กำลังทรัพย์ของตระกูลป้อมปราการหานล้วนเป็ที่ยอมรับของทุกคน และทุกคนก็ทราบดีว่าคุณหนูสามตระกูลป้อมปราการหาน เป็บุตรสาวบุญธรรมที่ฟูเหรินหัวหน้าป้อมปราการหานให้ความโปรดปรานมากที่สุด เพียงแต่ว่าเงินชดเชยก้อนนี้เป็เงินจำนวนมหาศาลเลยนะ! คุณหนูสามตระกูลหานจะชำระได้หรือไม่ ไม่มีใครทราบอย่างชัดเจน
บัดนี้ทุกคนล้วนมองไปที่หานอวี๋เอ๋อร์เพื่อรอให้นางปริปากพูด บรรยากาศในตอนนี้เงียบสงัดจนให้ความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ชายชราเห็นด้วยกับข้อเสนอของกูเฟยเยี่ยนอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่ยัดตั๋วเงินลงในมือของกูเฟยเยี่ยนอีกแล้ว แต่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยความตื่นเต้นและความดีใจ
กูเฟยเยี่ยนดีใจเช่นกัน! นางมองไปที่หานอวี๋เอ๋อร์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย นางไม้รีบร้อนและไม่เร่งรัด
แต่ว่าเงินก้อนนี้ นางจะเอาให้ได้!
หากผู้คนไม่มาหาเื่นาง นางก็จะไม่หาเื่กลับ หากผู้คนมาหาเื่นาง ต้องชดใช้ให้ถึงที่สุด!
นางคิดว่าตนเองไม่เคยหาเื่หานอวี๋เอ๋อร์เลย หานอวี๋เอ๋อร์จะมาหาเื่นางทำไม?
หานอวี๋เอ๋อร์เอาแต่พูดว่าตนเองเป็สหายกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ทำท่าทีจะมาช่วยนางและโน้มน้าวนาง แต่สิ่งที่พูดออกมาบนแท่นประมูลล้วนแฝงไปด้วยการเสียดสีและสั่งสอนนาง
สนุกหรือ?
หรือว่าหานอวี๋เอ๋อร์ไม่ทราบว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอยู่ที่นี่?
องครักษ์ลับล้วนอยู่ที่นี่ จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่มาได้หรือ? เ้านายที่แท้จริงยังไม่ขึ้นมาห้ามนาง สั่งสอนนาง หานอวี๋เอ๋อร์ที่เป็เพียงคนนอกจะมาก่อเื่ทำไม? ไหนจะเรียกนางว่าเป็หญิงรับใช้อีก หานอวี๋เอ๋อร์คิดว่าการที่ตนเองเป็สหายของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยแล้วจะสามารถเป็เ้านายนางได้อย่างนั้นหรือ?
ในตอนนี้หานอวี๋เอ๋อร์ทั้งโกรธ อับอาย และจงเกลียดจงชัง ทว่านางยังคงรักษารอยยิ้ม นางไม่้าให้ใครก็ตามเห็นความลนลานและความจนมุมของตนเอง โดยเฉพาะกูเฟยเยี่ยน!
