“หลิงมู่เอ๋อร์ ไม่เช่นนั้นเ้าก็ติดตามข้าเถิด รอจนพรุ่งนี้ในยามที่ข่าวลือแพร่กระจายออกไป ทั่วทั้งเมืองหลวงก็จะรู้ว่า แม่นางเซียนแพทย์ที่พวกเขาเชื่อถือและพึ่งพาเป็คนของข้าแล้ว ต่อให้ซั่งกวนเซ่าเฉินกลับมา ก็อธิบายเื่ได้ไม่กระจ่างแล้ว” ดวงเนตรหงส์ชั้นเดียวที่น่ามองของซูเช่อเหล่มองมา ั์เนตรสีนิลที่ล้ำลึกเปี่ยมไปด้วยแผนการ
เข็มเงินเล่มหนึ่งของหลิงมู่เอ๋อร์แทงสวนกลับไป แม้จะถูกเขาหลบได้อย่างง่ายดาย แต่บนเข็มเงินเล่มนั้นเคลือบพิษร้ายแรงไว้ “ท่านจะไปหรือไม่ไป?”
“ดีเหลือเกิน เ้ามันคนไม่มีมโนธรรม” ซูเช่อมุ่ยปาก บนใบหน้าแขวนความหม่นหมองไว้ ในใจกลับเ็ปขึ้นมาระลอกหนึ่ง
เมื่อครู่นางได้ลงมืออย่างหนักจริงๆ ที่แท้นางก็รังเกียจเขาถึงเพียงนี้เลยหรือ?
หลังจากซูเช่อจากไป หยางซื่อรีบดึงหลิงมู่เอ๋อร์ไปอีกด้าน กล่าวอย่างกังวลว่า “นี่มันเื่อะไรกันแน่ มู่เอ๋อร์ ในเมื่อพวกเราได้รับปากเ้าหนุ่มเฉินไปแล้ว ก็ไม่อาจทำเื่ที่ผิดต่อเขาได้ หากในใจของเ้ามีจวิ้นอ๋องน้อย ก็ไม่อาจทำให้เ้าหนุ่มเฉินต้องเสียเวลา เ้าต้องคิดให้ชัดเจน”
ก็รู้ว่าท่านแม่ต้องเข้าใจผิด หลิงมู่เอ๋อร์รู้สึกจนใจอยู่บ้าง “ท่านแม่ มู่เอ๋อร์จะเป็คนเช่นนั้นได้อย่างไรเ้าคะ อีกอย่าง เมื่อครู่ซูเช่อก็ได้อธิบายแล้วมิใช่หรือเ้าคะ ทั้งหมดนี้เป็เพียงแผนการเฉพาะหน้าเพื่อช่วยพี่โจวเท่านั้น ตอนนั้นเวลากระชั้น มีเพียงทำเช่นนั้น จึงสามารถหยุดทหารหลวงพวกนั้นได้ ไม่เช่นนั้น ทันทีที่ถูกพวกเขาตรวจค้นออกมาได้ พวกเราล้วนแต่ต้องศีรษะตกลงพื้นแล้ว”
แม้จะไม่รู้ว่าเ้าหนุ่มโจวไปประสบกับสิ่งใดมา แต่เมื่อคิดว่าทั้งครอบครัวต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย หยางซื่อก็ใจะแย่แล้ว “เหตุใดจึงเป็เช่นนี้? ถ้าอย่างนั้น ก็โชคดีที่ท่านอ๋องน้อยมาได้ทันเวลา ช่างสร้างความลำบากให้เด็กคนนั้นจริงๆ”
“วันนี้องค์ชายเจ็ดจัดงานเลี้ยงที่เหลาอาหาร ซูเช่ออยู่ในงาน ได้ยินว่าในยามนั้นพวกเขาทั้งกลุ่มพากันจากไปอย่างเร่งร้อน กลัวว่าหลังได้รับข่าว ซูเช่อก็รีบเร่งมาแล้ว เื่นี้ จะต้องขอบคุณเขาจริงๆ” เพียงแต่ไม่รู้ว่า วันหลังจะอธิบายกับพี่ใหญ่อย่างไรแล้ว
“แต่ว่า เมื่อครู่ข้าฟังความหมายของซูเช่อ เห็นได้ชัดว่าต่อเ้า เขา…”
“ไม่ว่าเขาจะมีความคิดเช่นใดกับข้า ในใจของข้ามีแต่พี่บุญธรรมเท่านั้น ท่านแม่ ท่านก็วางใจเถิด” ขัดคำพูดที่หยางซื่อยังพูดไม่จบ หลิงมู่เอ๋อร์รีบให้นางไปจัดเตรียมคน บัดนี้ ไท่จื่อมั่นใจแล้วว่าโจวฉี่เยี่ยนอยู่ในจวนสกุลหลิงของนาง โจวฉี่เยี่ยนอยู่ต่ออีกหนึ่งวินาที ก็มีอันตรายเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวินาที
เช่นนั้น ส่งเขาไปที่ใดจึงจะปลอดภัยกันเล่า?
