ทักษะการต่อสู้ของนายพลหวางเจี่ยนต่างกับหลิวอิงราวฟ้ากับเหวการโจมตีของเขารวดเร็วมาก ไม่เปิดช่องว่างให้หลบหลีกได้เลย และไม่เพียงเท่านั้นการโจมตีด้วยสกิลคอมโบเลเวล 3 ของเขายังถูกส่งออกมาในทิศทางแตกต่างกันนี่ก็คือกลยุทธ์บดขยี้คู่ต่อสู้ด้วยกำลังอันแข็งแกร่ง
และเขาก็ยังมีเ้าผึ้งบัมเบิ้ลบีที่มาด้วยกันอีกหมดกัน ตายแน่ ตายแน่ๆ!
ผมกวาดตามองก็พบว่าสกิลห้ามเืและสกิลรักษาชีวิตของผมยังคูลดาวน์อยู่ไม่สามารถเรียกใช้งานได้ตอนนี้ ผมจึงไม่สามารถช่วยชีวิตตัวเองได้การโจมตีของหวางเจี่ยนที่มีผึ้งบัมเบิ้ลบีคอยช่วย ไหนเลยที่ผมจะรอดไปได้ เอาวะตอนนี้เหลือทางเลือกเดียวแล้ว...ทันใดนั้นเ้าผึ้งแม่ทัพที่ผมซ่อนไว้ก็บินออกมาทันเวลาตอนที่อีกฝ่ายกำลังจะจัดการผมพอดีต้องฆ่า ยังไงก็ต้องฆ่าเ้าหมอนี่ให้จงได้!
……
นายพลหวางเจี่ยนกัดฟัน“ไอ้ฮีลเลอร์กระจอก ตายซะเถอะแก!”
ดาบของอีกฝ่ายฟาดลงมาที่บ่าของผมจนเกิดค่าความเสียหายติดต่อกันถึง3 ครั้ง
“-312!”
“-298!”
“-334!”
……
อันที่จริงการโจมตีสองครั้งแรกของเ้านั่นก็สามารถทำให้ผมตายได้แล้วภายในไม่กี่วินาทีด้วยเพราะความต่างของพลังโจมตี อีกฝ่ายมีพลังโจมตีสูงมาก ขณะที่ผมมีพลังฮีลเืแต่พลังโจมตีมีต่ำมากๆ และแน่นอนว่าปลากับหมีไม่มีทางสู้กันได้อยู่แล้วระหว่างที่ความเ็ปเข้าครอบงำ ร่างผมก็ล้มลงทว่าทันใดนั้นเ้าผึ้งแม่ทัพก็โจมตีที่กลางอกของหวางเจี่ยน
“นะ... นี่มัน...อะไรกันวะเนี่ย...!!!”
การเผชิญหน้ากับท่าทางแสนน่ารักของเ้าจุกนมจุ๊บๆทำให้นายพลหวางเจี่ยนประหม่าพร้อมกับรู้สึกมึนงงจนถูกโจมตีเต็มๆ
“- 355!”
“- 327!”
“- 712!”
……
ให้ตายเถอะพระเ้าการโจมตีครั้งสุดท้ายของเ้าจุกนมนี่อลังการสุดๆ ไปเลย น่าสะใจชะมัดเลยแฮะ!การดาเมจของมันเพียงพอจะฆ่าหวางเจี่ยนได้ถึงสองครั้งเลยนะเนี่ยรู้งี้เรียกเ้าจุกนมออกมาั้แ่แรกก็จบแล้ว
“สวบ!”
