ชาวบ้านยี่สิบกว่าคนที่มาช่วยเหลือเมื่อคืนล้วนเป็คนสกุลซี
เซวียเสี่ยวหรั่นให้อูหลันฮวาไปซื้อสุราอาหารมาเตรียมจัดงานเลี้ยงสองโต๊ะ
อูหลันฮวาสะพายกระบุงหนักอึ้งกลับมา มือทั้งซ้ายขวาหิ้วไก่มาสองตัว เป็ดสองตัว ปลาเฉ่าตัวใหญ่สองตัว และหมูสามชั้นอีกสองชิ้นใหญ่ๆ
นางเดินเข้าหมู่บ้านทางด้านหน้าอย่างสง่าผ่าเผย ดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก
"หลันฮวา ซื้อของมาเยอะขนาดนี้ บ้านสกุลเหลียนจะเลี้ยงแขกอีกแล้วรึ" ชาวบ้านส่วนใหญ่ล้วนทราบเื่ที่อูหลันฮวาทำงานให้บ้านสกุลเหลียนแล้ว
"อื้อ ใช่แล้ว เมื่อวานผู้าุโซีพาคนไปช่วยเหลือ วันนี้ต้าเหนียงจื่อก็เลยเชิญทุกคนไปเลี้ยงอาหาร เพื่อแสดงความขอบคุณ" อูหลันฮวากล่าวถึงต้าเหนียงจื่อกับหลางจวินสกุลเหลียนอย่างภาคภูมิใจ
"สองผัวเมียสกุลเหลียนคู่นี้ช่างใจกว้างยิ่งนัก"
"นั่นน่ะสิ ผู้าุโซีก็มีความสัมพันธ์อันดีกับพวกเขาเสียด้วย"
พอได้ยินชาวบ้านส่วนใหญ่ชื่นชมเ้านายของตนเอง อูหลันฮวาก็เบิกบานใจตามไปด้วย
"นังเด็กสมควรตาย เ้ามานี่"
พออูหลันฮวาเดินไปถึง่กลางหมู่บ้าน ภรรยาของอูต้าฟางก็พาบุตรชายคนโตมายืนขวางทางที่นางต้องผ่าน
"มีอะไร" อูหลันฮวาสีหน้าบึ้งตึง ถลึงตาใส่พวกเขาอย่างไม่เป็มิตร
ภรรยาอูต้าฟางถูกถลึงตาก็ตื่นตระหนกในใจ แสร้งฝืนทำสีหน้าอ่อนโยน "หลันฮวา ดูเ้าสิ ไปทำงานบ้านสกุลเหลียนแค่ไม่กี่วัน ก็อ้วนท้วนขึ้นขนาดนี้ จิ๊ๆ นี่คงตกบ่อเงินบ่อทองอยู่สุขสบายเลยสิท่า เ้าว่าหากไม่เพราะพวกเรา เ้าจะมีชีวิตที่ดีเช่นตอนนี้หรือ"
ดูเอาเถอะ คนหน้าด้านอย่างไร้ผู้เปรียบปานในใต้หล้า โฉมหน้าเป็อย่างไร บอกคร่าวๆ ได้ว่าก็คือคนประเภทนี้เอง
อูหลันฮวาแค่นเสียงเยาะ "มีวาจาก็พูด มีลมก็ผาย หากไม่จ่ายค่าจ้าง ก็อย่าเสียเวลางานของข้า"
คำพูดตอนต้นไม่กี่ประโยคของนาง ก็ทำให้ภรรยาอูต้าฟางหน้าง้ำ แต่ถ้อยคำประโยคสุดท้าย กลับกระตุ้นความคิดของใครบางคนเข้า
"หลันฮวา แต่ละวันสกุลเหลียนให้เงินค่าจ้างเ้าเท่าไร" พวกเขาไม่เซ้าซี้ถามแม่เฒ่าอูชี แต่ผู้อื่นคร้านจะแยแสพวกเขาด้วยซ้ำ
"ใช่กงการอันใดของพวกเ้า"
คำพูดประโยคนี้ทำให้ภรรยาอูต้าฟางหน้าดำทะมึนยิ่งกว่าสีหมึก
แต่หัวใจนางกลับเบิกบานปานบุปผา
"หลันฮวา เ้าเอ่ยวาจาเช่นนี้กับาุโเชียวหรือ" ลูกผู้พี่ของนางเต้นผางออกมาทันควัน
"ข้าอูหลันฮวาไร้พ่อขาดแม่ไม่มีญาติมิตรที่ไหน ใครอยากเป็ผู้าุโของข้า ก็จ่ายเงินซื้อตัวข้าก่อนสิ แล้วค่อยมาว่ากัน" แม้อูหลันฮวาจะพูดไม่ชัดถ้อยชัดคำ แต่กลับไม่จำนนด้วยเหตุผลแม้แต่น้อย
สองแม่ลูกฝ่ายตรงข้ามโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง
อูหลันฮวาได้รับชัยชนะอย่างงดงาม ก็ยกเท้าคิดจะจากไป
"ช้าก่อน ในมือเ้ามีอาหารมากมายเช่นนี้ แบ่งไก่กับเป็ดมาอย่างละตัว พวกเราเลี้ยงเ้ามาตั้งหลายปี ขอสิ่งของแค่นี้คงไม่มากเกินไปกระมัง" ภรรยาอูต้าฟางมองหมูเห็ดเป็ดไก่ในมือของนางด้วยสายตาละโมบ
อูหลันฮวาจดจ้องนาง ยิ้มเผยฟันขาวทั้งปาก
"เมื่อคืนข้าเป็คนหักแขนขาของเ้าพวกสามานย์แปดคนนั้นเอง"
ภรรยาอูต้าฟางตะลึงพรึงเพริด หันไปมองบุตรชายที่หน้าขาวซีด เื่ที่ท้ายหมู่บ้านเมื่อคืนนี้ พวกเขาก็ได้ยินมาบ้าง
ที่แท้คนที่ตีอันธพาลเ่าั้จนแขนขาหักถึงกับเป็อูหลันฮวา
ทั้งสองตัวสั่นงันงกขึ้นมาทันที
อูหลันฮวาใช้สายตาเยียบเย็นจ้องไปที่แขนขาของพวกเขา
ภรรยาอูต้าฟางรู้สึกข้อมือข้อเท้าเย็นวาบ หนังศีรษะชาดิก หวาดกลัวจนกรีดร้องออกมาแล้วลากบุตรชายวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
พอพวกเขาวิ่งหนีไปแล้ว สีหน้าเหี้ยมเกรียมของอูหลันฮวาก็หายวับไป
นางยิ้มเยาะใส่แผ่นหลังของสองแม่ลูกคู่นั้น เดินกลับท้ายหมู่บ้านด้วยความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
อาหารยิ่งเยอะ งานที่ต้องเตรียมยิ่งมากตาม
ทั้งฆ่าไก่ ฆ่าเป็ด ฆ่าปลา ถอนขน ขอดเกล็ด เลือกผัก ล้างผัก
ซีมู่เซียงก็เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งสามยุ่งหัวหมุนตลอด่เช้า จนกระทั่งถึงเที่ยงวัน พวกซีต้าเฉียงก็แบกโต๊ะกับเก้าอี้ พร้อมกับของประเภทถ้วยชามตะเกียบติดมือมาด้วย
การนำของจากบ้านมาเข้าร่วมงานเลี้ยงถือเป็เื่ปรกติมากสำหรับคนหมู่บ้านนี้ แต่น้อยคนนักที่จะเตรียมทั้งหม้อดิน ทั้งชามใบใหญ่ และโต๊ะเก้าอี้มามากมายขนาดนี้
ซีต้าเฉียงยังเตรียมสุรามาด้วยสองไห
ขณะตักอาหารใส่หม้อดิน เซวียเสี่ยวหรั่นก็นึกขึ้นได้ว่าสือโถวยังไม่มา
จึงให้อูหลันฮวาไปตามเขามา
ชั่วขณะที่อูหลันฮวาจูงสือโถวเดินเข้ามา คนที่นั่งอยู่เต็มเรือนก็เงียบกริบ
"หลันฮวา พาสือโถวไปล้างมือ แล้วพาไปนั่งกินกับพวกเราในห้อง เขายังเด็ก ไม่อาจกินอาหารดื่มสุราร่วมกับผู้ใหญ่"
เซวียเสี่ยวหรั่นเข้ามาประนีประนอมสถานการณ์ พลางยิ้มทักทายกับสือโถว
เด็กชายก้มหน้างุดเดินผ่านด้านข้างของคนกลุ่มใหญ่ตามอูหลันฮวาเข้าไปในครัว ล้างมือสะอาดแล้วก็เข้าไปในห้องปีกตะวันตก
รอจนเขาเข้าห้องไปแล้ว ผู้คนก็เริ่มซุบซิบนินทา
"ผู้าุโ เหตุใดเหลียนต้าเหนียงจื่อถึงดีกับเ้าลูกเต่านั่นนัก เด็กคนนั้นดวงชะตาแรงมากเลยนะ" มีคนถามซีต้าเฉียง
"เมื่อวานเด็กคนนี้มาแจ้งข่าวกับต้าเหนียงจื่อ พวกเ้ารู้แค่นี้ก็พอ อย่าแพร่งพรายออกไป จะได้ไม่นำภัยมาให้เด็กคนนั้น" ซีต้าเฉียงกำชับเสียงเบา
ทุกคนต่างทำสีหน้ารับรู้
