Power Play คุณบอสโปรดอย่าขโมยหัวใจชั้น! Sapphic Yuri GL Thai Novel มี E-book

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

เสียงเครื่องปรับอากาศในคอนโดสูงของประเทศสิงคโปร์ยังคงเย็นเงียบราวกับลมหายใจของใครบางคนที่เพิ่งดับ

ไป วีวี่ วรรษมน จันทรโรจน์ ใบหน้ารูปไข่ผิวขาวซีดแต่ดวงตาคมเข้ม ผมตรงยาวดำ ถึงกลางหลัง รูปร่างสูงโปร่ง นั่งนิ่งบนโซฟาตรงหน้าต่างเปิดกว้าง มองออกไปเห็นแสงไฟเมืองไกลสุดตา ทว่าใจของเธอกลับหม่นหมองเหมือนฟ้ายามค่ำ

 

เสียง “ติ๊ง!” จากมือถือกระตุกเธอให้กลับมารู้สึกถึงตัวหนังสือที่

ปรากฏบนหน้าจอคือชื่อ ป้าเพ็ญ หญิงมีอายุ รูปร่างสันทัด ผมสีดอกเลาหยักศกเล็กน้อย กับข้อความที่เหมือนลางร้าย 

 

วีวี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

 

แต่สุดท้ายปลายนิ้วก็เลื่อนรับสายด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง

 

“วีวี่ ป้าเพ็ญเองนะลูก”

 

เสียงปลายสายนั้นสั่นสะท้าน ราวกับคนพูดต้องใช้แรงทั้งหมดในร่างกาย

 

“ป้าเพ็ญ ดึกขนาดนี้ มีอะไรหรือเปล่าคะ” เสียงของวีวี่แม้จะพยายามสงบ แต่ในใจกลับร้อนรุ่มคล้ายจะรู้ล่วงหน้าว่าต้องได้ยินอะไรบางอย่าง แม้จะไม่อยากได้ยินก็ตาม

 

“คุณยาย ลูก คุณยายเขา ไปแล้วนะ”

 

โลกทั้งใบหยุดนิ่ง

ภาพทุกอย่างรอบตัวพร่ามัว

เสียงนาฬิกาในใจเหมือนถูกหยุดเดิน

 

“อะไรนะคะ ป้าเพ็ญพูดใหม่อีกที”

 

เสียงวีวี่แ๶่๥ลงจนแทบไม่ได้ยิน

 

“คุณยายหลับไป ไม่ตื่นอีกเลย ป้าก็อยู่ด้วย ป้าพยายามปลุก แต่ คุณยายเขายิ้มก่อนจะหลับไป”

เสียงสะอื้นนั้นเหมือนลมหนาวตัดใจ

 

วีวี่กัดริมฝีปากแน่น พยายามข่มน้ำตา แต่ก็ไร้ผล

 

“แต่ แต่ทำไม ทำไมหนูถึงไม่รู้ข่าวเร็วกว่านี้ หนู หนูยังไม่ได้กลับไป หนูยังไม่ได้กอดคุณยายเลย ป้าเพ็ญ ป้าบอกหนูทีว่ามันไม่จริง”

 

“คุณวีวี่ ยายเขารอหนูทุกวัน ยายถามถึงหนูตลอด แต่เขาก็เข้าใจ เขารู้ว่าหลานตั้งใจทำงาน ท่านก็คงไม่คิดว่าจะจากไปก่อนที่คุณวีวี่จะกลับมาเยี่ยม”

 

“ป้าเพ็ญ หนูอยากกลับไป หนูอยากเจอคุณยาย หนู หนู”

เสียงของวีวี่ขาดหาย น้ำตาร่วงเงียบ ๆ

 

ภาพอดีตผุดขึ้นในหัว — มือเหี่ยวย่นของคุณยายลูบศีรษะในวันที่เธอร้องไห้ กลิ่นข้าวต้มปลาอ่อน ๆ ยามเช้า เสียงหัวเราะแ๶่๥เบาในวันฝนตก

