กู้หลานอันไม่ได้พูดอะไร เลิกคิ้วใส่เธอแล้วทอดสายตาไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ อันนาที่คุยกับอันนาอย่างมีอรรถรสเมื่อสักครู่ฟังเธอพูดว่า “โอ้มายก๊อด! อันนา!คนนี้ก็คือลูกชายของเธอเหรอ? คนที่จะมาแทนตำแหน่งของฟู่ซี? หน้าตาดีสมบูรณ์แบบจริงๆ ”
“ฟู่ซี เธอหมายถึง คนที่ถูกเลิกจ้างคือฟู่ซีเหรอ? ” กู้หลานอันยิ้มช่างสมกับเป็ศัตรูคู่อาฆาตกันจริง ๆ
“ธงเธออะไร ไม่มีมารยาท นี่คือพี่เคซี่ เป็สไตล์ลิสต์อันดับต้น ๆของโลก” อันนาบ่นเขาและยิ้มให้อย่างชั่วร้ายแล้วพูดว่า “ว่าไงลูก ตอนนี้อยากถ่ายขึ้นมาบ้างรึยัง? ”
“ถ่าย” ยังไงก็มาแล้วรับไว้ก็ได้ถ้าเกิดฟู่ซีรู้ว่างานพรีเซนเตอร์ที่เขาถูกถอดตัวเองมารับแทนงั้นพรุ่งนี้เริ่มถ่ายทำสีหน้าของเขาจะน่าเกลียดแค่ไหนกันนะ
“แม่รู้อยู่แล้วว่าลูกต้องรับงานนี้” อันนาได้ทียิ้มแล้วกะพริบตาให้เคซี่ “ต้องรบกวนพี่เคซี่แล้ว” แล้วลากเสื้อกู้หลานอันเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อไป
อีกครั้งที่กู้หลานอันออกมาทุกอย่างกระทั่งอากาศก็นิ่งเงียบผลิตภัณฑ์ที่อันนาเป็พรีเซนเตอร์คือแบรนด์วีนัสน้ำหอม “Wei SiRan” โฆษณาออกแบบให้เป็ชนชั้นสูงคนหนึ่ง ขณะที่ลงมาร่วมเลี้ยงท่ามกลางบรรดาสาวงาม ก็ได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวซินเดอเรลล่า จากนั้นก็เดินเข้าใกล้เธอและเชิญชวนเธอเต้นรำณ ตอนนั้นซินเดอเรลล่าจากคนปุถุชนหน้าตาธรรมดาก็แปลงร่างเป็เ้าหญิงที่เฉิดฉายเจิดจรัสตัวละครที่กู้หลานอันแสดงก็คือชนชั้นสูงคนนั้นเคซี่เลือกชุดทักซิโด้สีดำเข้ารูปให้เขาที่สูงยาวเข่าดี สวมรองเท้าหนังสีดำใบหน้าถูกแต่งให้ออกแนวลูกครึ่ง จากนั้นแต่งแต้มด้วยลูกเล่นเล็กน้อยจนเกิดเป็ความเข้ากันที่สมบูรณ์แบบ ทำให้เขาดูผยองและจองหอง สูงส่งแต่ก็เ้าเล่ห์เขายืนอยู่ตรงนั้นสีหน้าไร้ความรู้สึก ยิ่งทำให้คนรู้สึกอยากจะไต่เต้าเข้าไปหาได้
“เคซี่ เธอช่างเหมือนดั่งเทพที่มีอยู่จริงแค่แต่งหน้าให้เขาก็ทำให้เขาดูดีเป็ผู้เป็คนขึ้นมาเลย” อันนาที่เพิ่งเติมหน้าเพิ่มออกมากล่าวชื่นชมจนทำลายบรรยากาศอันเงียบสงบ คนทั้งหมดล้วนตกตะลึงจนอ้าปากค้างว่านี่คือการชมคนเหรอ
“ไม่หรอก เดิมทีลูกชายเธอก็สมบูรณแบบอยู่แล้ว อันนาฉันขอบอกอะไรเธอลูกชายคนนี้ของเธอ วัตถุดิบที่ผสมกันในวงการบันเทิงคือความเป็ธรรมชาติต้องพึ่งใบหน้าแบบนี้ที่จะทำให้เราพุ่งออกไปยังโลกกว้างได้”เคซี่เดินเข้าไปใกล้อันนาพลางมองกู้หลานอันแล้วกล่าว
“จริงเหรอ? ” อันนาครุ่นคิด