ิญญาของผมปรากฏขึ้นบริเวณหลุมฝังศพใกล้ๆหลังจากตรวจสอบว่าไม่มีไอเท็มดรอปออกจากร่างผมก็ตรวจสอบไอเท็มในกระเป๋าจึงพบว่าอุปกรณ์ระดับขาวของผมหายไป 3 ชิ้น พร้อมกับหญ้าลมหนาวอีก 2 โหล ฮือเ็ปหัวใจชะมัด แต่ช่างเถอะ เ้าหมอนั่นก็ถูกฆ่าเหมือนกันตอนนี้นายพลพวกนั้นตายสนิท คงไม่มีใครมาเอาของผมไปได้หรอก ยังไงก็รีบไปดูก่อนดีกว่าฟื้นคืนชีพแล้วค่อยว่ากัน
หลังจากใช้เวลาวิ่งกลับไปที่เดิม7 นาที ผมก็มาถึงร่างของตัวเอง
ในป่าลมหนาวยังมีลมพัดโชยมาไม่ขาดสายผมยืนอยู่ข้างศพตัวเองโดยไม่กล้าฟื้นคืนชีพตอนนี้ เพราะห่างไปไม่ไกล นายพลหลี่มู่นายพลหวางเจี่ยน นายพลป๋ายฉี่ และคนอื่นๆ ได้คืนชีพกลับมาแล้วโดยที่เ้านายพลหวางเจี่ยนขึ้นไปนั่งอยู่บนร่างไร้ิญญาของผมพร้อมกับดื่มยาเพิ่มเืให้ตัวเอง
……
“เป็เพราะไอ้เซียวเหยาจื้อจ้ายนั่นแหละที่มาสาระแนจนเสียเื่ฮึ่ย! น่าโมโหจริงโว้ย” หวางเจี่ยนยกเท้ากระทืบร่างของผม “ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้บ้านั่นฮีลเืให้เยว่ชิงเฉี่ยนพวกเราก็คงแย่งไอเท็มของบอสที่ยายนั่นเอาไปได้แล้ว”
นายพลหลี่มู่หรี่ตามองก่อนพูดขึ้น“ฉันเคยได้ยินว่าเ้าหมอนี่เป็ฮีลเลอร์ของเมืองปาหวางแถมยังเป็นักหลอมโอสถคนแรกด้วย และยังเคยซื้อขายกันกับเยว่ชิงเฉี่ยน อาจเพราะเป็เพื่อนกันละมั้งก็เลยเข้ามาช่วยไว้”
หวางเจี่ยนขมวดคิ้ว“พี่ใหญ่หมายความว่ายังไง?”
หลี่มู่ยิ้ม“ไม่เห็นจะยากเลยก็ทั้งเมืองปาหวางคนที่สามารถเล่นอาชีพฮีลเลอร์ให้มีเลเวลสูงได้ขนาดนั้นแถมยังเปลี่ยนคลาสจนได้รับสกิลรักษาชีวิตก็มีแค่ไม่กี่คน อีกอย่างเ้าเซียวเหยาจื้อจ้ายนั่นก็มีสกิลหลอมโอสถกับสกิลเก็บสมุนไพรเลเวล4 ด้วย เรา้าคนพวกนี้มากที่สุดไม่ใช่เหรอ?นี่เ้าสี่ ฉันว่านายอย่าไปอาฆาตแค้นคิดฆ่าเ้าหมอนั่นเลยฉันว่านายเอาเวลามาคิดดีกว่าว่าหลังจากนี้จะทำยังไงให้กิลด์ของเราก้าวหน้ามากกว่านี้”
หวางเจี่ยนเงียบไปไม่พูดอะไรอีก
ทันใดนั้นเหลียนโป่ที่นั่งอยู่บนพื้นพร้อมคันธนูในมือก็พูดขึ้น“ฉันว่าพวกนายมองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่าพวกนายคิดว่าที่วันนี้เราเอาชนะกิลด์ปรากได้เพราะแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายจริงเหรอ? พวกนายคิดผิดแล้ว! วันนี้กิลด์ปรากมาที่นี่แค่ 70 กว่าคนเท่านั้นแต่ภายในเมืองปาหวางยังมีพวกเขาอีกหลายพันคน แล้วพวกเราล่ะ? หลักๆก็มีแค่เรา 4 คนเท่านั้นส่วนคนที่ถือว่าเป็เพื่อนของพวกเราจริงๆ ก็มีไม่ถึง 40 คนด้วยซ้ำจะไปเทียบอะไรกับกิลด์ปรากนั่น? ชัยชนะในวันนี้ก็เป็เพราะโชคช่วยแต่จริงๆ แล้วพวกเราพ่ายแพ้ต่างหากเล่า!”