“ยายรักหลานมากนะวีวี่ ยายอยากให้หลานอย่าโทษตัวเอง ยายจะเป็๞คนดูแลหนูเองแทนแม่และพ่อของหนูยายจะมอบความรักให้วีวี่ของยายเยอะ ๆ เลยนะ”

 

 

 

“แต่หนู หนูทำไม่ได้ ป้าเพ็ญ หนูไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย ถ้าหนูรีบกลับไปเร็วกว่านี้ ถ้าหนูไม่มัวแต่ยุ่งกับงาน”

 

เสียงสะอื้นของเธอผสานกับเสียงสะอื้นของป้าเพ็ญ

ในค่ำคืนของสิงคโปร์ที่เต็มไปด้วยแสงไฟ

วีวี่กลับรู้สึกมืดมนราวกับห้องทั้งห้องไร้แสง

เธอล้มตัวลงกับโซฟา กอดหมอนข้างแน่น น้ำตาซึมแห้งเปรอะเลอะไปทั้งใบหน้าขาวซีด

 

หมอนข้างเปียกชื้นด้วยหยาดน้ำตา

หัวใจของหญิงสาวร้าวรานจนเจ็บไปทั้งร่าง

มีเพียงเสียงลมหายใจที่สะดุดขาดห้วงและประโยค

แ๵่๭เบา

“หนูขอโทษ ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น”

 

ในความเงียบ

 

วีวี่รู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้ในโลกที่ไม่มีใคร

ความเสียใจค่อย ๆ กลืนกินเธอทีละน้อย ราวกับจะกลายเป็๞เศษเถ้าฝุ่นล่องลอยในอากาศ

 

‘คุณยาย หนูขอโทษ’

 

เสียงในใจดังแ๵่๭คล้ายเสียงลม

ภาพความหลังย้อนกลับมาพร้อมกลิ่นข้าวต้มและอ้อม

กอดอุ่น ๆ ที่ไม่มีวันกลับมา

 

วีวี่ร้องไห้ ทั้งที่พยายามเข้มแข็ง

แต่ในค่ำคืนนี้ เธอคือเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่สูญเสียโลกทั้งใบอีกครั้ง

 

แสงอาทิตย์ยามเช้าตรู่ที่สิงคโปร์ไม่ได้อบอุ่นอย่างที่เคย

เมื่อชีวิตของวีวี่ ถูกทิ้งไว้กับความรู้สึกผิดที่กัดกินหัวใจ

เธอไม่ได้นอนเลยตลอดทั้งคืน

ในขณะที่แสงไฟริมถนนค่อย ๆ มอดดับลง วีวี่นั่งกอดเข่ากับพื้นห้อง ปล่อยให้ความมืดกลืนกิน

 

ดวงตาบวมช้ำเพราะน้ำตาที่ไหลไม่หยุด

 

ทุกวินาทีที่ผ่านไปเหมือนมีใครเอามีดเล่มเล็กมากรีดซ้ำ

ในหัวใจ — เฉียบแหลมแต่ไร้เสียง

“ถ้าฉันกลับบ้านเร็วกว่านี้ ถ้าฉันไม่อ้างว่างานยุ่ง ถ้าฉัน”

ประโยคที่ไม่สมบูรณ์วนซ้ำในหัว วนจนเวียนหัว

 

วีวี่ลุกขึ้น กวาดสายตามองตั๋วเครื่องบินที่ยังไม่ได้ใช้ซึ่งวางนิ่งอยู่

ข้างแล็ปท็อป

 

ใบจองตั๋วกลับไทยสำหรับอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า

 

ช่างโหดร้าย — ชีวิตไม่เคยรอใคร

 

มือถือสั่นขึ้นอีกครั้ง ข้อความจากป้าเพ็ญ

 

“ไม่ต้องห่วงเ๹ื่๪๫ที่บ้าน ป้าจัดการทุกอย่างเอง ถ้ากลับมาเที่ยวบินไหนแจ้งป้านะคะ ป้าจะไปรับเอง”

 

 

วีวี่กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

 

เธอกดโทรศัพท์กลับไปหา แต่ไม่มีใครรับสาย

 

