้ตายเถอะ! เข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่านได้ั้แ่อายุยี่สิบต้นๆ เช่นนี้ผู้อื่นจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร?”
บนยอดเขาใกล้เคียง ศิษย์หลายคนของสำนักอินทนิลกรีดร้องและะโ พวกเขาให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงของทัณฑ์์บนยอดเขาจื่ออวิ๋นอย่างมาก
แนวเส้นพลังสีม่วงพุ่งสู่ ตรงขึ้นไปบนท้องฟ้าราวันาคา ก่อนต่อต้านทัณฑ์์ที่ฟาดลงมา
เสียงฟ้าคำรามและสายฟ้าฟาดดังกึกก้องกระทบห้วงอากาศสีม่วงราวกับคมมีด ทำให้มันกระจายออกไปไม่ต่างจากเมฆหมอก ก่อนเผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มผมสีม่วง
นักบุญชุดม่วงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้วงอากาศ เมื่อมองไปที่ชิวซานอวิ๋นซึ่งอยู่ท่ามกลางหายนะ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าชรา
“เมื่อสายเืเงาอินทนิลเติบโตขึ้นต้องทรงพลังเป็แน่ เงาอินทนิลของเ้าบรรจุทหาริญญาหรืออาวุธิญญาไว้หรือ?”
ใน่แห่งภัยพิบัติ ชิวซานอวิ๋นได้รับาเ็สาหัสจนต้องกู่ร้องออกมาอย่างดุเดือด พลังสีม่วงล้นออกมาจากกลางคิ้ว มีอักขระที่ซับซ้อนเหมือนกับเสาอากาศหมุนวนอยุ๋ภายใน ก่อนห่อหุ้มวัตถุบางอย่างเอาไว้
ขอบเขตเปลี่ยนผ่านเป็อุปสรรคใหญ่สำหรับผู้บำเพ็ญ นอกเหนือจากความสามารถ การพยายามหนัก และโอกาสแล้ว ความปรารถนาที่จะเข้าสู่ขอบเขตนี้ยังต้องผ่านการชำระจากทัณฑ์์อีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็ซิงซิว หยวนซิว หรือจื๋อซิว ทุกปีล้วนมีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตในยามเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่าน
ขั้นตอนนี้สำคัญมากจนมีคำกล่าวว่า “กำเนิดจากทัณฑ์์” ขึ้นมา
ชิวซานอวิ๋นเป็องค์ชายสามของจักรวรรดิเชียนซาน เขาเป็อัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดของราชวงศ์และเป็หนึ่งในอัจฉริยะสิบอันดับแรกในหมู่สหายร่วมสำนักในสำนักอินทนิล อีกทั้งสายเืเงาอินทนิลยังได้รับการจัดอันดับให้เป็หนึ่งในสายเืชั้นยอดที่สุดในประวัติศาสตร์ของหยวนซิว
“เ้าสังเกตหรือไม่ว่านี่ไม่ใช่การชำระจากทัณฑ์์ทั่วไปแต่เป็ทัณฑ์์ทมิฬในตำนาน ชิวซานอวิ๋นไม่ธรรมดาเลย หากเขาสามารถต้านทัณฑ์์ได้สำเร็จ เขาจะเป็หนึ่งในศิษย์สามอันดับแรกของสำนักอินทนิลอย่างแน่นอน และั้แ่นี้เขาจะกลายเป็เป้าหมายการบ่มเพาะหลักของสำนัก”
“ตามสถานะและเงื่อนไขของเขา ในอนาคตเขาจะทำให้ทุกคนใอย่างแน่นอน”
ทัณฑ์์มีทั้งแบบปกติและแบบพิเศษ ชิวซานอวิ๋นมีร่างกายที่แข็งแกร่งในขอบเขตเปลี่ยนผ่าน ดังนั้นทัณฑ์์ที่เขาต้องเผชิญจึงไม่ธรรมดาเช่นกัน
นักบุญชุดม่วงให้ความสนใจกับสถานการณ์ของชิวซานอวิ๋น และสนใจอย่างมากกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในสายเืเงาอินทนิล
ยามศิษย์จื๋อซิวเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่าน โดยคำว่า “เปลี่ยนผ่าน” หมายถึง รูปแบบที่แท้จริงของรากบ่มเพาะ