นางหัวเราะแล้วหาทางลงให้ตนเอง
หานอวี๋เอ๋อร์ถอนหายใจออกมา “ข้าทราบว่ามีเื่ของการใช้สมุนไพรเป็ครั้งที่สอง เพียงแต่ข้าคิดว่าสนามประมูลไม่มีทางเกิดข้อผิดพลาด ดังนั้นจึงใช้เพียงวิธีการทั่วไปมาตรวจสอบยา เฮ้อ ผลลัพธ์เป็อย่างนี้…น่าเสียใจจริงๆ ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาหัวหน้าสนามประมูลแดนบูรพาที่อยู่ด้านข้างก็แสดงสีหน้าบูดบึ้ง
ถังจิ้งเหลือบมองไป แววตาทอประกายถึงความรังเกียจ
แม้ว่านางจะให้หานอวี๋เอ๋อร์มาตรวจสอบยาสมุนไพร ทว่าหานอวี๋เอ๋อร์ขึ้นมาพูดคุยเสนอตัวด้วยตนเองนี่นา
เดิมทีนางครุ่นคิดมาสักพักแล้วว่าจะยื่นคำร้องต่อหัวหน้าสนามประมูลแดนบูรพาเพื่อช่วยคุณหนูสามตระกูลหานชำระเงินชดเชยครึ่งหนึ่งดีหรือไม่ แต่เมื่อเห็นถึงท่าทีของหานอวี๋เอ๋อร์แล้วนางจึงเลิกคิดไป
กูเฟยเยี่ยนไม่ปริปากใดๆ นางจะรอดูว่าหานอวี๋เอ๋อร์จะไกล่เกลี่ยให้ตนเองอย่างไร
และแล้วหานอวี๋เอ๋อร์ที่มีทีท่าสง่างามก็ได้เอ่ยขึ้นมา “ในเมื่อยอมเดิมพันก็ต้องรับได้ต่อความพ่ายแพ้ หญิงรับใช้น้อย เงินเหล่านี้จะไม่หายไปแม้แต่เหรียญเดียว เพียงแต่ว่าการเดินทางในครั้งนี้ข้ามาเป็เพื่อนสหายเท่านั้น ในตอนมามีความฉุกละหุกจึงไม่ได้พกเงินมามากมายขนาดนั้น เอาอย่างนี้แล้วกัน รอให้ข้ากลับไปแล้วจะส่งคนนำไปมอบให้ที่จวนทันที หากเ้ารีบร้อน้า เช่นนั้น ข้าจะคุยกับเ้านายเ้าแล้วให้เขาชำระให้ก่อน ข้าค่อยไปคืนเขาในภายหลัง ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับเขาเ้าก็รู้ดี เ้าไม่เสียเปรียบแน่นอน”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนล้วนเกิดความสงสัย
เ้านายของสาวน้อยคนนี้เป็ใครกันแน่ เขามีความสัมพันธ์อะไรกับคุณหนูสามตระกูลหาน ในตอนที่คุณหนูสามตระกูลหานเดินขึ้นมาก็อ้างว่าตนเองเป็สหายคนสนิทของเ้านายสาวน้อยคนนี้ ดูท่าว่าความสัมพันธ์จะดีมาก
กูเฟยเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะมองลงไปด้านล่าง น่าเสียดายที่ไม่พบจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย
นางทราบว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอยู่ที่นี่ แต่นางไม่ทราบว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยกับหานอวี๋เอ๋อร์เป็สหายในระดับไหนกันแน่ หญิงสาวลอบรำพึงในใจว่า “เตี้ยนเซี่ย ข้าจะนับถึงสิบ หากท่านไม่ส่งเสียงออกมาก็อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าสหายของท่าน หนึ่ง สอง สาม…”
กูเฟยเยี่ยนนับถึงสิบด้วยความรวดเร็ว ภายในดวงตาปรากฏถึงรอยยิ้มเล็กน้อย ไม่ช้าก็ตอบกลับไปเสียงดัง “คุณหนูสามตระกูลหาน ขออภัยจริงๆ ข้าเป็เพียงแค่หญิงรับใช้ตัวน้อยๆ เท่านั้น ข้าไม่ทราบว่าเ้านายของข้ามีความสัมพันธ์แบบใดกับท่าน! หนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญทองเป็จำนวนเงินที่ไม่น้อยเลย ข้าไม่กล้าตัดสินใจให้เขาชำระเงินโดยพลการ”
ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นมาจากด้านล่าง
หญิงรับใช้ที่สามารถบัตรสีดำของเ้านายได้จะเป็เพียงหญิงรับใช้ตัวน้อยหรือ? ในเมื่อนางเอ่ยออกมาขนาดนี้แล้วคาดว่าคุณหนูสามตระกูลหานกับเ้านายของนางคงจะไม่ค่อยมีความสนิทสนมกันเท่าใด เหตุใดคุณหนูสามตระกูลหานถึงเป็เช่นนี้ นี่มัน้าบิดพลิ้วหนี้สินอย่างเห็นได้ชัด!