มีเพียงเสียงตอบรับอัตโนมัติที่ดังซ้ำ ๆ

 

“หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”

 

เธอขดตัวอยู่บนโซฟา เหม่อมองภาพถ่ายครอบครัวเก่า ๆ ที่ติดอยู่ในสมุดบันทึก

 

ภาพเด็กหญิงวัยหกขวบกอดคุณยายอมรา หญิงชราใบหน้าอิ่ม ยิ้มสวย รูปร่างสมส่วน ผมสั้นทัดหูสีขาวแซมดำ ไว้แน่น

 

ภาพนั้นสดใส — แต่ในวันนี้สีสันทุกอย่างหม่นลง

 

วีวี่ซบหน้ากับฝ่ามือ

เสียงสะอื้นพร่าดังขึ้นในห้องที่ไม่มีใครได้ยิน

ใจของเธอเต็มไปด้วย “ถ้า”

เต็มไปด้วย “ทำไมฉันถึงไม่อยู่ตรงนั้น”

เสียงในใจของเธอดังก้อง

 

“วีวี่ หลานรัก ยายอยู่ตรงนี้เสมอ”

 

“แต่ยายคะ หนูขอโทษ หนูอยากอยู่ข้างยาย หนูอยากบอกลา”

“อย่าร้องไห้นะลูก ยายรักหลานมาก รักเสมอไม่ว่าอยู่ที่ไหน”

 

ในความเงียบ วีวี่ได้แต่พร่ำขอโทษกับความว่างเปล่า

น้ำตาเปื้อนหมอนสีขาว

เวลาเดินช้า ๆ อย่างทรมาน

 

เครื่องบินหลายเที่ยวบินทะยานผ่านหน้าต่างสูง

แต่เธอไม่เหลือแม้แต่แรงจะซื้อตั๋ว หรือสติที่จะประคองเอาไว้ได้ การสูญเสียที่เธอไม่คาดฝันนี้ ทำให้ความเป็๲หญิงแกร่งของเธอ ถูกแทนที่ด้วยความอ่อนไหวในทุกสิ่ง

มีเพียงความเสียใจและความคิดถึงที่ทับถมจนแน่นอก

ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โลกของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล

 

หญิงสาวนั่งนิ่งจนฟ้าสาง

 

หัวใจร้องไห้กับสิ่งที่ไม่มีวันได้พบอีก

เธอประคองสติทั้งหมดที่มีเอื้อมหยิบโทรศัพท์อีกครั้ง

เปิดรูปคุณยายอมราที่เคยยิ้มอ่อนโยน

 

“ยายคะ หนูจะรีบกลับไปหา อย่าน้อยให้หนูได้ลาคุณยายเป็๲ครั้งสุดท้าย”

 

เสียงแ๶่๥เบาราวกระซิบกับอดีตที่ไม่มีวันหวนกลับ

และใกล้รุ่งวันต่อมา

 

ชีวิตของวีวี่เปลี่ยนไป

 

เธอรู้สึกถึงหลุมดำในหัวใจ หลุมที่ไม่ว่าเวลาหรือความสำเร็จใด ๆ ก็ไม่อาจเติมเต็ม

 

การจากลาที่ไม่มีวันได้กล่าวลา

และคำว่า “เสียใจ” ที่ไม่มีใครช่วยปลดปล่อยนอกจากตัวเอง

 

เสียงล้อกระเป๋ากลิ้งไถลไปบนพื้นสนามบินชางงี

วีวี่ก้าวผ่านผู้คนมากมายในโถงผู้โดยสารขาออก

เธอสวมแว่นกันแดดบังตาบวม ๆ ทั้งที่ยังเช้ามาก ๆ

แต่ก็ปิดซ่อนไม่มิดรอยแดงช้ำและน้ำตา

 

ในมือถือเอกสารการเดินทาง อีกมือกำโทรศัพท์แน่น

มีแชทล่าสุดจากป้าเพ็ญที่เปิดวนอ่านซ้ำ

 

 

“เดินทางปลอดภัยนะคะ”

 