เพื่อตบตาคนของไท่จื่อที่คอยเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณใกล้จวนสกุลหลิง หลิงมู่เอ๋อร์ให้ซางจือและเจี้ยงเซียงขับรถม้าของสกุลหลิงออกไปก่อน หลังจากดึงดูดคนที่อยู่รอบๆ ไปแล้ว ก็พาโจวฉี่เยี่ยนออกจากจวนสกุลหลิงทางประตูหลังด้วยตนเอง
รหัสลับสามหนักหนึ่งเบา อย่างที่คิด ยังคงเป็สตรีนางนั้นมาเปิดประตู หลังจากเห็นว่าเป็หลิงมู่เอ๋อร์ สตรีนางนั้นตะลึงไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นโจวฉี่เยี่ยนซึ่งอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงที่ด้านข้าง เซิงเอ๋อร์ก็รีบเบี่ยงตัว “เร็ว รับประคองเขาเข้าไปข้างใน”
รอจนหลิงมู่เอ๋อร์และโจวฉี่เยี่ยนเข้าไปแล้ว แม่นางเซิงเอ๋อร์ก็ยื่นตัวออกไปมองไปรอบๆ เมื่อมั่นใจว่าไม่มีคนติดตามมา ก็รีบปิดประตูจวนจนดีแล้วลงกลอน
“ไท่จื่อพบว่าโจวฉี่เยี่ยนอยู่ที่บ้านของข้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็ร้านอาหารหรือโรงหมอ คิดไปคิดมา ยังคงเป็ที่ของเ้าปลอดภัยที่สุด ไม่ทราบว่าแม่นางเซิงเอ๋อร์จะต้องรายงานองค์ชายเจ็ดหรือไม่?” หลิงมู่เอ๋อร์มองเซิงเอ๋อร์อย่างละเอียด สังเกตทุกความเคลื่อนไหวของนาง
นับจากนาทีที่พวกนางปรากฏตัวขึ้นที่นี่ เซิงเอ๋อร์ก็เดาได้ว่าโจวฉี่เยี่ยนมิได้ปิดบังสิ่งใดต่อหลิงมู่เอ๋อร์ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ นางยิ่งส่ายศีรษะอย่างอ่อนโยน “บัดนี้นอกจากอวี้เซิงจีแล้ว ไม่มีที่ใดปลอดภัยไปกว่าที่นี่อีกแล้ว ทางเหยียนั้น ข้าย่อมให้คนไปส่งข่าว ส่วนการที่คุณชายโจวรั้งอยู่ที่นี่ ท่านโปรดวางใจ”
เห็นได้ชัดว่า องค์ชายเจ็ดมิใช่คนประเภทที่อำมหิตไร้ศีลธรรม