“พี่อัน ผู้กำกับถามว่าพวกพี่เตรียมตัวเสร็จรึยัง? ” ผู้ช่วยผู้กำกับไล่ให้มาถาม
“เสร็จแล้ว เริ่มได้เลย” อันนาได้สติกลับคืนมาแล้วตอบ
ถึงอย่างไรกู้หลานอันก็เป็คนใหม่ บวกกับเกิดมาในวงการร้องเพลงคนทั้งหมดนั้นเตรียมตัวเื่ถ่ายเสียอย่างไม่จำกัดไม่คาดคิดว่าเขาจะทำให้คนทั้งหมดอึ้งโดยการถ่ายเทคเดียวผ่าน
อันนามองด้วยสายตาชื่นชมไปที่ลูกชายที่มุดเข้าห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าถ่ายฉากต่อไป ตอนที่ออกมาเห็นลูกชายอยู่กับผู้กำกับนึกว่าในที่สุดลูกชายก็หัดเรียนรู้การกระชับความสัมพันธ์คาดไม่ถึงว่าเขาไปกล่าวลากับผู้กำกับ
เห็นลูกชายเดินมาทางประตู อันนารีบขวางไว้ ลูกจะรีบไปไหน? เวลารวม ๆ ก็แค่งานโฆษณาชิ้นเดียวลูกก็อยู่ที่นี่ไปจนถ่ายเสร็จ จะได้เช็กความนิยมด้วย”
“ไม่ต้องหรอก ผมไม่อยากแสร้งทำตัวเพื่อให้ได้รับคำเยินยอ แล้วก็เมื่อกี้ตอนที่ผมออกมาผมได้สั่งให้หวังเว่ยไปซื้อของมาเลี้ยงพนักงานเรียบร้อยแล้วครับไม่จำเป็ต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่อีก” กู้หลานอันตอบ
“เอาล่ะ แต่ว่าลูกกลับบ้านลูกก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ก็อยู่ที่นี่ว่าง ๆ กับกลับบ้านอยู่ว่าง ๆ ก็ไม่มีอะไรแตกต่างไม่ใช่เหรอ? ” อันนากล่าว
“ใครบอกว่าผมกลับบ้านแล้วไม่ทำอะไร? เล่นพูดให้ผมดูไร้ประโยชน์เลยผมก็มีเื่ที่ผมอยากจะทำรึเปล่า? ”กู้หลานอันแย้งอย่างไม่สบอารมณ์
“ลูกจะมีเื่อะไรให้ทำ? นอกจากนอนดูคลิปวิดีโอ? ”อันนาเบ้ปาก
“ไม่นะ วันนี้ผมจะไปย้ายบ้าน” กู้หลานอันวางะเิทิ้งไว้แล้วรีบจากไป
“ย้ายบ้าน? ย้ายบ้านอะไร? ลูกจะย้ายไปไหน? ” อันนาไล่ถามแต่กู้หลานอันหนีไปไกลแล้ว
“เ้าบ้านี่” อันนาก่นด่า ส่ายหัวอย่างระอากู้หลานอันจู่ ๆ ก็จะย้ายออกจากบ้านใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าเขากำลังจะก่อเื่วุ่นวายอะไร เพียงแต่เธอคิดไม่ตก ตอนเช้ากู้หลานอันยังพูดเป็มั่นเป็เหมาะรับปากว่าจะไม่ไปหาเจาเยี่ยทำไมแค่่เช้าก็งอแงจะย้ายออกจากบ้านหรือว่าเมื่อคืนที่กู้หลานอันออกหน้าแทนเจาเยี่ยแล้วทำให้เจาเยี่ยรู้สึกประทับใจ? แล้วโทรบอกให้กู้หลานอันย้ายไปอยู่ด้วยกัน? เมื่อคิดถึงความเป็ไปได้นี้อันนาสีหน้าตื่นใ หรือว่าลูกชายที่ตัวเองเฝ้าเลี้ยงดูมาสิบแปดปีกำลังจะถูกเด็ดดอกเก๊กฮวยแล้ว…คุณแม่กู้ตกสู่ภวังค์ลึก yy คิดไปถึงลูกชายตัวเองที่พูดคำพูดหน้าไม่อายกับเจาเยี่ยคืนนั้น