ขณะที่ศิษย์ของหยวนซิวปลุกสายเืและเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่าน แก่นแท้ในสายเืจะถูกเปิดเผย
ศิษย์ซิงซิวสื่อสารกับิญญาดาราเพื่อควบแน่นชีพจรดารา และเมื่อพวกเขาเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่าน พลังย่อมประจักษ์ตามรูปร่างของดวงิญญาดารา
นักบุญชุดม่วงมักจะมองชิวซานอวิ๋นในแง่ดีเสมอ แต่ก่อนที่จะไปถึงขอบเขตเปลี่ยนผ่าน เขาไม่สามารถตัดสินการเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่ในสายเืเงาอินทนิลได้ ดังนั้น เขาจึงไม่ถือว่าอยู่ใต้ปีกของตน
สถานะของขอบเขตเปลี่ยนผ่านมีความสำคัญมากสำหรับผู้บำเพ็ญ และเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงของหยวนซิวนั้นสำคัญยิ่งกว่านั้นอีก
ศิษย์หยวนซิวบางคนมีสายเืที่แข็งแกร่งมาก และผลงานใน่แรกก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาไปถึงขอบเขตเปลี่ยนผ่าน วัตถุเปลี่ยนผ่านกลับเป็สิ่งทั่วไป จากนั้นพวกเขาจะไม่สามารถฟื้นตัวได้ในภายหลัง
ปรมาจารย์เหนือเมฆารับศิษย์อย่างระมัดระวังอยู่เสมอ เพราะปรมาจารย์บางท่านเคยประสบความสูญเสียมาก่อน
ดังนั้น หากอยากเป็ศิษย์ของปรมาจารย์โดยยังไม่ถึงขอบเขตเปลี่ยนผ่านจึงเป็เื่ยากมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยู่ภายใต้สำนักหยวนซิว พลังของสายเืนั้นมีอยู่ในการเปลี่ยนแปลงโดยกำเนิด ก่อนจะเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่าน แม้แต่ปรมาจารย์ก็ยังตัดสินใจผิดได้อย่างง่ายดาย
สายเืเงาอินทนิลของชิวซานอวิ๋นนั้นหายากมากและมีปรมาจารย์ของสำนักอินทนิลหลายคนสนใจเขา แต่ไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นอย่างหุนหันพลันแล่นก่อนที่เขาจะเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่าน
“ดูสิ ออกมาแล้ว!” เสียงร้องแห่งความประหลาดใจสั่นูเา ทุกคนแหงนมองนภา ก่อนจะถูกดึงดูดโดยการเปลี่ยนแปลงของชิวซานอวิ๋น
เืลมของชิวซานอวิ๋นพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ลำแสงสีม่วงบนหน้าผากพุ่งตรงขึ้นไป โดยมีเงาสีม่วงม้วนอยู่ข้างใน แต่กลับโดนสายฟ้าฟาด จากนั้นใบหน้าที่แท้จริงของเขาจึงถูกเผยออกมา
“โอ้์! ที่แท้ก็เป็กวานทองอินทนิล เ้าเด็กคนนี้เหมือนมีราศีของกษัตริย์เลยไม่ใช่หรือ?”
“นี่เป็ทหาริญญาหรืออาวุธิญญา?”
“ไม่รู้!”
เงาสีม่วงแผ่กระจายออกไป เผยให้เห็นกวานทองคำที่ล้อมรอบด้วยพลังสีม่วง พร้อมพลังัที่ปรากฏขึ้นเด่นชัด
ดวงตาของนักบุญชุดม่วงสว่างขึ้น เขาโพล่งออกมาทันทีว่า “พลังสีม่วงมาจากทางทิศบูรพา นี่เป็มงกุฏจักรพรรดิ ดียิ่ง!”
ระหว่างูเา เจตจำนงอันยิ่งใหญ่หลากหลายต่างพุ่งลงมา ทันใดนั้นปรมาจารย์ทั้งเจ็ดแห่งสำนักอินทนิลก็ปรากฏตัวขึ้น นี่คือจังหวะของการเตรียมปล้น
เมื่อนักบุญชุดม่วงเห็นเช่นนี้ เขาก็หัวเราะเสียงดังและพูดว่า “ทุกคนโปรดกลับไปเถอะ ชิวซานอวิ๋นถูกกำหนดให้เป็ศิษย์ของข้าแล้ว!”