ขอเพียงมั่นใจได้ว่าเขาจะไม่ทอดทิ้งโจวฉี่เยี่ยน หรือกระทั่งส่งเขาไปอยู่ในมือของไท่จื่อก็พอแล้ว
“าแที่หน้าอกของเขา ข้าได้จัดการเรียบร้อยแล้ว ยาลูกกลอนนี้ ทุกวันกินสองมื้อ มื้อละหนึ่งเม็ด ส่วนาแอื่นบนร่าง ยังต้องรบกวนแม่นางหาหมอที่ไว้ใจได้มา” หลิงมู่เอ๋อร์หยิบขวดยาออกมาจากในอกวางลงในฝ่ามือของนาง เห็นสายตาสงสัยของเซิงเอ๋อร์ นางก็อธิบายต่อว่า “หากข้าออกจากโรงหมอมารักษาแผลให้พี่ใหญ่ทุกวัน จะต้องถูกคนของไท่จื่อพบเข้าแน่ เพื่อปกป้องแม่นางเซิงเอ๋อร์ และเพื่อปกป้ององค์ชายเจ็ด ่นี้ ข้าไม่ควรปรากฏกายที่อวี้เซิงจีอีก”
“แม่นางเซียนแพทย์คิดได้รอบคอบ เป็เซิงเอ๋อร์ไตร่ตรองไม่ถี่ถ้วนแล้ว”
นางเก็บขวดยาลงไปอย่างใส่ใจ จากนั้นก็ออกไปสั่งการสาวใช้สองสามคำ สาวใช้พยักหน้าติดต่อกันแล้วรีบจากไป ดูจากฝีเท้าที่เบาและนุ่มนวล ก็เป็ผู้ฝึกวรยุทธ์เช่นเดียวกัน
“คุณชายโจวมาอยู่ข้างกายเหยียได้ไม่นาน แต่ได้รับความไว้วางใจจากเหยีย มิเช่นนั้นเื่สำคัญเยี่ยงนี้ก็คงไม่มอบให้เขาไปทำ แม้คุณชายโจวจะเป็คนของเหยีย แต่ครั้งนี้ โชคดีที่ได้แม่นางช่วยเหลือ เซิงเอ๋อร์ขอเป็ตัวแทนเหยียขอบคุณแม่นาง” มือทั้งคู่ของเซิงเอ๋อร์วางอยู่ข้างเอว ยอบกายให้หลิงมู่เอ๋อร์
“ข้ากับพี่โจวเป็พี่น้องและเป็สหาย ช่วยเขาเป็เื่ที่สมควร แม่นางเซิงเอ๋อร์เกรงใจไปแล้ว” หลิงมู่เอ๋อร์รีบประคองร่างนางขึ้นมา เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว นางยังคงชอบนิสัยของเซิงเอ๋อร์มากกว่า น่าเสียดายที่ชะตาชีวิตแปรผัน ทำให้แม่นางที่ดีเช่นนี้ต้องเสียเปล่า
“ท่านช่วยพวกเรา ก็ล่วงเกินองค์รัชทายาท ท่านรู้หรือไม่ว่าเช่นนี้จะนำความยุ่งยากมาสู่ตนเองมากน้อยเพียงใด?”
