ซางจื่อพลันเอ่ยปากห้ามไว้ “หยุดมือเถิดเ้าค่ะ คุณหนูสี่ ทั้งนี้จือฉินเป็สาวรับใช้ของคุณหนูบ้านข้า วันนี้เป็คุณหนูบ้านข้าปกครองครอบครัว ก็ต่อให้จือฉินมีความผิดก็ยังไม่ถึงคราให้ท่านมาอบรมสั่งสอนนะเ้าคะ”
ตอนนี้ซูจิ้งเถียนเกลียดที่สุดคือการได้ยินว่า ซูเฟยซื่อมีอำนาจปกครองครอบครัว
คาดไม่ถึงว่าซางจื่อยังเอาเื่นี้มากดดันนาง นี่คิดอยากให้นางโกรธแทบตายหรืออย่างไร
นางยกมือขึ้นจะตีซางจื่อ ทว่ารังสีสังหารบนร่างของนาง คาดไม่ถึงว่าจะเข้มข้นเกินกว่าที่สาวใช้คนหนึ่งจะมีได้
ข่มขู่จนนางถึงกับตะลึงลาน ฝ่ามือที่ซัดไปทางซางจื่อพลันชะงักค้าง
นี่… นี่เป็เื่อะไรกัน? หรือว่ากระทั่งสาวรับใช้ของซูเฟยซื่อก็น่ากลัวพอๆ กับเ้านายอย่างนั้นหรือ?
“ไม่ว่าผู้ปกครองครอบครัวของจวนอัครมหาเสนาบดีจะเป็ใคร ถึงอย่างไรจวนนี้ก็เป็ของท่านพ่อข้า ในท้ายที่สุดแล้ว อำนาจในการปกครองครอบครัวของซูเฟยซื่อก็เป็ท่านพ่อของข้ามอบให้ หรือว่าข้าคุณหนูสี่จวนอัครมหาเสนาบดีแท้ๆ กระทั่งอำนาจในการสั่งสอนสาวรับใช้คนหนึ่งก็ไม่มีงั้นหรือ?” ซูจิ้งเถียนกล่าวอย่างขาดความมั่นใจไปบ้าง
“มีอำนาจหรือไม่ บ่าวคงมิอาจพูดได้ คุณหนูบ้านข้าจะมาเร็วๆ นี้ ถึงตอนนั้นท่านก็พูดกับเองนางเถิด” ซางจื่อกล่าวอย่างเคารพยำเกรง แต่ความดูถูกในน้ำเสียงกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจน
โชคดีที่ซูเฟยซื่อคาดการณ์ไว้แล้ว ให้นางอยู่เฝ้าที่นี่ เมื่อนางแซ่หลี่อดไม่ไหวลงมือต่อจือฉินก็ส่งข่าวให้นางทันที มิฉะนั้นจือฉินอาจถูกซูจิ้งเถียนนังหนูเสเพลคนนี้ตีตายได้
ซูจิ้งเถียนฟังออกถึงการดูถูกในน้ำเสียงของนาง คิดโต้แย้ง ทว่าความหวาดหวั่นที่เกิดขึ้นนั้น ทำเอาใจนางสั่นระริกอย่างไม่อาจห้าม
ได้แต่กลับไปหารือแผนตอบโต้ในห้องกับนางแซ่หลี่
เห็นเช่นนี้ ซางจื่อรีบก้าวมาข้างหน้า “จือฉิน เ้าไม่เป็ไรใช่ไหม?”
จือฉินที่ฝืนกลั้นน้ำตาไว้ส่ายหน้าอย่างแรง “ข้าไม่เป็ไร พี่ซางจื่อ แล้วถึงทำไมมาอยู่ที่นี่ได้?”