ร่างทั้งเจ็ดที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหันกลับมาและเห็นนักบุญชุดม่วง จากนั้นร่างสี่ร่างก็ถอนตัวออกไปทันที
“ทำไมไม่ให้เขาเลือกเองเล่า?” บางคนปฏิเสธที่จะยอมแพ้และมอบความคิดริเริ่มให้กับชิวซานอวิ๋น
ในไม่ช้าหายนะจากทัณฑ์์ก็คลี่คลายลง ชิวซานอวิ๋นเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่านและมาอยู่ตรงหน้าของปรมาจารย์ทั้งสี่
หลังจากการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ในที่สุดชิวซานอวิ๋นก็กลายเป็ศิษย์ของนักบุญชุดม่วง และั้แ่นั้นมาก็กลายเป็ศิษย์หลักของสำนักอินทนิล
ไม่กี่วันต่อมา ซูอวิ๋นที่สำนักหานเทียนของจักรวรรดิเชียนซานก็ประสบความสำเร็จในการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่าน ทั้งยังก่อให้เกิดทัณฑ์์ที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน
วัตถุเปลี่ยนผ่านของชิวซานอวิ๋นคือกวานทองอินทนิลซึ่งเป็อาวุธิญญาระดับกลาง นี่คืออาวุธิญญาที่เติบโตได้หรือเรียกว่าอาวุธิญญาโดยกำเนิด ซึ่งสามารถปรับปรุงได้เมื่อขอบเขตการบำเพ็ญของชิวซานอวิ๋นดีขึ้น
วัตถุเปลี่ยนผ่านของซูอวิ๋น คือ หยกหิมะอันวิจิตรงดงามซึ่งหาได้ยากตลอดทุกยุคทุกสมัย นี่เป็สิ่งที่หายากตลอดทุกยุคทุกสมัย เป็ผลิตภัณฑ์ชั้นยอดที่สามารถพบได้แต่ไม่สามารถหาได้จากอาวุธิญญา
ซูอวิ๋นกลายเป็ศิษย์หลักของปรมาจารย์สำนักหานเทียน และหลังจากนั้นนางก็ไม่ต่างจากปลาทะยานข้ามประตูั[1]ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับความรุ่งโรจน์อันไร้ขีดจำกัดทันที
วันที่แปดหลังจากซูอวิ๋นเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่านได้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในดินแดนหยวนซิง ั้แ่วังดาราและจวนหยวนไปจนถึงแดนศักดิ์สิทธิ์สามแห่งของซิงซิวและหยวนซิว ประตูศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามล้วนถูกสร้างขึ้น พวกเขาต่างััได้ถึงคลื่นพลังอันแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน
“มีพลังทะลุผ่านนภามาจากทิศของจักรวรรดิเชียนซาน!” ยอดฝีมือแห่งวังดาราสังเกตเห็นในทันทีว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป
“ส่งคนไปตรวจสอบทันที ข้ารู้สึกว่าพลังของดินแดนหยวนซิงเปลี่ยนไปราวกับมีการทะลุเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง” ยอดฝีมือจวนหยวนต่างรู้สึกไม่สบายใจและแจ้งให้แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ตื่นตัวในระดับสูงสุดทันที
“นั่นเป็ทิศของูเาไป่หลิง!” ยอดฝีมือของสำนักกายา สำนัก์ และสำนักวั่นจื๋อต่างก็ตกตะลึง เพราะคลื่นผันผวนนั้นส่งตรงมาจากส่วนลึกภายในใจกลางของูเาไป่หลิง
เยี่ยหลิงหลานยืนกลางอากาศอย่างภาคภูมิใจ นางจ้องไปยังทิศทางของูเาไป่หลิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยหมอกควัน “เป็หนิงเทียนที่ข้ามประตูสู่์และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าในี่ใช่หรือไม่?”
ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับที่สุดในูเาไป่หลิง ตำนานของประตูสู่์มักเผยแพร่เฉพาะในหมู่ปรมาจารย์เท่านั้น
ตำนานเล่าว่า ใครก็ตามที่สามารถเข้าประตูสู่์ได้จะสามารถเข้าถึง์ได้ในก้าวเดียว แต่ตลอดยุคสมัยที่ผ่านมามีอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนออกมาไล่ล่าสิ่งนี้ ทว่าไม่เคยมีใครรอดชีวิต
ยามนีู้เาไป่หลิงกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาด รังสีแสงที่วุ่นวายพุ่งตรงสู่ท้องฟ้าราวกับแม่น้ำแห่งกาลเวลาที่ทอดยาวผ่าน์
ผู้บำเพ็ญภายใต้ขอบเขตเหนือเมฆาไม่สามารถรับรู้ถึงคลื่นผันผวนประเภทนี้ได้ ดังนั้น หนิงเทียนจึงไม่รู้เลยว่าทุกสิ่งที่เขาทำมีความหมายต่อดินแดนหยวนซิงอย่างไร
ประตูสู่์เปรียบเสมือนตราประทับ ปราบปรามดินแดนหยวนซิงและตัดการติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก
หนิงเทียนกลายเป็กุญแจสำคัญในการเปิดการเชื่อมต่อระหว่างดินแดนหยวนซิงและโลกภายนอก การกระทำโดยไม่ได้ตั้งใจของเขาทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ซึ่งทำให้ปรมาจารย์เหนือเมฆาของสิบดินแดนศักดิ์สิทธิ์สั่นะเืด้วยความกลัว
วันรุ่งขึ้น แดนลับบนดินแดนหยวนซิงถูกเปิดขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดจากทุกฝ่าย ทุกสำนักและทุกหมู่เหล่าต่างดำเนินการอย่างรวดเร็ว ศิษย์ของทุกฝ่ายล้วนถูกส่งออกไปตรวจสอบ
นอกจากนี้ยังมีแดนลับที่เปิดอยู่ในูเาไป่หลิงซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนกลาง เหนือแดนลับมีพระราชวังขนาดั์อันงดงามปรากฏขึ้นในฟากฟ้ายามรัตติกาล
พระราชวังแห่งนี้งดงามตระการตา มีเรือจันทราลอยอยู่เหนือพระราชวัง ทั้งยังมีัเขียว เสือขาว หงส์แดง และเต่าดำเฝ้าทั้งสี่ด้าน นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ั์ ดอกไม้แปลกๆ หญ้าสีเขียว และไม้เลื้อยที่พัฒนาเป็ดินแดนมหัศจรรย์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนฝัน
สำนักร้อยบุปผา สำนักั์พฤกษา สำนักทะยานเวหา และสำนักเชียนเฉ่าต่างส่งศิษย์หลักขึ้นเขาไปเพื่อตรวจสอบทันที ทั้งยังปิดถนนสายหลักทุกด้านและป้องกันไม่ให้ศิษย์ของซิงซิวและหยวนซิวเข้าไป
ปรมาจารย์ของสำนักกายา สำนัก์ และสำนักวั่นจื๋อต่างมารวมตัวกันนอกูเาไป่หลิงและพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด
แดนศักดิ์สิทธิ์สามแห่งของซิงซิวและแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ของหยวนซิวต่างระบุสถานที่ได้ว่าคลื่นผันผวนมาจากูเาไป่หลิง และคาดการณ์ว่าอาจเกี่ยวข้องกับประตูสู่์
ยามนี้แดนลับถูกเปิดแล้ว กลิ่นอายที่ปล่อยออกมาจากวังนั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับซิงซิว หยวนซิว และจื๋อซิว ทั้งสองฝ่ายจึงส่งยอดฝีมือไปตรวจสอบทันที
ทันใดนั้นพายุก็รวมตัวกันทีู่เาไป่หลิง ฝนกำลังจะตก และหนิงเทียนก็ปีนขึ้นไปบนูเาและสันเขา ก่อนจะถูกการต่อสู้ระหว่างเ้าแห่งจิติญญาและปรามาจารย์ดึงดูดอย่างลึกซึ้ง
ไม้ไผ่สีเขียวนั้นปล่อยหมอกแห่งความโกลาหลไปทั่ว แม้มันจะบางมากแต่ก็ทำให้จิติญญาตื่นตระหนกและทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดรู้สึกไม่อาจทานทนได้
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆหมอก ั์ถือกระบี่ยาว ก่อให้เกิดลมและสายฟ้า ปราณกระบี่ถล่มท้องฟ้า ต่อสู้กับไผ่เขียวจนท้องฟ้ามืดลงและพื้นโลกมืดมิด
ิญญาอสูรที่อยู่ใกล้เคียงต่างหลบหนีไปจนเหลือเพียงูเาหินเปลือยเปล่า
หนิงเทียนอยู่กับทหารจิติญญาเยาเยาซึ่งหยั่งรากลึกลงกับพื้นต่างััได้ถึงพลังที่แปลกประหลาด
ขณะนั้นหนิงเทียนก็หยุดลงอย่างกะทันหัน ดอกไม้และต้นหญ้าข้างกายแกว่งไปมา พร้อมกระจายออกไปอย่างรวดเร็วจนกลายเป็ทุ่งหญ้า
ต้นไม้ใหญ่ปรากฏขึ้นด้านหลังของหนิงเทียน กิ่งก้านและใบเหยียดยาวราวกับร่มสีเขียว ทั้งยังมีดอกจื่อเถิงพันเป็เกลียวพลิ้วไหวตามสายลม
ความรู้สึกจากฉากนี้ช่างงดงามราวกับบทกวีและผู้สร้างก็คือหนิงเทียนนั่นเอง
“ที่นี่ใช่ทุ่งิญญาหรือเปล่า?”
