ชวีผิงรีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่ชายกับพี่สะใภ้ปฏิบัติกับเ้าย่ำแย่เพียงนี้ เ้ายังปกป้องพวกเขาอีกหรือ เ้านี่ช่างโง่จริงๆ”
หลี่สือกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “เ้าสิโง่”
ชวีผิงถลึงตาใส่ “ข้าโง่หรือ ข้ามีภรรยามีบุตรแล้ว ข้าไม่โง่หรอก เ้าโตขนาดนี้แล้วกลับไม่มีภรรยาไม่มีบุตร เ้าสิโง่”
เฒ่าชวีตบหลังมือหลี่สือก่อนกล่าวว่า “เ้าหนุ่ม เ้าอย่าโกรธไปเลย เขาเป็คนพูดจาตรงไปตรงมา แต่ในใจหวังดี”
ชวีผิงใช้มือลูบหน้าอกตนเอง พยายามแสร้งทำเป็เคร่งขรึม “ใช่แล้ว ข้าหวังดี ไม่ใจคอโเี้เหมือนพี่ชายกับพี่สะใภ้เ้า”
“หลี่สือ เ้าลองคิดดูเถิด ในหมู่บ้านพวกเ้า ชายหนุ่มที่อายุพอๆ กับเ้า มีใครบ้างที่ไม่มีภรรยา มีใครบ้างที่ไม่มีลูก ข้าดูแล้วเ้าคงอายุยี่สิบแล้วกระมัง แต่กระทั่งภรรยาให้กอดก็ยังไม่มี” ชวีคังซึมซับความเลวร้ายมาั้แ่เด็กจนโต รู้จักเก็บอารมณ์ไม่แสดงออกมาทางสีหน้าเช่นชวีผิง
เมื่อครู่ชวีคังลองสังเกตดูแล้วพบว่า หลี่สือมีใบหน้าแดงระเรื่อสุขภาพดี อีกทั้งยังมีสีหน้าสดใส ผมเผ้าสะอาดสะอ้าน สวมเสื้อผ้าค่อนข้างใหม่ รองเท้าใหม่พื้นหนา กล่าวได้ว่าสวมใส่ดีกว่าพวกเขาพ่อลูกเสียอีก หากจะพูดว่าบ้านหลี่ปฏิบัติย่ำแย่ต่อเขา แต่หากดูจากสิ่งที่หลี่สือสวมใส่แล้วกลับไม่คล้ายเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อจะหลอกให้หลี่สือแยกบ้านและหลอกเอาทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลหลี่ไปเป็สินสอดตอนแต่งชวีฟางฟาง ชวีคังย่อมกล่าววาจาว่าร้ายออกไป
เฒ่าชวีมีสายตาเย็นะเื ทำท่าทางราวกับอยากจะตีอกชกหัวตนเอง ประหนึ่งหลี่สือเป็บุตรชายสุดที่รักของตนก็มิปาน เรียกขานแต่ละคำก็เรียกเ้าหนุ่มอย่างสนิทสนม “เ้าหนุ่ม ข้าอายุมากจนใกล้จะลงโลงแล้ว จะกังวลก็แต่เื่แต่งงานของเ้า เ้าหนุ่ม เ้าฟังคำพูดข้าได้หรือไม่”
“หลี่สือ เ้าลองดูพี่ชายเ้าเถิด เขาแต่งภรรยาตั้งนานแล้ว ตอนนี้เพียงบุตรชายก็มีแล้วสี่คน พี่สะใภ้ของเ้าก็ตั้งครรภ์อยู่อีกหนึ่งคน คาดว่าคงเป็บุตรชายกระมัง มีบุตรชายห้าคนเช่นนี้เมื่อพี่ชายของเ้าตายไปก็ยังมีบุตรชายห้าคนส่งศพ ส่วนเ้ากระทั่งคนที่จะคอยเลี้ยงดูกตัญญูก็ยังไม่มี… เฮ้อ... เ้าโง่เช่นนี้จะไปสู้ผู้อื่นได้อย่างไร” ชวีคังถูกหลี่สือชกท้องครั้งหนึ่งจนเซถอยหลังไปพร้อมกับเสียงร้อง
“ข้าจะตีเ้า คนเลว!” เมื่อหลี่สือได้ยินชวีคังด่าหลี่ซานก็ชกหมัดออกไปอย่างอดรนทนไม่ไหว
ส่งศพอันใดกัน เขาฟังไม่เข้าใจ เขารู้เพียงว่า หากไม่มีพี่ชายก็ไม่มีเขา หากพี่ชายตายไปเขาก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่
คนเบื้องหน้าเหล่านี้ถึงกับกล่าวว่าพี่ชายเขาจะต้องตาย เขารังเกียจจริงๆ จึงชกไปเต็มแรง