เซิงเอ๋อร์ทำสัญลักษณ์มือเป็การเชิญ สื่อให้นางย้ายไปพูดคุยกันที่ห้องโถงด้านหน้า
ยามนี้ โจวฉี่เยี่ยนยังหมดสติอยู่ ร่างกายเองก็อยู่ในสภาวะที่ดีอย่างมาก หลังจากหลิงมู่เอ๋อร์เหลือบมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตามหลังเซิงเอ๋อร์ไปอย่างสงบ “แทนที่จะให้ข้าเบิกตามองเพื่อนของข้าสิ้นชีพต่อหน้าข้า ยังไม่สู้ล่วงเกินเขา องค์รัชทายาทแม้จะอยู่เหนือคนนับหมื่น อยู่ใต้คนเพียงคนเดียว แต่ก็ไม่อาจรังแกสตรีอ่อนแอผู้หนึ่งตามใจกระมัง”
หลิงมู่เอ๋อร์ยักไหล่อย่างไม่เกรงกลัว “อย่างไรเสีย พวกเขาก็ไม่มีหลักฐานที่แท้จริง มาพิสูจน์ว่าคนอยู่ในมือของข้า กลับกัน ที่ควรกังวลน่าจะเป็แม่นางเซิงเอ๋อร์”
ถูกคำพูดนี้ของนางทำให้หัวเราะ เซิงเอ๋อร์ปิดปากหัวเราะพร้อมส่ายศีรษะ “เดิมคิดว่าแม่นางเซียนแพทย์จัดอยู่ในประเภทที่ถือตน เป็แพทย์ผู้สูงส่งเ็าที่ไม่ใกล้ชิดผู้คน คิดไม่ถึงว่าท่านจะน่าสนใจเช่นนี้ แม่นาง เชิญดื่มชา”
แบกโจวฉี่เยี่ยนมาไกลถึงเพียงนี้ก็รู้สึกหิวน้ำอยู่บ้างจริงๆ หลิงมู่เอ๋อร์ก็มิได้เกรงใจนาง “ข้าก็คิดว่านางสนมคนโปรดข้างกายขององค์ชายเจ็ด เป็พวกเย่อหยิ่งไร้มารยาท เกเรเอาแต่ใจ คิดไม่ถึงว่าจะอ่อนโยนเช่นเ้าเยี่ยงนี้ องค์ชายเจ็ดช่างวาสนาดีจริงๆ”
มือของเซิงเอ๋อร์ที่ถือจอกชาชะงัก สนมคนโปรดก็ราวกับกระบี่อันแหลมคมที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของนาง ยิ่งเป็เสี้ยนในคอของนาง
“คุณชายโจว แม้แต่ภารกิจลอบสังหารก็บอกกับแม่นาง คิดว่าคงมิพลาดที่จะกล่าวถึงเื่ของข้ากับเหยียกระมัง ข้ามิใช่สนมโปรดของเขา ส่วนเหยียอีกไม่นานก็จะแต่งงานแล้ว” ในน้ำเสียงของเซิงเอ๋อร์ มีความโศกเศร้าที่เข้มข้นอยู่ ทำให้คนเมื่อได้ฟังแล้วก็อดมิได้ที่จะสะท้อนใจไปด้วย
สตรีนางหนึ่ง รักบุรุษผู้หนึ่งอย่างหมดหัวใจ ผลคือ บุรุษจะแต่งงานแล้ว เ้าสาวกลับมิใช่นาง ช่างเป็เื่ที่น่าเศร้าและน่าโมโหอย่างมาก
“ขอโทษด้วย เป็ข้าพูดผิดไปแล้ว” หลิงมู่เอ๋อร์รีบขอโทษทันที นางคิดว่าที่องค์ชายเจ็ดไม่ยินยอมพูดถึง คือเื่ฐานะในอดีตของเซิงเอ๋อร์ที่ไม่อาจเปิดเผยแก่ผู้คน คิดไม่ถึงว่า แม้แต่ตำแหน่งหนึ่งก็ไม่มอบให้นาง
“เป็เซิงเอ๋อร์ไม่มีวาสนาจะอยู่เคียงข้างเหยีย ไม่เกี่ยวกับแม่นาง ได้ยินว่าทักษะทางการแพทย์ของแม่นางเชี่ยวชาญเป็อย่างมาก อุปนิสัยก็เปี่ยมด้วยเมตตาอย่างยิ่ง มักจะไม่เก็บค่าตรวจรักษาจากราษฎรที่ยากไร้ เทียบกับคุณหนูแล้ว เซิงเอ๋อร์รู้สึกละอายเหลือเกิน” เซิงเอ๋อร์เงยศีรษะขึ้น มุมปากฝืนรอยยิ้มออกมารอยหนึ่ง ยิ่งเป็การเพิ่มความเศร้าสร้อยเข้าไปในใจของนางอีกบางส่วน
“แม้มู่เอ๋อร์จะไม่เข้าใจองค์ชายเจ็ด แต่ก็มองออกว่า สำหรับองค์ชายแล้ว แม่นางมีความสำคัญอย่างมาก คิดว่า ขอเพียงเป็คำขอร้องจากแม่นาง องค์ชายเจ็ดล้วนไม่ปฏิเสธ ที่จริงแล้วเป็เพียงฐานะเท่านั้น เป็แม่นางไม่้าเองกระมัง?”