“ใช่ แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกมันไม่ว่างหรอก”
ดอกไม้พยักหน้าพร้อมอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ในูเาไป่หลิง
“มีการแบ่งเขตทางภูมิศาสตร์ที่เข้มงวดที่นี่ สถานที่ซึ่งเ้าแห่งจิติญญาอยู่ย่อมมีทรัพยากรการเพาะปลูกที่ดีที่สุด ตามมาด้วยิญญาอสูรระดับสี่ในขอบเขตเปลี่ยนผ่าน ทรัพยากรถูกกระจายจากบนลงล่าง นอกจากนี้ยังมีโอกาสบางอย่างในแดนลับและดินแดนแปลกๆ บางแห่งที่ยังมีโชคลาภอยู่บ้าง”
หนิงเทียนมองดููเาตรงหน้า ใต้พื้นดินที่เปลือยเปล่ามีศพเกลื่อนกลาดปลดปล่อยพลังอันแปลกประหลาดอยู่ทุกหนทุกแห่ง เหนือูเามีต้นไผ่เขียวอยู่ มันเป็เ้าแห่งจิติญญาที่มีพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัว แต่เหตุใดมันไม่แปลงร่างเล่า?
“ทำไมที่นี่ถึงมีกระดูกมากมายเช่นนี้?”
“ว่ากันว่าย้อนกลับไปก่อนที่เ้าแห่งจิติญญาไผ่เขียวจะเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่าน ครั้งหนึ่งได้พบกับสตรีหยวนซิวผู้ทรงพลังซึ่งงดงามอย่างยิ่ง ต่อมาเขาได้เปลี่ยนรูปลักษณ์เป็สตรีผู้นั้น คาดไม่ถึงว่ามันจะนำไปสู่ความตาย สิ่งนี้กระตุ้นให้ยอดฝีมือจำนวนมากเข้ามาและพวกเขาต่างอยากสังหารเ้าแห่งจิติญญาไผ่เขียว”
หนิงเทียนพูดขึ้นอย่างตกตะลึง “คนเหล่านี้คือยอดฝีมือหยวนซิวที่ถูกเ้าิญญาชิงจูสังหารในอดีตหรือ?”
“ไม่ทั้งหมด ว่ากันว่านางก็เคยมาที่นี่ในภายหลังด้วย แต่เ้าแห่งจิติญญาไผ่เขียวไม่เคยพูดสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะ และไม่มีใครกล้าถามว่าที่แท้แล้วเกิดเื่ใดขึ้นกันแน่”
หนิงเทียนมองดินฝังศพโดยใช้ดวงตาจิติญญารวมกับทักษะม่านตาเพื่อมองผ่านชั้นของกระดูกแห้ง เขาเห็นว่าลึกลงไปใต้ดินหนึ่งร้อยจั้งมีสตรีผู้หนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่นโดยไม่มีคลื่นผันผวนใดอยู่จริงๆ
สตรีนางนั้นนั่งหันหน้ามาทางหนิงเทียน โดยมีกริชติดอยู่ตรงหน้าอกและมีดวงตาฝังอยู่ที่ด้ามจับ
เมื่อการจ้องมองของหนิงเทียนเข้าัักับลูกตา มันก็เปิดใช้ทันทีพร้อมกับแสงแห่งความชั่วร้ายไหลออกมา ก่อนที่ความเยือกเย็นแปลกประหลาดจะหลั่งไหลเข้ามาในหัวใจของหนิงเทียน
---------------------------------------
[1] ปลาทะยานข้ามประตูั (鱼跃龙门) หมายถึง การประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจไว้สมกับที่ทุ่มเทอุตสาหะ