“ไอ้โง่ เ้าทำร้ายน้องชายข้า ข้าจะตีเ้าให้ตาย!” ชวีผิงโกรธจัดถึงกับพุ่งเข้าไปทำร้ายหลี่สือ
ชวีคังเจ็บจนสั่นไปทั้งตัว เขาขบฟันแน่น ด่าไปว่า “ตีมันเลย! ข้าจะให้หลานสาวแต่งกับเ้า แต่เ้ากลับตีข้า”
ตอนนี้เป็เวลากลางวันแสกๆ หลี่หรูอี้คิดว่าเฒ่าชวีและลูกๆ คงไม่ก่อเื่อันใดจึงไม่ได้ตามออกไป
ผู้ใดจะรู้ว่าคราวนี้หลี่สือจะถึงกับต่อยตีกับเฒ่าชวีและบุตรทั้งสอง
หลี่สือมีแรงมาก แต่ไม่มีประสบการณ์ต่อยตี บุตรชายทั้งสองของเฒ่าชวีล้วนเป็บุรุษรูปร่างสูงใหญ่ ทั้งยังเป็การสู้กันแบบสองรุมหนึ่ง หลี่หรูอี้ได้ยินเสียงเอะอะ จึงรู้ว่ามีเื่ไม่ดีเกิดขึ้น กลัวว่าหลี่สือจะเสียเปรียบ จึงรีบวิ่งออกไปช่วย นางวิ่งไปพลางะโว่า “ช่วยด้วย! มีคนนอกหมู่บ้านทำร้ายท่านอารอง ทุกคนรีบมาช่วยท่านอารองของข้าเร็วเข้า!”
บ้านจางและบ้านหลิวอยู่ใกล้บ้านหลี่ที่สุด แต่ก็มีความสัมพันธ์แย่ที่สุด
หลิวเป่าและจางซื่อของบ้านหลิวยังอยู่ในคุก ส่วนหลิวต้าบุตรชายคนโตอายุสิบเจ็ด กำลังผ่าฟืนอยู่ที่ลานบ้าน เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกของหลี่หรูอี้ก็รีบหยิบมีดผ่าฟืนวิ่งออกไป ทว่าเมื่อเห็นชายฉกรรจ์สองคนกำลังต่อยตีกับหลี่สือแบบสองรุมหนึ่งก็เกิดขี้ขลาดขึ้นมา ทั้งๆ ที่วิ่งไปจนเกือบถึงหน้าบ้านแล้วกลับหยุดนิ่งไม่ยอมขยับ
เฒ่าจางและนางติงของบ้านจางคว้าท่อนไม้วิ่งเข้ามาช่วย
นางติงกล่าวว่า “ห้ามตีหลี่สือ!” แม้ในมือจะกำท่อนไม้ไว้ แต่นางก็ไม่ได้ตีไปที่สองพี่น้องชวีคัง ส่วนเฒ่าจางยิ่งไม่กล้าตี แต่เขารู้จักเฒ่าชวีจึงะโด่าไปว่า “เ้าไม่อยู่ที่หมู่บ้านชวีดีๆ แต่กลับพาบุตรวิ่งมาทำร้ายคนของหมู่บ้านเรา คิดจะทำอะไร!”
“ข้ามาเพราะเื่มงคลของหลี่สือ เพราะหวังดีกับหลี่สือ แต่หลี่สือกลับไม่ยอมรับน้ำใจ เอาแต่ทำร้ายบุตรชายของข้า” เฒ่าชวีหวงแหนชีวิตตนเองเป็อย่างยิ่ง เขายืนห่างจากพวกหลี่สือไปไกล เพราะกลัวจะถูกลูกหลง
หลี่หรูอี้ร้องขอความช่วยเหลือเช่นนี้ ก็เพื่อให้มีคนมาเป็ประจักษ์พยาน เมื่อเห็นว่ามีคนมาแล้วสามคน แต่กลับเป็คนที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับบ้านหลี่ก็คิดหนัก แต่หากยังรอต่อไปก็กลัวว่าหลี่สือจะได้รับาเ็ นางจึงกำผงยาเอาไว้ในมือพลางวิ่งเข้าไปหา ปากก็ะโว่า “ท่านอา หนึ่ง สอง สาม”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่สือก็มีปฏิกิริยาตอบโต้โดยพลัน เขารีบหลับตาหุบปากแน่น แม้แต่จมูกก็ยังไม่สูดอากาศเข้าไป
นี่เป็การละเล่นของสองอาหลาน เมื่อหลี่หรูอี้บอกว่า หนึ่ง สองสาม หลี่สือจะต้องปิดปากปิดจมูกให้สนิท ไม่สูดหายใจอีก