รอจนหวังเว่ยขึ้นชั้นสอง แจกจ่ายเครื่องดื่มแล้วลงมา เวลาก็ล่วงเลยไปมากกู้หลานอันจึงกลับบ้านไปเก็บข้าวของ ของที่ต้องเก็บมีไม่เยอะ มีเพียงของจิปาถะแต่ก็ใส่สัมภาระได้ถึงสามกระเป๋า คาดว่าได้หวังเว่ยช่วยเหลือ จะได้หิ้วออกไปสบาย ๆเวลาที่เก็บข้าวของนั้นตรงกับเวลาอาหารพอดี กู้หลานอันเก็บจานชามของหวังเว่ยที่วางอยู่บนโต๊ะเมื่อครู่ตัดความคิดที่จะไปหาเจาเยี่ย แล้วเก็บกวาดโต๊ะให้เรียบร้อย
หลังจากเก็บกวาดโต๊ะ ทำความสะอาดทุกอย่างเสร็จกู้หลานอันก็ไปกดกริ่งประตูห้องของเจาเยี่ย นานสักพักไม่เห็นเจาเยี่ยเปิดประตูเดาว่าคงออกไปด้านนอก กู้หลานอันถอยกลับมาห้องของตัวเองแล้วเริ่มเก็บข้าวของเมื่อเก็บเสร็จ ยังไม่เห็นเจาเยี่ยกลับมา กู้หลานอันนอนไถเวยป๋อ [1] บนเตียงอย่างเบื่อหน่าย
เมื่อเห็นคำค้นหายอดฮิตในเวยป๋อ กู้หลานอันยิ้ม หลี่จานี่มันรวดเร็วจริง ๆไม่ต้องให้เตือนก็ปล่อยข่าวเื่ทีฟู่ซีฟาดเงินใส่เขาออกไปอีกทั้งยังเป็ข้อความเสียงด้วย
หรี่ตาอย่างพอใจ กู้หลานอันอ่านแฮชแท็กยอดฮิตแล้วดีดนิ้วลูบคางแล้วยิ้มชั่วร้าย ไม่เพียงแค่วันเดียว ฟู่ซีก็เหมือนตกจากบนฟ้าลงสู่พื้นขณะเริ่มมีหวังขึ้นบินจากบนพื้นได้อีกครั้ง ยังไม่ทันสมหวังก็ถูกจับกดลงดินอีกแทบไม่ต้องเดาก็รู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็อย่างไร
“ฟู่ซี ขอถามหน่อยหลี่จาเปิดโปงคุณบนโลกอินเทอร์เน็ตว่าคุณแอบเปลี่ยนเพลงของกู้หลานอันในรายการพรุ่งนี้ฉันจะเป็ซุปเปอร์สตาร์เป็ความจริงหรือไม่? ”
“ฟู่ซีขอถามหน่อยหลี่จาเปิดโปงคุณบนอินเทอร์เน็ตว่ารางวัลชนะเลิศอันดับสองคุณใช้เงินซื้อมาจริง ๆ แล้วคุณเป็คนเสียงเพี้ยน ร้องเป็แต่เพลงนั้น เป็ความจริงรึเปล่า? ”
“ฟู่ซีขอสอบถามหน่อยหลี่จาเปิดโปงว่าคุณใช้เงินฟาดหัวเขาเพื่อให้โพสต์คลิปลบข่าวอื้อฉาวของคุณเป็ความจริงหรือไม่? ”
“...”
ทันทีที่ออกมาเขาก็โดนรุมล้อม ไม่ง่ายเลยที่จะขึ้นรถไปถึงแม้จะมีบอดี้การ์ดคุ้มกันอยู่แถมยังมีนักข่าวขวางไว้ถามคำถามโน่นนี่นั่นอีก ฟู่ซีหงุดหงิดจนเอามือทุบที่หลังรถตะคอกใส่คนขับรถว่า “ตะลึงอะไรอยู่ ยังไม่รีบขับรถไปอีก”
“คิดว่า...พี่ คิดว่าคงไม่ได้แล้วมีนักข่าวขวางทางข้างหน้าไว้ ถ้าเกิดชนถูกเขาขึ้นมาจะทำยังไง? ” นักข่าวมองคนขับตรงหน้าที่กำลังขับเครื่องยนต์อย่างลำบากใจ
“ชนถูกก็ชนถูกไง ชนตายไปก็เดี๋ยวฉันรับผิดชอบเอง” ฟู่ซีตะคอกด้วยความโกรธ
เชิงอรรถ
[1] เวยป๋อ เป็เว็บไซต์ทำนองลูกผสมระหว่างทวิตเตอร์กับเฟซบุ๊กมีอิทธิพลทางการตลาดคล้ายคลึงกับทวิตเตอร์เป็หนึ่งในเว็บไซต์ยอดนิยมที่สุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน