เสียงหอบหายใจถี่รัวดังสลับกับเสียงครางแ่ระคนเร่งเร้า
"อื้ม... อ๊ะ... อย่าเพิ่งหยุดนะคะ... เร็วอีกนิด... ได้โปรด..."
"ใกล้แล้ว... อีกนิดเดียว... เดี๋ยวก็ถึง..."
เสียงครางที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความเร่งเร้า... ดังทะลุกำแพงออกไปอย่างไม่รู้ตัว
ก๊อก ก๊อก!!!
ประตูห้องถูกเปิดอย่างแรง พร้อมเสียงตวาดแหลมพุ่งตรงเข้ามาแทบจะทันที
"ขอโทษนะคะ!! จะมีอะไรกันก็ช่วยเบาๆ หน่อยได้ไหม!! เสียงทะลุห้องไปถึงสามบ้านแปดบ้านแล้วค่ะ! นึกว่าอยู่ในละคร เสียงดังกระหึ่ม!"
"โอ๊ย! ทีป้าเสียงดังยังไม่มีใครบ่นเลย! หรือกลัวคนไม่รู้ว่าป้าเป็มนุษย์โวยวายประจำตึก!" เสียงเ้าของห้องที่เพิ่งเปิดประตูออกมาย้อนกลับอย่างไม่ยอมแพ้
อีกฝ่ายถึงกับหน้าแดงก่ำ ทั้งเพราะโกรธและอับอาย
"นี่! ว่าใครเป็ป้าน่ะ!?"
คนถูกถามกวาดตามองั้แ่หัวจรดเท้า แล้วขยับยิ้มกวนๆ
"ยังต้องถามอีกเหรอครับ?"
"ไอ้…!!"
"จุ๊ๆ..." เขายกนิ้วชี้แนบริมฝีปากพร้อมรอยยิ้มยียวน "อย่าขึ้นเสียงสิครับป้า เกรงใจคนอื่นเขา"
หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าป้าถึงกับกัดฟันกรอด พยายามควบคุมลมหายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อไม่ให้สติหลุด
"เสียงหายใจป้านี่... เซ็กซี่ไม่เบานะครับ" เขาเสริมอีกดอกพร้อมหัวเราะในลำคอ
...ยัง... ยังไม่หยุด!!!
"โอ๊ยยยย!!!"
เสียงร้องโอดครวญดังลั่นทันทีที่โดนลูกเตะเฉียบขาดเข้าเป้าแบบไม่ทันตั้งตัว
"ไอ้เด็กฟันน้ำนม!!!"
เ้าตัวที่โดนเข้าอย่างจังถึงกับกัดฟันแน่น หน้าเหยเกเพราะเจ็บจี๊ดจุกถึงใจ ดวงตาแดงกร่ำจ้องเธออย่างเคืองแค้น
เจ็บยังพอทน... แต่ถ้าอนาคตหมดสิทธิ์ใช้การขึ้นมานะ ป้าคนนี้ได้จ่ายค่าชดใช้แน่!!!
"เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ... ทำไมนายแต่งตัวเรียบร้อยขนาดนี้ล่ะ?" เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ เพราะก่อนหน้านี้มัวแต่โมโหจนไม่ทันสังเกต คิดดูดีๆ แล้ว คนที่เพิ่ง... ทำอะไรแบบนั้น... ไม่น่าจะมีเวลามาแต่งตัวเป๊ะขนาดนี้ หรืออย่างน้อยก็น่าจะพันผ้าขนหนูออกมาสิ!
"อุ๊ยตาย!!! หรือว่า..." ดวงตาของเธอเบิกกว้างในทันที ราวกับปิ๊งไอเดียขึ้นมาอย่างชัดเจน
"รู้ตัวซะทีสินะป้า! โอ๊ยยย เจ็บโว้ย..." เสียงครวญของเ้าของห้องดังขึ้น พร้อมกับร่างที่พยายามยันตัวลุกขึ้น ทั้งยังพึมพำกับตัวเองเบาๆ "...ระบมไปหมด... ไอ้ลูกชาย..." จากนั้นก็หันขวับไปมองคนก่อเื่ทันที
"ฉันจะเป็บ้า! นี่ฉันมาอยู่ในที่อโคจรอะไรแบบนี้ได้ยังไง โอ๊ยย ไม่ไหวแล้ว ต้องย้ายออกทันที!" เธอคร่ำครวญอย่างสิ้นหวัง แต่ความคิดก็หยุดชะงัก...
...จะไปหาเช่าคอนโดใหม่ตอนนี้ ให้เอาเงินที่ไหนล่ะ...
"ป้าเป็อะไรของป้าเนี่ย..." เขาขมวดคิ้วสงสัย มองคนตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจว่าเพี้ยนจริงหรือประชดเล่น
"นายยังเด็ก ยังกลับตัวกลับใจได้อยู่นะ ไปหาหมอเถอะ โรคจิตแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้!"
"หา!? หาหมอทำไม?" เขาแทบร้องออกมาดังๆ นี่มันเื่บ้าอะไรกันอีกเนี่ย!?
"นายพาเพื่อนๆ มาระเริงรักเสียงดังลั่นห้อง แถมตัวเองยังแต่งตัวเรียบร้อยเหมือนคนยืนกำกับอยู่ข้างกล้อง! แบบนี้ไม่ใช่ตากล้องจะเป็อะไรได้อีก! โรคจิต! วิปริต! ไปหาหมอเลย!!" พูดจบ เธอก็เบะปากแล้วหมุนตัวจะเดินหนีออกไป
"โห ป้า คิดอะไรแบบนี้ได้... สมองนี่ทำจากอะไรครับเนี่ย? อกุศลเพียวๆ จนกลายเป็เส้นประสาทเลยหรือเปล่า?"
"ไอ้โรคจิต!!!" เมื่อไม่มีอะไรจะเถียง เธอก็ใช้ไม้ตายสุดท้ายคือด่าให้จบๆ ไป
เธอหันกลับเตรียมจะเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองอย่างโมโหจัด แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นประตู ร่างก็ถูกคว้าข้อมือไว้จากด้านหลัง
“เดี๋ยวสิ” เขาพูดเสียงเรียบ พร้อมออกแรงดึงเธอกลับเข้ามาในห้อง แล้วปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว สองมือหนากุมข้อมือของเธอเอาไว้ ก่อนจะดันเบาๆ พิงเข้ากับผนัง
"ปล่อยนะ!" เธอร้องขึ้นทันทีด้วยความใและไม่ไว้ใจ
"ยังไม่จบครับป้า ผมยังไม่ได้อธิบายอะไรเลย"
"นี่... นี่นาย... จะทำอะไรฉันกันแน่!?" เสียงเธอสั่นเล็กน้อย มือทั้งสองถูกเขากดตรึงไว้กับกำแพง ความรู้สึกกลัวแล่นวูบไปทั่วร่าง หัวใจก็เต้นถี่ไม่เป็จังหวะ
ต่อให้หมอนี่จะหน้าตาหล่อระดับพระเอกซีรีส์เกาหลีแค่ไหน... แต่เธอก็จะไม่มีวันยอมให้ความหล่อปั่นหัวได้เด็ดขาด!
"...ด่าผมเสร็จแล้วคิดจะหนีเหรอ?" เขาถามด้วยน้ำเสียงกวนประสาทแฝงเ้าเล่ห์ "เตะเข้าเป้าไปเต็มๆ แล้วจะเดินจากไปหน้าตาเฉยแบบนี้เลย?"
“ฉะ... ฉัน...” เธออึกอัก พูดไม่ออก ทั้งใทั้งกลัว แต่แล้วก็เกิดไอเดียขึ้นมาทันที
ในเมื่อพูดกันดีๆ ไม่ได้ งั้นก็ต้องใช้แผนขั้นเด็ดขาด บทนางเอกสายดราม่า! เขาว่ากันว่า... น้ำตาผู้หญิงทำผู้ชายอ่อนลงได้ทุกคน
“ฉันขอร้อง… นายอย่าทำแบบนี้เลยนะ…” น้ำเสียงเธอสั่นเครือ ดวงตาปริ่มน้ำ ก่อนจะกลั้นใจพูดประโยคเด็ดออกไป "คือ... ความจริงแล้ว ฉันก็... อยากจะยอมนายแหละ… แต่…"
เธอสูดหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหลับตาพูดรวดเดียว
"แต่ฉันเป็โรคติดต่อ... ไวรัสตับอักเสบบี ซิฟิลิส HIV HPV ! ประมาณนั้นแหละ"
จบประโยค เธอก็ก้มหน้าหลบสายตาอย่างอับอายสุดขีด
...พูดออกไปได้ไงเนี่ย! นี่มันน่าอายเกินบรรยายแล้ว!!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้