หลี่หรูอี้สะบัดมือออกไป ผงยาในมือก็ถูกสาดออกไปจนปลิวไปตามแรงลมตะวันตก ชวีคังและชวีผิงไม่ทราบความหมายของหนึ่ง สอง สาม จึงไม่ทันได้ป้องกันตัว สูดผงยาเข้าไปเต็มๆ ไม่นานก็รู้สึกสมองหนักอึ้งราวกับถูกความง่วงเข้าจู่โจม พวกเขาง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น อยากจะหลับเสียเดี๋ยวนั้น
เมื่อครู่นี้หลี่สือถูกสองพี่น้องต่อยไปหลายหมัดถีบไปหลายเท้า จึงถือโอกาสตอนที่สองพี่น้องกำลังมึนงงโจมตีกลับไปทันที
เฒ่าชวีเห็นบุตรชายทั้งสองถูกต่อยจนหน้าเขียว จึงกลัวว่าหลี่สือจะเกิดบ้าคลั่งทำร้ายบุตรชายทั้งสองจนตาย เขารีบะโไปว่า “เ้าอย่าทำร้ายบุตรชายข้า หากยังไม่หยุดมืออีกข้าจะไม่ขออยู่ต่อ”
ชวีคังและชวีผิงโดนต่อยไปหลายหมัด เ็ปจนร้องโอดครวญ เ็ปไปถึงเส้นประสาท ทำให้สติแจ่มชัดขึ้นมาบ้างแล้ว อดคิดในใจไม่ได้ว่าเหตุใดอยู่ดีๆ จึงรู้สึกง่วงขึ้นมาได้
ชวีผิงจับจ้องไปทางหลี่หรูอี้ด้วยสายตาโเี้ “นังเด็กสมควรตาย เ้าสาดอะไรใส่พวกข้า? เ้าอำมหิตเพียงนี้ คงแต่งไม่ออกชั่วชีวิต!”
หลี่สือผลักชวีผิงจนล้มลงกับพื้น แล้วใช้เท้ากระทืบไปที่มือของชวีผิง มองดูชวีผิงร้องโอดครวญ “ห้ามด่าหรูอี้!”
ชวีคังยื่นมือออกไปหวังจะตีหลี่หรูอี้ จ้าวซื่อที่อยู่ไม่ไกลรีบส่งเสียงะโว่า “หรูอี้ รีบหนีเร็วเข้า!”
หลี่หรูอี้จะปล่อยให้ชวีคังทำร้ายได้อย่างไร นางรีบหมุนตัววิ่งออกไปทันที
จ้าวซื่อมีความโกรธเกรี้ยวเต็มใบหน้า แม้ท้องจะใหญ่มากแล้วแต่ก็ยังดึงให้หลี่หรูอี้มาหลบที่ด้านหลัง กล่าวกับพ่อลูกบ้านชวีอย่างเคืองแค้นว่า “กลางวันแสกๆ พวกเ้ากลับมาทำร้ายน้องชายและลูกสาวของข้า ยังเห็นกฎหมายบ้านเมืองอยู่ในสายตาหรือไม่!”
ขณะนั้นเองชาวบ้านสิบกว่าคนก็เดินเข้ามาล้อมชวีคังและชวีผิงเอาไว้
หลี่หรูอี้เดินออกไปกล่าวกับชาวบ้านด้วยความขุ่นเคืองว่า “คนนอกหมู่บ้านสองคนนี้ทำร้ายอารองของข้า พวกท่านดูเถิด ท่านอารองถูกพวกเขาทำร้ายจนเืไหลออกมาหมดแล้ว หากไม่ใช่เพราะปู่จาง ย่าติง และพี่หลิวต้า รีบเข้ามาช่วย พวกเขาคงฆ่าท่านอารองไปแล้ว”
เฒ่าจางและนางติงไม่กล้าตีคน แต่ยังพูดจาช่วยเหลือ ส่วนหลิวต้าไม่ได้เข้ามาช่วย กระทั่งคำพูดก็ไม่กล้ากล่าวแม้เพียงประโยคเดียว เมื่อเขาได้ยินคำพูดของหลี่หรูอี้ก็รู้สึกอับอายจนหน้าแดง
“ข้ารู้จักพวกเขา พวกเขาคือคนของหมู่บ้านชวี”
“พวกเขาวิ่งมาทำร้ายคนของหมู่บ้านเราได้อย่างไร”
คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวหลี่ ย่อมยืนอยู่ข้างครอบครัวที่ดีเป็ธรรมดา รวมทั้งความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เมื่อเหตุผลเพียงพอจึงพากันชี้หน้าตำหนิพ่อลูกบ้านชวี
จ้าวซื่อผายมือออกพลางกล่าวกับทุกคนว่า “ชายฉกรรจ์สูงใหญ่สองคนมาตีน้องชายกับลูกสาวข้าเช่นนี้ ์ยังมีตาอยู่หรือไม่”
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้