ที่แท้ก็เป็เช่นนี้ มิน่าสกุลเหลียนถึงไม่ถือสาเื่ดวงชะตาของเด็กคนนั้น
หลังจากเหลียนเซวียนออกมาจากห้องเข้านั่งประจำที่ ยังมีคนทนไม่ได้เล่าเื่สือโถวให้เขาฟัง
เหลียนเซวียนยิ้มบางๆ เขาย่อมรู้เื่นี้แล้ว
การปล่อยข่าวลือว่าเด็กมีดวงชะตาพิฆาตบุพการีเป็เพียงเพทุบายชั้นต่ำประเภทหนึ่ง
ดูท่าสถานะของเด็กคนนั้นน่าจะมีปัญหา
พอเห็นว่าเขามีท่าทีไม่แยแส ผู้อื่นก็ไม่กล้าพูดมาก
"พอแล้ว เด็กอย่างเขาโตมาได้ขนาดนี้ก็ไม่ง่ายแล้ว พวกเ้าอย่าพูดเหลวไหลส่งเดชกันอีกเลย" ซีต้าเฉียงตัดบท
"ผู้าุโ ไม่ใช่พวกเราที่ถือสา เป็พวกสกุลอูต่างหากที่ไม่ยอมให้เขาเข้าหมู่บ้าน สกุลซีของพวกเรามิได้เคร่งครัดเพียงนั้น" มีชาวบ้านเอ่ยขึ้นมา
"ใครใช้ให้ผู้เฒ่าอูอยากเลี้ยงเขาไว้ภายใต้นามสกุลอูเองเล่า ผู้นำสกุลอูย่อมไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว หากพวกเราสกุลซีจะรับเลี้ยงเด็กที่มีดวงพิฆาตบุพการีไว้ เกรงว่าคงจะคัดค้านเหมือนกัน"
ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็น
"ดวงพิฆาตบุพการีอะไร ล้วนเป็ข่าวลือไร้แก่นสารทั้งสิ้น ใครจะรู้ว่าจริงหรือเท็จ"
"ผู้เฒ่าอูก็ถูกพิฆาตจนตายมิใช่หรือ"
"เหลวไหล ผู้เฒ่าอูสุขภาพไม่แข็งแรงมาแต่ไหนแต่ไร ประกอบกับอายุหกสิบกว่าแล้ว ในหมู่บ้านมีคนชราอายุเกินเจ็ดสิบสักกี่คนกัน"
"พูดไปแล้วก็จริง ผู้เฒ่าอูอายุปูนนี้แล้ว ร่างกายก็ไม่แข็งแรง ไม่น่าจะใช่ว่าถูกเด็กพิฆาตหรอก"
คนเ่าั้กินไปคุยไป เสียงก็ดังขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
คนในห้องได้ยินเสียงพวกเขาคุยกันชัดเจน
สือโถวก้มหน้าต่ำลงไปเรื่อยๆ สีหน้าฉายแววโศกเศร้า
"สือโถว อย่าเสียใจไปเลย พวกเราต่างรู้ดีว่าผู้เฒ่าอูแค่ถึงแก่อายุขัยตามธรรมชาติ ไม่เกี่ยวข้องกับเ้า" ซีมู่เซียงถอนหายใจ
"ใช่แล้ว สือโถว เ้าอย่าไปฟังคนปากพล่อยเ่าั้พูดจาส่งเดช นามของเ้าผู้เฒ่าอูเป็คนตั้งให้ พวกเขาไม่อยากให้เ้าใช้แซ่อู ถึงกุเื่มั่วซั่วมากล่าวโทษเ้า" แม้อูหลันฮวาจะแซ่อู แต่นางไม่เคยคิดว่าสกุลอูจะวิเศษวิโสอะไรมากมาย
มีแต่พวกไม่เป็โล้เป็พายน่าดูแคลนทั้งนั้น
"ชื่อสือโถวผู้เฒ่าอูตั้งให้หรือ เช่นนั้นก็เรียกอูสือโถวล่ะสิ" เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นสีหน้าหดหู่ของสือโถวก็ใจอ่อนยวบ
"ได้ที่ไหนกัน ผู้นำสกุลอูไม่ยอมให้เขาใช้แซ่อู สือโถวจึงมีแต่ชื่อเล่น ความหมายก็คือให้เขาใช้ชีวิตอย่างก้อนหินทั้งแข็งแกร่งและทรหด" ซีมู่เซียงอธิบาย
ไม่มีแซ่ เซวียเสี่ยวหรั่นดวงตาสว่างวาบ
นางพิจารณาเด็กคนนี้อย่างละเอียดชั่วขณะหนึ่ง "สือโถว เ้าใช้แซ่เซวียตามพี่สาวดีหรือไม่"