ถูกคนคาดเดาความคิดในใจออก เซิงเอ๋อร์ช้อนตาขึ้นมาด้วยความประหลาดใจเป็อย่างมาก มองหญิงสาวในชุดขาวตลอดร่างที่กระจ่างพิสุทธิ์ไร้ที่เปรียบผู้นี้ นางแย้มยิ้มออกมา “ที่รู้ใจข้า ก็คือแม่นาง”
ปีนั้น ในยามที่องค์ชายเจ็ดไถ่ตัวให้นาง ได้รับคำวิจารณ์จากผู้คนมากมาย อย่างไรนางก็กำเนิดจากหอนางโลม แม้จะเคยช่วยชีวิตองค์ชายไว้ แต่ก็ยังเป็สตรีในหอคณิกา ไม่สะอาด ติดตามองค์ชาย มีแต่จะทำให้ฐานะของเขามีมลทิน ส่งผลกระทบต่ออนาคตของเขา แต่องค์ชายเจ็ดกลับไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย ไม่ว่าผู้อื่นจะกล่าวอย่างไร ก็ยืนหยัดที่จะรั้งนางไว้ข้างกาย มอบความโปรดปรานอย่างไร้ที่สิ้นสุดให้นาง เพราะเื่นี้ องค์ชายเจ็ดยังเกือบถูกฝ่าาปลดจากตำแหน่ง
เซิงเอ๋อร์รู้สึกขอบคุณที่องค์ชายเจ็ดมอบความโปรดปรานให้นางเช่นนี้ จึงคอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายอย่างซื่อสัตย์หมดใจ แต่เมื่อเวลานานเข้า ย่อมมีคนริษยาตาร้อนเป็ธรรมดา ทุกคนก็พากันนำฐานะของนางออกมาเยาะหยันอีกครั้ง
หญิงนางโลม ต่อให้นางจะเรียบร้อยสง่างามอีกเพียงใด เฉลียวฉลาดอีกซักเท่าใด สุดท้าย ก็มิอาจปลดหมวกสกปรกใบนั้นออกไปได้
องค์ชายเจ็ดไม่ยอมแพ้ จะแต่งตั้งนางเป็ชายารอง เดิมนางยินดีเป็อย่างมาก แต่สตรีที่สูงศักดิ์หรูหรานางหนึ่งพลันมาหานางอย่างกะทันหัน สตรีนางนั้นกล่าวว่า ฝ่าาทรงโปรดปรานรักใคร่องค์ชายเจ็ดเป็อย่างมาก ยิ่งมีความประสงค์จะมอบบัลลังก์ของตนให้เขา แต่ทันทีที่บนร่างขององค์ชายเจ็ดมีมลทิน อย่าว่าแต่การสืบทอดบัลลังก์เลย แม้แต่ตำแหน่งองค์ชายก็ไม่ปลอดภัย
เซิงเอ๋อร์เดิมก็เป็คนที่เฉลียวฉลาด จนใจที่ชะตาชีวิตพลิกผันจนตกไปสู่หอคณิกาเท่านั้น สามารถถูกองค์ชายเจ็ดไถ่ตัวมาอยู่เคียงข้างกายก็สำนึกคุณมากแล้ว แล้วจะกล้าไปเป็ตัวถ่วงชายที่ดีต่อนางที่สุดได้อย่างไร
นางปฏิเสธคำขอแต่งตั้งเป็ชายาขององค์ชายเจ็ด แน่นอนว่าองค์ชายเจ็ดย่อมไม่รับปาก เป็นางใช้ชีวิตมาข่มขู่ องค์ชายเจ็ดจึงได้ยอมแพ้