หลี่มู่พยักหน้า “ใช่จากมุมมองในระยะยาว ตอนนี้พวกเราไม่มีเงินทุน ไม่มีกำลังคนกิลด์ยังไม่สมบูรณ์พร้อมใช้งานอย่างเป็ทางการ แถมสมาชิกก็ยังไม่แน่นอนพวกเราก็แค่กลุ่มคนที่มาเล่นด้วยกันโดยที่อัปเลเวลได้เร็วกับมีคอนเนกชันนิดหน่อยเท่านั้นฉันได้ยินมาว่ากิลด์หลงเสียง กับกิลด์สงป้าเฟิงหยินต่างก็มาอยู่ในเมืองปาหวางกันหมด เงินทุนของเ้าพวกนั้นรวมถึงคอนเนกชันต่างๆก็เหนือกว่าพวกเรามากดังนั้นพวกเราต้องกอบโกยโอกาสที่มีและทำงานหนักเพื่อสร้างกิลด์ขึ้นมาให้ได้”
หวางเจี่ยนเงยหน้าขึ้นก่อนจะพูด“พี่ใหญ่... พี่คิดว่าตัวเองเป็ผู้ประกาศข่าวหรือไง? หยุดพูดไร้สาระเถอะ เ้าเซียวเหยาจื้อจ้ายนี่ก็ยังไม่ฟื้นสักทีแล้วพวกเราจะเอายังไงต่อดี?”
หลี่มู่ลุกขึ้นหยิบดาบยาว“พวกเยี่ยนจ้าวอู๋ซวงคงฟื้นคืนชีพแล้วอีกไม่นานผู้เล่นในกิลด์ปรากคงจะแห่กันมาที่นี่ ฉันว่ารีบกลับเมืองกันก่อนดีกว่ายังไงซะภารกิจจัดการบอสก็พ่ายแพ้แล้วฉันไม่อยากสู้กับเ้าพวกนั้นโดยไม่ได้อะไรตอบแทนหรอกนะ”
“อื้องั้นพวกเรากลับกันเถอะ”
เมื่อกลุ่มคนพวกนั้นคุยกันจบก็ปรากฏแสงสีขาวขึ้นพร้อมกับการใช้วาร์ปเพื่อกลับเมือง
……
ผมยืนอยู่ข้างศพตัวเองโดยที่ยังไม่กล้าฟื้นคืนชีพเพราะไม่แน่ใจว่ายังมีใครหลงเหลืออยู่ที่นี่อีกหรือไม่
“ฟื้นคืนชีพได้แล้วสุดหล่อคิๆๆ”
ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งเดินออกมาคือเยว่ชิงเฉี่ยนที่มาพร้อมกริชแดงโลหิต “ฉันดูลาดเลาพื้นที่ตรงนี้หมดแล้วไม่มีใครอยู่แล้วละ ออกมาเถอะ”
“สวบ!”
ผมฟื้นคืนชีพแล้วรีบใช้สกิลรักษาชีวิตให้ตัวเองเพื่อเติมเืให้เต็มขณะเดียวกันก็ใช้โอสถดวงดาราเจ็ดดวงฟื้นฟูค่ามานาด้วยจากนั้นจึงหันไปยิ้มให้เยว่ชิงเฉี่ยน “อ้าวชิงเฉี่ยน บังเอิญจังเลยนะเนี่ย...”
เยว่ชิงเฉี่ยนยิ้ม “นั่นสิบังเอิญชะมัด ไปกินข้าวด้วยกันไหม?”
ผมส่ายหน้า “ไม่ดีกว่า่นี้ฉันยุ่งอยู่กับการศึกษาวรรณคดีโบราณน่ะ จะบ้าตายอยู่แล้ว...”
“ก็ได้...”เยว่ชิงเฉี่ยนมองผม “นี่เซียวเหยา ขอบใจนะที่ช่วยฉัน ถ้าไม่ได้นายการฆ่าบอสครั้งนี้กิลด์ปรากของพวกเราคงจะต้องพ่ายแพ้แน่ๆฉันไม่คิดว่าเ้าพวกนั้นจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ก็เลยพาคนมาแค่นิดเดียวแถมยังเป็มือใหม่อีก เกือบแย่แน่ะ...”