ข้อความนั้นสั้น แต่เต็มไปด้วยความปรารถนาดี

เธอเดินไปต่อแถวเช็คอิน

เสียงประกาศภาษาจีนและอังกฤษคลออยู่รอบตัว

 

กระเป๋าเดินทางที่ใส่เพียงเสื้อผ้าชุดสีดำ โดยไม่เตรียมอย่างอื่นที่มีสีสรรมามากนัก

 

ทุกวินาทีที่ต่อคิวและเดินผ่านจุดตรวจ

 

วีวี่ได้แต่ภาวนาให้เวลาหมุนถอยหลังหรืออย่างน้อยก็วิ่ง

ให้เร็วขึ้นเพื่อเธอจะได้กลับไปทันกล่าวลา

 

ภายในห้องรับรองขาออก

 

เธอหยิบโทรศัพท์มาดูรูปภาพเก่า ๆ

รูปถ่ายกับคุณยายในวันสงกรานต์เมื่อสิบกว่าปีก่อน

รอยยิ้มในรูปตรงกันข้ามกับใบหน้าตัวเองที่กำลังร้องไห้

 

เสียงประกาศ boarding

เที่ยวบินเช้าสุดของวัน

 

เธอเดินขึ้นเครื่อง รู้สึกเหมือนตัวเองลอยคว้างกลางอากาศ

เบาะชั้นประหยัดที่เคยนั่งสบาย

กลับกลายเป็๞พื้นที่ที่แสนจะอึดอัด

 

 

 

เธอวางหัวพิงหน้าต่าง เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ามืด

ไฟในห้องโดยสารหรี่ลง

ผู้โดยสารข้าง ๆ หลับไป ด้วยไฟล์บินที่เช้ามาก

แต่วีวี่นั่งกอดอก น้ำตาไหลเป็๲ทางในความเงียบ

 

เสียงเครื่องยนต์เครื่องบินและเสียงหัวใจของตัวเองกลบเสียงอื่นหมดสิ้น

 

 

หญิงสาวนั่งนึกถึงเสียงอบอุ่นของคุณยาย

คำพูดที่วนเวียนในความทรงจำ

 

“ถึงยายจะไป ยายก็ยังรักหลานเสมอ”

 

เธอเม้มปากแน่น พยายามไม่ร้องออกมา

 

แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ให้กับความคิดถึงที่เอ่อล้น

“คุณยาย หนูกำลังกลับบ้าน ไปหาคุณยายนะ”

 

เวลาบนเครื่องเหมือนยืดยาวไม่มีที่สิ้นสุด

แสงจากพระอาทิตย์หน้าต่างบอกว่าใกล้ถึงสุวรรณภูมิแล้ว

 

มือของเธอเย็นซีด

ยามสาย ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

วีวี่เดินออกจากเครื่องในชุดดำ

กระเป๋าเดินทางลากตามหลัง ท่ามกลางผู้โดยสารขวักไขว่

เธอหยุดยืนกลางโถงรับกระเป๋า

ที่เธอเคยมีคุณยายมารอรับ

 

แต่ตอนนี้คงไม่มีวันนั้นแล้ว

 

วีวี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหมายเลขของป้าเพ็ญ

ลังเลว่าควรโทรหาเลยไหม

น้ำตารื้นขณะกดโทรออก

ปลายสายรับเร็วผิดปกติ

“วีวี่ ถึงแล้วหรือยังลูก”

เสียงป้าเพ็ญฟังดูแหบพร่า

“ถึงแล้วค่ะป้าเพ็ญ ขอบคุณที่มารอรับหนูนะคะ”

 

น้ำเสียงวีวี่สั่นสะท้าน

 

“ไม่เป็๞ไรลูก ป้ารออยู่ที่หน้าประตูทางออกหมายเลข 2 นะ”

วีวี่พยักหน้ากับโทรศัพท์

ขยับขาออกเดินทั้งที่หัวใจยังไม่พร้อม

ผู้คนมากมายเดินผ่าน

แต่มีเพียงความว่างเปล่าเคียงข้างเธอ

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้