“ตัวข้าเซิงเอ๋อร์ไม่ขอวาสนาไม่ขอบรรดาศักดิ์ ขอเพียงสามารถอยู่ข้างกายของเหยียได้ก็พอแล้ว แต่สุดท้ายแล้ว เหยียก็ยังต้องแต่งภรรยา”
เซิงเอ๋อร์ถอนหายใจเบาๆ ดวงตากระจ่างใสที่มองไปนอกหน้าต่าง กลายเป็ความเคว้งคว้างที่ทอดยาว แผ่ความหม่นเศร้าออกมา
ลือกันว่า มารดาขององค์ชายเจ็ด ซึ่งก็คือเสียนเฟยองค์ปัจจุบันรักใคร่บุตรชายเป็ที่สุด แล้วนางจะยอมให้บุตรชายเพียงคนเดียวของตน ถูกหญิงนางโลมคนหนึ่งถ่วงอนาคตไว้ได้อย่างไร
นางมิได้เล่นลูกไม้ทำให้เซิงเอ๋อร์ตาย หรือบังคับให้นางจากองค์ชายเจ็ดไป ก็ถือว่ามีเมตตาแล้ว เซิงเอ๋อร์เฉลียวฉลาด จะไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่อยู่ภายในได้อย่างไร? ดังนั้น หลายปีมานี้ เซิงเอ๋อร์อยู่ข้างกายขององค์ชายเจ็ด จึงไม่มีฐานะใดๆ
หลิงมู่เอ๋อร์ถอนใจ เสียดายที่ชะตาชีวิตของสตรีในใต้ฟ้านี้ไร้ความยุติธรรม
“แม่นางเพื่อองค์ชายเจ็ด สละฐานะที่สตรีทุกนางต่างก็้าไป ความรักที่ลึกซึ้งเช่นนี้ ไม่ว่าเป็สตรีนางใดก็มิอาจเทียบได้ มู่เอ๋อร์ใช้ชาแทนสุรา คารวะท่านจอกหนึ่ง”
หลิงมู่เอ๋อร์ยกจอกชาขึ้น ดื่มลงไปจนหมดก่อน จากนั้นจึงมอบบัตรวีไอพีของเหลาอาหารสกุลหลิงให้นางหนึ่งใบ นี่เป็ความคิดใหม่ที่นางผลักดันออกมาเมื่อสองสามวันที่แล้ว มีเพียงใช้จ่ายหรือเติมเงินครั้งละหนึ่งแสนตำลึงจึงจะได้รับบัตรนี้ บัตรนี้จะได้รับส่วนลดสองจากสิบส่วน และนโยบายที่ไม่ต้องรอ
“แม่นางเซิงเอ๋อร์หากไม่รังเกียจ วันหลังสามารถมาที่ร้านอาหารสกุลหลิงของข้าบ่อยๆ ได้ แน่นอนว่า หากวันใดท่านไม่อยากดื่มชาแล้วอยากดื่มเหล้า ข้าจะดื่มเป็เพื่อนท่าน”
เซิงเอ๋อร์ราวกับเก็บของวิเศษได้ กำบัตรไว้ในมืออย่างมีความสุข ยามมองหลิงมู่เอ๋อร์อีกครั้ง ก็มีความรู้สึกดีเพิ่มขึ้นมาอีกหลายส่วน “ขอบคุณแม่นางเซียนแพทย์มาก แม่นางมีจิตใจที่ดีงาม เซิงเอ๋อร์เห็นแล้วรู้สึกถูกชะตา ไม่ทราบว่าจะมีวาสนาได้เรียกเป็พี่น้องในวันหน้าหรือไม่?”
เมื่อเป็เช่นนั้น นางก็จะกลายเป็คนฝั่งองค์ชายเจ็ดแล้ว หลิงมู่เอ๋อร์ไม่ชอบการต่อสู้แย่งชิงในราชสำนัก แต่นางชอบนิสัยของเซิงเอ๋อร์
“ได้สิ พี่เซิงเอ๋อร์”