ผมถอนหายใจ “น่าเสียดายอันที่จริงฉันก็แค่อยากช่วยเธอเท่านั้น ไม่คิดจะฆ่าหวางเจี่ยนนั่นเลยแต่สุดท้ายเขากลับถูกสัตว์เลี้ยงของฉันฆ่าตายซะงั้น เฮ้อดูเหมือนว่าชีวิตในเมืองปาหวางของฉันจะไม่ได้สงบสุขอีกแล้วสินะเนี่ย...”
ทันใดนั้นเสียงจากด้านหลังก็ดังขึ้น“งั้นก็เข้ามาอยู่ในกิลด์ปรากกับพวกเราสิ สำหรับนายแล้วพวกเรายินดีต้อนรับเสมอนะ”
ด้านล่างของเนินเขาที่ลาดชันปรากฏร่างของลุงใหญ่เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงพร้อมดาบในมือการได้เจอกันครั้งนี้ผมยิ่งมั่นใจว่าเขาเป็คนมีฝีมือคนหนึ่งแถมยังสามารถสร้างกิลด์ของตัวเอง นับว่าเป็นักดาบที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่งทีเดียว
ที่อยู่ข้างๆเยี่ยนจ้าวอู๋ซวงก็คือ เยว่เวยเหลียงที่มาพร้อมกับกริชในมือ “ใช่แล้วพี่เซียวเหยาพี่สนิทกับเจี่ยเจียจะตาย เข้ามาอยู่กิลด์ปรากกับพวกเราเถอะ พี่ๆ จะได้อยู่ด้วยกันดีออก”
ทันใดนั้นเสียงของผู้เล่นคนอื่นก็ดังขึ้น“ฮ่าๆ นั่นสิๆ มาอยู่ด้วยกัน”
ทันใดนั้นใบหน้าของเยว่ชิงเฉี่ยนก็กลายเป็สีม่วงพร้อมกับเงื้อกริชในมือขึ้น“ใคระโอีก ฉันจะจัดการให้หมดเลย!”
ได้ยินเช่นนั้นคนอื่นก็พากันปิดปากเงียบสนิท
ผมซึ่งถือหอกโลหะโบราณในมือหัวเราะออกมา“ขอบคุณมากนะครับลุงใหญ่เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงที่หวังดีกับผมแต่ผมไม่อยากจะเข้าร่วมกิลด์กับใครจริงๆ ผมเคยชินกับการเล่นคนเดียวมากกว่าน่ะครับ”
เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงยืดอกก่อนมองมาที่ผม“จื้อจ้าย [1] สินะ... ฉันเข้าใจความหมายของนายแต่โลกในเกมนายไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนเพียงคนเดียวได้ตลอดหรอกฉันว่านายมาร่วมกิลด์ปรากกับพวกเราดีกว่า เอางี้...หลังจากที่ฉันสร้างกิลด์ได้แล้ว ฉันจะให้นายเป็ผู้าุโของกิลด์เลยนายสนใจไหมล่ะ?”
ผมยิ้ม “ขอบคุณมากนะครับแต่ไม่ดีกว่า ผมไม่สามารถเข้าร่วมกับกิลด์คนอื่นได้จริงๆ นอกจากเพื่อนๆของผมจะกลับมารวมตัวในเกมนี้นั่นแหละ”
“เพื่อนของนายงั้นเหรอ?นายมีสตูดิโอเหรอ หรือว่ากิลด์?”