“เป็คุณหนูสั่งให้ข้ามาสังเกตการณ์ ด้วยกลัวว่าเ้าจะถูกคนรังแก” ซางจื่อกระซิบเสียงเบา “ข้าเพิ่งแจ้งให้คุณหนูทราบแล้ว เชื่อว่านางจะมาถึงเร็วๆ นี้”
เมื่อได้ยินวาจานี้ ในดวงตาของจือฉินพลันถูกปกคลุมไปด้วยความซาบซึ้งแทบทะลักล้น ทว่าลึกๆ กลับแฝงแววสำนึกผิดอยู่น้อยๆ “บ่าวให้คุณหนูกังวลใจอีกแล้ว”
ซางจื่อตบไหล่นางน้อยๆ ราวกับปลอบใจ “ขอเพียงเ้าติดตามคุณหนูดีๆ ท่านย่อมไม่ปฏิบัติต่อเ้าอย่างอยุติธรรมแน่”
“ซางจื่อพูดถูก” ไม่รอจือฉินตอบ เสียงของซูเฟยซื่อได้ดังมาจากนอกเรือนแล้ว
ซางจื่อรีบรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นให้ซูเฟยซื่อรอบหนึ่ง แล้วชี้ไปยังห้องของนางแซ่หลี่ “พวกนางอยู่ในนั้นเ้าค่ะ”
ซูเฟยซื่อพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว”
กล่าวจบ นางก็เดินเข้าไป
เพียงเห็นนางแซ่หลี่กำลังนอนป่วยอยู่บนเตียง ส่วนซูจิ้งเถียนมือข้างหนึ่งถือชาม ข้างหนึ่งถือช้อนกำลังป้อนยานางแซ่หลี่ทีละคำๆ
ภาพนี้แทบเป็ความรักแม่ลูกอันลึกซึ้ง
คนที่ไม่รู้ความจักต้องดูแล้วยิ่งะเืใจแน่ๆ ยิ่งมิกล้าเอ่ยปากทวงถามเอาสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชี
แต่เดิมทีนางก็ไม่ได้เป็ผู้หญิงใจอ่อน ยิ่งกว่านั้นที่กำลังเผชิญหน้ายังเป็ศัตรูตัวฉกาจซึ่งทำร้ายทั้งครอบครัวของนาง ไหนเลยจะต้องปรานี
คิดถึงตรงนี้ ซูเฟยซื่อรีบยิ้มพลางเอ่ยปาก “ได้ยินว่าแม่ใหญ่ล้มป่วย ไม่คิดว่าน้องสี่ก็อยู่ด้วยเ้าค่ะ”
“เป็ซูเฟยซื่อนี่เอง” นางแซ่หลี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง ท่าทีราวกับคนกำลังจะตาย
นางหลอกคนอื่นได้ ทว่าไม่สามารถหลอกซูเฟยซื่อ คนที่กำลังจะตาย?
หากแซ่หลี่ตายง่ายๆ แบบนั้นจริง นั่นกลับช่วยเบาแรงให้นางไปไม่น้อย
“ข้าให้จือฉินมาเอาสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชี หลินมามากล่าวว่าแม่ใหญ่ท่านป่วยกำลังหลับอยู่ รอท่านตื่นแล้วค่อยว่ากัน ในเมื่อตอนนี้ท่านตื่นแล้ว สัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีนั่น ก็นำมามอบให้ข้าได้แล้วสินะเ้าคะ?” ซูเฟยซื่อไม่ได้สุภาพกับพวกนาง ทั้งยังยิงเข้าประเด็นหลักโดยตรง
สีหน้านางแซ่หลี่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มือกดลงไปยังกล่องใต้หมอนอย่างไม่รู้ตัว ทำอย่างไรดี ซูเฟยซื่อบุกมาถึงที่แล้ว
เห็นเช่นนี้ ซูจิ้งเถียนก็ยิ่งเดือดดาล วางชามยาลงแล้วชี้ไปยังจมูกของซูเฟยซื่อด่าว่า “พี่สามทำเกินไปแล้ว ไม่เห็นหรือว่าท่านแม่กำลังป่วย ต่อให้นางไม่ได้เป็แม่แท้ๆ ของเ้า แม้ว่าเ้าจะไม่ได้รู้สึกว่าต้องกตัญญูต่อท่าน ทว่าอย่างน้อยเ้าก็ควรจะมีใจเมตตาอย่างที่มนุษย์ทุกคนควรมีมิใช่หรือ”
ประโยคเดียวกล่าวหาว่าซูเฟยซื่อเป็คนอกตัญญูและไร้ซึ่งความเมตตา ทำให้นางแซ่หลี่โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง เถียนเอ๋อร์ของนางเติบใหญ่จนสามารถต่อกรกับซูเฟยซื่อนังสารเลวน้อยคนนี้ได้
ดูเหมือนซูเฟยซื่อก็เดาได้แล้วว่าต้องเป็อย่างนี้ สองดวงตากะพริบปริบราวกับเป็ผู้บริสุทธิ์ไร้มลทิน “วาจาที่น้องสี่พูดคืออะไรแล้ว ข้าเห็นแม่ใหญ่ป่วยจึงคิดมาช่วยแบ่งเบาความกังวล หรือเ้าจะทนดูแม่ใหญ่ลากสังขารตรากตรำลำเข็ญหรือ? ยิ่งกว่านั้น เื่นี้ท่านพ่อก็เห็นดีด้วยแล้ว เ้าคงไม่คิดว่าการตัดสินใจของท่านพ่อผิดพลาดหรอกนะ?”