ใบหน้าของหานอวี๋เอ๋อร์แดงก่ำแล้ว ในยามนี้ถึงแม้ว่านางจะไม่้าพบจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย แต่ก็คาดหวังว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะขึ้นมากู้หน้าให้นาง
นางอดไม่ได้ที่จะมองไปด้านล่าง ทว่าในตำแหน่งที่นั่งบุคคลสำคัญไม่มีคนอยู่แล้ว
จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไปไหนกัน?
ในขณะเดียวกัน ถังจิ้งก็ปริปากออกมา “เห้อ เื่นี้เป็ความผิดของข้า หนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญทองเป็จำนวนเงินที่ไม่น้อยเลย…”
หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้หานอวี๋เอ๋อร์ก็รีบหันกลับไปมองด้วยความดีอกดีใจ นางคิดว่าถังจิ้งจะให้ความช่วยเหลือ แต่ใครจะไปทราบว่าประโยคถัดมาของถังจิ้งคือ “เดิมทีข้าคิดว่าคุณหนูสามตระกูลหานจะจ่ายไหวจึงไม่ได้ถามให้ชัดเจนก่อน…เฮ้อ เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าเป็พยานบุคคลให้คุณหนูสามตระกูลหานเขียนหนังสือรับรองหนี้สิน เยี่ยนกูเหนียง [1] ท่านคิดว่าอย่างไร? ”
หานอวี๋เอ๋อร์ตกตะลึงตาค้าง
กูเฟยเยี่ยนเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา “การที่ได้คุณหนูถังมาเป็พยานบุคคล ข้าก็ไว้ใจ! แต่ไม่รู้ว่าคุณหนูสามตระกูลหานจะเห็นด้วยหรือไม่” หากหานอวี๋เอ๋อร์้ามอบเงินก้อนนี้ให้จริงๆ คงจะเสนอตัวเขียนหนังสือรับรองหนี้สินั้แ่แรกและคงไม่พูดอะไรมากมายเพียงนี้แล้ว!
ทว่าจากสถานการณ์ในตอนนี้ต่อให้นางไม่อยากจะให้ก็ต้องให้แล้ว หากนางบ่ายเบี่ยงอีกมันจะทำให้นางต้องแบกรับคำตำหนิต่อว่าที่ตนเองได้บิดพลิ้วหนี้สินอย่างแน่นอน!
นางปั้นหน้าฝืนยิ้มพร้อมกับแก้ต่าง “เป็เื่ดีมากที่ได้คุณหนูถังมาเป็พยานบุคคล ข้า ข้าแค่กลัวว่าหญิงรับใช้น้อยจะไม่เชื่อใจในหนังสือรับรองหนี้สินของข้า ถ้าเขียนั้แ่แรกคงไม่ต้องอธิบายมากมายเพียงนี้”
กูเฟยเยี่ยนได้ถามอีกว่า “ไม่ทราบว่าคุณหนูสามตระกูลหาน วางแผนจะจ่ายให้ครบเมื่อใด? ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาหานอวี๋เอ๋อร์ก็ปั้นหน้าฝืนยิ้มต่อไปไม่ไหวแล้ว นางรีบส่งสายตาตักเตือนไปให้กูเฟยเยี่ยนทันทีจากนั้นใบหน้าเล็กที่งดงามก็ได้แสดงสีหน้าบูดบึ้งออกมา
กูเฟยเยี่ยนไม่เห็นอกเห็นใจและไม่มีความหวาดกลัว
ต้องรู้ไว้ว่าหากในวันนี้ผู้แพ้คือนาง หานอวี๋เอ๋อร์ก็คงจะไม่ยอมอ่อนข้อให้นางแน่นอน