“สตูดิโอ [2]ครับ”
“ชื่ออะไรน่ะ?พวกสตูดิโอหรือกิลด์ใหญ่ๆ ที่อยู่ในเกมเสมือนจริงไม่ว่าจะเป็เกม SwordsmanOnline หรือเกม Conquer Online ฉันค่อนข้างรู้จักดีนายลองบอกชื่อมา เผื่อฉันจะรู้จัก”
“จ่านหลงครับ...”ผมตอบกลับไปด้วยท่าทางเก้อๆ
เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงเงียบไปครู่หนึ่ง“เอ่อ... ดูเหมือนว่าฉันจะจำชื่อสตูดิโอนี้ไม่ได้แฮะ แต่ถ้ามีนายอยู่ในกลุ่มด้วยก็คงจะมีความสามารถยอดเยี่ยมมากๆ แต่เอาเถอะ นายลองพิจารณาอีกครั้งก็แล้วกันหรือไม่ก็รอสตูดิโอจ่านหลงของนายสร้างเสร็จแล้วค่อยเข้ามารวมกลุ่มกับกิลด์ปรากของพวกเราก็ได้นายคิดดูสิ ชิงเฉี่ยนสนิทกับนายขนาดนี้แถมเวลาอยู่ด้วยกันเธอก็เอาแต่พูดถึงฮีลเลอร์อย่างนายบ่อยๆ อีกอย่าง...”
เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงกระซิบ“เธอยังไม่มีแฟนด้วย แม่ของชิงเฉี่ยนคอยแต่จะหาแฟนให้เธอเป็ประจำเลย”
ผมหัวเราะออกมา
หน้าของเยว่ชิงเฉี่ยนกลายเป็สีเขียวอีกครั้งพร้อมกับรังสีแห่งความอาฆาตที่แผ่ออกมา “ลุงใหญ่ พูดแบบนี้อยากตายใช่ไหม!!!”
เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงหัวเราะพร้อมโบกมือ“เปล่าสักหน่อย โอเคๆ งั้นฉันไปทำธุระก่อนดีกว่า พวกเธอคุยกันไปก่อนก็แล้วกันจริงสิ เซียวเหยา ช่วยผลิตยามานาระดับสูงให้หน่อยสิ่นี้กิลด์ของพวกเราต้องออกเดินทางไปต่อสู้หลายที่จำเป็ต้องใช้โอสถระดับสูงจำนวนมาก”
ผมพยักหน้า “ได้ครับ”
พูดจบเยี่ยนจ้าวอู๋ซวงก็เดินนำคนอื่นออกไปทันใดนั้นผมก็ะโขึ้น “ลุงเยี่ยนจ้าว เดี๋ยวก่อนครับ”
“ว่าไง?” อีกฝ่ายหันกลับมา
ผมยิ้ม “ผมอยากถามอะไรหน่อยน่ะครับ...เอ่อ... กระบวนท่า [3] ของคุณที่สร้างขึ้นมา คุณทำยังไงเหรอครับ? ผมพยายามค้นคว้าอยู่นานมากแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จสักที”
เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงชะงักไปก่อนจะยิ้ม“รอให้นายเข้าร่วมกับกิลด์ปรากก่อนสิ เดี๋ยวฉันจะบอกว่าต้องทำยังไง”
……
ให้ตายเถอะ...ที่แท้ก็เก็บเป็ความลับนี่เอง ขี้งกชะมัดเลยตาแก่นี่...
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้นช่างเถอะ ค่อยๆ หาทางเอาเองก็แล้วกัน ไม่ง้อก็ได้เฟ้ย!
ผมหันกลับมามองเยว่ชิงเฉี่ยนก่อนยื่นมือออกไป“เอาละ เอาหญ้าลมหนาวมาให้ฉันได้แล้ว ฉันจะกลับไปหลอมโอสถเลเวล 4 ให้...”
…………………………………………………………………………………………………………
[1] จื้อจ้ายแปลว่า รักอิสระ
[2] สตูดิโอคือการเช่าบ้านหรือเช่าห้องอยู่ด้วยกันเพื่อร่วมเล่นเกมกันเป็กลุ่ม
[3] กระบวนท่าหมายถึง การที่ผู้เล่นสร้างรูปแบบการโจมตีขึ้นมาโดยมีการออกแบบท่าทางที่เหมาะสมหลังจากที่มีกระบวนท่าแล้ว มันจะกลายเป็สกิลให้ใช้โดยอัตโนมัติ