เชอะ ซูจิ้งเถียนคิดจะสาดน้ำโคลนคนไร้คุณธรรมแก่นาง นางก็ตอบโค้ซูจิ้งเถียนกลับว่าเป็คนที่ไม่รู้ซึ้งเอาใจท่านแม่แท้ๆ คนหนึ่ง แล้วยังไม่ทำตามท่านพ่ออีก ดูซิว่าใครต้องกลัวใคร
ซูจิ้งเถียนถูกนางตอกกลับจนเป็ใบ้ไร้วาจา ตะกุกตะกักไปแล้วครึ่งวันจึงฝืนเค้นประโยคหนึ่งออกมา “ท่านพ่อปรีชาขนาดนั้นไหนเลยตัดสินใจผิดพลาดได้? เพียงแต่ตอนนี้แม่ใหญ่ยังป่วยไข้ สัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีก็รอแม่ใหญ่อาการดีขึ้นก่อนค่อยว่ากันดีไหมเล่า?”
อาการป่วยดีขึ้นก่อนหรือ? เกรงว่าโรคนี้ของนางแซ่หลี่จะไม่อาจดีขึ้นน่ะสิ!
ซูเฟยซื่อเค้นยิ้มเ็า เห็นได้ชัดว่ามองทะลุความตั้งใจของซูจิ้งเถียนกับนางแซ่หลี่ แต่จงใจไม่เปิดโปง “ในเมื่อน้องสี่ได้กล่าวขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นก็เอาตามที่น้องสี่ว่าเถิด ให้แม่ใหญ่ได้พักผ่อน ส่วนสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีก็รอสุขภาพของท่านแข็งแรงกว่านี้ค่อยว่ากันเถิดค่ะ”
“อืม” ซูเฟยซื่อพยักหน้า แล้วกล่าวต่ออย่างรวดเร็ว “กุญแจห้องบัญชีกลับเป็เื่รอง ผ่านอีกหลายวันค่อยเอาก็ได้ เพียงแต่ข้าได้ยินว่าน้องสี่ตีจือฉินอย่างไร้เหตุผล ไม่ทราบว่านั้นเป็เื่จริงหรือไม่?”
ได้ยินวาจานี้ หัวใจซูจิ้งเถียนที่วางลงพลันแขวนขึ้นอีก รีบโต้เถียง “ใครให้นางขวางอยู่ในลาน ขวางหูขวางตาเช่นนั้นเล่า”
“เป็ข้าสั่งให้นางทำ เ้าพูดแบบนั้นหมายความว่า กระทั่งข้าเ้าก็จะตีด้วยหรือ” ซูเฟยซื่อหรี่ตากล่าวพลาง
เห็นที่นางสั่งคนรับใช้แบบนี้แล้ว ซูจิ้งเถียนก็โกรธจัดตอบกลับ “เ้าให้นางทำแล้วอย่างไร ข้าเป็คุณหนูสี่ของจวนอัครมหาเสนาบดี หรือว่าเ้าคิดจะสั่งสอนข้าเพื่อสาวรับใช้คนหนึ่งหรือ?”
แค่เห็นซูเฟยซื่อเป็ผู้ปกครองครอบครัว นางก็ไม่พอใจมากแล้ว เป็แค่บุตรอนุคนหนึ่งจะมีคุณสมบัติอะไร
ไม่คิดว่าตอนนี้ยังกล้าที่จะสอนนาง นี่แทบจะเป็การข้ามหัวนาง ไหนเลยจะทนได้อีก
“เถียนเอ๋อร์” นางแซ่หลี่เห็นซูจิ้งเถียนแผลงฤทธิ์เช่นนี้ รีบตวาดเสียงดัง มองซูเฟยซื่อด้วยสายตาหวาดหวั่นแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยปาก “เถียนเอ๋อร์ ทั้งนี้เฟยซื่ออายุมากกว่านับเป็พี่สาวของเ้า ตอนนี้ยังกุมอำนาจปกครองครอบครัว เ้าห้ามหยาบคายต่อนางเด็ดขาด”
วาจาดังกล่าวกำลังอบรมซูจิ้งเถียนชัดๆ แต่เมื่อออกจากปากของนางแซ่หลี่ ก็ฟังคล้ายกำลังต่อว่าซูเฟยซื่อไม่ได้รักน้องสาว ใช้อำนาจปกครองครอบครัวรังแกคนปานนั้น
“ท่านแม่ ทำไมท่านถึงช่วยพูดแทนพี่สามล่ะเ้าคะ” ซูจิ้งเถียนโถมตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของนางแซ่หลี่ทำทีออดอ้อน เหลือบตามองซูเฟยซื่อแวบหนึ่งอย่างภูมิใจอีก
นางกำลังเตือนซูเฟยซื่อ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เ้าของครอบครัวนี้ก็ยังเป็ท่านแม่แท้ๆ ของนางอยู่ดี
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้