นางไล่ถามต่อ “คุณหนูสามตระกูลหาน ระยะเวลาครึ่งปีเพียงพอหรือไม่? ภายในครึ่งปีท่านคงกลับบ้านบ้างใช่หรือไม่? ”
หานอวี๋เอ๋อร์ไม่มีแม้แต่ข้ออ้างที่จะยืดเวลาออกไป นางทำได้เพียงกัดฟันตอบรับ
ถังจิ้งได้สั่งให้คนไปนำกระดาษและพู่กันมาเพื่อให้หานอวี๋เอ๋อร์เขียนหนังสือรับรองหนี้สินท่ามกลางผู้คน หลังจากที่ถังจิ้งตรวจสอบแล้วก็ยื่นไปให้กูเฟยเยี่ยนเก็บเอาไว้
หานอวี๋เอ๋อร์แทบจะหลบหนีออกจากแท่นประมูล ระยะเวลาครึ่งปีนางไม่ทราบว่าตนเองจะหาเงินมาได้หรือไม่ แต่ภายในระยะเวลาครึ่งปีนางจะล้างแค้นของวันนี้อย่างแน่นอน! นางจะต้องทำให้กูเฟยเยี่ยนเสียใจในภายหลัง!
เื่ราวมาถึงขนาดนี้แล้วก็นับได้ว่าเป็ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
กูเฟยเยี่ยนกำลังจะเดินออกไป ทว่าหัวหน้าสนามประมูลแดนบูรพาได้เอ่ยออกมาด้วยความสุภาพ “เยี่ยนกูเหนียง เหล่าฟู [2] มีเื่ไม่เข้าใจหนึ่งเื่ อยากจะขอคำชี้แนะ ไม่ทราบว่าจะสามารถเชิญเ้าและเ้านายของเ้าไปดื่มน้ำชาสักถ้วยที่ด้านหลังได้หรือไม่? ”
กูเฟยเยี่ยนทราบว่าหัวหน้าสนามประมูลแดนบูรพา้าถามนางเื่สินค้าต้องห้าม
นางกำลังจะถามองครักษ์ลับว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอยู่ที่ใด แต่ในตอนนี้เองหมางจ้งก็ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเอ่ยว่า “เ้านายกำลังดื่มน้ำชากับหัวหน้าาุโอยู่ที่ด้านหลัง เ้าก็…ไปเถอะ”
ทันทีที่หัวหน้าสนามประมูลแดนบูรพาได้ยินเช่นนี้ก็เกิดความดีใจมาก “ที่แท้ก็เป็คนคุ้นเคยกัน เยี่ยนกูเหนียง เชิญทางนี้”
กูเฟยเยี่ยนคิดว่าหัวหน้าาุโจะไม่มาเสียอีก คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมานานแล้ว นางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ไปกันเถอะ! ”
ภายในศาลาน้ำชา
ดูเหมือนว่าจวินจิ่วเฉินจะกำลังพูดคุยกับหัวหน้าาุโในหัวข้อที่จริงจัง เมื่อเห็นว่ากูเฟยเยี่ยนเดินมาแล้วพวกเขาก็ได้หยุดพูดลง
“เตี้ยนเซี่ย”
กูเฟยเยี่ยนอารมณ์ดีมาก น้ำเสียงหวานไพเราะไม่น้อย แต่จวินจิ่วเฉินที่หันหน้ากลับมามองได้ขมวดคิ้วเป็ปมราวกับไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
รอยยิ้มของกูเฟยเยี่ยนแข็งทื่อทันที เกิดอะไรขึ้น?
——————
เชิงอรรถ
[1] กูเหนียง หมายถึง คำที่ใช้เรียกหญิงสาวที่ไม่รู้จักด้วยการให้เกียรติ
[2] เหล่าฟู หมายถึง คำที่ชายชราเรียกตนเอง